ตอนที่แล้วบทที่ 65 ความสามารถยังอ่อนหัดเกินไป!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 67 ใจคนมันสามารถสกปรกขนาดนี้ได้ยังไง?

บทที่ 66 สู้ตรงๆไม่ไหว ก็สู้ด้วยเล่ห์เหลี่ยม!


เมื่อเห็นศิษย์จากยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ที่มีวิชาการเคลื่อนที่ระดับสูง พวกศิษย์จากยอดเขาอื่นๆก็รู้สึกถึงความสิ้นหวังและไม่พอใจอย่างมาก

จริงๆแล้วมันก็ค่อนข้างไม่สมเหตุสมผลเพราะยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์เป็นยอดเขาที่เน้นวิชากระบี่เป็นหลัก ทำไมทักษะการเคลื่อนที่ของพวกเขาถึงได้เก่งขนาดนี้?

ความรู้สึกไม่พอใจและความหงุดหงิดไม่อาจห้ามได้ เมื่อเห็นศิษย์จากยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์แย่งม้าอสูรและทำท่าทางภูมิใจ พวกเขาจึงรู้สึกโกรธจัด

“ทนไม่ไหวแล้ว”

“จะทนไม่ไหวได้ยังไง ในเมื่อท่านไม่มีวิชาการเคลื่อนที่ระดับสูง? พวกเขาทุกคนมีหมด”

“ถ้าเราสู้ไม่ได้ก็ต้องให้คนอื่นที่สามารถทำได้สิ ข้าไม่เชื่อว่า ศิษย์ยอดเขาเงามืดจะไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้”

ยอดเขาเงามืดเป็นหนึ่งในสามสิบหกยอดเขาของนิกายเต๋าอี้ มีจำนวนลูกศิษย์น้อยที่สุดและลึกลับที่สุด

จากข้อมูลในหอตำรายอดเขาเงามืดมีชื่อเสียงด้านการเคลื่อนที่แบบไร้เสียงไร้เงาในความมืดมิด

“พูดแบบนี้ก็ไม่ผิด แต่พวกศิษย์จากยอดเขาเงามืดพวกนั้น...........”

เป็นกลุ่มที่แยกและหาตัวได้อย่างลำบากมาก เพราะพวกเขาไม่จำเป็นต้องทำภารกิจเหมือนกับยอดเขาอื่นๆ พวกเขามีภารกิจของพวกเขาเป็นแบบแยกออกมาโดยเฉพาะ

เพราะว่าพวกเขาไม่มีวิชาการต่อสู้ที่ดีนัก แต่โดดเด่นเรื่องการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและจับตัวได้ยาก

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ศิษย์ที่กำลังพูดก็ยิ้มออกมา

“สบายใจได้ ข้ามีเพื่อนเป็นศิษย์ยอดเขาเงามืดอยู่ น่าจะไม่มีปัญหาในยการติดต่อไป”

“เยี่ยม งั้นอย่ารอช้า”

เมื่อมีเส้นสายโดนตรงก็ง่ายขึ้นเยอะ ศิษย์กลุ่มนี้ก็รีบไปที่ยอดเขาเงามืดทันที

ในเวลาเดียวกัน ศิษย์จากยอดเขาอื่นๆ เห็นว่าไม่สามารถสู้ด้วยวิชาการเคลื่อนที่กับศิษย์ยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ได้ ก็เริ่มคิดหาวิธีการอื่นๆ

“ถ้าไม่สามารถใช้วิชาการเคลื่อนที่สู้ได้ ก็ต้องใช้วิธีสกปรกบ้างถ้าพวกเขาไม่ทำตัวเช่นนั้น ข้าก็คงไม้ต้องใช้แผนแบบนี้”

“ศิษย์พี่บอกมาเถอะ ท่านวางแผนอะไร?”

“ถ้ายังไม่ได้แก้เผ็ดพวกนั้น ข้าไม่มีสมาธิไปฝึกฝนต่อหรอกจะต้องเอาคืนให้ได้!”

เช้าวันใหม่ ศิษย์จากยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์เดินทางไปที่หอภารกิจหลักของยอดเขาหลักหลังจากทานอาหารมื้อเช้า

ในขณะเดียวกันศิษย์จากยอดเขาอื่นๆก็เดินทางไปที่หอภารกิจหลักเช่นกันและการแข่งขันก็เริ่มขึ้น

เมื่อเห็นศิษย์จากยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัว ศิษย์จากยอดเขาอื่นๆก็แสดงความเย้ยหยันออกมา

พวกเขาตกลงกันแล้วว่าจะใช้วิธีที่สกปรกก็ตามจะต้องสั่งสอนบทเรียนให้ศิษย์จากยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ให้ได้่

เมื่อศิษย์จากยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์รับภารกิจเรียบร้อย ต่อไปการแข่งขันแย่งม้าอสูรก็เริ่มต้นอีกครั้ง

“ลงมือได้!”

เห็นดังนั้นศิษย์จากยอดเขาอื่นๆก็เริ่มลงมือโดยไม่ใช้แข่งขันความเร็ว แต่จะเล่นด้วยวิธีสกปรกแทน

พวกเขาจะใช้สัญญาณประเภทกับดัก

เป้าหมายหลักคือการหยุดศิษย์จากยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์

เพียงแค่หยุดพวกเขาไว้ วิชาการเคลื่อนที่ที่เร็วขนาดไหนก็ไม่สามารถใช้งานได้

ทันใดนั้นฉากที่คุ้นเคยกลับมาปรากฏตัวนอกหอภารกิจหลักของยอดเขาหลัก ศิษย์จากยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์จึงคุ้นเคยกับสถานการณ์นี้ดี เพราะพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสิ่งนี้ทุกวัน

ไม่มีความตึงเครียดอยู่เลยตรงกันข้ามกลับรู้สึกอยากหัวเราะซะมากกว่า

“เฮ้ คิดจะเล่นสกปรกใช่ไหม?”

“เชื่อถือได้ไหม ว่ามันจะใช้ได้ผล?”

“นี่เป็นวิธีที่ข้าเคยลองใช้แล้ว!”

ทันใดนั้นเหล่าศิษย์ของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ ก็หลบหลีกสัญลักษณ์กับดักต่างๆได้อย่างคล่องแคล่ว

มีศิษย์คนหนึ่งตั้งใจจะใช้เคล็ดวิชามือพันธนาการจับกุมศิษย์ของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ แต่ศิษย์ของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์กลับยิ้มเล็กน้อยหมุนตัวหลบได้อย่างง่ายดายและหลบหลีกการโจมตีได้อย่างง่ายดาย

แล้วก็ใช้เคล็ดวิชาแบบเดียวกันสวนกลับไป แต่ดูเหมือนเคล็ดวิชาของเขาจะถึงระดับสูงแล้ว

“การใช้มือพันธนาการไม่ใช่แบบนี้หรอกนะ ของจริงเป็นยังไงจะสอนให้ดูเอง”

เมื่อเปรียบเทียบมือพันธนาการระดับต่ำกับมือพันธนาการระดับสูง ผลลัพธ์ก็ออกมาชัดเจน

ไม่แปลกใจเลยที่ศิษย์คนนั้นถูกควบคุมอยู่กับที่ด้วยมือพันธนาการ ไม่สามารถขยับตัวได้

“จะแข่งขันกับข้าได้อย่างไร ถ้าเจ้ายังไม่รู้จักการใช้สัญลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมได้?”

เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีด้วยสัญลักษณ์ ศิษย์ของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์เห็นว่าเป็นเรื่องเด็กๆ

ถึงแม้กฎของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์จะห้ามการใช้พลังภายนอกระหว่างการประลองแย่งที่นั้ง แต่การศึกษาเกี่ยวกับการใช้สัญลักษณ์นั้นไม่มีวันหยุด

เตรียมตัวให้พร้อมดีกว่า ใครจะรู้ว่าวันไหนกฎจะเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

ดังนั้น ถึงแม้ว่าศิษย์ของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์จะไม่ได้มีปรมจารย์ด้านการใช้สัญลักษณ์อยู่เลย แต่การใช้สัญลักษณ์ของพวกเขานั้นก็ยอดเยี่ยม

ด้วยเหตุนี้ศิษย์ของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์จึงได้ข้อสรุปออกมาเป็นสามข้อสำคัญในการใช้สัญลักษณ์ ได้แก่ การซ่อน, การเบี่ยงเบน, และ ความประหลาดใจ

การซ่อน หมายถึงการปิดบัง เมื่อใช้สัญลักษณ์ต้องมีการซ่อนแผนบางอย่าง หากสัญลักษณ์ถูกค้นพบก่อนที่จะถูกขว้างออกไป นั่นคือความล้มเหลว

ยิ่งฝ่ายตรงข้ามค้นพบการใช้สัญลักษณ์ช้าลง โอกาสที่มันจะถูกใช้โดนก็ยิ่งสูงขึ้น

การเบี่ยงเบน หมายถึงการหลอกลวง การโจมตีด้วยสัญลักษณ์ตรงไปตรงมานั้นยากที่จะสำเร็จ หากเจ้าขว้างมันตรงๆ ใส่หน้าคน ในกรณีที่ระดับการบ่มเพาะไม่ต่างกันมาก มันก็ง่ายที่จะหลบได้

ดังนั้นต้องมีการเบี่ยงเบน ลวงฝ่ายตรงข้ามและโจมตีจากมุมที่ไม่คาดคิดเพื่อทำลายการป้องกันของพวกเขา

ความประหลาดใจ หมายถึงการโจมตีเมื่อคาดไม่ถึง การโจมตีที่ไม่คาดคิดมากที่สุดจะมีประสิทธิภาพสูงสุด

นี่เป็นประสบการณ์ที่สะสมจากการศึกษาและฝึกฝนหลายวันหลายคืนของเหล่าศิษย์ของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์

ดังนั้น การเล่นกับสัญลักษณ์ต่อหน้าศิษย์ของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์จึงเหมือนกับการโชว์วิชากระบี่ต่อเซียนกระบี่

ขณะที่หลบสัญลักษณ์ของศิษย์คนหนึ่ง ศิษย์ของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ก็ยิ้มออกมา

“เจ้าเผลอแล้วสินะ”

???

เมื่อคำพูดนี้ปล่อยออกมา ศิษย์คนนั้นก็มึนงงเต็มหัว อีกฝ่ายจะรู้ได้ยังไง?ว่าเขาเผลอ? ทั้งที่อีกฝ่ายยังอยู่ห่างจากเขาหลายสิบเมตร

เพียงแค่เสียงนี้สิ้นสุดลง เห็นได้ชัดว่าหลังศิษย์คนนั้นเกิดแสงสว่างจากสัญลักษณ์ออกมาจากด้านหลังเขา ก่อนที่เขาจะถูกควบคุมอยู่กับที่ทันที

“เจ้า.........”

เขาไม่เห็นวิธีที่ศิษย์ของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ใช้ในการโจมตีเลย จนกระทั่งเขามองลงไปที่พื้นและเห็นหลุมขนาดสามนิ้วใต้เท้าของเขา เขาก็รู้สึกงงงวย

นี่มันการใช้สัญลักษณ์แบบใหม่สุดๆที่ทำให้เขาหงุดหงิดมาก เขาใช้ชีวิตมานานยังไม่เคยเห็นใครใช้สัญลักษณ์แบบนี้มาก่อน

“นี่แหละคือวิธีการใช้สัญลักษณ์อย่างถูกต้อง เรียนรู้ให้ดีเถอะ ข้าไปก่อนนะ”

หลังจัดการคู่ต่อสู้ที่มาดักเล่นงานเขาได้อย่างง่ายดายศิษย์ของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ยิ้มและหันหลังออกไป

คู่อื่นๆ ก็เป็นเช่นเดียวกัน ศิษย์ของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์สามารถรับมือกับกลยุทธ์เล็กๆของศิษย์จากยอดเขาอื่นๆ ได้อย่างสง่างาม

กลยุทธ์เล็กๆของพวกเจ้านั้น เป็นงที่พวกเรายอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์เคยใช้มาหมดแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์พันธนาการ หรือการใช้เคล็ดวิชาจับกุมแบบตรงๆ ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องเด็กๆ

แม้จะเป็นการเล่นเหล่าศิษย์ของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ แต่สุดท้ายแล้วผู้ที่ถูกเล่นงานกลับเป็นพวกเขาทั้งหมดซะเอง!

ขณะที่ศิษย์ของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์เดินออกไปอย่างสง่างาม ศิษย์จากยอดเขาอื่นๆก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาแห่งความผิดหวังได้

พวกเขาอยากรู้ว่าศิษย์ยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ศึกษาและฝึกฝนอะไรบ้างในแต่ละวัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด