ตอนที่แล้วตอนที่ 253 อาจารย์ของฮวงเฉียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 255 พ่ายโดยไร้ทางต้าน

ตอนที่ 254 ขี้ขลาด (ฟรี)


ตอนที่ 254 ขี้ขลาด

“คารวะใต้เท้ากวง!” หลังจากที่จางอังเห็นชายชราปรากฏตัว เขาก็ตกใจเล็กน้อย จากนั้นจึงรีบกล่าวทักทายด้วยความเคารพ

ชายชราคนนี้มีสถานะสูงส่ง และเป็นขุนนางขั้นหนึ่งของจักรวรรดิต้าเฉียน เขาอยู่ในสนามรบมาหลายปี และเป็นสหายคนสนิทของอดีตจักรพรรดิ ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

แม้แต่อาจารย์ของเขา ฉู่ฉง ก็ยังรู้สึกกลัวชายชราคนนี้เล็กน้อย

“เอ่อ เจ้ายังจำข้าได้อีกงั้นเหรอ นึกว่าเจ้าจะเชิดหน้าไม่เห็นหัวใครเลยเสียอีก” ชายชราเหลือบมองจางอัง แล้วพูดถ้อยคำที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย

จางอังมองไปที่ชายชรา จากนั้นจึงมองไปที่ฮวงเฉียนซึ่งยืนอยู่ข้างอีกฝ่ายอย่างภาคภูมิใจ และทันใดนั้นเขาก็เข้าใจบางอย่าง

นี่เป็นเพราะศิษย์ถูกรังแก อาจารย์เลยมาออกหน้าเหรอ?

นั่นทำให้แม้แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดหัวเล็กน้อยในขณะนี้

ในด้านความแข็งแกร่ง เขาไม่คู่ควรกับอีกฝ่าย

ในแง่ของตำแหน่งขุนนาง เขาไม่ได้มีตำแหน่งสูงเท่าชายชรา

ในเรื่องความอาวุโส แม้แต่อาจารย์ของเขา ฉู่ฉงก็ไม่อาวุโสเท่ากับชายชราคนนี้ ท้ายที่สุดแล้ว อีกฝ่ายเป็นทหารผ่านศึกที่รับใช้จักรวรรดิมาถึงสองรัชสมัย และเคยได้ช่วยอดีตจักรพรรดิขยายดินแดนให้กว้างไกล

“เด็กน้อย เห็นว่าเจ้าดูถูกศิษย์ของข้าสินะ มา มาดูสิว่า เจ้ามีความสามารถอย่างที่ปากพูดหรือไม่!” ชายชราตะคอกใส่จางอัง และทันใดนั้นออร่าราวกับคลื่นยักษ์ก็โหมกระหน่ำออกมา

เห็นได้ชัดว่าชายชราคนนี้เป็นคนป่าเถื่อน เขาไม่ไว้หน้าใครเลย ไม่น่าแปลกใจเลยที่จักรพรรดิ ต้าเฉียนยังลังเลที่จะเรียกเขา และเลือกโยนภาระให้ฮวงเฉียนแทน

ท้ายที่สุด เมื่อจักรพรรดิต้าเฉียนยังทรงพระเยาว์ เขาต้องเรียกชายชราว่าลุง

และลุงคนนี้ก็ดูหมิ่นเขาไม่น้อย ก่อนหน้านี้จักรพรรดิต้าเฉียนได้เรียกเขาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างไร้ความปราณี และข้อแก้ตัวแต่ละข้อก็น่ารังเกียจมากกว่าครั้งก่อน บางทีก็บอกว่านอนอยู่? หรือกินอยู่

ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ ข้อแก้ตัวต่างๆ ก็สื่อเหมือนๆ กันว่า ไม่มีเวลา!

จักรพรรดิต้าเฉียนโกรธมากในตอนแรก ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตมหายานต้องกิน นอน และขับถ่ายที่ไหนกัน

เจ้าคิดว่าตนเป็นมนุษย์หรือยังไง?

