กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 522 ข้าประเมินเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ต่ำเกินไป
กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 522 ข้าประเมินเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ต่ำเกินไป
“สายเกินไปแล้ว”
เจ้าแห่งยมโลกกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“ในวินาทีที่พวกเราหนีออกมาจากโลกแสงนิล โลกสุเมรุและโลกยุทธ์แท้ก็ปรากฏตัวขึ้นจากปฐมโกลาหล และหลอมรวมเข้ากับโลกเซียนปฐพี!”
คำพูดนี้ดังขึ้น
ทุกคนต่างก็ตกตะลึง
“เป็นไปได้อย่างไร”
มีคนพึมพำ
ในสายตาของพวกเขา โลกสุเมรุและโลกยุทธ์แท้คือทางรอด พวกเขาไม่ได้ลงมือ เพียงเพราะยังไม่มีเวลา
เมื่อยมโลกยึดครองโลกแสงนิลได้ โลกสุเมรุและโลกยุทธ์แท้ย่อมต้องพบกับหายนะ
น่าเสียดาย แผนการไม่ทันการณ์ ยังไม่ทันที่พวกเขาจะลงมือ เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ก็ดึงโลกทั้งสองมาไว้ใกล้ ๆ กับโลกเซียนปฐพี
ยิ่งไปกว่านั้น
ในวันนี้ เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ได้ตัดเส้นทางของพวกเขา
หรือว่า…เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นั้น คำนวณทุกอย่างเอาไว้แล้ว
หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ช่างน่ากลัวยิ่งนัก
ท้ายที่สุดแล้ว…โลกทั้งสอง ไม่ได้ด้อยไปกว่าโลกแสงนิล!
เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ดึงโลกทั้งสองมา ย่อมต้องมั่นใจ เพราะฉะนั้น ยมโลกตั้งแต่เริ่มต้น ก็ถูกกำหนดชะตากรรมเอาไว้แล้ว
“เบื้องหลังทั้งหมดนี้ เป็นฝีมือของเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์หรือ”
มีคนกล่าวเบา ๆ
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ราวกับมดปลวกที่ถูกเทพเจ้าควบคุม ไม่อาจต่อต้านได้
อีกฝ่ายยังไม่ได้ลงมือ ยมโลกก็ล่มสลายแล้ว
หากเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ลงมือด้วยตนเอง สถานการณ์จะเป็นเช่นไร?
พวกเขา โชคดียิ่งนักที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้ถูกควบคุมโดยลูกปัดเพรียกวิญญาณ มิเช่นนั้น คงจะถูกสังหารทั้งหมด
“ข้าประเมินเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ต่ำเกินไป”
เจ้าแห่งยมโลกถอนหายใจ กล่าวเบา ๆ
จนถึงตอนนี้ เขาก็ต้องยอมรับ หากรู้ว่าเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เขาคงไม่ประมาท คงจะระมัดระวัง
คงไม่ถูกอีกฝ่ายโจมตี จนยมโลกทั้งหมดต้องล่มสลาย
“นายท่าน ตอนนี้พวกเรา…”
ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งเอ่ยถาม
เขามองดูหมอกปฐมโกลาหล รอบกายด้วยความสับสน ทุกอย่างถูกเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์คำนวณเอาไว้ ใครจะรับรองได้ว่าการกระทำของพวกเขาในอนาคตจะไม่ถูกเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ควบคุม
ทุกคนราวกับหุ่นเชิด ถูกเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์มองเห็นทุกอย่าง ความรู้สึกเช่นนี้แย่มาก ราวกับว่าร่างกายของพวกเขาไม่มีความลับอีกต่อไป
“พักอยู่ที่นี่ก่อน”
เจ้าแห่งยมโลกมองไปรอบ ๆ กล่าว
เป็นภัยหรือโชค
ที่นี่อยู่ใกล้กับโลกแสงนิล หากโลกแสงนิลเกิดเรื่องราวใด ๆ พวกเขาก็จะรู้เป็นคนแรก และหากเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์คิดจะลงมือกับพวกเขา พวกเขาก็จะรู้ตัว และหลบหนีไปได้
ลองคิดดู นอกจากเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์แล้ว ใครจะคิดว่าพวกเขาออกจากโลกแสงนิลแล้ว แต่ไม่ได้เดินทางไปไกล กลับอยู่ใกล้ ๆ
“ยิ่งไปกว่านั้น”
เจ้าแห่งยมโลกมองไปยังห้วงมิติ กล่าวต่อว่า “ข้ารู้สึกว่าหลังจากที่โลกสุเมรุและโลกยุทธ์แท้หลอมรวมกับโลกเซียนปฐพีแล้ว โลกใบนี้อาจจะไม่สงบสุขอีกต่อไป”
ในเวลาเดียวกัน ณ โลกสวรรค์ก่อกำเนิด
นอกเมืองต้าฮวง แสงสว่างหนึ่งสายบินมาจากที่ไกล ๆ พุ่งเข้าไปในเมืองต้าฮวงอย่างรวดเร็ว
ชายคนหนึ่ง อายุราว ๆ วัยกลางคน ร่างกายเปล่งประกาย ดวงตาทั้งสองข้างกวาดมองเมืองต้าฮวง ต้องการตรวจสอบเมืองต้าฮวงทั้งหมด
“เมืองต้าฮวงช่างไม่ธรรมดา”
ชายคนนี้หยุดมอง เมืองต้าฮวงนั้นน่ากลัว เพียงแค่กวาดตามอง เขาก็เห็นค่ายกลมากมายนับไม่ถ้วน ปกคลุมทั่วฟ้าดิน
ค่ายกลที่อ่อนแอที่สุด ก็ยังอยู่ในระดับยืนยง
ส่วนค่ายกลที่แข็งแกร่งที่สุด เขายังไม่อาจมองเห็น
แน่นอนว่า แม้จะเป็นเซียนยืนยงระยะสูงสุด หากกล้าสร้างความวุ่นวายในเมืองต้าฮวง คงจะกลายเป็นเถ้าธุลี
“นายน้อยคาดการณ์ถูกต้อง เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นี้ ลึกลับซับซ้อน เขากำลังควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง หากทำผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ก็จะไม่มีโอกาสแก้ตัว”
ชายคนนี้มาถึงเบื้องหน้าหอคอยกลไกสวรรค์ เงยหน้าขึ้นมองป้าย มองอย่างครุ่นคิด
หอคอยกลไกสวรรค์อยู่เบื้องหน้าเขา แต่เมื่อจิตสำนึกวิญญาณของเขากวาดผ่าน กลับไม่มีอะไร ราวกับว่าเป็นเพียงอากาศธาตุ ไม่ได้อยู่ในสวรรค์และปฐพี
แปลกประหลาดยิ่งนัก
หากไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง คงยากที่จะจินตนาการว่า สถานที่แห่งหนึ่ง สามารถหลบหนีจากการตรวจสอบของจิตสำนึกวิญญาณได้
“มิได้อยู่ในสวรรค์และปฐพีหรือ”
ชายคนนี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย เท้าที่ก้าวออกไป ค่อย ๆ หยุดลง ในสายตาของเขา หอคอยกลไกสวรรค์ราวกับกลายเป็นสัตว์ร้ายที่สามารถกลืนกินฟ้าดิน
หากก้าวเข้าไป ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ท้ายที่สุดแล้ว…
บุคคลที่สามารถสร้างค่ายกลที่แข็งแกร่งกว่าค่ายกลระดับยืนยงได้ ย่อมต้องมีพลังอำนาจที่น่ากลัว เขาเพียงแค่มาตรวจสอบข่าวสาร ไม่จำเป็นต้องทำให้ตนเองตกอยู่ในอันตราย
“หอคอยกลไกสวรรค์ช่างแปลกประหลาด ข้าควรรายงานนายน้อยก่อน”
ชายคนนี้พึมพำในใจ