ตอนที่แล้วบทที่ 29: ขโมยชีวิต ขโมยสวรรค์  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 31: 2 บทบาท  

บทที่ 30: การต่อสู้ที่ดุเดือด  


บทที่ 30: การต่อสู้ที่ดุเดือด

บูม!

ในยามค่ำคืน เปลวเพลิงได้ระเบิดออกมาพร้อมกับเสียงคำราม ต้นหลิวที่มีขนาดเท่าต้นขาของผู้ใหญ่หักออกเป็นสองท่อน ทำให้กลิ่นไม้ที่ถูกเผาไหม้ฟุ้งไปในอากาศ

ในป่า ชายสองคนเผชิญหน้ากัน

คนหนึ่งเป็นชายหนุ่ม และอีกคนอายุมากกว่าเล็กน้อย ใกล้จะถึงวัยกลางคนแล้ว

“ฉันไม่คิดว่าในเมืองตงหลินเล็กๆ แห่งนี้ นอกจากฉันแล้ว จะยังมีผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ปลุกคัมภีร์ปีศาจของตนขึ้นมาแล้ว”

หลี่ซูเหิงจ้องมองชายที่อยู่ตรงข้ามเขา ใบหน้าของเขาดูไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

ตั้งแต่ที่เขาได้รับพลังในเกม ความมั่นใจของเขาก็พุ่งสูงขึ้น และในที่สุดเขาก็กล้าที่จะทำในสิ่งที่เขาต้องการทำแต่ไม่เคยกล้าทำ

เขายังสงสัยด้วยว่าการกระทำของเขา มันจะดึงดูดความสนใจจากทางการหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ความยากของเกมก็บอกเขาว่า ไม่ต้องพูดถึงในเมืองตงหลินเลย แม้แต่ในประเทศทั้งประเทศก็ยังไม่มีผู้เล่นที่ปลุกพลังสายเลือดมากนัก

แต่เขาก็ไม่เคยจินตนาการว่าในวันที่สาม เขาจะมาพบกับผู้เล่นคนอื่นที่มีปลุกพลังสายเลือดแล้วเช่นกัน

สิ่งที่ทำให้เขาโกรธมากขึ้นไปอีกก็คือผู้เล่นคนนี้เล็งเป้ามาที่เขาและโจมตีเขาโดยไม่พูดอะไรเมื่อเห็นเขา

หลี่ซูเหิงจ้องมองไปที่ชายวัยกลางคน: “นายปลุกพลังสายเลือดของนายขึ้นมาได้ในเวลานี้ นั่นหมายความว่านายมีโอกาสที่ดีในเกม นายและฉันถูกกำหนดให้เป็นตัวเอกของยุคนี้ เราควรร่วมมือกันเพื่อสร้างอนาคตของเราแทนที่จะต่อสู้กันจนตายที่นี่”

ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างจริงจัง “เส้นทางที่แตกต่างกันนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ด้วยการพึ่งพาพลังที่เหนือกว่าความเป็นจริง นายได้ก่อให้เกิดความโกลาหลและทำลายความสงบเรียบร้อยในสังคมอย่างรุนแรง วันนี้ ฉันต้องจับนายให้ได้!”

เมื่อได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคน ใบหน้าของหลี่ซูเหิงก็เปลี่ยนไป “จับตัวฉันหรอ นายเป็นตำรวจหรอ?”

เขารู้สึกตกใจเล็กน้อยภายในใจ ไม่เคยคาดคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสังเกตเห็นเขาอย่างรวดเร็วเช่นนี้

ในขณะเดียวกัน เขาก็ไม่คาดคิดว่าฝ่ายรัฐจะมีผู้เล่นที่ปลุกพลังสายเลือดได้เร็วขนาดนี้

หลี่ซูเหิงจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตเห็นเขาหลังจากการเคลื่อนไหวครั้งที่สองของเขา

อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้น มันก็ยังไม่มีผู้เล่นที่ปลุกพลังสายเลือดในเมืองตงหลิน ดังนั้นตำรวจจึงสามารถจับตาดูเขาไปก่อนได้เท่านั้น

จนกระทั่งวันนี้ เมื่อตำรวจคัดเลือกผู้เล่นที่มีพลังสายเลือดที่กำลังจะปลุกพลังสายเลือดโดยไม่ได้ตั้งใจในระหว่างการคัดเลือกผู้เล่นชุดแรกจำนวนมาก

ผู้เล่นคนนั้นคือชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้

ชื่อของเขาคือหยางเจิง เดิมทีเขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเหมือนกัน แต่ต้องเกษียณก่อนกำหนดเนื่องจากอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน

ด้วยการเป็นผู้เล่นที่ปลุกพลังสายเลือดแล้ว และยังเคยเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เขาจึงได้รับการแต่งตั้งจากเบื้องบนทันทีให้เป็นผู้รับผิดชอบเมืองตงหลิน

จากนั้น พวกเขาก็ใช้ทรัพยากรที่มีเพื่อช่วยให้หยางเจิงทำภารกิจประจำวันในเกมให้สำเร็จ

จนในที่สุด เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา หยางเจิงก็ประสบความสำเร็จในการปลุกพลังสายเลือดของเขาโดยรวบรวมพลังปีศาจได้เพียงพอ

หยางเจิงกล่าวว่า “หลี่ซูเหิง นายหนีไม่ได้แล้ว ฉันขอแนะนำให้นายยอมแพ้ซะ นายไม่ควรเดินบนเส้นทางนี้ด้วยความสามารถของนาย ตอนนี้ประเทศกำลังต้องการผู้มีความสามารถเช่นเรา ตราบใดที่นายเต็มใจที่จะชดใช้ความผิดพลาดของนาย มันก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะปล่อยเรื่องก่อนหน้านี้ไปได้”

หลี่ซูเหิงเยาะเย้ยโดยไม่ให้ความเคารพหยางเจิงแม้แต่น้อย “นายคิดว่านายจะสามารถจัดการกับฉันได้จริงๆ หรอ พลังกายของนายมันแข็งแกร่งมากก็จริง แต่เปลวไฟของฉันก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน”

หยางเจิงกล่าวว่า “ฉันจะรับมือกับนายได้ไหม เราจะได้เห็นกัน”

เมื่อคำพูดของเขาหลุดออกไป หยางเจิงก็พุ่งเข้าหาหลี่ซูเหิงโดยทันที

เมื่อเห็นเช่นนี้ หลี่ซูเหิงก็สาปแช่ง “ก็เข้ามาเลย!”

การต่อสู้ระหว่างทั้งสองกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

ทั้งสองฝ่ายใช้ทักษะของตน หลี่ซูเหิงยิงเปลวไฟใส่หยางเจิง ขณะที่หยางเจิ้งอาศัยพละกำลังของตนเพื่อแสดงความเร็วอันน่าทึ่ง พยายามเข้าใกล้หลี่ซูเหิง

อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ก็เป็นนักรบที่ปลุกพลังสายเลือดแล้ว พลังของพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกัน และไม่มีใครสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ง่ายๆ

สักครู่ต่อมา ใบหน้าของหลี่ซูเหิงดูน่าเกลียดขึ้น และเขารีบพูดว่า “ฉันยอมรับว่านายแข็งแกร่ง แต่ถ้านายคิดว่านายจะจับฉันได้ นายก็คงฝันไปแล้ว”

เมื่อพูดจบ เขาก็ตัดสินใจทันทีและหันหลังวิ่งหนี

เขามีตัวคนเดียว แต่หยางเจิงไม่ใช่

หากหยางเจิ้งหมดแรงและเรียกกำลังมาเสริม เขาก็จะทำได้แค่ยอมจำนน

“ฉันไม่ยอมให้หนีหรอก!”

หยางเจิงเริ่มวิตกกังวล เขาไม่ยั้งใจและปืนพกก็ปรากฏขึ้นในมือขณะที่เขาแตะเอว

ปัง…

กระสุนพุ่งออกมา เมื่อได้ยินเสียงปืน ใบหน้าของหลี่ซูเหิงก็เปลี่ยนไปในที่สุด

เขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว รีบหลบหลังต้นหลิวที่ค่อนข้างหนา อย่างไรก็ตาม กระสุนก็ยังคงยิงโดนไหล่ของเขา

“ใช้ปืนเลยหรอ? วันนี้แกจับฉันไม่ได้หรอก!” หลี่ซูเหิงอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างรุนแรง กัดฟันแน่น และในช่วงเวลาต่อมา งูไฟก็พุ่งออกมา

นี่คือทักษะการต่อสู้สายเลือดของเขา!

เดิมทีเขาไม่อยากจะใช้มัน เพราะถ้าเขาใช้มัน พลังสายเลือดของเขาก็จะถูกใช้ไปอย่างมาก ซึ่งจะทำให้เขาเสียเปรียบมากในภายหลัง

แต่ตอนนี้ เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

งูเพลิงพุ่งออกไปราวกับว่ามันมีชีวิต มันพันรอบหยางเจิงอย่างรวดเร็ว ต้นหลิวที่มันเคลื่อนผ่านถูกจุดไฟเผา แสดงให้เห็นถึงอุณหภูมิที่ร้อนแรงของงูเพลิง

หยางเจิงหน้าเปลี่ยนสี เขารู้สึกว่าถ้าเขาถูกงูเพลิงโจมตี เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน

เขาทำได้เพียงถอยหนีอย่างรวดเร็วโดยพยายามสร้างระยะห่างระหว่างกัน

หลี่ซูเหิงใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ประมาณสิบนาทีต่อมา

บนเส้นทางที่เงียบสงบ

หลี่ซูเหิงปิดแผลบนไหล่ของเขาในขณะที่หายใจหอบ ใบหน้าของเขาซีดเผือดมาก

เขาไม่เคยคาดคิดว่าเจ้าหน้าที่จะส่งนักรบที่ปลุกพลังสายเลือดแล้วมาตามไล่ล่าเขาอย่างรวดเร็ว

ครั้งนี้เขาประมาทไป

“พลังของฉันยังอ่อนแอเกินไป ฉันต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้เร็วที่สุด”

“ด้วยโอกาสของฉันในเกม อีกไม่นานฉันก็จะปลุกพลังสายเลือดที่สองของฉันขึ้นมาได้ และเมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะทำให้มันต้องชดใช้!”

หลี่ซูเหิงกัดฟัน เขาหวังว่าจะฆ่าคนที่ทำร้ายเขาเมื่อกี้ได้ แต่เขาก็รู้ว่ายังทำไม่ได้

สถานการณ์ในปัจจุบันของเขาอันตรายมาก เขาต้องหาที่ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับโดยเร็วที่สุด

เขาเดินตามเส้นทางไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

โดยที่ยังเดินไปได้ไม่ไกล หลี่ซูเหิงก็สังเกตเห็นได้ทันใดว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินตามเขามาอยู๋

ชายหนุ่มคนนี้เองก็ดูเหมือนจะสังเกตเห็นความผิดปกติของเขาและกำลังจ้องมองมาที่เขา

“แกกำลังมองอะไรวะ ถ้ายังมองต่อฉันจะควักลูกตาแกออกมาเดี๋ยวนี้แหล่ะ!” ดวงตาของหลี่ซูเหิงหดแคบลงขณะแผ่จิตสังหาร

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาก็คงฆ่าชายหนุ่มตรงหน้าเขาอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เขาทำไม่ได้

การใช้ทักษะการต่อสู้สายเลือดเกือบจะทำให้พลังสายเลือดในร่างกายของเขาหมดไป ในตอนนี้ พลังทั้งหมดของเขามีค่ามากและไม่สามารถเสียไปกับคนทั่วไปได้

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ชายหนุ่มก็หัวเราะโดยไม่แสดงความกลัวใดๆ

แน่นอนว่าชายหนุ่มคนนี้คือซูหนาน

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ รูปลักษณ์ของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ใบหน้าที่ครั้งหนึ่งเคยหล่อเหลาของเขากลายเป็นธรรมดา และร่างกายของเขาก็ดูอวบอ้วนขึ้น

นี่คือผลจากวิชาเปลี่ยนกระดูก

หลังจากคัมภีร์วงล้อแห่งชีวิตเข้าสู่ขั้นต้น เขาก็สามารถใช้พลังในเกมได้โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ

“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันจับนายแล้วเอาไปส่งให้กับผู้ชายคนเมื่อสักครู่?”

“แกเห็นหรอ?” หลี่ซูเหิงตกใจและตระหนักได้ทันทีถึงเจตนาของอีกฝ่าย เขาไม่ปกปิดจิตสังหารในดวงตาของเขาอีกต่อไป

“ไอ้หน้าโง่ แกกำลังรนหาที่ตายแล้ว!”

เขาไม่รู้ถึงความแตกต่างของซูหนาน

นี่ไม่ใช่ความผิดของเขา เกมโลกปีศาจนั้นยากมาก และคนทั่วไปก็ไม่สามารถผ่านภารกินมือใหม่ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์

ในความคิดของเขา การมีเขาและหยางเจินสองคนในเมืองตงหลินนี้ก็ถือเป็นปาฏิหาริย์แล้ว

“ไปตายซะ!”

ลูกไฟพุ่งออกมาหลี่ซูเหิงในขณะที่เขาเริ่มเคลื่อนไหว...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด