ตอนที่ 435 ไม่ใช่บุคคลสำคัญอะไร แค่ประธานบริษัท Prada Group เท่านั้น
“คุณมิวเซีย โทรมาครับ”
เมื่อได้ยินคำถามของมหาเศรษฐีคนนั้น เย่เฉิน ก็ตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจนัก
คุณมิวเซีย?!
ชาวต่างชาติ?
คำตอบของ เย่เฉิน ทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นั่นคาดไม่ถึง
“มิวเซีย เป็นใคร? ฉันไม่เคยได้ยินชื่อเลยนะ”
“ฉันก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน”
บรรดามหาเศรษฐี และผู้บริหารต่างก็หันไปถามกัน และกัน แต่ทุกคนก็พากันส่ายหัวเพราะไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
“เหมือนกับว่าฉันเคยได้ยินมาจากที่ไหนสักแห่ง.. แต่นึกไม่ออกจริงๆ”
ว่าน ซิ่นอี้ ขมวดคิ้ว และพูดด้วยความจนใจ
“คุณมิวเซีย คนนี้เป็นใคร?”
มหาเศรษฐีคนที่ถาม เย่เฉิน เมื่อสักครู่ถามขึ้นอีกครั้ง
“ไม่ใช่บุคคลสำคัญอะไร แค่ประธานบริษัท Prada Group เท่านั้นครับ”
เย่เฉิน อธิบายอย่างไม่ใส่ใจนัก
คนนี้ไม่ใช่บุคคลสำคัญอะไร เป็นแค่ประธานของ... Prada?!
เดี๋ยวก่อน…นี่ใครนะ?!!
คุณมิวเซีย คนนี้คือใคร?
ประธานบริษัท Prada Group?!!
เมื่อได้ยินครึ่งแรกของคำพูด เย่เฉิน หลายคนในที่นั้นก็พยักหน้าตามไปด้วย นี่มันอยู่ในความคาดหมายของพวกเขา
แต่คำพูดครึ่งหลังของ เย่เฉิน กลับทำให้ทุกคนราวกับถูกฟ้าผ่า ยืนนิ่งแข็งเป็นหินไปเลย..(นิ่งไม่ไหวติง)
รวมถึง ว่าน ซิ่นอี้ เอง เขาก็ช็อกเช่นกัน
พวกเขาแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
ในสายตาของ เย่เฉิน ประธานบริษัท Prada Group อาจจะไม่ใช่บุคคลสำคัญอะไรจริงๆ
แต่ในสายตาของมหาเศรษฐี และผู้บริหารเหล่านี้ เจ้าของบริษัท Prada Group ถือว่าเป็นคนที่มีอิทธิพลมากคนหนึ่งอยู่แล้ว
Prada ในฐานะแบรนด์สินค้าฟุ่มเฟือยที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีอิทธิพลมากมายมหาศาลที่ไม่อาจมองข้ามได้
แล้ว.. ประธานบริษัท Prada Group จะเป็นคนเล็กๆ ไปได้อย่างไร?
มหาเศรษฐี และผู้บริหารกลุ่มนั้นต่างนิ่งงันไปครู่ใหญ่ พวกเขาทั้งหมดต่างตกตะลึง และมองไปที่ เย่เฉิน ด้วยความประหลาดใจ
ในสายตาของ คุณเย่..คนนี้ เจ้าของ Prada Group ยังไม่ใช่บุคคลสำคัญอีกอย่างนั้นหรือ?
งั้นในสายตาของ คุณเย่ ใครกันแน่ถึงจะเป็นบุคคลสำคัญ?
พวกเขาไม่กล้าจินตนาการต่อไป..
ในชั่วพริบตา ความคิดที่พวกเขาอยากจะลองข่ม เย่เฉิน เมื่อครู่นี้ก็หายไปทันที
พวกเขายังไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ เย่เฉิน กลับข่มพวกเขาเสียจนมิดแล้ว!
เจ้าของ Prada Group ติดต่อหา เย่เฉิน โดยตรงผ่านวิดีโอคอล เรื่องแบบนี้ไม่มีใครในที่นี้ทำได้เลย
อันที่จริง ตอนที่ เย่เฉิน ได้รับสายวิดีโอคอลจาก คุณมิวเซีย เย่เฉิน ก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน
เขาเองก็ไม่รู้จัก มิวเซีย มาก่อน จนกระทั่ง คุณมิวเซีย แนะนำตัวเองเท่านั้น เย่เฉิน ถึงเข้าใจ
เย่เฉิน เพิ่งจะได้รับหุ้น 9% ของบริษัท Prada ในฐานะประธานของ Prada Group
คุณมิวเซีย เองก็ต้องการทำความรู้จักผู้ถือหุ้นรายใหม่ของบริษัทเป็นธรรมดา
ดังนั้นเธอจึงเลือกเวลาหนึ่งติดต่อหา เย่เฉิน เป็นพิเศษ
“คุณเย่ สุดยอดจริงๆ ถึงขนาดที่ว่าประธานของ Prada ยังติดต่อมาหาด้วยตนเอง”
“เชิญนั่งครับ.. เชิญนั่ง”
ว่าน ซิ่นอี้ พูดด้วยความชื่นชมแล้วเชื้อเชิญให้ เย่เฉิน นั่งลง
มหาเศรษฐี และผู้บริหารคนอื่นๆ ก็ตกใจเล็กน้อยก่อนจะกลับมานั่งที่เดิมเช่นกัน
ในขณะนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับ เย่เฉิน มหาเศรษฐีที่เคยคุยโวว่าอยากจะดูว่า เย่เฉิน เก่งแค่ไหนต่างก็เปลี่ยนเป็นเชื่อฟังอย่างเห็นได้ชัด
บรรดามหาเศรษฐีที่เคยมีอิทธิพลภายนอก ตอนนี้ในสายตาของ เย่เฉิน พวกเขาเหมือนเด็กนักเรียนที่ทำผิดแล้วมานั่งตัวตรงอยู่ต่อหน้าครู
ว่าน ซิ่นอี้ รินน้ำชาให้ เย่เฉิน เองกับมือ
ขณะที่พูดคุยกันไปสักพัก มหาเศรษฐีเหล่านี้ก็เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
เมื่อครู่นี้พวกเขายังกลัวจนตัวสั่นด้วยอิทธิพลของประธาน Prada Group
แต่ตอนนี้ลองคิดดูอีกที มัน.. ไม่สมเหตุสมผล
ทำไมประธานของ Prada Group ถึงได้โทรหา เย่เฉิน โดยตรง?
พวกเขาก็เคยเห็นนักธุรกิจใหญ่ๆ มามาก แต่ก็ไม่เคยเห็นใครที่ได้รับโทรศัพท์จากประธานของบริษัทสินค้าฟุ่มเฟือยระดับโลกมาก่อน
เย่เฉิน คนนี้.. มีอิทธิพลขนาดไหนกัน?
ที่สำคัญที่สุด ..เรื่องนี้ทั้งหมดล้วนเป็นคำพูดของ เย่เฉิน ฝ่ายเดียว ไม่มีใครรู้ว่ามันจริงหรือไม่
ถ้ามันเป็นเรื่องโกหกขึ้นมาล่ะ?
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการคาดเดาของพวกเขา
พวกเขาคิดว่าคำพูดของ เย่เฉิน มีจริงอยู่สามส่วน อีกเจ็ดส่วนน่าจะเท็จ
การที่ประธาน Prada โทรมาอาจจะเป็นเรื่องที่ เย่เฉิน แต่งขึ้น ความจริงแล้วเขาอาจจะเพิ่งรับโทรศัพท์จากผู้บริหารระดับสูงของ Prada ก็ได้ และกลัวว่าจะมาสาย เลยพูดจาโอ้อวดถึงเรื่องนี้ออกไป
พอคิดมาถึงจุดนี้ บรรดามหาเศรษฐีก็เริ่มกลับมารู้สึกผ่อนคลาย และเริ่มคุยกันตามปกติอีกครั้ง
ในบทสนทนาระหว่างพวกนักธุรกิจ คงหนีไม่พ้นเรื่องธุรกิจการค้าต่างๆ
“ปีที่แล้วธุรกิจของฉันไปได้ดีมาก ในที่สุดก็สร้างฐานที่มั่นในแอฟริกาได้แล้ว”
มหาเศรษฐีหัวโล้นคนหนึ่งพูดอย่างภาคภูมิใจ
“เหล่าเซี่ย ยอดเยี่ยมจริงๆ”
ว่าน ซิ่นอี้ พูดขึ้น
มหาเศรษฐีหัวโล้นคนนี้ทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศมาหลายปี ตั้งบริษัทสาขาในหลายประเทศทั่วโลก ปีที่แล้วเขากวาดรายได้เป็นกอบเป็นกำ ทำให้บรรดาเพื่อนนักธุรกิจหลายคนต่างพากันอิจฉา
“ฉันบอกพวกคุณได้เลยว่าช่วงครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว ฉันใช้เวลาประมาณสองสามเดือนในแอฟริกา ทำการศึกษาข้อมูลที่นั่นอย่างละเอียด”
“ฉันคิดว่าหนึ่งในธุรกิจที่ทำกำไรได้มากที่สุดในแอฟริกาก็คือธุรกิจเหมืองแร่ เนื่องจากทรัพยากรแร่ในแอฟริกานั้นอุดมสมบูรณ์มาก”
มหาเศรษฐีหัวโล้นพูดต่อ
“ปีนี้ฉันตั้งใจว่าจะลงทุนในธุรกิจเหมืองแร่ที่แอฟริกา สักสองแห่ง เป็นการทดลองตลาด”
“พวกคุณมีใครสนใจไหม?”
มหาเศรษฐีหัวโล้นถาม ว่าน ซิ่นอี้ และคนอื่นๆ
ได้ยินคำถามนี้ ว่าน ซิ่นอี้ และคนอื่นๆ ก็เริ่มลังเล ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสนใจ แต่พวกเขาไม่เคยลงสนามในธุรกิจนี้มาก่อน มันดูมีความเสี่ยงมากเกินไป
ดังนั้น ทุกคนจึงพากันเงียบ
“เหมืองแร่?”
เย่เฉิน เป็นคนเดียวเท่านั้นที่ตอบกลับ
“โอ้... ทำไมครับ คุณเย่ สนใจงั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยิน เย่เฉิน พูด มหาเศรษฐีหัวโล้นจึงถามขึ้นทันที :
“คุณอยากจะลงทุนกับผมด้วยไหมครับ? มาซื้อเหมืองด้วยกัน?”
“ไม่จำเป็นหรอกครับ ผมมีอยู่แล้ว”
เย่เฉิน ส่ายศีรษะ
มีอยู่แล้ว?!
คำพูดของ เย่เฉิน ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตกใจจนตาค้าง ทุกคนหันไปมอง เย่เฉิน ทันที
“อุตสาหกรรมของ คุณเย่ ขยายไปถึงเหมืองแร่ที่แอฟริกาแล้วเหรอ?”
ว่าน ซิ่นอี้ ถามด้วยความรู้สึกแปลกใจ
“ไม่ทราบว่า คุณเย่ ซื้อเหมืองอะไรในแอฟริกามาหรือครับ?”
มหาเศรษฐีหัวโล้นถามด้วยความสงสัย
“เหมืองทองคำครับ”
เย่เฉิน ตอบด้วยเสียงราบเรียบ
ก่อนหน้านี้เขาได้รับเหมืองทองคำขนาดใหญ่ในแอฟริกาจากเกมโดยบังเอิญ
เย่เฉิน รู้เรื่องเหมืองแร่น้อยมาก ดังนั้นเมื่อได้ยินมหาเศรษฐีหัวโล้นพูดถึงเรื่องธุรกิจเหมือง เขาถึงได้รู้สึกสนใจขึ้นมาบ้าง
เหมืองทองคำ?!!!
มีเหมืองทองคำในแอฟริกาเหรอ?
ให้ตายเถอะ!
มหาเศรษฐีหัวโล้นถึงกับช็อก
เหมืองที่เขาพูดถึงสองเหมืองนั้นเป็นเหมืองเหล็ก ทองแดง หรืออะลูมิเนียมซึ่งเป็นแร่ธาตุธรรมดาๆ เขาอาจจะมีฐานะมั่งคั่ง แต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะซื้อเหมืองทองคำเลย
แม้ว่าจะมีเหมืองทองคำในแอฟริกาเยอะ แต่การที่จะได้มาเป็นเจ้าของสักเหมืองนั้นเป็นเรื่องยากมาก
ถึงจะมีเงินก็ไม่มีประโยชน์ถ้าคุณไม่มีเส้นสายที่กว้างขวาง!
แต่ คุณเย่ คนนี้มีเหมืองทองคำอยู่แล้ว!
นี่....
เส้นสายของ คุณเย่ นี่มันแข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ?!
“เหมืองทองคำของ คุณเย่ ตั้งอยู่ที่ไหนในแอฟริกาครับ?”
มหาเศรษฐีหัวโล้นยังไม่อยากจะเชื่อคำพูดของ เย่เฉิน เขาจึงถามถึงสถานที่อย่างละเอียด
“อยู่ที่แอฟริกา….”
เย่เฉิน บอกพิกัดที่ตั้งอย่างละเอียดออกมา
“อะไรนะ? เหมืองทองคำขนาดใหญ่นั่นเป็นของ คุณเย่ เหรอ?!”
มหาเศรษฐีหัวโล้นถึงกับลุกขึ้นยืน มอง เย่เฉิน ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง
เหมืองทองคำนั้นอยู่ไม่ไกลจากหนึ่งในบริษัทสาขาของเขาในแอฟริกา
มหาเศรษฐีหัวโล้นเคยได้ยินลูกน้องพูดถึงอยู่ครั้งหนึ่งโดยบังเอิญ
ในขณะนี้ เขาไม่สงสัยในความจริงของคำพูดของ เย่เฉิน อีกต่อไปแล้ว
เรื่องสายวิดีโอคอลจากประธาน Prada นั้นอาจจะโกหกได้ เพราะมันยากที่จะตรวจสอบ
แต่เหมืองทองคำที่มีอยู่จริงนี้ ใครคือเจ้าของเหมืองนั้นสามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ นี่มันเป็นเรื่องที่โกหกไม่ได้เลย!!!
