ตอนที่แล้วบทที่ 171 เทวทูตตกสวรรค์ที่งดงามจนน่าใจหาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 173 เย่เหริน : ฉันคือตัวอะไรกันแน่?

บทที่ 172 ฉากที่ชวนกระอักกระอ่วน


[-แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ-]

[-Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอนแต่จะราคาแพงที่สุด-]

[-หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ-]

บทที่ 172 ฉากที่ชวนกระอักกระอ่วน

เย่เหรินถึงกับพูดไม่ออก

ทำไมถึงมีแสงศักดิ์สิทธิ์ด้วยล่ะ?

จุดอ่อนไหวของเทวทูตตกสวรรค์ส่องแสงเจิดจ้าราวกับมีแสงศักดิ์สิทธิ์สาดส่อง

"สุดยอดไปเลย นี่มันเซ็นเซอร์ตัวเองได้ด้วย" เย่เหรินอดไม่ได้ที่จะพึมพำ

แต่นอกเหนือจากนั้น สิ่งที่ดึงดูดสายตาที่สุดของเทวทูตตกสวรรค์ก็คือปีกที่ไม่สมบูรณ์บนหลังของเธอ

ตรงนั้นควรจะมีปีกอยู่ แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยคราบเลือด

เหลือเพียงตอปีกที่หักสองข้าง ดูแล้วน่าสลดใจ

"เธอช่างงดงาม..." เจียงซุ่ยอุทานออกมาอย่างอดไม่ได้

แม้แต่เธอก็ต้องยอมรับว่า ความงามของผู้หญิงตรงหน้าได้ก้าวข้ามขอบเขตของเผ่าพันธุ์ไปแล้ว

"ใช่..."

เย่เหรินพึมพำตาม เขาไม่เคยเห็นสัตว์ประหลาดที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้มาก่อน

ในเวลานั้น ลูกเจี๊ยบสองตัวที่หลังของเย่เหรินก็กลับคืนสู่ร่างจริงจากรอยสัก

พวกมันส่งเสียงร้องจิ๊บๆสองสามครั้งแล้ว...

ก็ไปเกาะที่ตอปีกที่หักของเทวทูตตกสวรรค์ ตรงรอยแตกต่อกันอย่างสมบูรณ์ รอยแผลหายดีอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตา!

ในขณะเดียวกัน เทวทูตตกสวรรค์ที่หลับใหลก็มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้น

บนใบหน้าที่งดงามราวกับผลงานชิ้นเอกของพระเจ้า ขนตายาวขยับเล็กน้อย ราวกับกำลังจะลืมตา

แรงกดดันอันยิ่งใหญ่เกินจินตนาการแผ่ซ่านออกไปทุกทิศทางราวกับสัตว์ร้ายในยุคบรรพกาลที่ตื่นขึ้นจากการหลับใหล โดยมีเธอเป็นศูนย์กลาง!

"อื้อ——!"

เจียงซุ่ยหน้าซีดเผือด ร่างกายสั่นเทา

เธอรู้สึกว่าสติของตัวเองกำลังเลือนราง ราวกับจะถูกพลังที่มองไม่เห็นกลืนกินได้ทุกเมื่อ

"แย่แล้ว..."

เจียงซุ่ยพูดออกมาอย่างยากลำบาก นั่นคืออำนาจของเทวทูตตกสวรรค์ การลืมเลือนและการสร้างใหม่!

ทุกสิ่งรอบตัวบิดเบี้ยวภายใต้อิทธิพลของพลังนี้ ภาพที่เคยชัดเจนเริ่มพร่ามัว

ราวกับมียางลบขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นคอยลบโลกนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง แล้วจึงนำมันกลับมารวมกันใหม่ในรูปแบบที่บิดเบี้ยว

ซากปรักหักพังบนพื้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือเพียงความว่างเปล่า ราวกับว่ามันไม่เคยมีอยู่จริง

วินาทีต่อมา สิ่งเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

แต่ตำแหน่งและรูปร่างกลับเปลี่ยนไป ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นคอยขยำและจัดวางมันอย่างตามใจชอบ

