บทที่ 196 ขั้นสร้างฐานบ้าบออะไรเนี่ย
ในหอคอยชั้นสาม
เมื่อซูเฉียนหยวนบังคับให้อู๋เยว่ต้องถอยออกมาด้วยหมัดเดียว มันเท่ากับเป็นการตัดสินผลการต่อสู้แล้ว
ซูเฉียนหยวนชนะ
และชนะอย่างง่ายดายที่สุด
พลังหมัดเดียวก็ทำให้คู่ต่อสู้ลุกไม่ขึ้น โดยที่แทบไม่ต้องชกจริงๆ ด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นภาพนี้ ตัวแทนจากนิกายเร้นลับเหล่านั้นแทบจะเป็นบ้า
"คนนี้... นี่มันพลังร่างกายใช่ไหม? พลังร่างกายน่ากลัวถึงขนาดนี้เลยหรือ? ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม??"
"ร่างกายนี้ คงเดินบนเส้นทางฝึกร่างกายสินะ? แต่เส้นทางฝึกร่างกายสูงสุดก็แค่ขั้นแก่นทองไม่ใช่หรือ? อีกทั้งผู้ฝึกร่างกายขั้นแก่นทองเมื่อเทียบกับผู้ฝึกตนปกติแล้ว ก็อ่อนแอกว่ามากนี่นา..."
"หรือว่า ศิษย์ของนิกายเร้นลับแคว้นตงโจวผู้นี้ ได้เปิดเส้นทางใหม่ให้กับการฝึกร่างกาย?!"
"คงจะเป็นอย่างนั้น สามารถพัฒนาเส้นทางฝึกร่างกายไปถึงระดับนี้ ทำให้มันทัดเทียมกับวิถีเซียน ผู้นี้สมควรเป็นบรรพบุรุษแห่งการฝึกร่างกาย!!"
"พระเจ้า ศิษย์ของท่านชูคนหนึ่งฝึกดาบ อีกคนเล่นค่ายกลจนเป็นดอกไม้ อีกคนก็เปิดเส้นทางใหม่ให้กับการฝึกร่างกายไปเลย นี่หรือคือนิกายเร้นลับที่สืบทอดมาสามล้านปี?"
ตัวแทนหลายคนส่งเสียงคุยกันทางจิต
พวกเขาต่างตกตะลึงยิ่งกว่ากัน
สิ่งที่นิกายเร้นลับแคว้นตงโจวแห่งนี้แสดงให้พวกเขาเห็น ช่างน่าตื่นตะลึงเหลือเกิน
เริ่มจากท่านผู้อาวุโสชูที่พวกเขามองไม่ทะลุ มองอย่างไรก็เห็นแค่ขั้นสร้างฐาน แต่พูดออกมาเป็นหลักการสวรรค์และพิภพ
ต่อมาก็มีศิษย์สามคนนี้ คนหนึ่งเก่งกว่าคนหนึ่ง คนหนึ่งน่ากลัวกว่าคนหนึ่ง
ภารกิจของพวกเขาคือดูว่ารากฐานของนิกายเร้นลับแคว้นตงโจวลึกซึ้งแค่ไหน?
พวกเขาไม่อยากคิดถึงภารกิจนี้อีกแล้ว
อย่าถาม ถ้าถามก็ตอบว่านิกายเร้นลับแคว้นตงโจว นิกายอู๋เต้าเจ๋งสุดสุด!!!
ถ้าถามว่านิกายเร้นลับแคว้นตงโจวสืบทอดมากี่ปีแล้ว?
สามล้านปียังไม่พอเลย!!
ส่วนอีกด้านหนึ่งของชูหยวน
ตอนนี้ชูหยวน
อารมณ์ช่างหลากหลายเหลือเกิน
หลากหลายจนอยากจะวิ่งไปหาหม่าเหลียน ตบหน้าเขาสักสองสามที
พ่อมึงสิ บอกว่าเจ๋งนักเจ๋งหนา
ศิษย์ที่ข้าสอนมาจากนิกายธรรมดาๆ แต่เอ็งเป็นศิษย์ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ กลับสู้ไม่ได้? แถมยังคุกเข่าทั้งที่โดนหมัดไม่ถึงตัวด้วย??
รู้ไหมว่าข้าเดิมพันหินวิญญาณไปกี่ก้อนแล้ว?!
ตั้งหลายพันก้อนเชียวนะ!!
นี่มันเงินที่เขายังไม่ทันได้กำให้อุ่นมือเลย ก็หมดไปซะแล้ว
ชูหยวนอยากจะร้องไห้
ครั้งนี้เขาอยากร้องไห้จริงๆ
แต่ตัวแทนจากนิกายเร้นลับแคว้นจงโจวหลายคนอยู่ที่นี่ เขาไม่อาจแสดงสีหน้าอะไรได้ ได้แต่ฝืนรักษาท่าทางสงบนิ่งเอาไว้
ยังดี ยังดี
ยังมีถันไถลั่วเสวียอยู่
อัตราต่อรองของถันไถลั่วเสวียสูงกว่า
และถันไถลั่วเสวียก็เป็นแค่คนธรรมดา ไม่มีทางมีโอกาสเอาชนะคู่ต่อสู้ได้แน่นอน
ชูหยวนพยายามปลอบใจตัวเอง
แต่ในใจยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแย่
ด้านข้าง ตัวแทนจากนิกายเร้นลับหลายคนยังอยากจะสอบถามชูหยวนเกี่ยวกับเรื่องการฝึกร่างกายนี้
แต่เมื่อเห็นสายตาของชูหยวนที่จ้องมองพื้นหอคอยอย่างเหม่อลอย ทุกคนก็ไม่กล้ารบกวนชูหยวน
"ท่านชูคงกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ พวกเราไม่ควรรบกวน ส่วนสิ่งที่พวกเราอยากถาม ข้าคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องถามท่านชูแล้ว ถามไปก็คงได้คำตอบว่ามีมือก็ทำได้"
หนึ่งในนั้นส่งเสียงทางจิต
เมื่อได้ยินคำพูดนี้
คนอื่นๆ ต่างก็กระตุกมุมปาก
มีมือก็ทำได้??
การเปิดเส้นทางใหม่ให้กับวิถีหนึ่ง เป็นบรรพบุรุษ เรื่องแบบนี้ อย่าว่าแต่มีมือเลย พวกเขาใช้เท้าด้วยก็ยังทำไม่ได้
แต่พวกเขาก็ไม่กล้ารบกวนชูหยวนจริงๆ
กลัวว่าจะรบกวนท่านชูผู้นี้ ทำให้เรื่องของท่านชูผู้นี้เสียหาย
แม้จะคิดเช่นนี้ แต่พวกเขาทุกคนต่างก็มีความคิดอื่นผุดขึ้นมาในใจ เช่น การเข้าร่วมนิกายเร้นลับแคว้นตงโจว
คนที่ออกมาจากนิกายเร้นลับแคว้นตงโจว ทุกคนล้วนแข็งแกร่งขนาดนี้ ถ้าพวกเขาเข้าร่วม จะสามารถกลายเป็นผู้แข็งแกร่งน่ากลัวแบบนี้ได้หรือไม่?
ขณะที่พวกเขากำลังคิดฝัน
ชูหยวนก็ฟื้นคืนสติ เขาลุกขึ้นยืนทันที
ทำให้คนอื่นๆ ต่างก็ได้สติกลับมา
"พวกเจ้ารู้จักคนที่ชื่อชูเหอมากแค่ไหน?"
ชูหยวนถามอย่างเรียบๆ
ถ้าเขาจำไม่ผิด
คู่ต่อสู้ของศิษย์คนที่สี่ของเขา ก็คือคนที่ชื่อชูเหอนี่
ราวกับว่าถูกคู่ต่อสู้ของซูเฉียนหยวนทำให้ตกใจ
ชูหยวนอดไม่ไหวที่จะถามข้อมูลส่วนตัวของ 'ชูเหอ' โดยตรง
"ท่านชู คนผู้นี้ข้ารู้จัก เป็นศิษย์ของหอคอยเรียกวิญญาณในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ว่ากันว่าเชี่ยวชาญการใช้ศิลปะเครื่องรางเป็นพิเศษ พลังแกร่งเทียบเท่าขั้นเผชิญเคราะห์ เป็นหนึ่งในยอดฝีมือของแคว้นจงโจว ยกเว้นกลุ่มอัจฉริยะระดับสุดยอดเท่านั้น"
มีคนที่รู้ข้อมูลพูดเช่นนี้
เมื่อได้ยินคำพูดนี้
ชูหยวนรู้สึกสงสัย
ครั้งที่แล้วพวกเจ้าก็บอกว่าหม่าเหลียนนั่นแข็งแกร่งแค่ไหนๆ ใช่ไหม?
แล้วสุดท้ายก็คุกเข่าลงทันที
คราวนี้จะโม้อีกแล้ว??
หลายคนมองสายตาของชูหยวน ราวกับอ่านความหมายออก
"พูดถึงเรื่องนี้ หม่าเหลียนคนนั้นมันอะไรกัน แม้ว่าศิษย์ของท่านชูจะแข็งแกร่งมาก แต่หม่าเหลียนคนนี้ก็อ่อนแอเกินไปแล้ว พวกขยะแบบนี้ก็เข้าร่วมการประลองหมื่นนิกายได้ด้วยหรือ?"
"ใช่แล้ว แค่ศิษย์ภายนอกของนิกายข้าก็ยังแข็งแกร่งกว่าหม่าเหลียนคนนี้ ทำไมพวกไร้ประโยชน์แบบนี้ถึงได้เข้าร่วมการประลองหมื่นนิกายได้"
"ข้าจะไปถามอู๋เยว่ดู ว่าการประลองหมื่นนิกายนี้จัดกันยังไงกันแน่"
หลายคนต่างพูดขึ้นมา
บางคนทิ้งคำพูดว่าจะไปหาอู๋เยว่ แล้วก็หมุนตัวออกไปจากชั้นสาม
ชูหยวนมองความวุ่นวายในชั้นสาม สูดหายใจลึกๆ
ชูเหอเอ๋ยชูเหอ
พวกเราล้วนแซ่ชูด้วยกัน
เจ้าคงไม่ทำให้ข้าต้องประหลาดใจอะไรอีกใช่ไหม?
ถ้าแม้แต่ถันไถลั่วเสวียที่เป็นแค่คนธรรมดายังเอาชนะไม่ได้...
อย่าว่าแต่อย่างอื่นเลย เขาจะพาเย่หลัวกับจางฮั่นไปสอนคนผู้นั้นให้รู้จักเป็นคนกันเดี๋ยวนี้เลย
ชูหยวนคิดพลางถอนหายใจเบาๆ อยากจะใส่พลังลมปราณเพื่อดูการต่อสู้ของกลุ่มอื่นต่อ
แต่พอเขาจะใส่พลังลมปราณ
กลับพบว่าพลังลมปราณหมดเกลี้ยง
ชูหยวน "..."
ขั้นสร้างฐานบ้าบออะไรเนี่ย!!