บทที่ 31 มีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย
บทที่ 31 มีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย
ซ่งอวี้หลวนรีบวิ่งไปยังเครื่องขายตั๋วตามปากคำของเฟิงหยวนหนิง แล้วจ้องมองไปยังหน้าจอ
ปรากฏว่าหน้าจอของเครื่องขายตั๋วหันหลังให้ประตูกระจกพอดี เพียงแค่เดินเข้าไปใกล้ประตูกระจกก็จะมองเห็นได้ชัดเจน บนหน้าจอแสดงข้อความว่า “กรุณาซื้อตั๋วที่นี่เพื่อเข้าไปยังลานบ้าน ขณะนี้มีธีมให้เลือกดังนี้: สวนน้ำพุ (ชั่วโมงละ 50 เหวิน แขกโรงแรมใช้บัตรห้องพักเข้าได้ฟรี) น้ำพุน้ำแข็งและน้ำพุร้อน (ครั้งละ 500 เหวิน เข้าได้วันละหนึ่งครั้ง)”
อย่างหลังคงจะเป็นน้ำพุร้อนที่เถ้าแก่พูดถึงเป็นแน่ ซ่งอวี้หลวนอดไม่ได้ที่จะใจเต้นรัวลั่น
เธอรู้วิธีใช้งานเครื่องจำหน่ายตั๋วแล้ว เพียงแค่สัมผัสหน้าจอก็สามารถซื้อตั๋วได้ เห็นแล้วช่างน่าอัศจรรย์ใจ
เธอสงบสติอารมณ์และยกมือขึ้น ทว่านิ้วมือกลับสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้
ด้วยความยากลำบาก เธอจึงแตะเลือกที่ตัวอักษร “น้ำพุน้ำแข็งและน้ำพุร้อน” ทันใดนั้นเองหน้าจอก็แสดงข้อความเตือนขึ้นมาว่า “ต้องการซื้อตั๋วเข้าชม ‘น้ำพุน้ำแข็งและน้ำพุร้อน’ ใช่หรือไม่? (คำแนะนำที่เป็นประโยชน์: โปรดหยอดเหรียญก่อน มิฉะนั้นคำสั่งซื้อจะล้มเหลว) ยืนยัน ยกเลิก”
ซ่งอวี้หลวนใจสั่นจนแทบหายใจไม่ออก รีบเอามือกุมหน้าอกแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ นี่เธอกำลังจะมีโอกาสกลับมาใช้กำลังภายในได้อีกครั้งจริงหรือ?
ขณะนั้น หลิงจิ่งที่ติดตามเธอมา ก็หยิบเหรียญเงินหยอดลงในช่องหยอดเหรียญของเครื่อง “ศิษย์น้องหญิง ทำใจเย็น ๆ เข้าไว้ อย่าตื่นเต้นจนเกินเหตุ”
เขาช่วยซ่งอวี้หลวนกดปุ่ม “ยืนยัน” จากนั้นเครื่องจำหน่ายตั๋วก็คายตั๋วรูปลักษณ์งดงามออกมาใบหนึ่ง
ด้านหน้าของตั๋วพิมพ์ภาพสีสันสวยงาม เป็นบ่อน้ำทรงกลมที่มีรั้วหินโค้งแบ่งสระออกเป็นสองส่วน
ด้านข้างสองฝั่งของบ่อน้ำเรียงรายไปด้วยห้องหับ
ด้านหลังของตั๋วมีลวดลายและตัวอักษร โดยมีอักษรตัวเขื่องตรงกลางว่า “น้ำพุน้ำแข็งและน้ำพุร้อน” ขณะที่มุมขวาล่างเขียนว่า “โรงแรมเซียนหยวนยินดีต้อนรับ”
หลิ่งจิงยื่นตั๋วให้ซ่งอวี้หลวนพร้อมกล่าวคำ “รีบเข้าไปเถิด ศิษย์น้องหญิง แต่เจ้าอย่าคาดหวังมากเกินไปนัก หากครั้งนี้ไม่สำเร็จ ก็ขออย่าเพิ่งท้อถอยเป็นอันขาด ข้าจะไปสั่งอาหารกับเถ้าแก่ก่อน เมื่อเจ้าใช้บ่อน้ำพุเสร็จแล้ว จึงค่อยตามมากินด้วยกันที่ห้องของข้า”
“เจ้าราดน้ำเย็นใส่ข้าเช่นนี้ได้อย่างไร?” ในที่สุดซ่งอวี้หลวนก็สงบลงเล็กน้อย เธอเบ้ปากใส่หลิงจิ่งด้วยความโกรธพลางรับตั๋ว แล้วเดินไปเปิดประตูกระจก
ทันใดนั้นเองภาพฉากที่อยู่เบื้องหลังประตูพลันแปรเปลี่ยนไป กลายเป็นพื้นที่ปูด้วยก้อนหินเรียงรายกว้างใหญ่ มองออกไปจะเห็นบ่อน้ำทรงกลม อาคารสองข้างทาง และต้นไม้เขียวขจี
ซ่งอวี้หลวนถึงกับอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “ศิษย์พี่ชาย เห็นภาพฉากด้านหลังประตูหรือไม่? ประตูบานเดียวกันกลับสามารถไปยังที่ต่างกันได้!”
หลิงจิ่งพยักหน้ารับหน้าเคร่งขรึม “ข้าเห็นแล้ว”
เขาลองก้าวเข้าไปข้างหน้า แล้วเอื้อมมือไปสัมผัสประตู แต่แล้วก็ต้องพบกับแรงต้านที่มองไม่เห็น ราวกับมีฉากกั้นล่องหนกีดขวางทางไว้ เพื่อหยุดเขาในฐานะคนที่ไม่ได้ซื้อตั๋ว
ดูเหมือนว่า การใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นั้นเป็นไปไม่ได้
หลิงจิ่งสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ศิษย์น้องหญิง เจ้ารีบเข้าไปเถิด”
บางทีหลังจากที่ศิษย์น้องหญิงฟื้นฟูเส้นลมปราณที่เสียหายได้แล้ว นางอาจจะรังเกียจเขาที่ด้อยฝีมือกว่า และสุดท้ายก็แยกจากเขาไป ถึงกระนั้นเขาก็จะไม่ขัดขวาง
เขาจะหักปีกของนาง ไม่ให้นางได้โบยบินไปไหน เพียงเพื่อกักขังนางไว้กับตัวได้อย่างไร? เขาไม่ต้องการให้ศิษย์น้องหญิงต้องเศร้าหมอง และสูญเสียรอยยิ้มนั้นไป
เขามองไปที่ซ่งอวี้หลวนอย่างลึกซึ้ง แล้วหันหลังมุ่งหน้าไปยังห้องอาหาร
ซ่งอวี้หลวนรู้สึกใจสั่นระรัวราวกับกลองศึก คล้ายกับว่าเท้าทั้งสองไม่ใช่ของตัวเอง และไม่รู้ตัวเลยว่าเดินเข้ามาในห้องนี้ได้อย่างไร
เธอเดินไปข้างหน้าทีละก้าว ตามป้ายบอกทางไปยังโซนน้ำพุร้อน แล้วใช้ตั๋วเปิดประตูห้องแรก
ภายในห้องมีพื้นสีส้ม กระจกเงาบานใหญ่ตั้งอยู่ทางซ้าย มีโต๊ะเตี้ย เก้าอี้ และราวตากผ้าอยู่ทางขวา ส่วนบริเวณตรงกลางห้องจะมีบ่อน้ำขนาดเล็ก
ซ่งอวี้หลวนเดินไปทางขวาของอ่างอาบน้ำด้วยความตื่นเต้นจนเกือบลื่นล้ม
เธอเปลื้องผ้าและนำไปแขวนไว้ที่ราว แล้วก้าวลงไปในบ่อน้ำ
ทันใดนั้นเองความเจ็บปวดรุนแรงก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ราวกับถูกมีดคมกรีดผ่านเนื้อหนัง ในเวลาเดียวกันกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงก็โชยมาแตะจมูก
เธอเกือบจะอาเจียนออกมาด้วยความสะอิดสะเอียน เมื่อก้มลงมองก็พบว่าผิวหนังของตนเองกำลังคายสิ่งสกปรกสีดำออกมา ซึ่งเป็นที่มาของกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรง
สิ่งสกปรกน่าขยะแขยงเช่นนี้ ออกมาจากร่างกายของเธอได้อย่างไร? เธอทั้งประหลาดใจและแทบไม่อยากเชื่อ
ความเจ็บปวดทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เธอกัดฟันอดทน จนในที่สุดก็หมดสติไป
เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอพบว่าตนเองกำลังพิงอยู่ขอบบ่อ และความเจ็บปวดรุนแรงเหล่านั้นได้หายไปแล้ว
เธอพยายามโคจรปราณแท้ทั่วร่างกาย
แม้ว่าเส้นลมปราณทั้งหมดจะเสียหาย แต่ไม่ส่งผลใดต่อปราณแท้ในตันเถียน เธอเพียงไม่สามารถโคจรปราณแท้ผ่านเส้นลมปราณ ทำให้ไม่สามารถฝึกฝน หรือใช้เคล็ดวิชาใด ๆ ได้
หากเส้นลมปราณเชื่อมต่อกันได้ดังเดิม ร่างกายของเธอจะกลับมาเป็นปกติ
เธอบังคับให้ปราณแท้ไหลออกจากตันเถียน และพยายามส่งเข้าไปทางเส้นลมปราณ ปรากฏว่ามันสามารถไหลเวียนได้อย่างง่ายดาย!
ซ่งอวี้หลวนมีความสุขมากจนต้องหยุดการโคจรปราณแท้เพื่อพยายามสงบสติอารมณ์
ด้วยบทเรียนจากการฝึกฝนผิดพลาดครั้งก่อน ทำให้เธอไม่กล้าปล่อยให้อารมณ์ผันผวนเกินไปขณะกำลังฝึกฝน
เธอพยายามทำให้ตนเองสงบลง และแล้วก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ไม่จำเป็นต้องฝึกฝนก็สามารถทดลองได้
เธอยกมือขึ้นตีลงบนผิวน้ำในบ่อทันที เกิดละอองน้ำกระเซ็นขึ้นไปกระทบโคมไฟสีส้มบนเพดาน แล้วกลายเป็นละอองฝนโปรยปรายลงมา
ซ่งอวี้หลวนกลั้นหายใจ นิ่งงันอยู่ครู่หนึ่ง เธอกลับมาใช้กำลังภายในได้แล้ว!
นี่กำลังฝันอยู่หรือเปล่า?
เธอยกมือขึ้นตบแก้มตัวเองเสียงดังฟังชัด มันเจ็บจริง ๆ
ชัดแจ้งแล้วว่าไม่ใช่ความฝัน ความเจ็บปวดในความฝันไม่น่าจะเหมือนจริงขนาดนี้?
ซ่งอวี้หลวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ล้างร่างกายให้สะอาด สวมเสื้อผ้า แล้วเดินไปยังกระจก
ในกระจกสะท้อนภาพของหญิงสาวที่มีพวงแก้มแดงก่ำ ใบหน้าเปล่งปลั่ง และแววตาที่แสดงถึงความยินดี
ซ่งอวี้หลวนขยี้ตาเบา ๆ พยายามจะขจัดความยินดีที่ปรากฏบนใบหน้า แต่ก็ทำไม่ได้ เธอยืนนิ่งอยู่ตรงหน้ากระจกสักครู่ แล้วจึงหันหลังเดินออกจากห้อง
เมื่อเธอเดินออกไป ประตูก็ปิดลงโดยอัตโนมัติ
เธอยืนอยู่หน้าประตูพลางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ที่นี่มีทั้งน้ำพุร้อนและน้ำพุน้ำแข็ง น้ำพุร้อนมีสรรพคุณวิเศษมากขนาดนี้ แล้วน้ำพุน้ำแข็งจะมีสรรพคุณอย่างไรกันนะ?
เธอเดินไปยังโซนน้ำพุน้ำแข็ง เมื่อเข้าใกล้บ่อน้ำทรงกลม เธอก็ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสรรพคุณของน้ำพุทั้งสอง
ปรากฏว่า น้ำพุน้ำแข็งสามารถเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนได้ถึง 5 เท่า แต่มีข้อจำกัดคือ แต่ละครั้งสามารถแช่ในน้ำได้นานสุดเพียง 2 เค่อเท่านั้น (30 นาที)
ถึงกระนั้น สิ่งนี้ก็ยังน่าทึ่งอย่างยิ่ง การฝึกฝนในน้ำพุน้ำแข็งเพียง 2 เค่อ สามารถเทียบเท่ากับการฝึกฝนมากกว่าหนึ่งชั่วโมง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกฝนอย่างมาก และลดเวลาที่ใช้ในการฝึกฝนลงไป
สำหรับผู้ที่มีพรสวรรค์น้อย มันเปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายในการมีชีวิตใหม่
แน่นอนว่า สำหรับผู้ที่มีพรสวรรค์สูงอย่างซ่งอวี้หลวน มันถือเป็นการเพิ่มพูนความสามารถยิ่งขึ้นไปอีก
ซ่งอวี้หลวนเดินเข้าไปในโซนน้ำพุน้ำแข็ง และเลือกห้องหนึ่ง แต่ปรากฏว่ามีคนอยู่แล้ว หลังจากเลือกอีกครั้งก็พบว่าห้องไม่ว่าง
ดูเหมือนว่าคนอื่น ๆ จะตื่นตัวกันมากเช่นกัน
เธอจึงเดินไปเรื่อย ๆ จนถึงห้องสุดท้ายในแถวหน้าสุด แล้วใช้ตั๋วเปิดเข้าไป
เมื่อเข้าไปในห้อง เธอถอดเสื้อผ้าที่สวมใส่ แล้วลงไปนั่งขัดสมาธิในบ่อน้ำกลางห้อง
ช่างสมกับชื่อน้ำพุน้ำแข็ง เพียงแค่ลงไปนั่งเท่านั้น เธอก็รู้สึกถึงความหนาวเย็นแทรกซึมเข้าไปถึงกระดูก จนทำให้ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุด
ภายใต้ความเย็นเยือกนี้ ปราณแท้ในร่างกายกลับโคจรเองโดยอัตโนมัติ เพื่อต้านทานความหนาวเย็นของน้ำในบ่อ
แต่ความเร็วในการโคจรของปราณแท้ไม่ได้เร็วมากนัก เมื่อเทียบกับการฝึกปกติแล้ว อาจจะช้ากว่าเล็กน้อย
เธอพยายามสงบสติอารมณ์ และไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จิตใจของเธอสงบลงอย่างรวดเร็ว และเข้าสู่สมาธิได้ในทันทีเพื่อเริ่มต้นฝึกฝน
ครั้งนี้ ความเร็วในการโคจรของปราณแท้เพิ่มขึ้นอย่างมาก น่าจะเร็วขึ้นถึง 5 เท่าตามที่กล่าวอ้าง
หรือว่า จะลองใช้โอกาสนี้ในการบุกทะลวงขอบเขตอีกครั้งดี?
ระดับพลังยุทธ์ปัจจุบันของเธออยู่ที่ขั้นมานะสร้างเก้าชั้น ซึ่งห่างจากขั้นสวรรค์ประทานเพียงหนึ่งเก้า
อย่างไรก็ตาม ความพยายามสองครั้งก่อนหน้านี้ของเธอจบลงด้วยความล้มเหลว และครั้งที่สามยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม เนื่องจากไม่สามารถทะลวงขอบเขตได้ ทำให้อารมณ์ไม่สงบนิ่งจนเกิดความผิดพลาด
เธอไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ที่อะไรกันแน่ บางทีอาจเป็นเพราะการรวบรวมปราณแท้ไม่เพียงพอ หรือจิตใจที่ยังไม่พร้อม
ทั้ง ๆ ที่พวกเขาทั้งหมดต่างก็เป็นศิษย์สำนักขุนเขากระบี่เหมือนกัน เหล่าศิษย์พี่และศิษย์น้องของเธอล้วนสามารถทะลวงขึ้นสู่ขั้นสวรรค์ประทานได้สำเร็จ แต่เหตุใดตัวเธอซึ่งเป็นศิษย์รองกลับไม่สามารถทะลวงขอบเขต แถมยังล้มเหลวถึงสองครั้ง ครั้งสุดท้ายถึงกับกลายเป็นคนพิการ เสียทั้งหน้าและอนาคต
เมื่อนึกถึงความล้มเหลวในอดีต ทำให้เธอลังเลใจเล็กน้อย ทว่าสุดท้ายก็ฝึกฝนต่อไปตามปกติ
เธอฝึกฝน และฝึกฝน เนื่องจากขอบเขตพลังอยู่ในขั้นสูงสุดมานานแล้ว จึงไม่มีความก้าวหน้าใด ๆ หากยังไม่สามารถทะลวงขอบเขตได้ เกรงว่าเธอคงจะติดแหง็กอยู่ระดับนี้ไปตลอดชั่วชีวิต
เธอกัดฟันกลั้นใจ พยายามรวบรวมกำลังเพื่อฝ่าทะลวงไปสู่ขั้นสวรรค์ประทานอีกครั้ง
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น การฝ่าทะลวงขอบเขตในครั้งนี้กลับราบรื่นราวกับน้ำไหลตามร่อง และประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย!
เธอไม่ได้พบกับความล้มเหลวอีกต่อไป ในที่สุดก็สามารถก้าวขึ้นสู่ขั้นสวรรค์ประทานได้สำเร็จ!
เธอพยายามสงบสติอารมณ์ และโคจรปราณแท้อีกหนึ่งรอบ ก่อนจะหยุดการฝึกฝนและเก็บปราณแท้กลับเข้าสู่ตันเถียน
ซ่งอวี้หลวนลืมตาขึ้น สูดหายใจเข้าลึก ๆ ราวกับปลดปล่อยความอึดอัดในใจออกไป
เมื่อเธอลุกขึ้นยืน กลับพบว่าตนเองถูกย้ายออกจากบ่อน้ำพุน้ำแข็งโดยไม่รู้ตัว เมื่อพยายามจะกลับเข้าไปในบ่ออีกครั้ง ก็ต้องพบกับอุปสรรคบางอย่างขวางกั้นไว้ ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ไม่สามารถกลับเข้าไปได้อีก
ดูเหมือนว่าเวลาในการฝึกฝนจะหมดลงแล้ว เธอจึงไม่ลังเลมากนัก หันหลังกลับไปสวมเสื้อผ้าและรองเท้า ก่อนเดินออกจากห้องไป
…
ในเวลาเดียวกันนั้น ณ อำเภอเมืองฉ่างหลิงซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเซียนหยวน
หลังจากที่ชีปั๋วหรงเข้าทำงานที่สำนักงานอำเภอแล้ว ก็ได้สั่งให้ลูกน้องทุกคนไปติดประกาศตามท้องถนน ซึ่งดึงดูดความสนใจของชาวบ้านจำนวนมาก
เนื้อหาในประกาศนั้นเกี่ยวข้องกับโรงแรมเซียนหยวน
ในฐานะสมาชิกของหน่วยสืบสวนลับ ชีปั๋วหรงได้รับคำสั่งจากหน่วยงานเมื่อคืนที่ผ่านมา
ดังนั้นเช้าวันนี้ เขาจึงนำลูกน้องมาติดประกาศตามท้องถนน เพื่อแจ้งให้ชาวบ้านทราบว่าไม่ต้องวิตกกังวลเกี่ยวกับโรงแรมเซียนหยวน เนื่องจากทางการได้ตรวจสอบและยืนยันแล้วว่าโรงแรมแห่งนี้ปลอดภัย
เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดหน่วยสืบสวนลับจึงออกคำสั่งเช่นนี้ ทว่าการกระทำเช่นนี้ก็ถือว่าเป็นการปลอบประโลมชาวบ้านได้บ้าง โรงแรมแห่งนั้นอยู่ใกล้ประตูเมืองทางทิศใต้มาก อย่างน้อยคงจะช่วยให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงรู้สึกอุ่นใจขึ้นบ้างใช่หรือไม่?
นอกจากการติดประกาศในเมืองแล้ว ตามคำสั่งที่ได้รับ เขายังวางแผนที่จะนำคนไปเผยแพร่ข่าวสารในหมู่บ้านใกล้เคียงด้วย
แน่นอนว่าการรับรองจากทางการย่อมส่งผลดี
ในวันนั้น มีผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ถูกดึงดูดไปยังโรงแรมเซียนหยวน ผู้ที่ไม่มีเงินก็ไปซื้อของที่ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ส่วนผู้ที่มีเงินทองก็เข้าไปทานอาหารเลิศรสในร้านอาหาร
ส่งผลให้เฟิงหยวนหนิงต้องให้บริการลูกค้าในร้านอาหารเพิ่มมากขึ้น
มีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาในร้านอาหารอย่างไม่ขาดสาย
ลูกค้าบางรายสั่งวุ้นเย็นรสกุหลาบพันปีเพื่อยืนกิน หลังดื่มจนหมดก็จากไป ส่วนลูกค้าบางรายรอคอยอยู่นานแต่ก็ไม่มีที่นั่งว่าง จึงต้องจากไปด้วยความผิดหวัง
เฟิงหยวนหนิงทำงานหนักจนแทบหัวหมุน กระทั่งได้โอกาสพักผ่อนเล็กน้อยบนโซฟา แล้วจึงเปิดดูข้อมูลในระบบ
เงื่อนไขการอัปเกรดโรงแรม: ร้านอาหารรองรับลูกค้าทั้งหมด 174/3000 และทำภารกิจให้สำเร็จ 0/3 ภารกิจ
ภารกิจ: ขายปลาต้มพริกให้ลูกค้า 43/100 จาน เพื่อปลดล็อกเอฟเฟกต์พิเศษของโรงแรม “สี่ฤดูดุจดั่งฤดูใบไม้ผลิ”
ลานบ้านธีม “น้ำพุน้ำแข็งและน้ำพุร้อน” ช่วยเหลือผู้ฝึกยุทธ์ทะลวงขอบเขต 2/50 คน
เฟิงหยวนหนิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย มีผู้ที่สามารถทะลวงขอบเขตในลานบ้านได้ถึงสองคนแล้วหรือ?
เดิมทีเธอคิดว่าภารกิจการปลดล็อกธีมลานบ้านครั้งนี้คงจะยากเข็ญ เพราะการทะลวงขอบเขตนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่แล้ว ภารกิจนี้กลับมีความคืบหน้ารวดเร็วเกินคาด
……….……….……….……….
ผู้แปล: โธ่ หลิงจิ่ง พ่อหนุ่มแสนดี