เจียงซุ่ยรู้สึกเวียนหัว

เศษเสี้ยวความทรงจำนับไม่ถ้วนพลุ่งพล่านในหัวของเธอ ราวกับถูกยัดเยียดความทรงจำที่ไม่ใช่ของเธอเข้าไป

ในขณะเดียวกัน ร่างกายของเธอก็กำลังถูกสร้างใหม่ในรูปแบบที่บิดเบี้ยวอย่างไม่อาจเข้าใจได้

เธอพยายามจะคว้าอะไรบางอย่าง แต่กลับพบว่าทุกอย่างก็เหมือนทรายที่ไหลผ่านปลายนิ้ว

ยิ่งพยายามคว้าไว้แน่นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งไหลหายไปเร็วเท่านั้น

โลกบิดเบี้ยวราวกับดินน้ำมันในมือเด็ก ถูกบีบเค้นเปลี่ยนรูปไปมาอย่างไร้ทิศทาง

แต่แล้ว ทันใดนั้นเอง หมอกโลหิตก็ปะทุขึ้นรอบกายเย่เหริน

ทุกสิ่งที่หมอกโลหิตสัมผัส บิดเบือนราวกับน้ำแข็งละลาย ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพปกติ

"หา?!" เจียงซุ่ยเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา ความกดดันรอบกายพลันหายไป

ดาบโลหิตค่อยๆปรากฏขึ้นด้านหลังเย่เหริน

ราวกับดอกไม้ปีศาจที่ผลิบานในขุมนรก งดงามแต่แฝงไว้ด้วยอันตราย

"ซู่ว!" คลื่นพลังไร้รูปแผ่กระจายออกไป มลทินแห่งการลืมเลือนและการเปลี่ยนแปลงที่เคยปกคลุมไปทั่วพลันสลายไปราวกับคลื่นกระทบฝั่ง

สิ่งที่เข้ามาแทนที่ คือ มลทินแห่งความกลัวของพี่ใหญ่เย่!

มลทินแห่งความกลัว ได้ลบล้างมลทินของเทวทูตตกสวรรค์!

และในวินาทีนั้น เทวทูตตกสวรรค์ก็ได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์

เปลือกตาของเธอเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า เผยให้เห็นดวงตาที่งดงามเกินบรรยาย...

ดวงตาคู่นั้นช่างงดงามเพียงใด!

เปล่งประกายดุจดวงดาว ลึกล้ำดุจห้วงมหาสมุทร

ราวกับเก็บงำปัญญาและความลึกลับไว้ไม่รู้จบ เพียงแค่ได้สบตา ก็ไม่อาจถอนสายตาไปได้

สายตาของเธอสบเข้ากับเย่เหริน

เวลาราวกับหยุดนิ่ง ความเงียบเข้าปกคลุม

ดวงตาของเทวทูตตกสวรรค์ที่งดงามราวกับจะสะกดทุกสรรพสิ่ง สะท้อนภาพของเย่เหริน

ดาบโลหิตที่อยู่ด้านหลัง หมอกแห่งความกลัวที่ลอยอยู่ในอากาศ และดวงตาสีดำสนิทที่ราวกับจะมองทะลุทุกสิ่ง...

กลัว!

ความกลัวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน!

ความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวเกินกว่าจะจินตนาการได้!

ทำให้เธออยากจะหนี อยากจะออกห่างจากชายผู้น่ากลัวคนนี้!

"กรี๊ด!" เทวทูตตกสวรรค์เริ่มดิ้นรนอย่างรุนแรงในอ้อมแขนของเย่เหรินราวกับเป็นสัญชาตญาณ

เท้าอันงดงามไร้ที่ติเตะไปมาอย่างไม่เป็นท่า พยายามที่จะออกห่างจากชายที่ทำให้เธอกลัวอย่างสุดขีด

"เอ๋?!" เย่เหรินไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เขาจึงคลายมือออกโดยไม่รู้ตัว

"ตุ้บ!" เสียงทื่อๆดังขึ้น

เทวทูตตกสวรรค์ที่งดงามราวกับเทพธิดา ร่วงลงไปกองกับพื้นอย่างไม่เป็นท่า

บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด

"โอ๊ย..." ถึงแม้เทวทูตตกสวรรค์จะมีร่างกายศักดิ์สิทธิ์ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้างดงามบิดเบี้ยวเล็กน้อย ดวงตาสวยมีน้ำตาคลอ

คราวนี้ เธอเจ็บจริงๆ!

เธอเพิ่งจะฟื้นขึ้นมาเองนะ!

สมองยังไม่ปลอดโปร่งเลย!

เห็นเทวทูตตกสวรรค์ล้มลงกับพื้น เย่เหรินก็รู้สึกตัว รีบเก็บดาบโลหิต หมอกสีแดงฉานก็จางหายไป

สัมผัสได้ว่าความรู้สึกน่ากลัวหายไปแล้ว เทวทูตตกสวรรค์ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

เธอค่อยๆควบคุมพลังแห่งการลืมเลือนและการสร้างใหม่ให้เบาบางลง

ทั้งสองมองหน้ากัน บรรยากาศก็เงียบขึ้นมาทันที

"เอ่อ...ให้ฉันช่วยพยุงเธอขึ้นไหม?"

เย่เหรินมองเทวทูตตกสวรรค์ที่ล้มลงกับพื้น ท่าทางดูไม่ได้ แต่ยังคงงดงามราวกับภาพวาด เขาไม่รู้จะพูดอะไร

เทวทูตตกสวรรค์เอามือปิดแก้มที่ร้อนผ่าว

ใบหน้าสวยไร้ที่ติเต็มไปด้วยความอับอาย เธออยากจะมุดดินหนี

เทวทูตตกสวรรค์อย่างเธอ กลับทำเรื่องน่าอายต่อหน้าผู้ชาย!

เวลานี้ น้องเจียงที่อยู่ข้างๆได้แต่คิด "?"

น้องเจียงที่เพิ่งรู้สึกตัวก็สัมผัสได้ว่าบรรยากาศแปลกๆ

เห็นว่าสถานการณ์เงียบ เจียงซุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะพูดทำลายความเงียบ

"นี่ทั้งสอง...รู้จักกันเหรอ?"

"ไม่รู้จัก"

"ไม่รู้จัก"

พี่เย่และเทวทูตตกสวรรค์ตอบพร้อมกัน

คนหนึ่งรีบร้อน อีกคนก็ดูร้อนรน

"แค่กๆ--"

เทวทูตตกสวรรค์ไอเบาๆ เพื่อกลบเกลื่อนความอาย

เธอค่อยๆลอยขึ้นมา ร่างกายเปล่งแสงบริสุทธิ์

แสงค่อยๆรวมตัวกัน กลายเป็นชุดยาวที่ถักทอจากแสงศักดิ์สิทธิ์และขนนกสีขาวบริสุทธิ์

ชุดยาวปกปิดร่างกายที่สมบูรณ์แบบของเธอไว้ทั้งหมด

หลังจากทำทุกอย่างเสร็จ เทวทูตตกสวรรค์ก็หันหน้าไป

ดูเหมือนไม่อยากให้เย่เหรินเห็นแก้มแดงระเรื่อของเธอ

แต่การกระทำของเธอ ในสายตาของเย่เหรินและเจียงซุ่ย กลับดูเหมือนยิ่งปิดยิ่งเปิดเผย

"ฉันขอสาบานด้วยอายุขัยสิบปีของแมคสไปซี่ ฉันไม่ได้เห็นอะไรเลยเมื่อกี้!"

ปีศาจเอนโทรปี "?"

เย่เหรินรีบยกมือขึ้นเพื่อพิสูจน์ตัวเอง

เขาไม่ได้โกหก

เพราะจุดสำคัญบนร่างกายของเทวทูตตกสวรรค์มีแสงศักดิ์สิทธิ์ปกป้องอยู่

แต่คำพูดของเขาในตอนนี้...

ไม่เท่ากับเป็นการสารภาพกลายๆเหรอ?

เจียงซุ่ยและเทวทูตตกสวรรค์พร้อมใจกันเบ้ปาก มองเขาด้วยสายตาที่ต่างกัน คนหนึ่งนั้นผิดหวังอย่างสุดซึ้ง อีกคนหนึ่งกลับเดือดดาลด้วยความอับอาย

ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง บรรยากาศมาคุอย่างประหลาด

-ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร -ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด