ตอนที่แล้วบทที่ 28 น้ำพุร้อนที่สามารถล้างเส้นลมปราณชำระไขกระดูก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 30 ในที่สุดก็กล้าออกไปข้างนอกโดยไม่ต้องแต่งหน้า

บทที่ 29 แขกทุกคนล้วนเจ็บป่วยกันหมด


บทที่ 29 แขกทุกคนล้วนเจ็บป่วยกันหมด

“น้ำพุน้ำแข็งและน้ำพุร้อน? เหตุใดประตูบานเดียวจึงไปได้สองแห่ง? ทว่าการเข้าครั้งหนึ่งต้องเสียเงิน 5 เฉียน แม้จะพักอยู่ที่นี่ก็ไม่สามารถเข้าได้ ราคาแพงเกินไปหรือเปล่า?” 5 เฉียนนั้นเท่ากับ 500 เหวิน

คนที่พูดคือบัณฑิตหนุ่มชุดขาวหน้าตาเศร้าหมอง ดูเหมือนว่าเขาจะมีอายุราวสามสิบปี ใบหน้าซีดเหลือง ร่างกายผอมแห้ง คล้ายจะล้มพับได้ทุกเมื่อ

หญิงสาวร่างบางหัวเราะเยาะ “ของแพงย่อมมีเหตุผลของมัน ยิ่งไปกว่านั้นมันก็ไม่ได้แพงมากเลยนี่นา หากไม่อยากเสียเงิน แล้วจะถ่อมาที่นี่ทำไมให้ตนเองเสียอารมณ์? อีกอย่าง เจ้าโง่เขลาหรืออย่างไร สถานที่นี้ไม่ได้แพงไปกว่าสวนน้ำพุเลยไม่ใช่หรือ?”

เกือบจะถูกคนโง่หลอกเข้าแล้ว ทั้ง ๆ ที่เมื่อคิดคำนวณดู สวนน้ำพุต้องใช้เงินวันละกว่า 1 ตำลึง ความจริงมันมีราคาแพงกว่าเสียอีก

“ทว่า ใครไหนเลยจะอยู่ที่สวนน้ำพุตลอดทั้งวัน? น้ำพุน้ำแข็งและน้ำพุร้อนนี่แหละที่ราคาแพงกว่ามาก”

หญิงสาวกลอกตา แล้วไม่อยากสนใจบัณฑิตชุดขาวอีก

นอกจากสองคนนี้แล้ว ยังมีพี่น้องฝาแฝดอีกคู่ หน้าตาและเสื้อผ้าเหมือนกันทุกประการ พวกเขาดูเรียบง่ายและแข็งแกร่ง ท่าทีซื่อ ๆ เหมือนภาพสะท้อน

พี่น้องฝาแฝดคู่นี้ยืนพูดคุยกัน

“ไม่อาจรู้ได้เลยว่าน้ำพุน้ำแข็งและน้ำพุร้อนมีประโยชน์อันใด พวกเราอย่าฟุ่มเฟือยเงินจำนวนนี้เลยจะดีกว่าไหม?”

“ฟุ่มเฟือย? สิ่งนี้ถือเป็นการฟุ่มเฟือยได้อย่างไร? เป็นเพราะเจ้านั่นแหละ เจ้าหมูตะกละ เงินหมดไปก็เพราะเจ้า”

“เจ้าเองก็กินไม่น้อยไปกว่ากัน เจ้าต่างหากที่เป็นหมูตะกละ”

“เจ้านั่นแหละหมูตะกละ”

“เจ้าต่างหากหมูตะกละ”

“เจ้าหมูตะกละ ต่อไปเจ้าควรกินให้น้อยลงหน่อย ข้าจะได้ไม่ปฏิบัติต่อเจ้ารุนแรงนัก แล้วจะให้เจ้ากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกวัน เห็นไหมว่าพี่ชายคนนี้ดีกับเจ้าเพียงใด?”

เฟิงหยวนหนิง “…”

นี่มันการทะเลาะเบาะแว้งของเด็กอนุบาลหรืออย่างไร? ชายชุดขาวและหญิงสาวเป็นแขกที่เข้ามาพักเมื่อวาน ส่วนพี่น้องฝาแฝดไม่ใช่แขกของโรงแรม

เธอรีบเดินลงบันไดในทันที

บริเวณโซนพักผ่อนที่ห่างออกไปไม่ไกล เคอปิงหลิงและไป๋ฮ่าวเกออยู่บนโซฟา โดยที่เคอปิงหลิงกำลังกินบะหมี่รสไก่เผ็ด ส่วนไป๋ฉ่าวเกอกินโยเกิร์ต

เมื่อเห็นเฟิงหยวนหนิงเดินลงมา ไป๋ฮ่าวเกอรีบลุกขึ้นยืนทันที “เถ้าแก่ขอรับ ตอนนี้สั่งอาหารได้แล้วใช่หรือไม่?”

ผู้ที่กระตือรือร้นในการฝึกฝนจะตรงดิ่งไปลานบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ ส่วนคนที่ไม่จำเป็นต้องฝึกฝนก็นั่งรอเฟิงหยวนหนิงลงมาที่ล็อบบี้ เพื่อที่พวกเขาจะได้ทานอาหารในร้านโดยเร็วที่สุด

เฟิงหยวนหนิงที่กำลังจะไปแช่น้ำพุร้อนพลันชะงักฝีเท้า เธอพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว ส่วนการแช่น้ำพุร้อนดีต่อสุขภาพมาก ลองเข้าไปใช้บริการดูสิ”

“มันดีอย่างไรขอรับ?! สามารถ… เอ่อ… รักษาโรคได้ไหม?” บัณฑิตหนุ่มชุดขาวฉุกคิดบางอย่างได้ จึงรีบเดินเข้ามาถามอย่างกระชั้นชิด

ส่วนจะเป็นโรคอะไรนั้น เขาเขินอายเกินกว่าจะพูดออกมา และเขาตั้งใจมาที่หุบเขาการแพทย์ก็เพื่อรักษาโรคนี้

หมอผู้เก่งกาจของหุบเขาการแพทย์ได้จ่ายยาให้เขา แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะหายขาด และยังแนะนำให้ดูแลสุขภาพตัวเองด้วย

อนิจจา หากเขาสามารถควบคุมตัวเองได้จริง ๆ และควบคุมความชอบที่บอกใครไม่ได้นั้น แล้วเหตุใดต้องมาหาหมอเทวดาที่หุบเขาการแพทย์เพื่อขอใบสั่งยาด้วย?

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าลานบ้านแบบใหม่ราคาแพงเกินเหตุ ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีโอกาสรักษาโรคให้หายได้ นั่นถือว่าไม่แพงเลย!

ไม่แพงเลยสักนิด เรียกได้ว่าราคาถูกแสนถูกเสียด้วยซ้ำ

การที่เถ้าแก่ตั้งราคาเท่านี้ มันเหมือนเป็นการทำบุญให้คนยากไร้

บัณฑิตหนุ่มชุดขาวอดไม่ได้ที่จะมองเฟิงหยวนหนิงด้วยความรู้สึกผิด และอยากจะตบหน้าตัวเองที่พลั้งปากไป

เฟิงหยวนหนิงอยากจะไปแช่น้ำพุร้อนเร็ว ๆ แต่ก็ยอมอธิบายให้แขกฟังว่า “ครั้งแรกที่เข้าไปในน้ำพุร้อน ร่างกายจะฟื้นฟูกลับมาอย่างเต็มที่ และหลังจากนั้นจะไม่มีผลดังกล่าวอีก แต่หากไม่ใช่โรคร้ายที่รักษาไม่หาย ข้าแนะนำว่าไม่ควรพลาดโอกาสนี้ ส่วนน้ำพุน้ำแข็งเหมาะสำหรับผู้ฝึกยุทธ เพราะการฝึกฝนภายในน้ำพุน้ำแข็งจะทำให้ความเร็วในการฝึกฝนเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่า แต่มีข้อจำกัดวันละไม่เกินครึ่งชั่วโมง”

“เข้าใจแล้ว ขอบคุณมากขอรับเถ้าแก่” บัณฑิตหนุ่มชุดขาวดวงตาเป็นประกาย รีบวิ่งไปที่เครื่องจำหน่ายตั๋วและหยอดเหรียญลงไป ก่อนจะวิ่งตรงเข้าไปในลานบ้าน

ไป๋ฮ่าวเกอลุกขึ้นยืนกล่าวคำ “ขอบคุณเถ้าแก่ที่ชี้แนะ ข้าจะลองไปแช่น้ำพุร้อนเช่นกัน” เขาไม่อยากเสียเวลาทานอาหาร และรีบตรงไปที่เครื่องจำหน่ายตั๋ว

หญิงสาวหน้าตาสะสวยถามด้วยความกระตือรือร้น “เถ้าแก่เจ้าคะ น้ำพุร้อนสามารถชำระล้างพิษในร่างกายได้หรือไม่? ข้าได้รับพิษชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่มีโอสถใดแก้พิษได้ ข้าจึงต้องทานยาทุกเดือนเพื่อหลีกเลี่ยงการกำเริบ”

แม้จะดูเหมือนหญิงสาวธรรมดา แต่ความจริงเธอเป็นนักฆ่าขององค์กรลับ “ไม่หวนคืน” ซึ่งพิษชนิดนี้เองที่องค์กรใช้ควบคุมเธอ

เฟิงหยวนหนิง “…”

ในที่สุดเธอก็ค้นพบว่า แขกทุกคนที่มาเข้าพักในโรงแรมของเธอล้วนเจ็บป่วยกันหมด

ได้รับพิษร้ายแรง ร่างกายป่วยหนัก เส้นลมปราณฉีกขาดจนไม่สามารถใช้กำลังภายใน… มีทุกอย่างเลยจริง ๆ แปลกประหลาดมาก

เฟิงหยวนหนิงกล่าวตอบ “ท่านจะรู้ได้เมื่อเข้าไปลองดู”

“ขอบคุณเถ้าแก่เจ้าค่ะ หากพิษที่ข้าได้รับถูกชำระล้าง ท่านจะกลายเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้ ไม่ว่าท่านจะขอให้ข้าทำสิ่งใด ตราบใดที่ไม่ขัดต่อศีลธรรม ข้าจะยอมลุยน้ำลุยไฟทำเพื่อท่านโดยไม่ลังเล”

หญิงสาวโค้งคำนับให้เฟิงหยวนหนิงด้วยความเคารพ แล้วจึงเดินไปทางประตูกระจกที่เชื่อมกับลานบ้าน

ในท้ายที่สุด เหลือเพียงพี่น้องฝาแฝดและผู้ตรวจการเคอปิงหลิงจากหน่วยสืบสวน

“เถ้าแก่ขอรับ ข้าขอสั่ง…” หนึ่งในพี่น้องฝาแฝดชูเงินขึ้นมา ทว่าถูกฝาแฝดอีกคนปิดปากไว้

“เจ้ามันหมูอ้วนตะกละตะกลาม ยังคิดจะกินอีกหรือ เราต้องเก็บเงินส่วนที่เหลือเพื่อการฝึกฝน หากเจ้ากล้านำไปใช้หมด ข้าไม่ยอมยกโทษให้แน่!”

เคอปิงหลิงลุกขึ้นจากโซฟา “เถ้าแก่เจ้าคะ ข้าขอสั่งอาหาร เอาเหมือนเดิม อย่างละ 2 ที่”

“ได้สิ ซิ่วเอ๋อร์ ไปทำอาหารให้แขก” เฟิงหยวนหนิงหันไปบอกซิ่วเอ๋อร์ที่นั่งเงียบงันอยู่หลังเคาน์เตอร์

ซิ่วเอ๋อร์รับคำอย่างนอบน้อม “เจ้าค่ะนายหญิง”

เฟิงหยวนหนิงรับเงินมาจากเคอปิงหลิงเสร็จ เธอไม่คิดจะสนใจพี่น้องฝาแฝดที่ทะเลาะกัน ก่อนรีบตรงไปยังลานบ้านธีมใหม่ทันที

ตอนนี้เธอไม่สนใจภารกิจของโรงแรม ใจจดจ่ออยู่กับการไปล้างเส้นลมปราณชำระไขกระดูกโดยเร็วที่สุด เพื่อจะได้ไม่รู้สึกอ่อนแอแบบนี้

ทันทีที่เข้าไปในลานบ้านธีม “น้ำพุน้ำแข็งและน้ำพุร้อน” สิ่งแรกที่เห็นคือพื้นที่ปูด้วยหินก้อนกลม ขณะที่ภายในลานไม่มีอะไรให้เชยชมเป็นพิเศษ

ตรงกลางลานมีสระน้ำขนาดใหญ่รูปหยินหยาง ด้านซ้ายเป็นน้ำพุน้ำแข็ง ด้านขวาเป็นน้ำพุร้อน และมีท่อใต้ดินส่งน้ำเข้าไปในห้องพักแต่ละห้อง

