ตอนที่แล้วบทที่ 121 หนูจะมีสามีแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 123 ไม่ใช่คนที่เก่งเรื่องโกหก

บทที่ 122 วันนั้นของเดือน


เธอมีความรู้สึกที่ถูกบีบบังคับเล็กน้อย!

ไม่เกี่ยวข้องกับหนิงเสี่ยง!

แต่เกี่ยวข้องกับพ่ออย่างเขา!

เธออดทนไว้ เพราะว่าหลังจากเกิดเรื่องของหร่วนหลาง เธอก็ทิ้งระยะห่างจากเขามาตลอด นอกจากคืนนั้นที่กินเนื้อย่างเสียบไม้ด้วยกัน เธอรักษาท่าทีเกรงใจเมื่ออยู่ต่อหน้าของเขา และทำงานร่วมกับเขาอย่างรักษาระยะห่าง

แต่ว่า เธอไม่ได้อดทนไว้! ตอนนี้แสดงอารมณ์ของตัวเองสักหน่อยก็คงไม่เป็นไร

พอคิดได้อย่างนี้ เธอจึงเปิดประตูรถ "ฉันไม่รู้ว่าจะไปกินข้าวที่ไหน! คุณมาขับ!"

จากนั้นเธอก็ลงรถ มาเปิดประตูฝั่งที่เขานั่ง เพื่อให้เขาลง

เขามองเธอ ด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลาย ราวกับมีความสุข "ได้ ฉันขับเอง"

ตอนที่เขาลงจากรถ ส่วนของเสื้อช่วงไหล่ของเขาสะบัดโดนหน้าของเธอ สะบัดโดนจนหน้าชา

หน้าของเธอแสบ คิ้วจึงขมวดเข้าหากัน จากนั้นก็ขึ้นรถนั่งข้าง ๆ หนิงเสี่ยง

หนิงเสี่ยงกะพริบตา "แม่ครับ พ่อเป็นเด็กดื้ออีกแล้วเหรอ"

ได้เห็นดวงตากลมโตของหนิงเสี่ยงคู่นั้นที่มีน้ำตาคลอเบ้า ภายในใจก็เกิดความเงียบงันผิดปกติขึ้นมาอีก จึงยื่นมือออกไปลูบหนิงเสี่ยง "ไม่ได้ดื้อจ้ะ พ่อของหนูเป็นเด็กดี หนิงเสี่ยงเองก็เป็นเด็กดีมาก"

"ถ้างั้น แม่โกรธทำไมเหรอครับ" หนิงเสี่ยงยังคงชอบที่เเม่กอดเขา อดไม่ได้ที่จะอ้อนถามในอ้อมอกเธอ

"แม่ไม่ได้โกรธจ้ะ" เธอเอาคางลู่บนหัวของหนิงเสี่ยง ปลอบเด็กขี้น้อยใจคนนี้

หนิงเสี่ยงจึงหัวเราะออกมาได้ "แม่ครับ ถ้างั้นแม่ถึงวันนั้นของเดือนเหรอ"

"......" หร่วนหลิวเจิงหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง เด็กคนนี้กำลังพูดอะไร รู้เรื่องนี้แล้วเหรอ

หนิงจื้อเชียนที่กำลังขับรถอยู่ด้านหน้าได้ยินแล้วก็ไม่ได้ตะลึงแต่อย่างใด รีบวางมาดของพ่อขึ้นมาทันที "หนิงเสี่ยง! ใครสอนหนูเรื่องเหลวไหลแบบนี้"

หนิงเสี่ยงไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป มองดูพ่ออย่างกล้า ๆ กลัว ๆ จากนั้นก็มองทางหร่วนหลิวเจิง "คือ......ว่า......ครั้งก่อนผมได้ยินพี่เสี่ยวนานพูด เธอบอกว่าทุกครั้งที่คุณป้าเป็นวันนั้นของเดือนก็จะอารมณ์ไม่ดี แล็วก็จะดุเธอ......"

หนิงจื้อเชียนนึกขึ้นได้ว่าหลานสาวคนโตที่น่าปวดหัวคนนั้น ดื้อมากจริง ๆ พี่ใหญ่เป็นคนที่ประคบประหงมลูกอย่างไม่มีขอบเขต เพียงแต่เสี่ยวนานอายุแค่ไม่กี่ขวบ จะเข้าใจวันนั้นของเดือนได้อย่างไร

เมื่อคิดได้ หนิงเสี่ยงก็ประหม่าอีกครั้ง แล้วพูดขึ้นทางด้านหลัง "พ่อครับ พ่ออย่าไปบอกคุณป้านะ พี่เสี่ยวนานต้องโดนว่าแน่....... พี่เสี่ยวนานบอกว่า คุณลุงเคยบอกไว้ว่าทุกเดือนจะมีสองสามวันที่คุณป้าไม่สบายตัว อารมณ์ไม่ดี เลยทำให้โกรธง่าย"

"......" หนิงจื้อเชียนพูดไม่ออก ไม่น่าล่ะ เพื่อน ๆ ของพี่ใหญ่ต่างเรียกเขาว่าไอ้ซื่อบื้อ......

ในที่สุดหร่วนหลิวเจิงถูกเจ้าตัวน้อยอย่างหนิงเสี่ยงทำให้ขำแล้ว เธอคิดถึงพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ นานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน พี่ใหญ่ผู้ชายที่ทั้งอบอุ่นและพูดไม่ค่อยเก่งคนนั้น ผู้ที่รักพี่สะใภ้อย่างจริงใจ คิดถึงครั้งแรก เธอยังฟังคำสั่งของพี่ใหญ่ที่ให้แกล้งเป็นแฟนคลับของพี่สะใภ้เพื่อเอาเค้กไปให้

คิดขึ้นมาก็ถามโดยไม่รู้ตัว "พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้มีลูกแล้วเหรอ ชื่อเสี่ยวนานเหรอ"

"อืม" เขาขับรถไปด้วยตอบไปด้วย "เธอหายไปหลายปีขนาดนี้ ยังไม่มีลูกได้เหรอ"

"ก็แบบ......" เธอถอนหายใจ "แต่ว่า เสี่ยวนานชื่อนี้ไม่ซับซ้อนดี เป็นชื่อเล่นเหรอ"

"ไม่ใช่ เป็นชื่อจริง!" ตอนแรกหนิงจื้อเชียนฟังชื่อนี้แล้วก็รู้สึกพูดไม่ออกเหมือนกัน "พี่ใหญ่ยืนกรานจะเรียกชื่อนี้"

เธอฟังแล้วก็เข้าใจได้ "ดีมากเลย หนิงเสี่ยวนานเหรอ เป็นเครื่องพิสูจน์ความรักที่ลึกซื้งของพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้"

"ถ้างั้น ทำไมผมถึงชื่อว่าหนิงเสี่ยงเหรอ" หนิงเสี่ยงถามแทรกขึ้นมาทันที

ทันใดนั้น ต่างก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

"เป็นเพราะว่าแม่ไม่ได้อยู่กับหนิงเสี่ยง ก็เลยคิดถึงผมเหรอครับ" ไม่มีใครบอกเขา หนิงเสี่ยงเลยต้องเดาเอง

หร่วนหลิวเจิงหัวเราะเบา ๆ ได้แต่ก่อนเขาไว้ ไม่พูดอะไร

เขาที่ขับรถอยู่ตอบกลับด้วยเสียงทุ้มต่ำ "ใช่"

หนิงเสี่ยงอิงหร่วนหลิวเจิงอย่างพอใจมาก "ผมชอบชื่อนี้ครับ"

หร่วนหลิวเจิงยังคงไม่พูดอะไร เพราะเธอรู้ว่าไม่ใช่เหตุผลนี้

"ทำไมผมถึงชื่อหนิงเสี่ยง" การขัดจังหวะนี้ทำให้ภายในรถมีความเงียบงันในช่วงเวลาสั้น ๆ ทว่าพักเดียวก็ผ่านพ้นไป เพราะว่าหนิงเสี่ยงมีเรื่องมากมายที่อยากจะคุยกับแม่ ส่วนหนิงจื้อเชียนกลับพูดน้อย ดังนั้นไม่นานก็โดนเมินแล้ว ภายในรถเหลือเพียงเสียงของหนิงเสี่ยงกับหร่วนหลิวเจิง

"แม่ครับ ตกลงแม่เป็นวันนั้นของเดือนหรือเปล่า"

"แม่ครับ แม่ไม่สบายหรือเปล่า"

หนิงเสี่ยงถามต่อเนื่อง ถามจนหร่วนหลิวเจิงรับมือไม่ไหว......

"แม่ครับ แม่ชอบซานต้าคลอสหรือเปล่า" หนิงเสี่ยงลูบเสื้อคลุมขนฟูของหร่วนหลิวเจิงพลางถาม

"หนิงเสี่ยง!" เขาที่ขับรถอยู่ด้านหน้าก็พูดออกมาทันที

หนิงเสี่ยงไม่เข้าใจว่าทำไม ได้แต่เงียบและหยุดพูด

ทว่า เพียงเวลาสั้น ๆ ปากเล็ก ๆ ก็ไม่สงบอีกครั้ง "แม่ครับ แม่รู้หรือเปล่า มีคนแปลก ๆ เข้ามาเอาขนมให้ผมกินที่โรงเรียนอนุบาล"

"ใครเหรอ" คำพูดนี้ดึงดูดความสนใจของหนิงจื้อเชียนกับหร่วนหลิงเจิง จึงถามออกมาพร้อมกัน

"ไม่รู้จักครับ......เหมือนผมจะเคยเจอมาก่อน......แต่จำไม่ได้แล้ว่าเป็นใคร......มันนานมาแล้ว ตอนที่ยังไม่ได้ปิดเทอม......" หนิงเสี่ยงเกาหัว

"ใครก็ตามให้ของกินหนู หนูไม่ควรกินนะ แล้วก็ไม่ควรตามคนอื่นออกจากโรงเรียนอนุบาลด้วย รอแต่คุณย่ามารับหนูเท่านั้น เข้าใจไหม" น้ำเสียงของหนิงจื้อเชียนเปลี่ยนเป็นเข้มงวดอย่างมาก

หนิงเสี่ยงพยักหน้าอย่างรู้ความ "ผมเข้าใจแล้ว!ผมไม่ได้กิน คุณครูไล่เธอออกไปแล้ว"

ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็ถามอย่างมีความสุข "ถ้างั้น......แม่มารับผม ผมไปกับแม่ได้ไหม"

หร่วนหลิวเจิงไม่รู้จะตอบอย่างไร เธอไม่เคยไปรับเขามาก่อนเลย ครูอนุบาลก็ไม่น่าจะให้เธอรับหรอก เธอไม่ใช่แม่ที่แท้จริงของเขา

คนด้านหน้าพูดอีกครั้ง "งั้นครั้งหน้าพ่อไปลงทะเบียนกับครูที่โรงเรียนไว้ก่อนถึงจะได้"

"ครับ!" หนิงเสี่ยงเบิกบานขึ้นมา

ในใจหร่วนหลิวเจิงกลับถอนหายใจ จะให้เธอไปรับหนิงเสี่ยงเหรอ กลัวแค่จะกลายเป็นตลอดไป เขาอย่าไปให้ความหวังเด็กได้ไหม

การพูดคุยตลอดทางกับหนิงเสี่ยง เลยไม่ได้ถามเขาว่าจะไปกินข้าวที่ไหน เขาลากเธอกับหนิงเสี่ยงตรงมาที่ร้านอาหารของจั่วเฉินหย่วน

เธออึ้งไปเล็กน้อย ต้องมากินข้าวกับคนคุ้นเคยเหรอ แถมเป็นแบบสามคนด้วย ทำตัวไม่ถูกสุด ๆ

"วางใจเถอะ เจ้าของร้านไม่น่าจะอยู่ที่ร้านหรอก" เขาก้มหน้าพูด

"......" เธอจูงมือหนิงเสี่ยงไว้ แล้วเบ้ปาก สามารถอ่านใจคนได้ขนาดนี้ ไม่ไปเรียนจิตวิทยาเลยล่ะ

ผลสุดท้าย เขาเพิ่มมาอีกประโยค "อย่าลืมสิ งานหลักของฉันก็คือดูสมองคนนะ!"

"......." เหลือเชื่อจริง ๆ !

พี่ใหญ่แห่งตระกูลจั่ว จั่วเฉินหย่วนใช้ร้านอาหารสร้างเป็นนิยายเรื่องหนึ่งแก่ภรรยาผู้เป็นที่รักของเขา เพียงเพราะว่าภรรยาของเขาชอบกิน เธอเคยบอกว่า เจ้าอ้วนจั่ว นายโตขึ้นก็เป็นพ่อครัวสิ จะได้ทำอาหารอร่อย ๆ ให้ฉันกินทุกว่า หลังจากที่เขาโตก็เปิดร้านอาหารจริง ๆ แถมยังมีหลายสาขาอีกด้วย

ดังนั้น คนที่รู้เรื่องราวของพวกเขาดี และมานั้นกินข้าวในร้านอาหารแห่งนี้ ไม่รู้ว่าที่กินไปเป็นเรื่องราวหรืออาหารเลิศรส

ทว่า เรื่องที่งดงาม ล้วนเป็นเรื่องราวของคนอื่น เพื่อนเหล่านี้ของหนิงจื้อเชียน เรื่องราวของแต่ละคู่ล้วนเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งน่าจดจำ ผู้ชายทุกคนหลงรักผู้หญิงของตัวเองอย่างหัวปักหัวปำ รวมถึงเขาเองก็ด้วย เพียงแต่ว่าเธอเป็นสิ่งไม่คาดฝันในเรื่องราวของเขา แถมยังไม่ใช่ตัวละครหลักด้วย

หนิงเสี่ยงกลับชอบร้านอาหารแบบนี้อย่างมาก ด้วยความที่เป็นเด็ก พอเข้าไปในร้านก็ง่วนอยู่กับการถามถึงสิ่งต่าง ๆ รอบตัว จนไม่ได้คุยกับเธออีก

"หลิวเจิง......"

เขาเอ่ยเธอ แต่ยังไม่พูดอะไร โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา เขาจึงทำได้เพียงเงียบเสียงลง มองเธอควานหาโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าออกมา และรับมันด้วยเสียงเบา

"ฮัลโหล คุณเซวียเหรอคะ" คนที่โทรมาก็คือ เซวียเหว่ยหลิน

"หลิวเจิง ยังไม่เลิกงานเหรอ" เซวียเหว่ยหลินถามเธอ

"เลิกงานแล้วค่ะ แต่ว่ามีธุระต่อนิดหน่อย......" เธอนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อวานนัดกับเขาว่าวันนี้ต้องคุยเรื่องงานแต่งของไซซีกับฟ่านฟ่าน

"อ๋อ ถ้างั้นก็ช่างเถอะ ผมเดินเล่นในสวนหนึ่งรอบแล้วยังไม่เห็นคุณ ไซซีก็อยู่ไม่สุข เดินหาฟ่านฟ่านไปทั่ว แม่สาวน้อยไม่ได้กระดากอายเลย รอคอยให้พวกเราสองคนคุยเรื่องงานแต่งงานให้เธอ"

หร่วนหลิวเจิงหัวเราะออกมา "วันอื่นก็แล้วกันนะ พรุ่งนี้เป็นไง"

"ได้ รอคุณพรุ่งนี้นะ ผมออกแบบภาพพรีเวดดิ้งแล้วด้วย!"

หร่วนหลิวเจิงตะลึง เดิมทีเธอก็แค่พูดล้อเล่น! เลยหัวเราะออกมายกใหญ่ "ไม่หรอกมั้ง ทำจริงเหรอ"

"จริงอยู่แล้ว! ผมจริงจังมากกับเรื่องชีวิตคู่มาตลอด!"

รอยยิ้มของหร่วนหลิวเจิงไม่ได้คลายหายไป "พูดเหมือนกับคุณจะเเต่งเอง!"

เซวียเหว่ยหลินหัวเราะครื้น "ก็ไม่ต่างกันหรอก! เอาเถอะ ไม่รบกวนคุณแล้ว เจอกันพรุ่งนี้นะ บ๊ายบาย"

"บ๊ายบาย" หร่วนหลิวเจิงวางสายโทรศัพท์ แล้วเห็นว่าหนิงจื้อเชียนกำลังมองเธออยู่

"ทำไมฉันจำไม่เห็นได้เลยว่าเธอมีเพื่อนแซ่เซวียด้วย" เขาเอ่ยถามด้วยท่าทีสบาย ๆ

ท่าทีของเธอก็สบาย ๆ เหมือนกัน "เพื่อนของฉัน คุณก็ไม่ได้รู้จักทั้งหมดนี่"

"วันนี้เธอมีนัดกับเขาเหรอ" เขาถามเธออีกครั้ง

"อืม คุยกันว่าจะไปทำธุระน่ะ" เธอไม่ได้พูดเรื่องการแต่งงานของไซซีและฟ่านฟ่าน เรื่องที่มันไร้สาระขนาดนี้เกรงว่าจะไม่อยู่ในสายตาของเขา ขี้เกียจจะฟังเขาบ่นด้วย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด