ตอนที่ 24 มีสมอง แต่ไม่มาก
ตอนที่ 24 มีสมอง แต่ไม่มาก
“วู...!”
ราชาหมาป่าคำรามออกมาเสียงดัง จากนั้นหมาป่ายักษ์หลายสิบตัวที่อยู่รอบตัวมันก็รีบวิ่งไปข้างหน้าทันที
ทว่าฉู่เสวียนก็ยังคงนิ่งเฉย และพูดอย่างไม่แยแสว่า "เก็บหมาป่ายักษ์ที่แข็งแกร่งเหล่านั้นไว้ให้ข้า แล้วฆ่าที่เหลือซะ"
เสี่ยวหลง เสี่ยวหู่ และศพหยินทั้งหกรับคำสั่งในทันที ดวงตาของพวกเขามีแววตาที่รุนแรงดุร้าย และทันใดนั้นพวกเขาก็วิ่งเข้าไปหาฝูงหมาป่า
ในเวลาเพียงชั่วครู่ หมาป่าก็พ่ายแพ้อย่างราบคาบ
ท้ายที่สุดแล้ว พวกมันส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่สัตว์พิเศษ
แต่ศพหยินที่ได้รับการกลั่นโดยฉู่เสวียนนั้น มีวิชาอาคมสวรรค์ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด และระดับของพวกมันก็ไม่ต่ำ ศพหยินที่ต่ำที่สุดคือผู้ที่มีเทคนิคทำลายตัวเองโดยกำเนิด และเป็นพลทหารศพขั้นที่ 3
นอกจากนี้ยังมีศพหยินระดับสูงอีกสองตัว ซึ่งก็คือเสี่ยวหลงและเสี่ยวหู่
การจัดการกับหมาป่าเป็นเพียงเรื่องของโอกาส
เพียงพริบตาเดียว เสียงคร่ำครวญของหมาป่ายักษ์ก็ดังออกมา
ฉู่เสวียนเหลือบมองอย่างไม่ใส่ใจ
ก่อนจะพบว่าหมาป่ายักษ์ที่อ่อนแอทั้งหมดถูกฆ่าตายไปหมดแล้ว
เหลือเพียงหมาป่ายักษ์สี่ตัว ซึ่งเป็นสัตว์พิเศษระดับแรก แต่พวกมันก็แขนขาหักและถูกโยนลงไปที่พื้น
จากนั้นเสี่ยวหลงและเสี่ยวหู่ก็รีบวิ่งไปที่ราชาหมาป่าทันที โดยที่ตัวหนึ่งอยู่ด้านหน้า ตัวหนึ่งอยู่ด้านหลัง
ราชาหมาป่าได้แต่ตกตะลึง เนื่องสถานการณ์เปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป...มันคิดว่ามันมีข้อได้เปรียบเสมอมา
โดยไม่คาดคิด มันได้เปลี่ยนสถานะจากผู้ปิดล้อมมาสู่ผู้ถูกปิดล้อมในพริบตา
"วู..!"
ราชาหมาป่าคำรามออกมาด้วยความโกรธ เท้าของมันเตะพื้นอย่างดุเดือด และพุ่งตรงไปหาฉู่เสวียนทันที
มันได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่ธรรมดาในเมืองซวงหลง ซึ่งเก่งในการควบคุมสัตว์ที่ไม่ธรรมดา แต่ทุกสิ่งก็มีข้อได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะสิ่งมีชีวิตที่ไม่ธรรมดาเหล่านั้นก็อ่อนแอเช่นกัน
ดังนั้น มันจึงเพิกเฉยต่อเสี่ยวหลง เสี่ยวหู่ และศพหยินตัวอื่น ๆ ที่แข็งแกร่ง แต่พุ่งเป้าไปที่ฉู่เสวียนแทน
ในมุมมองของมัน ตราบใดที่มันสามารถฆ่ามนุษย์คนนี้ได้โดยเร็วที่สุด มันก็สามารถหลุดออกจากวงล้อมนี้ไปได้
ด้วยความเร็วของราชาหมาป่าแล้ว จึงเป็นเรื่องยากสำหรับศพหยินที่จะไล่ตามไป
ท้ายที่สุดแล้ว สองขาจะไปสู้สี่ขาได้อย่างไร?
“เจ้ามีสมอง แต่ไม่มาก” ฉู่เสวียนยิ้มออกมาเบา ๆ
เห็นได้ชัดว่าราชาหมาป่าตัวนี้เห็นว่าเขาเป็นผู้บงการศพหยิน
ตราบใดที่เขาถูกจัดการ ศพหยินเหล่านี้ก็จะยอมพ่ายแพ้
แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่ตัวละครที่อ่อนแอในนิยายเรื่องนี้
ถ้าตัวละครอย่างมันที่เป็นเพียงสัตว์อสูรยังแข็งแกร่งอย่างน่าขันเช่นนี้ เขาที่เป็นผู้บ่มเพาะจะอ่อนแออย่างไม่น่าเชื่อได้อย่างไร
ถ้าเขาไม่แข็งแกร่งพอ เขาจะปราบปรามศพจากนรกเช่นเสี่ยวหลงและเสี่ยวหู่ได้อย่างไร?
ฉู่เสวียนยังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับไปไหน
เขาสามารถมองเห็นเขี้ยวอันแหลมคมของราชาหมาป่าและน้ำลายที่ยึดไหลของมันได้อย่างชัดเจน และกลิ่นเหม็นที่กำลังใกล้จะมาถึงแล้ว
โห่!
เส้นลวดโลหิตพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
ในขณะนี้ มันเหมือนกับว่ามีไม้ขนาดยักษ์ได้ฟาดเข้าไปที่หัวของราชาหมาป่าอย่างแรง
ว่ากันว่าหมาป่าที่มีกระดูกแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าและทองแดงนั้น มีหัวเป็นเหมือนเต้าหู้
ส่วนที่ทนทานที่สุดคือเอว ส่วนที่เปาะบางและโจมตียากที่สุดคือหัว
แต่ตราบใดที่ตีได้รุนแรงมากพอ แค่ตีเข้าที่หัวก็สามารถทำให้หมาป่าหมดสติลงได้แล้ว
ปัง
ในเวลาเพียงชั่วครู่ ราชาหมาป่าก็หมดสติลงไปทันที
การต่อสู้จบลงทันทีก่อนที่มันจะทันได้เริ่มด้วยซ้ำ
เสี่ยวหลงเห็นเช่นนั้นก็ได้ควบคุมความคิดของมันทันที มันไม่กล้าที่จะมีความคิดขุ่นเคืองกับชายหนุ่มคนนี้แม้แต่น้อย
“ไปเอาพวกมันทั้งหมดกลับไป” ฉู่เสวียนสั่งการออกมาทันที
โค้กก!
ศพหยินคำรามตอบรับออกมาพร้อมกัน
พวกมันทั้งหมดแบกหมาป่าที่ตายและหมาป่ายักษ์ที่หมดสติไว้บนบ่าแล้วเดินตามหลังฉู่เสวียนไป
และยังแอบเลียศพหมาป่าเป็นครั้งคราว รู้สึกเหมือนแอบกินขนมลับหลังพ่อแม่
ระหว่างทางกลับโรงแรม ฉู่เสวียนไม่ได้ใช้ดาบบังเหินในการเดินทาง
ท้ายที่สุดแล้ว เนื่องจากศพหยินจำนวนมากจะต้องแบกร่างหมาป่าติดตามเขาไป จึงไม่มีทางที่จะพาพวกมันเดินทางกลับไปด้วยดาบบังเหินได้จริงๆ
“เมื่อข้ากลับไปที่ทวีปชางเสวียนในครั้งนี้ หากข้ามีโอกาสข้าต้องเปลี่ยนอาวุธเวทย์มนตร์ที่บินได้อันใหม่ที่ดีกว่านี้ซะแล้ว”
ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาสามารถท่องไปทั่วเมืองโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกซอมบี้โจมตี บางทีซอมบี้ต่างหากที่อาจจะต้องเป็นฝ่ายกังวล
ท้ายที่สุดแล้วในสายตาของฉู่เสวียน ซอมบี้ทุกตัวก็ไม่ต่างจากเป็นแหล่งทรัพยากรเลือด ที่เขาจะเอาเลือดของพวกมันมากลั่นเป็นลูกปัดโลหิต
และยิ่งหากมีซอมบี้เดินมาหาเขาถึงหน้าบ้าน ฉู่เสวียนก็จะขอบใจมันทั้งน้ำตาอย่างแน่นอนสำหรับความใจดีนั้น
...
บ่ายสามโมงของวันนั้น ที่ทางแยกระหว่างเมืองตงหูและเมืองซวงหลง รถหวูหลิงขับมาจากระยะไกลและหยุดตรงจุดที่รถกระบะเสีย
หวังกังเจี้ยน,หวังหยง,ซงต้ายี่และหวังหยง,ซงต้ายี่ และจ้วงเฉียงก็ได้ลงมาจากรถ
จ้วงเฉียงที่ได้รับบาดเจ็บ จึงได้รับการปกป้องโดยคนสามคนเป็นพิเศษ ทั้งสี่คนตื่นตัวอย่างยิ่ง
จ้วงเฉียงมองดูรถกระบะด้วยสีหน้าเศร้าใจ “สหายทั้งห้าของฉันตายที่นี่ทั้งหมด”
“ฉันได้แต่ดูพวกเขาถูกหมาป่าลากไปกิน”
“ฉันจะต้องถลกหนังหมาป่าเหล่านั้นด้วยมือของฉันเอง!”
ก่อนที่วิกฤตซอมบี้จะปะทุขึ้น จ้วงเฉียงที่อยู่ในกองทัพหลินเจียงมาหลายปี เขาก็มีตำแหน่งที่สูง และมีทหารสิบนายอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของเขา
จ้วงเฉียงมีสีหน้าที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ในตอนนั้นเขาต้องเฝ้าดูสหายสนิทของเขาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันต้องมาตายลงต่อหน้าต่อตาอย่างที่เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ ความรู้สึกนั้นเป็นสิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปไม่อาจจะทนได้
“พาฉันไปที่ชายป่าที ฉันจะดูว่ามีพวกมันอยู่รอบๆ ไหม” จ้วงเฉียงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดอย่างจริงจัง
พวกเขาทั้งสามพยักหน้าและพาเขาไปที่ชายป่า
จ้วงเฉียงวางมือลงบนเปลือกต้นไม้แล้วหลับตา เขาสามารถสื่อสารกับต้นไม้ได้เท่านั้น
กิ่งก้าน ใบไม้ และรากกลายเป็นหูเป็นตาให้กับเขา และเขาก็สัมผัสได้ถึงความทรงจำของต้นไม้นั้นทันที
ในตอนที่ดินอุดมสมบูรณ์และสภาพอากาศเป็นใจ ความสัมพันธ์ระหว่างรากกับยอดของต้นไม้แทบจะเป็นหนึ่งเดียวกัน กล่าวอีกนัยหนึ่ง ขนาดของยอดไม้คือขนาดของรากต้นไม้
ดังนั้นเขาจึงสามารถสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวทั้งหมดภายในรากไม้ที่ปกคลุมผ่านต้นไม้ได้อย่างชัดเจน
“ฉันได้ยินเสียงกรนหนักมาก! มันเป็นหมาป่าพวกนั้น!”
“แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว ประมาณตอนเที่ยงๆ”
“ฉันยังได้ยินเสียงคำรามของซอมบี้และเสียงการต่อสู้ที่ดุเดือด การต่อสู้ดำเนินไปได้ไม่นาน มันเกือบจะจบลงแล้ว...ฉันได้ยินเสียงร้องของหมาป่ายักษ์ที่กำลังจะตาย! เสียงของมนุษย์ด้วย!”
ความสามารถในการรับรู้ของเขานั้น มีเวลาจำกัดเพียง 3 นาที เท่านั้น
แต่ตอนนี้ร่างกายของเขากลับถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อแล้ว ด้านหน้าและด้านหลังเปียกโชก
หวังกังเจี้ยน และคนอื่น ๆ ตกตะลึง "คุณหมายถึงมีการต่อสู้เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วอย่างนั้นเหรอ?"
หวังหยงกล่าวต่อ "เป็นการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับหมาป่า?"
จ้วงเฉียงพยักหน้า "ฉันยืนยันได้ว่าเป็นมนุษย์และหมาป่า และน่าจะมีซอมบี้เข้ามาเกี่ยวข้องในการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย หมาป่ามีแนวโน้มที่จะได้รับความสูญเสียอย่างหนัก”
หวังกังเจี้ยนและทั้งสามมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ
มีมนุษย์ที่สู้รบแบบตัวต่อตัวกับหมาป่าฝูงนี้และยังชนะอีกด้วยงั้นเหรอ!
“ราชาหมาป่าที่เป็นผู้นำ เป็นถึงสัตว์พิเศษระดับ 2 ใช่ไหม? จริงๆแล้วมีคนพิเศษระดับ 2 ในเมืองตงหูของเรา คุณว่าเขาจะสามารถต่อสู้กับราชาหมาป่าได้ไหม?” หวังกังเจี้ยนถามออกมาด้วยความสับสน เขาอยู่ที่เมืองตงหูมาหลายปีแล้ว ทำไมถึงไม่รู้ว่ามีคนที่แข็งแกร่งแบบนี้มาก่อน?
“หมาป่าได้รับความสูญเสียอย่างหนัก คิดว่าพวกมันไม่น่าจะออกมาล่าเหยื่อแล้ว เราลองค้นหาใกล้ ๆ แถวนี้ดู จะต้องมีสถานที่ที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน” หวังหยงกล่าวออกมาอย่างจริงจัง
“เอาล่ะ กระจายออกไปดูร่องรอย แต่อย่าไปไกลเกินไป ถ้าเผชิญกับอันตรายก็ให้รีบตะโกนออกมาดังๆ”หวังกังเจี้ยนพยักหน้า
จากนั้นทั้งสี่คนก็แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม หวังกังเจี้ยนและหวังหยงอยู่ในทีมเดียวกัน ส่วนซงต้ายี่ก็คอยปกป้องจ้วงเฉียง จากนั้นทั้งสี่ก็เริ่มออกค้นหา
ใช้เวลาไม่นานนักพวกเขาก็ค้นพบบริเวณที่เกิดการต่อสู้ขึ้น
“โอ้พระเจ้า…” ทั้งสี่คนตกตะลึงกับภาพตรงหน้าที่พวกเขาเห็น