เธอเห็นว่าแขกที่เข้ามาก่อนหน้าต่างเร่งรีบที่จะครอบครองห้องทางขวา ทุกคนดูรีบร้อนเหมือนอยากจะไปเกิดใหม่โดยเร็ว

เฟิงหยวนหนิงอดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้ามาหยุดตรงหน้าห้องที่สี่ ใช้บัตรเพื่อเข้าไปในห้อง ถอดเสื้อผ้า แล้วลงไปนั่งแช่ในบ่อ

ทันใดนั้น เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงทั่วร่างกาย ราวกับถูกเข็มนับหมื่นทิ่มแทง หลังจากนั้นไม่นานกลิ่นเหม็นชวนคลื่นเหียนก็อบอวลในอากาศ

ความเจ็บปวดนี้ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในนรก เธอกัดฟันอดทนอยู่พักใหญ่ ก่อนจะหมดสติไปในที่สุด

ภายในห้องที่สอง

ไป๋ฮ่าวเกอค่อย ๆ ลืมตาตื่น พบว่าร่างกายเบาหวิวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

น้ำในบ่อกลับมาใสสะอาดอีกครั้ง สารพิษและสิ่งสกปรกที่ขับออกจากร่างกายถูกกำจัดหายไปจนหมด

เขาเดินออกมาจากบ่ออาบน้ำและพบว่าร่างกายยังซูบผอมอยู่

ทว่าเมื่อมองดูกระจกเต็มตัว เขาสังเกตเห็นว่าใบหน้าของตนเองไม่ซีดเซียวเหมือนในอดีต และริมฝีปากก็เริ่มมีสีเลือด

เขาลองจับชีพจรชีพจรของตนเอง หลังจากเจ็บป่วยมาเนิ่นนาน จึงพอทราบเกี่ยวกับการแพทย์บ้าง แม้จะไม่ได้เก่งกาจ แต่ก็พอตรวจสอบร่างกายตนเองได้

ชีพจรสงบ มีจังหวะสม่ำเสมอ นี่คือ… ชีพจรของคนปกติอย่างเห็นได้ชัด!

เขาหายแล้วเหรอ? เขาหายดีแล้วจริง ๆ!

นอกจากรูปร่างที่ยังผ่ายผอม ตอนนี้เขารู้สึกแข็งแรงยิ่งกว่าคนปกติ อวัยวะภายในกลับคืนสู่สภาพสมบูรณ์ และพิษที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดก็หายไปจนหมดสิ้น

ช่างโชคดีอะไรเยี่ยงนี้!

เดิมทีเขาคิดว่าคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน แต่แล้วโรงแรมประหลาดแห่งนี้ก็ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน และเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเขาไปอย่างสิ้นเชิง

ในที่สุดเขาก็สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ไม่ต้องกังวลว่าจะป่วยไข้ หรือต้องจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร

ทั้งหมดต้องขอบคุณเถ้าแก่ที่มายังโลกนี้

ในสายตาของเขา เถ้าแก่เปรียบเสมือนเทพเซียนผู้ยิ่งใหญ่ แต่เธอก็ไม่ได้จริงจังกับแขกมากนัก เพราะการให้เธอมาเสียสละเพื่อพวกเขาย่อมเป็นไปไม่ได้

เหตุผลที่เธอสร้างน้ำพุร้อนเช่นนี้ขึ้นมา อาจเป็นเพราะเกิดประกายความคิดบางอย่างขึ้น เช้าวันนี้จึงได้สร้างสรรค์มันออกมา

และการทำแบบนี้ได้แสดงให้เห็นว่า เถ้าแก่มีพลังอำนาจยิ่งใหญ่มหาศาล

เขาอดไม่ได้ที่จะยินดีกับการตัดสินใจของตนเอง

เขาดีใจที่กล้าเข้ามาในโรงแรมแห่งนี้ และดีใจที่ลดทิฐิลง พยายามเอาใจเถ้าแก่เหมือนกับคนอื่น ๆ

ไป๋ฮ่าวเกอสวมเสื้อผ้า แล้วเดินออกจากห้อง

เห็นบัณฑิตชุดขาวและหญิงสาวเดินออกมาทีหลัง ทั้งคู่มีสีหน้าดีใจเหมือนได้เกิดใหม่

ฝ่ายแรกกำจัดความเจ็บปวดของการไม่ได้เป็นบุรุษในที่สุด ส่วนฝ่ายหลังก็สามารถกำจัดพิษประหลาด และมีความหวังที่จะหลุดพ้นจากองค์กรนักฆ่า “ไม่หวนคืน”

บัณฑิตชุดขาวและไป๋ฮ่าวเกอไม่ได้ฝึกวิชาวรยุทธ์ หลังออกมาจากน้ำพุร้อนก็เตรียมตัวจะกลับออกไป

หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้น รีบวิ่งไปที่โซนน้ำพุน้ำแข็ง แล้วเข้าไปในห้องหนึ่งเพื่อลองใช้งาน

บัณฑิตชุดขาวเดินช้าลง กระทั่งมาเดินเคียงข้างไป๋ฮ่าวเกอ

ความตื่นเต้นที่ได้รับการรักษาทำให้เขาพูดพร่ำเพ้อ และอยากพูดคุยกับสหายร่วมชะตากรรม “นี่พี่ชาย ท่านเองก็มาแช่น้ำพุร้อนเพื่อรักษาโรคใช่ไหม? ท่านพักในโรงแรมแห่งนี้มานานแล้วหรือ? ข้าได้ยินมาจากโรงเตี๊ยมหมิงว่าที่นี่มีมนต์ขลัง ด้วยความสงสัยจึงมาสำรวจดูด้วยตนเอง ไม่คิดเลยว่า โรงแรมแห่งนี้จะทำให้ข้ากลับมา… เอ่อ… อย่างที่ท่านทราบแหละ น้ำพุร้อนช่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก! ดูสิ ผิวพรรณของข้าดูดีขึ้นมาก หน้าตาผุดผ่อง หากกลับไปที่บ้าน ทั้งครอบครัวคงตกใจเป็นแน่”

ไป๋ฮ่าวเกอเลิกคิ้วเล็กน้อย “น้ำพุร้อนมีโอกาสรักษาได้เพียงครั้งเดียว ข้าขอแนะนำว่า ให้ท่านกลับไปดูแลสุขภาพของตนเองให้ดี”

ใบหน้าของบัณฑิตชุดขาวหมองคล้ำทันใด “…”

ไป๋ฮ่าวเกอมองย้อนกลับไป เห็นว่าเฟิงหยวนหนิงเดินตามมาไม่ไกล และดูเหมือนว่ากำลังอารมณ์ดี

เขาหันไปหาเฟิงหยวนหนิงแล้วโค้งคำนับอย่างนอบน้อม “เถ้าแก่ขอรับ พระคุณที่ท่านได้ช่วยชีวิตในวันนี้ ข้าจะไม่มีวันลืมเลือน ตำราฝึกวิชาที่ท่านต้องการจะถูกส่งมาในไม่ช้า ไม่ทราบว่าท่านมีความต้องการใดอีกหรือไม่? ตราบใดที่สามารถทำได้ ข้าจะทำทุกวิถีทางแม้ต้องเสียสละทุกสิ่งอยางก็ยอม”

เขาพบว่าสีหน้าของเถ้าแก่ดูดีขึ้นกว่าเดิมมาก หรือว่าเถ้าแก่เองก็ได้รับประโยชน์จากน้ำพุร้อนเช่นกัน?

เขาจำได้ว่า เถ้าแก่เคยบอกกับทุกคนว่าเธอเป็นคนธรรมดา หรือว่ามันจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ?

บางทีเธออาจจะเป็นคนธรรมดาจริง ๆ ทว่าต้นกำเนิดของเธอคงไม่ธรรมดาเป็นแน่ และตอนนี้อาจจะเพิ่งมาเกิดใหม่ในร่างมนุษย์ก็เป็นได้

ส่วนโรงแรมแห่งนี้ อาจจะเป็นสมบัติที่เธอนำติดตัวมาด้วยตอนที่ลงมายังโลก

และเหตุผลที่คนอื่นทำร้ายเธอไม่ได้ บางทีอาจเป็นเพราะสมบัติที่ปกป้องเถ้าแก่ไว้? หรือว่า อาจเป็นเพราะเถ้าแก่เป็นเทพเซียน คนธรรมดาจึงทำอะไรเธอไม่ได้?

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด