Chapter 54: แผนรับมือ
ฉินหรานออกจากที่พักและรีบไปที่สถานีตำรวจ เขาต้องได้รู้ว่าตรงที่ที่ชูเบิร์กถูกระเบิดลงนรกไปนั้นมีทางลับหรือไม่ ถ้ามีทางเดินลับจริงก็เป็นการยืนยันสันนิษฐานของเขา ชูเบิร์กอาจจะใช้เส้นทางลับนี้ทำอย่างอื่น แต่ฉินหรานก็อยากจะยืนยันด้วยตนเอง
สถานีตำรวจอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขานัก แม้ว่าพวกเขาจะอยู่บนถนนเดียวกัน แต่หนึ่งอยู่ทางทิศเหนือ และอีกหนึ่งอยู่ทางทิศใต้ ฉินหรานวิ่งเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ภายในยี่สิบนาทีเขาก็มองเห็นสถานีแล้ว
เขาไม่ได้เข้าทางปกติ การมีตัวตนอยู่ของอีวานทำให้เขาระแวดระวังมากกว่าเดิม แม้ว่าสมมติฐานของเขายังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ถ้าเขาคิดถูก แผนการฮุบสมบัติพันปีของอีวานนั้นคงวางไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะตัวตนของอีวานของหรือแผนการลับของเขา ไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างฉินหรานที่เพิ่งเข้ามาในดันเจี้ยนจะเข้าใจได้
แผนการลับของเขาอาจจะเป็นสิ่งที่เรียบง่ายอย่างวางตัวสายลับไว้ในสถานีตำรวจก็ได้
"สัดเอ๊ย! แม่ง! ระเบิดกลายเป็นอาวุธพื้นฐานของพวกสมาชิกแก๊งไปแล้วหรือไง? ทำไมแก๊งอื่นนอกจากชูเบิร์กถึงมีระเบิดอยู่ในมือเหมือนกัน?" เสียงคำรามของเลส์ชูเดอร์ดังจนได้ยินมาแต่ไกล ฉินหรานแอบฟังและมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัว
นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว ไม่ใช่แค่ให้กองทัพทหารเข้ามาในเมือง แต่กำลังจะก่อจลาจล ถ้าทั้งหมดเพื่อสนับสนุน "สายลับ" ของพวกมันเหมือนที่ชูเบิร์กทำ "สายลับ" ที่ว่าก็อาจจะมีมากกว่าหนึ่ง
เสียงโวยวายของเลส์ชูเดอร์ยังดังต่อเนื่อง แต่ฉินหรานไม่ได่เข้าไปในสถานี กลับกัน เขาเตร่อยู่ด้านนอกและจับตาดูสถานการณ์ เขาหวังว่าจะได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นด้วยวิธีนี้ ทั้งสารวัตรจอห์นและรองสารวัตรเลส์ชูเดอร์ล้วนเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีมากทั้งคู่ ไม่เพียงแค่ห้องทำงานของทั้งคู่อยู่บนชั้นสองเหมือนกันแต่ยังอยู่ติดกันอีกด้วย การปีนขึ้นชั้นสองก็เป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ว่าก่อนที่ฉินหรานจะเริ่มปฏิบัติการ เขาก็เห็นใครคนหนึ่งเดินออกมาจากสถานี
เป็นคาร์ล
แม้ว่าคาร์ลจะไม่ได้ใส่เครื่องแบบ ฉินหรานก็ยังจำเขาได้ ฉินหรานเดินตามหลังเขาไป พลางคิดว่าเขาดูเหนื่อย
คาร์ลมุ่งหน้าไปที่หอพักตำรวจส่วนสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ยังไม่มีครอบครัว นี่เป็นหนึ่งในสวัสดิการที่เจ้าหน้าที่ได้รับ แต่เมื่อแต่งงานมีครอบครัวก็ต้องย้ายออก คาร์ลยังอายุน้อยเกินกว่าจะแต่งงาน อย่างน้อยก็ในเร็ว ๆ นี้
การหายตัวไปของ จิมมี่ มือทมิฬ และคดีที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันในหลายวันที่ผ่านมานั้นก็มากเกินไป แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่อายุน้อยและมีพลังงานเหลือเฟือแบบคาร์ล สามวันมานี้เขาได้นอนไม่ถึงสิบชั่วโมง เป็นเหตุให้เขาถูกรองสารวัตรสั่งให้มานอนพัก
"ฉันต้องการสิงโตที่แข็งแกร่ง ห้าวหาญ ไม่ใช่หนอนง่วง!" คำพูดของหัวหน้าทำให้เขาดีใจมาก เขามองคำพูดพวกนี้เป็นคำพูดให้กำลังใจ และมันก็ใช่ เมื่อออกมากจากปากหัวหน้าที่แสนจะหัวแข็ง คำพูดพวกนี้ก็เกือบจะเป็นคำชมแล้ว
ทันทีที่คาร์ลกลับมาถึงห้องของตัวเอง เขาก็ล้มตัวลงนอน ก่อนที่เขาจะเคลิ้มหลับไป เขาก็ได้ยินเสียงกระซิบที่ข้างหู
"คาร์ล!"
"คุณฉินหราน?" เขาตื่นทันที และดูเหมือนจะตกใจกับการเข้ามาโดยไม่บอกก่อนของฉินหราน "ขะ.. คุณมาทำอะไรที่นี่?" คาร์ลมองฉินหรานด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมฉินหรานจึงมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาแบบนี้
"เกิดเรื่องบางอย่างและฉันเก็บตัวอยู่" เมื่อคิดถึงสถานะของฉินหรานและความช่วยเหลือก่อนหน้า คาร์ลจึงเต็มใจที่จะเชื่อ
"คุณมาหาผม?" คาร์ลไม่ได้โง่ เขารู้ว่าฉินหรานคงไม่ได้มาห้องเขาเพื่อนั่งคุยเล่นในตอนเที่ยงคืนแบบนี้
"ตำรวจเจอทางลับที่ตึกของชูเบิร์กไหม?"
"เจอครับ! เป็นทางเดินยาวไปที่อีกช่วงตึกของถนนเลยครับ" คาร์ลตอบตามตรง
"อีกช่วงตึกของถนน? ชูเบิร์กเข้าไปอยู่ที่ตึกนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?" ฉินหรานประหลาดใจกับความยาวของทางเดินใต้ดินมาก และมันทำให้เขาเชื่อในสมมติฐานมากขึ้น
"เมื่อประมาณสัปดาห์ก่อน ตอนที่จิมมี่มือทมิฬหายตัวไปครับ!" คาร์ลตอบออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ หลังจากพูดออกไป เขาก็มีท่าทีอึ้ง ๆ ตำรวจหนุ่มเหมือนจะรู้สึกถึงบางอย่าง ทางเดินใต้ดินที่นำไปถึงอีกช่วงตึกถูกสร้างขึ้นในเวลาไม่กี่วัน มันควรจะใช้เวลาเป็นสิบ ๆ สัปดาห์กว่าคนงานจะสร้างทางเดินให้แล้วเสร็จ แต่กรอบเวลานี้เกินกว่าระยะเวลาที่ชูเบิร์กเข้าครอบครองที่นั่น
"คุณฉินหราน!" คาร์ลมองฉินหราน "งั้นมันก็ถูกสร้างไว้นานแล้ว?"
ฉินหรานไม่ได้ตอบคำถามของคาร์ล ในใจอุทานหลายคำ หลังจากคิดเงียบ ๆ อยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูด "รองสารวัตรพาคนอื่น ๆ ไป "เก็บกวาด" คนที่เหลือในแก๊งแล้วใช่ไหม?"
"ครับ! หลังจากเรื่องของชูเบิร์ก รองสารวัตรก็ต้องการถล่มแก๊งอื่น ๆ ด้วย แต่ไอ้พวกเลวนั่นมีระเบิดแบบเดียวกับชูเบิร์กเลย! อีกอย่าง พวกมันยังรู้แผนปฏิบัติการของเราล่วงหน้าด้วย! เหมือนเมื่อคืนเลยครับ!" คาร์ลลังเล แต่สุดท้ายเขาก็พูดสิ่งที่เขาสงสัยเมื่อตอนที่ความพยายามในการจับกุมชูเบิร์กล้มเหลวออกมา
อย่างที่ฉินหรานคาดไว้ มีหนอนบ่อนไส้ในกองกำลังตำรวจ นั่นเป็นความคิดแรกของฉินหรานหลังจากได้ยินคำพูดของคาร์ล จากนั้นเขาก็เริ่มตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับอิทธิพลของผู้ชายที่ชื่ออีวานนั่นอีกครั้ง ตอนแรกก็เป็นแค่การคาดเดา แต่ตอนนี้คาร์ลได้ยืนยันความคิดนั้นแล้ว
"เกิดอะไรขึ้นครับ?" คาร์ลถามเมื่อเขาสังเกตเห็นฉินหรานคิดหนัก
"เกิดเรื่องไม่ดีและจะมีหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง! คาร์ล ฉันอยากให้นายสัญญาว่านายจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ อย่าบอกใครว่านายเจอฉันคืนนี้ นายกลับมาที่นี่และนอนหลับไปทันที! เข้าใจใช่ไหม?" ฉินหรานมองคาร์ลสายตาจริงจัง
คาร์ลอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็พยักหน้าให้
"ได้ครับ คุณฉินหราน!" ตำรวจหนุ่มรับปากด้วยท่าทางจริงจังราวกับกล่าวคำสาบาน
จู่ ๆ คาร์ลก็เหมือนนึกอะไรออกและพูด "คุณฉินหราน มีอีกเรื่อง สารวัตรจอห์นหายตัวไปจากสถานีทั้งวันเลยครับ!"
"อะไรนะ?" ฉินหรานตกใจ
"วันนี้สารวัตรไม่มาที่สถานีตามเวลา รองสารวัตรส่งคนออกไปตามที่บ้านของสารวัตร แต่ภรรยาสารวัตรบอกว่าเขาไม่กลับบ้านมาเป็นสัปดาห์แล้วครับ! เขาเคยทำแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้..." ตอนพูด สีหน้าคาร์ลก็ดูกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ
"ฉันเข้าใจ จอห์นคงจะต้องจัดการเรื่องด่วนบางอย่างเลยไม่ทันได้บอกใครที่สถานีเอาไว้ เดี๋ยวฉันจะคอยดูให้ด้วยแล้วกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น" ฉินหรานปลอบคาร์ล "จำที่สัญญาไว้นะ เข้าใจไหม?" เขาเตือนคาร์ลอีกครั้งก่อนจะออกจากหอพักตำรวจอย่างว่องไว
ทันทีที่เขาออกมา สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นหนักใจจากข้อมูลที่เพิ่งได้มา จอห์นเจอปัญหาแล้ว ฉินหรานสังหรณ์ตั้งแต่ก่อนที่คาร์ลจะบอกว่าสารวัตรจอห์นหายตัวไปทั้งวันเสียอีก
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ฉินหรานรู้ อย่างไรซะฉินหรานกับจอห์นก็เพิ่งแยกกันเมื่อวาน จอห์นเคยพูดว่าเขาต้องติดต่อเพื่อนอีกหลายคนเพื่อสืบเรื่องชูเบิร์ก
"ให้ตายสิ! อิทธิพลของอีวานนี่กว้างไกลกว่าที่ฉันคิด! หวังว่าจอห์นคงจะเพิ่งถูกกักตัวไว้และยังไม่..." แม้ว่าเขาจะรู้จักจอห์นแค่ระยะเวลาสั้น ๆ ฉินหรานก็ยังอดหวังให้ชายผู้มีคุณธรรมคนนี้ไม่สูญเสียชีวิตเพราะเรื่องนี้
...
ตอนที่กุนเธอร์สันเห็นฉินหรานกลับมา เขาคิดว่าฉินหรานดูไม่ค่อยยินดีนัก เขาบอกได้ว่าเรื่องราวคงจะร้ายแรงกว่าที่เห็น และกำลังเลวร้ายลง
"เป็นอะไร?" เขาถามฉินหรานด้วยน้ำเสียงสงบ
ในฐานะอัศวินผู้พิทักษ์ กุนเธอร์สันไม่ใช่คนขี้ขลาด เขาผ่านอะไรมามาก และไม่เคยรู้สึกแปลกใจเมื่อเรื่องราวเลวร้ายลง เขาเข้าใจดีว่าความตื่นตระหนกไม่มีประโยชน์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
"รอสักครู่นะครับ ได้โปรด!" ฉินหรานเดินตรงไปที่ลู่ชานที่หมดสติอยู่แล้วปลุกมันขึ้นมาด้วยน้ำเย็น
"อีวานเป็นคนเอาระเบิดมาให้พวกแกใช่ไหม?" เขาถาม
"ใช่!"
จากซากเย็นเฉียบของสวาร์โกที่ข้าง ๆ และสายตาเย็นเยียบของฉินหราน ลู่ชานให้ความร่วมมือโดยไม่พูดอะไรมาก
หลังจากทุบเข้าที่ต้นคอทำให้ลู่ชานหมดสติลงไปอีกครั้ง ฉินหรานก็หันกลับมาบอกกุนเธอร์สันเรื่องที่เขาพบ "ผมคิดอย่างนั้น! คนที่อยู่เบื้องหลังชูเบิร์กและอีวานน่าจะเป็นคนเดียวกัน"
กุนเธอร์สันขมวดคิ้ว "คนของกองทัพทหาร?"
กุนเธอร์สันรู้ดีว่ากองทัพสามารถทำอะไรได้บ้าง ต่อให้เขาไม่สนใจปืนทั้งร้อยทั้งพันได้ แต่ปืนใหญ่ไม่ใช่ มันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะต่อกรด้วยได้ เพื่อนและสหายร่วมรบก่อนนี้ของกุนเธอร์สันเป็นข้อพิสูจน์พลังทำลายล้างของกองทัพทหารได้เป็นอย่างดี
"พวกเราต้องมีแผน!" กุนเธอร์สันพูด
"แน่นอนครับ เราไม่สามารถจัดการกับทั้งกองทัพได้ด้วยแค่พวกเรา!" ฉินหรานเห็นด้วยกับกุนเธอร์สัน ตอนที่พูด เขาก็พยายามคิดหาแผนการ
"เอาเถอะ พวกเรายังได้เปรียบอยู่ สิ่งที่คนพวกนี้ต้องการที่สุด สมบัติของศาสนจักรแห่งอรุณรุ่งยังอยู่ในมือเรา! อย่างน้อยพวกมันก็คิดแบบนั้น!"