ตอนที่แล้วตอนที่ 20  ผมเข้าใจแล้ว แต่คุณอย่ามาอ้วกใส่ผมนะ  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 22 น้ำอัมฤทธิ์โลหิตสร้างรากฐาน ดอกไม้กำเนิดวิญญาณ

ตอนที่ 21 คุณสมบัติสูง! พลทหารศพระดับ 7  


ตอนที่ 21 คุณสมบัติสูง! พลทหารศพระดับ 7

บริษัทรักษาความปลอดภัยเฮยเฟิง

ที่ชั้นล่างของอาคารสามชั้น  หวังหยงรีบมาที่นี่อีกครั้ง ในตอนนั้นชายร่างกำยำก็ได้หยุดเขาตามปกติ

หวังหยงจึงได้ตะโกนออกมาจนสุดปอด “พี่! ผมมีเรื่องสำคัญจะบอกพี่! เรื่องนี้สำคัญมาก!”

เสียงสาปแช่งดังมาจากชั้นบน “เซี่ย! หวังหยง อย่าคิดว่าเพราะนายเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันแล้วฉันจะไม่ทำอะไรนายนะ วันนี้นายมาขัดจังหวะฉันสองครั้งติดต่อกันแล้ว!”

หวังกังเจี้ยนโผล่หัวออกไปนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว

เหมือนถูกขัดจังหวะขณะที่กำลังทำเรื่องสำคัญอยู่

หวังหยงยังตะโกนออกมาว่า "เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับซอมบี้ระดับสูงเลยนะพี่!"

หวังกังเจี้ยนสงบสติอารมณ์ลงและกล่าวออกมาว่า "ถ้าอย่างนั้นก็ขึ้นมา"

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หวังหยงก็มานั่งอยู่ข้างหน้าหวังกังเจี้ยน

“พี่ ทำไมพี่ถึงยังต่อสู้กับราชายักษ์อยู่ล่ะ ยังไม่ผ่านอีกเหรอ หยุดเล่นแบบนี้เถอะ มันเสียเวลา” หวังหยงพูดอย่างอ่อนแรง

หวังกังเจี้ยนตะคอกออกมาอย่างเย็นชาทันที "ถ้าขืนนายมาขัดจังหวะฉันอีกครั้ง ฉันจะฆ่านายแน่นอน"

หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็หันไปสนใจเกมบนหน้าจออีกครั้ง

หวังหยงถอนหายใจเบา ๆ “งั้นเอามานี่ ผมจะเล่นด่านนี้ให้พี่เอง แล้วพี่ต้องฟังผม โอเคไหม?”

หวังกังเจี้ยนหัวเราะชอบใจออกมา “ก็ถ้านายเล่นผ่านด่านนี้ไปได้ ฉันก็จะหยุดเล่นแล้วฟังนาย”

หวังหยงรับคอนโทรลเลอร์มา และเริ่มเล่นเกมอย่างเอาจริงเอาจัง จนในที่สุดก็เดินมาจนสุดทาง

เมื่อเข้าไปในวัง เขารีบวิ่งไปที่บัลลังก์ของราชายักษ์ คว้าดาบที่พิงบัลลังก์แล้วฟาดฟันมันอย่างดุเดือด  หลังจากโจมตีติดต่อกันหลายครั้ง ราชายักษ์ก็ล้มลงกับพื้น

เขารีบแทงดาบลงไปอีกสองสามครั้ง จากนั้นราชายักษ์ก็นอนแน่นิ่งอยู่ตรงจุดนั้น...ชนะ

เขาวางที่คอนโทรลเลอร์ลงและมองไปที่หวังกังเจี้ยนอย่างจริงจัง "แบบนี้พี่จะฟังผมได้หรือยัง?"

หวังกังเจี้ยนรู้สึกตกตะลึง "นายทำได้ยังไง? ทำไมดาบเล่มนั้นถึงทรงพลังมาก?"

หวังหยงยังคงมองมาที่เขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

หวังกังเจี้ยนตบริมฝีปากของตัวเองแล้วพูดว่า "เอาล่ะ ไหนลองบอกฉันมาสิ"

จากนั้น หวังหยงก็เริ่มเล่าสิ่งที่เขาได้เจอและได้เห็นที่โรงแรมห่าวไท่โดยที่ไม่พลาดรายละเอียดแม้แต่จุดเดียว

ดวงตาของหวังกังเจี้ยนค่อยๆจริงจังขึ้น “จริงเหรอ? นายเห็นซอมบี้ระดับสูงสองตัวอยู่ที่นั่นจริงๆ อย่างนั้นเหรอ ?”

“ผมจะโกหกพี่ทำไม ! รูปร่างและท่าทางแบบนั้นไม่ใช่สิ่งที่ซอมบี้ธรรมดาจะมีได้อย่างแน่นอน”

ในเวลานั้น ตอนที่เขาถูกซอมบี้ระดับสูงมองมา มันทำให้เขารู้สึกว่าเลือดในร่างกายของเขากำลังแข็งตัว

ถ้าไม่ใช่เพราะไหวตัวทัน และเร่งเครื่องรถยนต์จนสุด เกรงว่าเขาคงจะกลายเป็นอาหารของซอมบี้ระดับสูงสองตัวนั้นแล้วตอนนี้

หวังกังเจี้ยนพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "เรื่องนี้สำคัญมากจริงๆ อย่าเข้าไปใกล้บริเวณนั้นอีกเป็นอันขาด"

หวังหยงก็กล่าวออกมาด้วยท่าทางเคร่งขรึม "แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าซอมบี้ระดับสูงสองตัวนั้นบุกไปที่อื่นต่อ? เราไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆ รอความตายได้หรอกนะ"

"แน่นอน เราต้องขอให้กองทัพหลินเจียงช่วยเหลือ  ขอให้พวกเขาส่งกองทัพพิเศษออกไปไล่ล่า" หวังกังเจี้ยน พยักหน้า

หวังหยงยังถอนหายใจด้วยความโล่งอก "พี่ เรื่องนี้พี่ต้องเป็นคนติดต่อกับกองทัพหลินเจียง เพราะพี่เกษียณออกมาจากกองทัพหลินเจียง พี่อาจจะคุยกับพวกเขาได้ง่ายหน่อย”

หวังกังเจี้ยนพยักหน้า "ฉันจะแจ้งให้นายทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันทีหลังจากที่ได้ติดต่อพวกเขาไปแล้ว  นายไม่ต้องกังวล"

ห้าวันต่อมา ที่โรงแรมโรงแรมห่าวไท่

ฉู่เสวียนถอนหายใจออกมาหลังจากที่เขาได้ดูดซับลูกปัดโลหิตเสร็จแล้ว

ยังมีลูกปัดโลหิตขนาดใหญ่เหลือในมือของเขาอีกเก้าเม็ด

ส่วนที่เหลือได้ถูกเขาดูดซับเข้าไปหมดแล้ว

เขารู้สึกเล็กน้อยว่าจุดชี่ไห่(ทะเลปราณ)ของเขาเริ่มขยายออกกว่าเดิม เมื่อเขารู้สึกแบบนั้น เขาก็หยุดดูดซับลูกปัดเลือดทันที

จุดชี่ไห่เป็นที่ซึ่งกักเก็บพลังลมปราณของผู้บ่มเพาะเอาไว้ ซึ่งอยู่ที่บริเวณใต้สะดือ

“หือ? เสียงเคลือนไหวอะไรบางอย่าง?”

ทันใดนั้นฉู่เสวียนก็ได้ยินเสียงดังมาจากอ่างอาบน้ำ  เขาจึงรีบเดินเข้าไปดูอย่างรวดเร็ว

ก็เห็นว่ามีศพขนาดใหญ่คลานออกมาจากอ่างอาบน้ำ

หลังจากดูดซับของเหลวกลั่นศพไปจนหมดสองอ่างแล้ว ร่างกายของเขาก็พองขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

เขาสูงเกือบ 2.5 เมตร

มีกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย และเห็นเส้นเลือดสีดำปูดนูนขึ้นมา

ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก เขากลายเป็นผู้ชายมีกล้ามไปในทันที

เกราะกระดูกสีขาวที่แข็งแกร่งงอกขึ้นที่หน้าอก หลัง และข้อต่อทั้งหมดของร่างนี้

และสิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือเขาถือเกราะป้องกันกระดูกในมือซ้าย และปืนกระดูกในมือขวา

พื้นผิวของโล่กระดูกและปืนกระดูกมีประกายแสงออกมา แค่ดูด้วยตาก็รู้ว่าไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!

ฉู่เสวียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ศพหยินนี้เกิดมาพร้อมกับอาวุธวิเศษ!

“โค้กกก!”

ทันทีที่ศพหยินปรากฏขึ้น มันก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและส่งเสียงคำรามออกมา

ดูเหมือนว่ามันกำลังดีใจและเฉลิมฉลองที่ได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง

เมื่อได้ยินเสียงคำรามนี้ศพหยินที่อยู่รอบๆ ที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อไม่นานมานี้ต่างก็หวาดกลัวจนตัวสั่น และพวกมันคุกเขาลงกับพื้น ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง

ต้าหวงและเอ๋อร์ฮวงตกใจมากจนปัสสาวะไม่ออก

มีเพียงเสี่ยวหู่และเสี่ยวเป้าเท่านั้นที่สามารถต้านทานออร่าอันทรงพลังนี้ได้

ฉู่เสวียนที่ยืนอยู่หน้าศพหยินตัวนี้ก็ได้จ้องมองไปที่มันอย่างไม่แยแส

ศพหยินก็จ้องมองมาที่เขาเช่นกัน

หลังจากมองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง มันก็คุกเข่าลงด้วยความเคารพและปล่อยเสียงคำรามออกมาต่ำๆ

เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อเจ้านายของมัน

เมื่อเห็นแบบนั้น ฉู่เสวียนจึงเอาศพหยินเข้าไปในหอคอยเลี้ยงศพ

เมื่อแสงสีดำตกลงบนร่างของศพหยิน ก็เริ่มทำการประเมินระดับของมันทันที

“คุณสมบัติสูง! พลทหารศพขั้นที่ 7!”

ดวงตาของฉู่เสวียนเป็นประกายขึ้นมาทันที

คุณสมบัติของศพหยินตัวนี้สูงเกินความคาดหมายของเขามาก เขาอยู่ในระดับสูงตั้งแต่เกิด

ระดับของมันเป็นถึงพลทหารศพขั้นที่ 7  ซึ่งเทียบเท่ากับผู้บำเพ็ญช่วงกลั่นลมปราณขั้นที่ 7โดยตรง!

“แสดงให้ข้าดูหน่อยสิว่าเจ้ามีวิชาอะไรบ้าง”

ฉู่เสวียนใช้เทคนิคการระบุตัวตนอีกครั้ง

วิชาอาคมสวรรค์: เทคนิคแสงสีทอง , เทคนิคพลังศักดิ์สิทธิ์ , เทคนิคคำรามกระชากวิญญาณ

เขาเลิกคิ้ว

เสี่ยวหู่เองก็มีเทคนิคแสงสีทอง  ซึ่งเป็นเทคนิคเพิ่มการป้องกัน

ส่วนเทคนิคพลังศักดิ์สิทธิ์นั้นก็เป็นเทคนิคที่เสริมความแข็งแกร่งทางด้านร่างกาย

แต่เทคนิคคำรามกระชากวิญญาณนี้ทำให้เขาประหลาดใจจริงๆ

เพราะเทคนิคนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในวิชาที่ดีที่สุดในบรรดาวิชาอาคมสวรรค์ที่ศพหยินมีมาตั้งแต่กำเนิด

ตราบใดที่มันคำรามออกมา วิญญาณของศัตรูที่อยู่รอบตัวก็จะถูกโจมตีอย่างแรง

อย่างไรก็ตาม หากศพหยินตัวอื่นๆได้ยินเสียงคำรามนี้  ความปรารถนาที่จะโจมตีศัตรูของพวกมันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ศพหยินที่มีเทคนิคคำรามกระชากวิญญาณเช่นนี้ จะต้องเป็นผู้นำของศพหยินตัวอื่นๆอย่างแน่นอน

ตราบใดที่ผู้นำศพหยินเช่นนี้ยังมีชีวิตอยู่  มันก็จะกระตุ้นศพหยินที่อยู่รอบๆ ให้มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้หลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง จนกว่าพวกมันจะตายลงไป!

"เอาล่ะ ดีมาก!"

ฉู่เสวียนกล่าวชมเชยออกมาไม่หยุด พลางมองดูศพในหอเลี้ยงศพด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโล่งใจ

“ถึงเวลาตั้งชื่อให้เจ้าแล้ว ควรชื่อว่าอะไรดี”

“เมื่อก่อนเจ้าชื่อจ้าวหง”

“จ้าว หมายถึง ผู้นำของตระกูลนับร้อย หง แปลว่า กว้างใหญ่และมีอำนาจ ถ้าอย่างนั้นข้าจะเรียกเจ้าว่าเสี่ยวหลงก็แล้วกัน!”

ฉู่เสวียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ สิ่งที่เขามุ่งเน้นคือชื่อของศพหยินแต่ละตัวจะต้องไม่ธรรมดา และจะต้องมีความหมายที่ไม่ธรรมดาด้วย

นอกจากนี้ เมื่อมีชื่อที่แปลว่ามังกร เสือ และเสือดาวอยู่ด้วยกัน  มันก็จะให้ความรู้สึกที่สง่างาม

“โค้กก!”

เสี่ยวหลงคำรามออกมา  แม้ว่าเขาจะเสียใจเล็กน้อยที่ไม่ได้ใช้ชื่อเดิม แต่ก็ยังดีที่ได้ชื่อนี้

ต่อให้ไม่เห็นด้วย แล้วจะทำอะไรได้ล่ะ?

“เสี่ยวหลง เสี่ยวหู่ พวกเจ้าออกไปล่าซอมบี้ได้ แต่เสี่ยวหู่เจ้าต้องสอนกฎให้เสี่ยวหลงด้วย ว่าอะไรทำได้ และอะไรที่ทำไม่ได้”ฉู่เสวียนสั่งการออกมา

“โฮ่ โฮ่”

เสี่ยวหลงและเสี่ยวหู่ตอบรับ จากนั้นก็กระโดดไปสองสามครั้ง  และหายตัวออกไปท่ามกลางอาคารสูง

ต่อมา ฉู่เสวียนก็ได้เอาเสี่ยวเป้าและศพหยินทั้งหกเข้าไปเก็บในหอเลี้ยงศพ

พลังปราณที่หมุนเวียนอยู่ในหอเลี้ยงศพนั้นถือเป็นยาบำรุงชั้นดีสำหรับศพหยิน

ศพหยินไม่เพียงต้องการเลือดเนื้อเป็นอาหารเท่านั้น แต่ยังต้องได้รับพลังปราณจำนวนมากอีกด้วย

เมื่อเก็บศพหยินเสร็จแล้ว ฉู่เสวียนก็ฝึกฝนต่อไป

เขาวางแผนที่จะยกระดับเขตแดนของตนเองไปขั้นที่ 9 ของช่วงกลั่นลมปราณในครั้งเดียว  ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงสร้างรากฐานอย่างเป็นทางการ

ด้วยการที่มีลูกปัดโลหิตจำนวนมาก และมีศพหยินอยู่ภายใต้การบัญชาของเขา อีกทั้งเส้นลวดโลหิตก็มีความแข็งแกร่งขึ้นมากว่าเดิมหลังจากที่มันได้เข้าสู่ช่วงการเป็นดักแด้อยู่ในรังไหมเป็นครั้งที่สอง เขาจะต้องสามารถทะลวงไปสู่ช่วงสร้างรากฐานได้อย่างแน่นอน

เพราะในตอนนี้  ผู้บำเพ็ญธรรมดาที่อยู่ในช่วงกลั่นลมปราณก็ไม่ต่างอะไรจากปลาซิวปลาสร้อยในสายตาของเขา

หลังจากกลับไปยังทวีปชางเสวียน  สิ่งที่เขาต้องทำเป็นอันดับแรกคือมองหาสมุนไพรวิญญาณและน้ำอมฤต เมื่อมีทรัพยากรเพียงพอ เขาก็จะสามารถเข้าสู่ช่วงสร้างรากฐานได้!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด