บทที่ 49 ต้นไม้ที่สูงเด่นในป่าย่อมถูกลมพัดโค่น!
หลังจากสังหารผู้ไล่ล่า
เว่ยฮั่นเริ่มจัดการสถานที่อย่างคล่องแคล่ว!
ก่อนอื่นเขาค้นศพได้เงินเล็กน้อย จากนั้นก็โยนศพเข้าไปในป่าข้างทาง ม้าสิบกว่าตัวก็ถูกไล่ให้กระจายเข้าไปในป่าเขา
ไม่นานสถานที่เกิดเหตุก็ถูกจัดการจนสะอาดเกลี้ยง!
ครูฝึกหวางและฉุยปิ้นมองภาพนี้ด้วยความตกตะลึง เหงื่อเย็นไหลออกมา
"พี่...พี่เว่ย ท่าน...ท่านฆ่าคนมามากแค่ไหนกัน? ทำไมถึงจัดการศพได้คล่องแคล่วขนาดนี้?" ฉุยปิ้นถามด้วยความสงสัยในใจ
ครูฝึกหวางผู้เคยผ่านโลกมามากขมวดคิ้วยิ้มขื่น "ท่านหมอเว่ยซ่อนความสามารถไว้ลึกจริงๆ ท่านจะไม่ฆ่าพวกเราเพื่อปิดปากหรอกนะ?"
"วางใจเถอะ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก!" เว่ยฮั่นยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจแล้วอธิบาย "ข้าฝึกวิชายุทธ์มาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นการมีความสามารถบ้างก็ไม่แปลกใช่ไหม? อีกอย่าง ข้าเคยผ่านการอพยพหนีภัยพันลี้ เห็นคนตายมานับไม่ถ้วน การฆ่าคนจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอก"
คำอธิบายของเว่ยฮั่นทำให้คนฟังยากจะโต้แย้ง!
ใช่แล้ว เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ผ่านการอพยพหนีภัยมา เห็นคนตายและศพทุกวัน จะแปลกอะไร?
ส่วนพลังวิชายุทธ์ แม้เขาจะปิดบังไว้บ้าง แต่ใครจะรู้ว่าเขาไม่ได้ฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก? ดังนั้นคำอธิบายของเว่ยฮั่นจึงทำให้ทั้งสองคนพูดไม่ออก
"ข้าไม่ชอบฆ่าคน เมื่อครู่ก็แค่ป้องกันตัวเท่านั้น" เว่ยฮั่นพูดอย่างจริงจัง "ตอนนี้ข้าอยากเป็นแค่หมอธรรมดาๆ คนหนึ่ง เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ขอให้ทั้งสองท่านช่วยรักษาความลับด้วย"
"เข้าใจแล้ว!"
"พวกเราจะไม่พูดเรื่องนี้แน่นอน"
ครูฝึกหวางและฉุยปิ้นรีบพยักหน้ารับปาก
ส่วนพวกเขาจะรักษาความลับได้จริงหรือไม่ เว่ยฮั่นก็ไม่ได้สนใจนัก เพราะเขาไม่ได้เปิดเผยอะไรมากนัก แค่เผยให้เห็นว่ามีพลังขั้นขัดเกลาผิวหนังเท่านั้น
เขาเป็นหมอ มีความรู้วิชายุทธ์บ้างก็ไม่แปลกอะไรใช่ไหม?
อีกอย่าง คนที่ไล่ตามมาแปดในสิบส่วนคงเป็นคนของเจ้าของไร่คนที่สอง
ต่อจากนี้ไร่ล่าเสือคงเกิดการทะเลาะวิวาทภายใน เจ้าของไร่คนที่สองจะรอดตายหรือไม่ก็ยังไม่รู้ คงไม่มีใครสนใจพวกลูกน้องที่ตายไปหรอก
ดังนั้นเว่ยฮั่นจึงขึ้นรถม้าอย่างพึงพอใจ ค่อยๆ มุ่งหน้าสู่เมือง
"พี่เว่ย ทำไมท่านถึงปิดบังความสามารถที่แข็งแกร่งขนาดนี้ไว้ล่ะ?" ฉุยปิ้นคิดสักครู่ แล้วอดไม่ได้ที่จะถาม "ถ้าท่านเปิดเผยความสามารถ ยังไงก็ต้องโด่งดังกว่าฉินเหลียงแน่นอน"
"โด่งดัง?" เว่ยฮั่นยิ้มเยาะถาม "ลุงหวังเมื่อก่อนก็โด่งดังมากใช่ไหม? มีองครักษ์ใต้บังคับบัญชาเป็นร้อย แล้วยังไง? พอต่อสู้จนเสียแขนไป เจ้านายก็ทอดทิ้งให้มาเป็นคนขับรถม้าทันที"
"เจ้าของไร่คนที่สามของไร่ล่าเสือก็โด่งดังมากใช่ไหม? ปกติสวมใส่อาภรณ์งดงาม ขี่ม้าอย่างสง่า ไปไหนมาไหนมีคนคอยรับใช้ แล้วยังไง? สุดท้ายก็นอนเหมือนหมาตาย ถ้าไม่ใช่เพราะฝีมือทางการแพทย์ของข้าดี ชาตินี้เขาคงต้องนอนอยู่บนเตียงไปตลอดชีวิต"
"เจ้ายังเด็กไม่เข้าใจหรอกว่า 'ไม้งามย่อมเป็นที่หมายปองของคนตัดฟืน ปลาใหญ่ย่อมถูกจับก่อนปลาเล็ก' คนเราน่ะ! แค่มีชีวิตอยู่ดีๆ ก็ดีที่สุดแล้ว โดดเด่นเท่ากับหาเรื่องตาย!"
เว่ยฮั่นสอนปรัชญาการใช้ชีวิตแบบรักษาตัวรอดอย่างละเอียด!
ฉุยปิ้นฟังแล้วงงๆ แต่ครูฝึกหวางกลับเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
ใบหน้าเหี่ยวย่นแสดงความขมขื่น อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "มีเหตุผลมาก! น่าเสียดายที่ข้าใช้ชีวิตมาหลายสิบปีโดยเปล่าประโยชน์ ยังสู้เด็กน้อยอย่างเจ้าไม่ได้ ถ้าข้ารู้แจ้งเช่นนี้แต่แรก คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้"
พูดจบ ครูฝึกหวางก็หยิบกระบอกสุราออกมา!
เริ่มรินดื่มคนเดียว ท่าทางหมดอาลัยตายอยาก ดูเหมือนจิตวิญญาณจะสลายไปแล้ว
เว่ยฮั่นมองเขาอย่างเฉยเมย ในใจเตือนตัวเองว่าต้องไม่โอ้อวดความสามารถ มิฉะนั้นอนาคตของเขาจะต้องเลวร้ายกว่าครูฝึกหวางเป็นร้อยเท่าพันเท่าแน่!
......
หลังกลับถึงร้านยา
เว่ยฮั่นก็ตรวจรักษาและออกตรวจตามปกติ ยุ่งวุ่นวายทุกวัน
เรื่องที่ไร่ล่าเสือพยายามสังหารเขาก็เป็นไปตามที่คาดไว้ ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ไม่มีใครสืบสวนหรือสนใจ กลับมีข่าวการทะเลาะวิวาทภายในไร่หลังจากนั้นสามวัน
"ได้ยินหรือยัง? ไร่ล่าเสือถูกโจรภูเขาดำโจมตีเมื่อคืน เกือบถูกบุกทะลวงเข้าไป เสียงฆ่าฟันดังตลอดทั้งคืน มีคนตายไปหลายคน!"
ในร้านยา คนไข้คนหนึ่งเล่าข่าวลือ
เพียงไม่กี่คำก็ทำให้ทุกคนสนใจ
ร้านยาเป็นที่ที่ผู้คนหลากหลายมาพบปะกัน ข่าวสารมากมาย คนไข้ย่อมอดไม่ได้ที่จะนินทา
"ไม่จริงกระมัง!" มีคนค้านทันที "ไร่ล่าเสือมีชายฉกรรจ์กว่าพันคน ทุกคนยิงธนูล่าสัตว์ได้ โจรภูเขาดำมีแค่สองสามร้อนคนกล้าไปรังแกพวกเขาเชียวหรือ?"
"พวกท่านรู้อะไร ว่ากันว่าเจ้าของไร่คนที่สองทรยศ ร่วมมือกับโจรภูเขาดำ เปิดประตูไร่ให้พวกนั้นบุกเข้ามา ถึงได้เกิดศึกใหญ่ขึ้น!" อีกคนที่รู้ข่าวสารดีหัวเราะเยาะแล้ววิเคราะห์ "โชคดีที่เจ้าของไร่คนที่หนึ่งดูเหมือนจะคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า แอบวางกับดักเอาไว้ ทำให้โจรภูเขาดำสูญเสียอย่างหนักเลยทีเดียว"
"ฮ่าๆๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น โจรภูเขาดำก็เสียทีใหญ่แล้วสิ!"
"ก็อย่างนั้นแหละ ว่ากันว่าพวกที่อยู่ฝ่ายเจ้าของไร่คนที่สองถูกสังหารจนหมดสิ้นในคืนเดียว ทั้งไร่มีคนตายไปหลายคน ศพกองเป็นภูเขาเลยทีเดียว"
"จุ๊ๆๆ คราวนี้ไร่ล่าเสือคงไม่สบายแน่ ทะเลาะกันเองแบบนี้ ความสูญเสียไม่น้อยเลยทีเดียว"
ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างออกรสเว่ยฮั่นกำลังตรวจรักษาคนไข้ไปพลางตั้งใจฟังข่าวลือไปพลาง
เมื่อได้ยินข่าวเหล่านี้ เขาก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด เจ้าของไร่คนที่หนึ่งของไร่ล่าเสือไม่ได้โง่ขนาดนั้น หลังจากรู้ว่ามีคนทรยศ ย่อมต้องมีการป้องกันไว้บ้าง พูดถึงแล้วก็เป็นเว่ยฮั่นนี่แหละที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้
แต่ไม่รู้ว่าทำไมเจ้าของไร่คนที่สองถึงได้ร่วมมือกับโจรภูเขาดำ?
พวกโจรที่เป็นทหารกบฏของราชวงศ์เซียวนี่ ช่วงนี้เคลื่อนไหวมากเกินไปหน่อยแล้ว
พวกเขาต้องการทำอะไรกันแน่? ทั้งลอบสังหารตระกูลเฉิน ทั้งเป็นศัตรูกับไร่ล่าเสือ? สร้างความวุ่นวายขนาดนี้ คงมีเป้าหมายใหญ่แน่ๆ
ขณะที่กำลังครุ่นคิด ชายร่างกำยำสองคนก็เดินเข้ามาในร้านยา!
พวกเขามองซ้ายมองขวาสักครู่ ก่อนจะจ้องมองมาที่เว่ยฮั่น
หนึ่งในนั้นเดินเข้ามาประสานมือถาม "ขอถามหน่อย ท่านคือหมอน้อยเว่ยผู้วิเศษใช่ไหม?"
"ข้าไม่กล้ารับคำว่าผู้วิเศษ ข้าคือเว่ยฮั่น ไม่ทราบว่าสองท่านมีธุระอะไรกับข้า?"
"เป็นหมอน้อยเว่ยผู้วิเศษจริงๆ ด้วย พวกเราเป็นนายพรานจากไร่ล่าเสือ" ชายร่างใหญ่ยิ้มแก้มปริเปิดเผยที่มา ทำให้ผู้คนรอบข้างหันมามองด้วยความสนใจ
"มาจากไร่ล่าเสือ? พวกท่านนี่..." เว่ยฮั่นรู้สึกแปลกใจ
"อย่าเข้าใจผิดนะหมอน้อยผู้วิเศษ" ชายร่างใหญ่รีบอธิบาย "เจ้าของไร่คนที่หนึ่งของพวกเรารู้สึกซาบซึ้งที่ท่านช่วยชีวิตเจ้าของไร่คนที่สาม พอดีไร่ของพวกเราเพิ่งล่าสัตว์อสูรได้ตัวหนึ่ง จึงสั่งให้พวกเรานำเนื้อสัตว์อสูรมาให้ท่านลองชิม โปรดรับไว้ด้วย!"
พูดจบ อีกคนหนึ่งก็วางตะกร้าที่แบกมาลง!
เห็นเนื้อก้อนใหญ่หนักกว่าร้อยชั่งวางอยู่บนตะกร้า ดูเหมือนจะเป็นเนื้อสันหลังของหมูป่ายักษ์ มีขนสีดำยาวตั้งชันราวกับเข็มเหล็ก ดูน่ากลัวมาก
"นี่...นี่คือเนื้อสัตว์ลมดำ? ไร่ล่าเสือล่าสัตว์อสูรได้อีกตัวแล้วหรือ!"
"ยอดไปเลย นี่เป็นสัตว์อสูรที่มีความยาวถึงสามจั้ง หนักหลายพันชั่ง พุ่งชนเดียวก็สามารถหักต้นไม้ใหญ่ได้ ไร่ล่าเสือนี่ยิ่งใหญ่จริงๆ!"
"ฮึๆ พวกเจ้าคงไม่รู้สินะ เนื้อสัตว์อสูรไม่ใช่ว่าจะกินได้ทั้งหมด สัตว์อสูรหนักหลายพันชั่งแต่เนื้อส่วนใหญ่ไม่อร่อย ทุกครั้งที่ล่าก็ต้องมีคนบาดเจ็บล้มตายไม่น้อย ดังนั้นเนื้อร้อยชั่งนี้ราคาไม่ใช่ถูกๆ !"
"อย่าเห็นว่าไร่ล่าเสือใหญ่โต ความจริงในหนึ่งปีพวกเขายังล่าสัตว์อสูรไม่ได้สองตัวเลย เนื้อพวกนี้จึงมีค่ามาก ต้องเป็นเพราะท่านหมอเว่ยมีบารมีแน่ๆ ถึงได้ส่งมาให้ตั้งร้อยชั่ง"
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนดังขึ้นไม่ขาดสาย
ต่างชื่นชมว่าไร่ล่าเสือมีน้ำใจและใจกว้าง!
เว่ยฮั่นเห็นแบบนั้นก็เข้าใจทันที เขารู้ดีว่านี่เป็นการตอบแทนบุญคุณของเจ้าของไร่คนที่หนึ่ง ที่เขาแอบเตือนเรื่องคนทรยศนั่นเอง
"วางไว้เถอะ ช่วยขอบคุณเจ้าของไร่คนที่หนึ่งแทนข้าด้วย" เว่ยฮั่นยิ้มน้อยๆ พลางประสานมือ "ข้ายังไม่เคยลิ้มรสเนื้อสัตว์อสูรมาก่อน ขอบคุณที่ลำบากสองท่าน"
"ไม่ลำบากหรอก ลาก่อน!"
ชายร่างกำยำทั้งสองพึงพอใจที่ส่งเนื้อถึงมือ จึงหันหลังจากไป