Chapter 53: เรื่องบังเอิญ
ความเป็นไปได้ที่จะได้หนังสือสกิลสะดุดความสนใจของฉินหรานแต่เขาก็ยังไม่ลืมเป้าหมายเดิม เขาใช้เชือกมัดผู้บุกรุกไว้บนเก้าอี้ จากนั้นก็เอาเหยือกไปรองน้ำเย็นจากห้องน้ำมาสาดเข้าที่หน้าของมัน น้ำเย็นปลุกผู้บุกรุกขึ้นมาได้ในทันที ปากของมันถูกอุดไว้ด้วยผ้าปิดหน้าที่มันใส่มามันจึงไม่สามารถส่งเสียงร้องใด ๆ ได้ ทำได้เพียงส่งเสียงอึกอักจากในคอ
เมื่อคิดว่าตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่ที่ร้างคน ฉินหรานก็ไม่อยากดึงดูดความสนใจจากเพื่อนบ้าน ผู้บุกรุกเบิกตากว้างและมองที่ฉินหรานด้วยสายตาว่างเปล่า ฉินหรานไม่อธิบายว่าทำไมถึงทุบมันจนสลบไป
"แกมากับใคร? คนอื่นอยู่ที่ไหน?" ฉินหรานตรงเข้าเรื่องเลย เขาดึงกริชออกมากดไปที่นิ้วชี้ซ้ายของผู้บุกรุกจนเป็นรอยกรีด เขาไม่ได้มัดมือข้างนี้เอาไว์อย่างมีจุดประสงค์ คือให้เขาสามารถใช้วิธีการสืบสวนในแบบของเขากับผู้บุกรุกได้ หลังจากที่ฉินหรานกรีดนิ้วนั้นแล้ว เขาก็เอาที่อุดปากออก
"ไอ้เหี้..." ก่อนที่มันจะพูดจบคำ เขาก็ยัดที่อุดปากกลับเข้าไป แล้วตัดนิ้วนั้นทิ้ง
"อ๊ากกก!" ผู้บุกรุกคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด
"แกมากับใครอีก?" ฉินหรานรอจนมันคร่ำครวญจบ จากนั้นก็เอาที่อุดปากออกอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็ขยับมีดไปที่นิ้วกลาง
"ไอ้ชั่..." ตอบผิด ฉินหรานตัดนิ้วกลางของมันทิ้ง
ท่าทางไม่ให้ความร่วมมือและการสบถด่าของมันทำให้ฉินหรานรำคาญจนตัดนิ้วที่เหลืออีกสามนิ้วของมันทิ้งในคราวเดียว ผู้บุกรุกตัวกระตุกอย่างเจ็บปวด เหงื่อไหลออกมาราวกับน้ำฝน ฉินหรานไม่ได้คิดจะหยุดแค่นี้ เขาเปลี่ยนไปกดมีดที่มือขวาของมัน หลังจากผ่านการสอบสวนครั้งแรกฉินหรานก็รู้วิธีจัดการกับพวกสารเลวเช่นนี้ พวกมันภายนอกดูคุกคาม แต่ในใจอ่อนแอสิ้นดี
"โอกาสสุดท้าย เพื่อน! ตอนนี้อยากพูดหรือยัง?" ฉินหรานเอาที่อุดปากออกอีกครั้ง มองที่ผู้บุกรุกอย่างเย็นชา
"ฉันพูดแล้ว!" ความเจ็บปวดที่มือยังคงอยู่ แต่สายตาเยือกเย็นของฉินหรานทำให้มันยอมแพ้
อย่างที่คาดไว้เลย ผู้บุกรุกไม่ได้อึดทนอย่างที่มันดูเหมือนเป็น ไม่อย่างนั้นมันคงไม่ไปเกะกะระรานซิสเตอร์โมนี่และปฏิบัติกับเธออย่างไร้ความเคารพ หญิงชราที่ใจดีและมีเมตตาคนนั้นไม่ได้พูดถึงการพบปะกับพวกมันอย่างละเอียด แต่ฉินหรานรู้ว่าเขาควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ ไม่ใช่เพราะอยากให้ซิสเตอร์โมนี่และกุนเธอร์สันประทับใจ เขาแค่รู้สึกว่าเขาควรทำ นั่นทำให้เขาเลือกเค้นคอคนร้ายตรง ๆ ไม่แกล้งทำเป็นให้ความร่วมมือเพื่อล่อมันออกมาแม้ว่าวิธีหลังจะง่ายกว่ามาก
"แกชื่ออะไร?"
"สวาร์โก!"
"พวกแกมีกันอีกกี่คน?"
"สอง!"
"พวกมันชื่ออะไรบ้าง?"
"ลู่ชานกับอีวาน!"
"พวกมันอยู่ที่ไหน?"
"ลู่ชานอยู่ที่เลขที่ 6 ถนนเซลเลอร์ แต่ฉันไม่รู้เกี่ยวกับอีวาน"
"แล้วพวกแกได้ข้อมูลเรื่องศาสนจักรแห่งอรุณรุ่งมาจากไหน?"
"จากอีวาน"
"อีวาน?"
"ใช่ เป็นมัน! มันติดต่อฉันกับลู่ชานบอกว่ามันเจอขุมทรัพย์!"
...
มีดคมกริบของฉินหรานกับความเจ็บปวดที่เหลืออยู่ทำให้สวาร์โกคายทุกอย่างออกมาจนหมด ฉินหรานถามคำถามซ้ำ ๆ เปลี่ยนรูปแบบคำถามไปมาเพื่อยืนยันว่าคำตอบของสวาร์โกนั้นเป็นความจริง
เขาได้ข้อสรุปแล้ว
อย่างแรก เขายืนยันแล้วว่าพวกที่แอบจับตามองอยู่นั้นมีด้วยกันสามคน สวาร์โกที่อยู่ตรงนี้และลู่ชานสองคนทำงานภายใต้คำสั่งของอีวาน
อย่างที่สอง คนที่ชื่ออีวานนั้นดูลึกลับมาก ไม่มีการติดต่อโดยตรงระหว่างทั้งสามคน พวกมันติดต่อกันผ่านทางจดหมายและใช้ที่อยู่ปลอม
อย่างที่สาม อีวานต้องมีการติดต่อกับคนอื่นนอกเหนือจากสวาร์โกและลู่ชาน แต่ว่าจะเป็นใครนั้นสวาร์โกไม่รู้ เขาทำงานแค่กับลู่ชานเท่านั้น
"อีวาน?" ฉินหรานพึมพำชื่อนั้นเบา ๆ
คำพูดของสวาร์โกไม่ได้ทำให้ฉินหรานได้ภาพรวมของอีวาน ผู้ชายคนนั้นรอบคอบ ระมัดระวัง และเห็นแก่ตัว เขาอาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้ นี่เป็นทั้งหมดที่พวกมันรู้
"ฉันบอกนายทุกอย่างที่ฉันรู้แล้ว!"
ฉินหรานพยักหน้า และปาดคอสวาร์โกด้วยกริช สวาร์โกถูกจัดการไปอย่างไม่ทันรู้ตัว มันมองฉินหรานอย่างไม่อยากเชื่อ มันไม่เข้าใจว่าทำไมฉินหรานถึงอยากฆ่ามัน ทำไมไม่ยืนยันข้อมูลของมันก่อนแล้วค่อยมาจัดการกับมัน? ปกติต้องเป็นอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ
สวาร์โกร่วงหล่นลงไปในความมืดอันธการ คำถามของมันไร้คำตอบ
หลังจากสวาร์โกตายไป หนังสือสกิลเปล่งประกายสีขาวที่ถูกหุ้มไว้ด้วยเศษผ้าก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าฉินหราน เขาไม่ได้เก็บมันขึ้นมา กลับกัน เขาหันไปมองประตูที่ถูกผลักเปิด
กุนเธอร์สันเดินเข้ามา แบกร่างคนคนหนึ่งเอาไว้ เขาไม่ได้สนใจที่จะซ่อนเสียงฝีเท้า ร่างกายใหญ่โตกำยำของเขาและร่างใหญ่ที่บนไหล่ทำให้พื้นห้องของฉินหรานส่งเสียงเอี๊ยด
"ลู่ชาน?" ฉินหรานถามขณะมองไปที่กุนเธอร์สันและร่างที่บนไหล่ของเขา
"ใช่ หนึ่งในสอง!" กุนเธอร์สันพยักหน้า วางลู่ชานลงข้าง ๆ สวาร์โก
วัดจากเสียงหนัก ๆ ที่ร่างนั้นร่วงลงไป กุนเธอร์สันเองก็ไม่ได้มีเมตตาต่อมันเช่นกัน ฉินหรานยักไหล่ ตอนที่เขาบอกว่า พวกเราควรจะล่อพวกที่แอบจับตามองอยู่ออกมา กุนเธอร์สันก็เสนอความช่วยเหลือโดยเก็บเป็นความลับจากซิสเตอร์โมนี่
ฉินหรานนั้นยิ่งกว่ายินดีที่จะตอบรับความช่วยเหลือนั้น เขาอยากมีเพื่อนร่วมทีมที่ทรงพลังอย่างกุนเธอร์สัน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินความสามารถของกุนเธอร์สันต่ำเกินไป
วัดจากร่างกายใหญ่โตของเขา ฉินหรานคิดว่าจุดแข็งของเขาคงจะเป็นความแข็งแกร่งเกินจินตนาการและวิชาเฉพาะตัว แต่หลังจากที่กุนเธอร์สันเสนอความช่วยเหลือ ฉินหรานถึงได้พบว่า จริง ๆ แล้วจุดแข็งของเขาคือการอำพราง แม้แต่ความฉลาดระดับ E+ ของฉินหราน และทั้งที่รู้ว่ากุนเธอร์สันซ่อนตัวอยู่ในเงา เขาก็ยังไม่สามารถรับรู้ถึงการคงอยู่ของกุนเธอร์สันได้ ถ้ากุนเธอร์สันไม่เปิดเผยตัวเป็นครั้งคราว ฉินหรานคงไม่รู้ตัวเลยว่าเขามาถึงแล้ว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงฆ่าสวาร์โกโดยไม่คิดซ้ำสอง
ฉินหรานไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกเพื่อยืนยันคำพูด การมาของกุนเธอร์สันคือการยืนยันนั้น
สวาร์โกก็ไม่รู้สึกถึงการคงอยู่ของกุนเธอร์สันเหมือนกัน
กุนเธอร์สันมองสีหน้าแปลก ๆ ของฉินหราน
"เธอสงสัยในความเชี่ยวชาญในการอำพรางของฉันสินะ?"
"ครับ!" ฉินหรานพยักหน้า
"เพื่อที่จะเป็นผู้พิทักษ์ จำเป็นต้องเข้าใจเกี่ยวกับความมืด เมื่อเธอเข้าใจศัตรู เธอก็จะบดขยี้มันได้!" กุนเธอร์สันพูดเบา ๆ ในน้ำเสียงบ่งบอกว่ามันเป็นเหตุเป็นผลดีในการทำเช่นนั้น
ฉินหรานได้รู้ความเป็นมาของกุนเธอร์สันมากขึ้นจากนิสัยของเขา
การสมคบคิด การลอบสังหาร เลือด...
ในยุคของซิสเตอร์โมนี่และกุนเธอร์สันนั้นโหดร้ายกว่าที่เขาเคยคิด ฉินหรานถอนหายใจและหันกลับไปสนใจเรื่องตรงหน้า
"คุณพบอะไรที่เป็นประโยชน์จากที่ซ่อนของพวกมันไหม?" ฉินหรานถาม
กุนเธอร์สันหยิบระเบิดทำมือที่ฉินหรานรู้สึกคุ้นเคยขึ้นมาสองลูก
"เจอ นี่! ฉันเจอของพวกนี้เกือบร้อยลูกในที่ซ่อนของพวกมัน! พวกมันวางแผนระเบิดโรงเรียนเซนต์เปาโล!"
เมื่อพิจารณาระเบิดพวกนี้ ฉิินหรานก็นึกออกว่ามันเหมือนกับที่ชูเบิร์กใช้
เหมือนมากจริง ๆ
ฉินหรานอดขมวดคิ้วให้กับการค้นพบนี้ไม่ได้
มีความคิดน่ากลัวอย่างหนึ่งผุดขึ้นมา ชูเบิร์กกล้าต่อกรกับตำรวจเพื่อให้เส้นสายของเขานำทหารเข้ามาในเมือง คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อาจไม่ได้ต้องการแค่ก่อจราจลหรือเข้ายึดเมือง พวกมันคิดจะใช้กำลังทหารค้นหาสมบัติของศาสนจักรแห่งอรุณรุ่งภายใต้การทำเป็นจัดการกับบชูเบิร์ก เขาเดาว่าคนที่อยู่เบื้องหลังนี้เป็นพวกเดียวกันกับสวาร์โก ฉินหรานมองระเบิดที่ดูคล้ายกับระเบิดที่ถูกใช้เมื่อวานแล้วหรี่ตา
"เกิดอะไรขึ้น?" กุนเธอร์สันขมวดคิ้วถามฉินหราน
"ผมคิดว่าผมเจอเรื่องใหญ่แล้ว! แต่ผมยังต้องยืนยันให้แน่ใจก่อน"
ฉินหรานไม่ได้บอกกุนเธอร์สันว่าเขาคิดอะไรได้ อย่างที่บอก เขายังต้องยืนยันสมมติฐานของเขาก่อน อย่างไรสมมติฐานของเขก็ตั้งอยู่บนความคล้ายคลึงกันของระเบิดทำมือพวกนี้และไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าความคล้ายของมันไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ
"คุณกุนเธอร์สัน คุณช่วยเฝ้าที่นี่ให้ผมสักครู่ได้ไหม?"
"ได้สิ! แต่ฉันต้องกลับไปที่โรงเรียนก่อนพระอาทิตย์ขึ้นไม่อย่างนั้นโมนี่จะสงสัยเอาได้ ถ้าเธอรู้ว่าฉันฝืนคำสาบานฉันเกรงว่าจะสูญเสียตำแหน่งยามกะกลางคืนและถูกไล่ออกจากโรงเรียน" กุนเธอร์สันไม่ปฏิเสธ แต่เขาเตือนฉินหรานว่ามีเวลาจำกัด
"ไม่ต้องกังวล ผมจะกลับมาในไม่ช้า!" ฉินหรานรับรองกับกุนเธอร์สัน