อย่างไรก็ตาม เมื่อจำนวนการปฏิเสธเพิ่มขึ้น จักรพรรดิต้าเฉียนก็ค่อยๆ คุ้นเคยกับมัน

ชายชราก็มีความสุขที่ได้มีเวลาว่าง แต่ด้วยศักดิ์ศรี เขายังคงเลือกที่จะส่งศิษย์ของตน ฮวงเฉียนไปรับใช้จักรพรรดิต้าเฉียนเพื่อจัดการเรื่องบางอย่างแทน

ชายชราก็ยังมีบารมีอยู่ไม่น้อย และขุนนางหลายคนก็ไม่กล้าที่จะยั่วยุฮวงเฉียนเพราะเห็นแก่หน้าเขา

แต่ทุกสิ่งก็ต้องมีครั้งแรก ด้วยเหตุนี้ชายชราจึงโกรธมาก

“ฮึ่ม เพื่อเห็นแก่อาจารย์ของเจ้า ข้าจะปล่อยเจ้าไป ตราบใดที่เจ้าขอโทษศิษย์ของข้า แล้วเรื่องนี้ข้าจะไม่พูดถึงมันอีก!” หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง ชายชราก็พูดขึ้นด้วยแววตาที่มีความกลัวเล็กน้อย

เขากล้าพูดจารุนแรงเพราะฉู่ฉงไม่อยู่ที่นี่ ถ้าฉู่ฉงปรากฏตัวที่นี่จริงๆ เขาคงจะหนีเร็วกว่าใครๆ

ยกเว้นความอาวุโสที่มากกว่าฉู่ฉงเล็กน้อย เขายังตามหลังในด้านอื่นๆ อีกมาก

อย่างไรก็ตาม แม้จะทำอะไรฉู่ฉงไม่ได้ แต่ก็ไม่มีอะไรผิดที่จะรังแกศิษย์ของอีกฝ่ายเล็กๆ น้อยๆ

“ผู้อาวุโส มันเป็นเรื่องระหว่างคนรุ่นหลังอย่างข้า และฮวงเฉียน ท่านไม่ควรเข้ามายุ่ง” จางอัง กล่าวด้วยความรู้สึกปวดหัว

ชายชราคนนี้คงจะแก่จนเลอะเลือนไปแล้วแน่ เขาแค่ไล่ฮวงเฉียนออกไป ไม่ได้ลงมือใดๆ มากกว่านั้น แต่กลับมาต้องการให้เขาขอโทษเนี่ยนะ

“ฮึ่ม เจ้าไม่มีคุณสมบัติพอที่จะพูดกับข้า หากไม่พอใจก็เรียกอาจารย์ของเจ้ามา” หลังจากได้ยินคำพูดของจางอัง ดวงตาของชายชราเต็มไปด้วยความดูถูก และพูดด้วยความครอบงำ

อย่างไรก็ตาม ฉู่ฉงที่เป็นแม่ทัพใหญ่กำลังเฝ้าชายแดนอยู่ และไม่มีทางที่เขาจะปรากฏตัวที่นี่ได้ ดังนั้น เขาไม่มีอะไรต้องกลัว

ในขณะนั้น หลังจากที่หวังเย่ได้พักผ่อนช่วงสั้นๆ เขาก็ค่อยๆ ฟื้นกำลัง และคำพูดก่อนหน้าของลู่ซุนก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา

เมื่อเขาสิ้นหวังที่สุด คำพูดนั้นเป็นดั่งแสงที่ฉุดเขาขึ้นมาจากความมืด

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าเป็นศิษย์ของข้า”

คำพูดนี้จารึกไว้ในใจของหวังเย่อย่างลึกซึ้ง และเขาจะไม่มีวันลืมมันไปตลอดชีวิต!

เมื่อกลับมาขยับตัวได้ หวังเย่ก็คุกเข่าลงต่อหน้าลู่ซุนด้วยตัวที่ยังสั่นอยู่ จากนั้นกดหน้าผากลงกับพื้น และพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ศิษย์หวังเย่คารวะอาจารย์!”

หวังเย่เป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงของจักรวรรดิต้าเฉียน แน่นอนว่าชายชราเคยได้พบกับเขา และรู้ว่าใครเป็นอาจารย์ของเขาด้วย

หลังจากที่ชายชราได้ยินคำพูดของหวังเย่ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาไม่กล้าแม้แต่จะมองลู่ซุน และหายตัวไปในทันที

“แย่แล้ว ข้าลืมโอสถที่กำลังกลั่นอยู่ไปเสียสนิท ใกล้จะถึงแล้ว ข้าต้องรีบกลับไปก่อน!” เสียงของชายชราดังก้องอยู่ในจวน และร่างของเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เขาวิ่งเร็วราวกับลมกรด

"อาจารย์..." ฮวงเฉียนจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า แม้ว่าเขาจะรู้มานานแล้วว่าอาจารย์ของตนมักจะรังแกผู้อ่อนแอ และหวาดกลัวผู้แข็งแกร่ง แต่ก็นึกไม่ถึงว่าจะขี้ขลาดถึงขนาดนี้!

ฮวงเฉียนมองไปที่ดวงตาที่ไร้ความเมตตาของแม่ทัพหลงหลู่ และกลืนน้ำลายอึกใหญ่

“ท่านทั้งหลาย ข้าก็ต้องขอตัวก่อน หากไม่มีข้าไปช่วย เตาปรุงยาอาจระเบิดก็เป็นได้!” ฮวงเฉียน คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเลือกทำตามหัวใจ เขากล่าวกับทุกคนที่อยู่ที่นี่ด้วยความเคารพแล้วหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

ทุกคนต่างพูดไม่ออกเกี่ยวกับศิษย์อาจารย์คู่นี้ สองคนนี้แสดงให้เห็นถึงความขี้ขลาดอย่างถึงขีดสุดจริงๆ

หลังจากที่ทั้งสองจากไป ทุกคนก็นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ พวกเขาต่างมองไปที่ลู่ซุนด้วยดวงตาที่เต็มด้วยความประหลาดใจ และสงสัย

พวกเขายุ่งอยู่กับการมาถึงของฮวงเฉียน และอาจารย์ของอีกฝ่าย และลืมไปแล้วถึงความตกใจที่ ลู่ซุนได้มอบให้

เมื่อทุกคนกลับมามีสติ พวกเขาก็ตกใจเป็นมากเมื่อนึกถึงเรื่องในตอนนั้น ชายคนนี้สามารถกุมอัสนีสวรรค์ไว้ในกำมือได้ เขาเป็นใครกัน ไม่มีใครรู้ถึงตัวตน และต้นกำเนิดของเขา

ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นยอดฝีมือลึกลับที่เพิ่งออกมาท่องโลก สิ่งที่พวกเขารู้ก็คืออีกฝ่ายแซ่ลู่ นอกเหนือจากนั้นก็ไม่รู้อะไรอีก

หลังจากที่ทุกคนตกตะลึงอยู่นาน พวกเขาก็จำอะไรบางอย่างได้

ว่ากันว่ากลุ่มคนที่สังหารแม่ทัพจางก็เป็นแบบนี้ พวกเขาไม่รู้ที่มา และรู้เพียงแซ่ของคนเหล่านั้น

“หรือว่า…” หลี่ซวนหรี่ตาลงเล็กน้อย และพึมพำกับตัวเอง ราวกับว่าเขาได้ค้นพบความลับที่ทำให้โลกพังทลายลงได้

นอกจากนี้ หวังเย่ที่ได้รับคำสั่งให้ไปจับกุมได้ยอมจำนนต่อคนกลุ่มนี้

แน่นอนว่าหลี่ซวนไม่ใช่คนฉลาดเพียงคนเดียว หลายคนก็คิดได้เหมือนๆ กัน และสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด