บทที่ 209 วิธีการรวบรวมพลังวิญญาณ อัตราสำเร็จของการหลอมโอสถที่น่าตกใจ

บทที่ 209 วิธีการรวบรวมพลังวิญญาณ อัตราสำเร็จของการหลอมโอสถที่น่าตกใจ

"อัตราสำเร็จถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์!"

ใต้แท่นสูง ไม่เพียงแค่เหล่าศิษย์ระดับชั้นลมปราณ และนักหลอมโอสถธรรมดาเท่านั้น แม้แต่เหล่าผู้คุมกฎแห่งหอหลอมโอสถทั้งสี่ต่างก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา โดยเฉพาะผู้อาวุโสสวี่หมิงฮว่า

โอสถ "จื่อจินตัน" เป็นโอสถที่เขาเป็นคนเลือก และเป็นหนึ่งในโอสถที่เขาหลอมบ่อยที่สุด แม้เขาจะเป็นนักหลอมโอสถระดับกลางชั้นสูง แต่การหลอมโอสถระดับกลางชั้นต่ำอย่างจื่อจินตัน ส่วนใหญ่แล้ว อัตราสำเร็จของเขาจะอยู่ที่เก้าสิบเปอร์เซ็นต์

แต่นั่นเป็นผลลัพธ์จากการฝึกหลอมมาหลายปี

"ฉู่หนิงผู้นี้ ใช้เวลาครึ่งปีฝึกหลอมโอสถจื่อจินตันมาตลอดหรือ? แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ยัง..." ในดวงตาของสวี่หมิงฮว่ามีแววของความไม่เชื่อ

เหล่าผู้คุมกฎอีกสามคนต่างก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน เพราะอัตราสำเร็จที่แปดสิบเปอร์เซ็นต์กับเก้าสิบเปอร์เซ็นต์นั้นต่างกันมาก แม้แต่หลิงชางเองก็ยังแสดงความประหลาดใจออกมาบ้าง

แต่เขาเป็นผู้บำเพ็ญระดับจินตัน อีกทั้งพรสวรรค์ในด้านการหลอมโอสถของเขาก็สูงยิ่ง โอสถระดับกลางชั้นต่ำยังไม่ได้อยู่ในสายตาของเขามากนัก ดังนั้น แม้เขาจะตกใจ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมากนัก

บนแท่น ฉู่หนิงมองกวาดผ่านฝูงชนอย่างสงบนิ่งและเห็นสีหน้าของทุกคนชัดเจน เมื่อรู้ว่าทุกคนได้เห็นโอสถที่เขาหลอมแล้ว เขาก็โบกมือและเก็บโอสถทั้งหมดลงในขวดหยก แล้วใช้คาถาควบคุมวัตถุส่งโอสถไปวางไว้ที่มุมหนึ่งของแท่นสูง

นี่ก็เพื่อให้เหล่าผู้ชมตรวจสอบคุณภาพของโอสถได้โดยตรง ป้องกันไม่ให้มีผู้กล่าวหาว่าเขาสับเปลี่ยนโอสถ

จากนั้น ฉู่หนิงก็ทำความสะอาดเตาหลอมและเริ่มหลอมโอสถชนิดต่อไป เมื่อทุกคนเห็นสมุนไพรที่เขาเตรียมไว้ เสียงอุทานก็ดังขึ้นทันที

"โอสถสร้างฐาน!"

โดยเฉพาะเหล่าศิษย์ระดับชั้นลมปราณที่จ้องมองฉู่หนิงด้วยแววตาเปี่ยมไปด้วยความหวัง ในปีที่ผ่านมานี้ นิกายจิ่วฮวาประสบปัญหาขาดแคลนโอสถสร้างฐานอย่างหนัก เนื่องจากไม่มีนักหลอมโอสถที่มีอัตราสำเร็จสูงในการหลอมโอสถชนิดนี้

ยิ่งไปกว่านั้น วัตถุดิบสำหรับโอสถชนิดนี้มีค่ามหาศาล เทียบเท่ากับโอสถระดับกลางชั้นสูงหลายชนิด ดังนั้นเมื่อเห็นฉู่หนิงหลอมโอสถสร้างฐาน ศิษย์ระดับลมปราณต่างภาวนาให้อัตราสำเร็จของเขาสูงมากพอ เพราะโอสถสร้างฐานคือความหวังที่จะทำให้พวกเขาก้าวข้ามไปสู่ขั้นต่อไป

บนแท่นสูง ฉู่หนิงยังคงรักษาท่าทีสงบนิ่งเหมือนตอนที่หลอมจื่อจินตัน นี่เป็นครั้งที่สี่แล้วที่เขาหลอมโอสถสร้างฐาน นอกจากการหลอมครั้งแรกในฐานะ “เซียวตานซือ” แล้ว ครึ่งปีที่ผ่านมา หอเหยียนจงได้มอบวัตถุดิบให้เขาหลอมสามครั้ง

แม้ว่าจะกล่าวว่าโอสถสร้างฐานเป็นโอสถระดับกลางชั้นต่ำที่หลอมยากที่สุด แต่หากฉู่หนิงต้องการ เขาก็สามารถหลอมโอสถชนิดนี้ด้วยอัตราสำเร็จถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ได้เลยทีเดียว ในความเป็นจริงครั้งก่อน ๆ เขาก็ทำได้สำเร็จ แต่ครั้งนี้เขาไม่คิดจะทำให้คนตกตะลึงเกินไป แค่แปดหรือเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็น่าจะพอแล้ว

เขาเริ่มใส่สมุนไพรทีละอย่างเข้าไปในเตาหลอม ตั้งแต่จินหยวนเฉ่า (หญ้าโลหิตทองคำ) หลิงมู่กั๋ว (ผลไม้หลิงมู่) จู๋กั๋ว (ผลจู๋) เทียนอิ๋นสุ่ยหลู (น้ำค้างเงินสวรรค์) หุนหลิงเฉ่า (หญ้าวิญญาณ) และหลงซวีเฉ่า (หญ้าหนวดมังกร) จากนั้นเขาเริ่มสกัดและกลั่นสมุนไพรเหล่านั้น

เมื่อใส่เทียนตี้ฮวา (ดอกสวรรค์ปฐพี) ซึ่งเป็นสมุนไพรที่สำคัญที่สุดลงไปในเตาหลอม ฉู่หนิงไม่ได้ใช้วิธีการธรรมดา แต่ใช้วิธีการควบคุมไฟที่ซับซ้อนและลึกลับกว่ามาก เขาร่ายคาถาหลายบทซึ่งมีความซับซ้อนสูงเข้าสู่เตาหลอม

"อืม?"

เมื่อฉู่หนิงร่ายคาถาเหล่านั้นลงไป แม้แต่หลิงชางและเหล่าผู้บำเพ็ญระดับจู๋จีขึ้นไปก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ

"วิธีควบคุมไฟนี้ซับซ้อนยิ่งนัก มันแทบไม่ต่างจากวิธีควบคุมไฟที่ใช้ในการหลอมโอสถจิ่วฮวานิงหยวนตันเลย"

ในขณะที่ใบหน้าของหยวนหรงจางและเกิงว่านเซิ่งแสดงความตึงเครียด ทั้งสองหันมามองหน้ากันและแลกเปลี่ยนสายตา จากนั้นหยวนหรงจางก็ส่งสัญญาณให้เกิงว่านเซิ่งคลายความกังวล

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะกังวลว่าฉู่หนิงอาจเข้าใจวิธีการควบคุมไฟที่ซับซ้อนนี้ได้รวดเร็วเกินไป แต่อย่างไรก็ตาม วิธีควบคุมไฟของโอสถสร้างฐานและโอสถจิ่วฮวานิงหยวนตันนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

เมื่อสกัดสมุนไพรเสร็จ ฉู่หนิงก็เริ่มกระบวนการผสมของเหลว กลั่นและหลอมจนได้เป็นน้ำโอสถจำนวนเก้าส่วน จากนั้นเขาใช้คาถาเพื่อปรับอุณหภูมิของเตาให้ลดลงสู่ระดับที่เหมาะสม

ในขณะที่โอสถกำลังจะหลอมเสร็จ เขาใช้จิตสัมผัสแทรกแซงโอสถหนึ่งเม็ดให้กลายเป็นของเสีย และอีกแปดเม็ดกลายเป็นโอสถที่สมบูรณ์ เขาร่ายคาถาอีกบทหนึ่ง

"การรวบรวมพลังวิญญาณ?"

เมื่อฉู่หนิงร่ายคาถานี้ออกมา หลิงชางก็พึมพำเบา ๆ

เหล่าผู้คุมกฎรวมถึงซู่อวี้ชิงและนักหลอมโอสถคนอื่น ๆ ต่างแสดงความตกตะลึง การรวบรวมพลังวิญญาณเป็นขั้นตอนหนึ่งในการหลอมโอสถหลังจากการกลั่นโอสถและก่อนที่จะเก็บโอสถ ซึ่งมีสองประโยชน์หลัก

ประการแรกคือการล็อคพลังของโอสถทำให้เก็บรักษาได้ยาวนานขึ้น ประการที่สองคือเพิ่มประสิทธิภาพของโอสถในบางชนิด

เมื่อฉู่หนิงใช้การรวบรวมพลังวิญญาณเสร็จ เขาจึงนำโอสถสร้างฐานออกมา เม็ดโอสถทั้งหมดลอยขึ้นมาเรียงตัวในอากาศ เมื่อทุกคนเห็นจำนวนโอสถที่เขาหลอมได้ เสียงอุทานดังขึ้นทั่วทั้งสนาม

"แปดเม็ด!"

"อัตราสำเร็จของโอสถสร้างฐานก็ถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ด้วย!"

เหล่าศิษย์ระดับชั้นลมปราณต่างเต็มไปด้วยความดีใจ เพราะในที่สุดนิกายจิ่วฮวาจะมีโอสถสร้างฐานมากขึ้น

แม้แต่เหล่าผู้คุมกฎก็ไม่สามารถซ่อนความตกตะลึงไว้ได้ แม้ว่าโอสถสร้างฐานจะหลอมยากมาก แต่ฉู่หนิงกลับทำให้อัตราสำเร็จถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ได้ นั่นทำให้ทุกคนประหลาดใจ

หยวนหรงจางเริ่มแสดงสีหน้ากังวลขึ้นมาเล็กน้อย เพราะแค่โอสถสร้างฐานนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ฉู่หนิงมีตำแหน่งที่มั่นคงในหอหลอมโอสถแล้ว แต่เขาก็ยังปลอบใจตัวเองว่า ฉู่หนิงจะไม่สามารถหลอมโอสถจิ่วฮวานิงหยวนตันได้แน่

จากนั้นฉู่หนิงก็เริ่มหลอมโอสถชนิดต่อไป คือ "หลิวเสินตัน" โอสถระดับกลางชั้นสูงที่ใช้สำหรับเพิ่มพลังวิญญาณ แม้โอสถชนิดนี้จะไม่เป็นที่รู้จักเท่าโอสถสร้างฐาน แต่เมื่อฉู่หนิงหลอมสำเร็จโดยได้ถึงสี่เม็ด ก็ทำให้ซู่อวี้ชิงต้องแสดงความตกใจ

เมื่อหลอมโอสถเสร็จแล้ว ฉู่หนิงก็เริ่มทำความสะอาดเตาหลอมและเตรียมหลอมโอสถชนิดต่อไป

"เขาคงจะไม่หลอมโอสถจิ่วฮวานิงหยวนตันจริง ๆ ใช่ไหม?"

ทุกคนเริ่มสงสัยเมื่อเห็นฉู่หนิงนำสมุนไพรที่ใช้ในการหลอมโอสถจิ่วฮวานิงหยวนตันออกมา หยวนหรงจางที่เฝ้าดูอยู่แสดงสีหน้าตกใจอย่างมาก

"เป็นไปได้อย่างไร? เขาคิดจะหลอมโอสถจิ่วฮวานิงหยวนตันจริง ๆ หรือ?"