ตอนที่แล้วChapter 296 : กองหนุนจากกองทัพขั้วโลกมาถึงเมืองบาดาลแล้ว (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 298 : ถูกไล่ล่า – ตำแหน่งที่แน่นอนของค่ายกลสุริยันผลาญชีพ (1)

Chapter 297 : กองหนุนจากกองทัพขั้วโลกมาถึงเมืองบาดาลแล้ว (3) (ฟรี)


ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลจากชายชราผู้นี้อีกด้วย

“อยู่ตรงนี้แหละ” ชายชราเอ่ยเสียงเนิบช้าและพลันเหยียดมือออกมาทางเรือของพวกเขา

ลู่ผิงเจียงรู้อยู่แล้วว่าชายชรานั้นน่าสะพรึงเพียงใดเขาจึงตะโกนออกมาทันที

“อย่าให้เขาไล่ทัน เพิ่มความเร็วเดี๋ยวนี้!” หลังจากกล่าวจบเขาก็รีบนำหอกยาวออกมาจากอุปกรณ์เก็บของและเริ่มเข้าห้ำหั่นกับชายชราในทันที

หากแต่ตัวเขานั้นเคยประสบพานพบบทเรียนมาจากการต่อสู้เมื่อครั้งเทือกเขามังกรมาแล้วดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเข้าไปสู้กับอีกฝ่ายในระยะประชิดหากแต่เลือกสู้ในระยะปลอดภัยแทนเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ชายชราเข้ามาใกล้เรือได้

จี้รู่เยว่เอ่ยกระซิบ “ในตัวของชายผู้นั้นมีพลังที่น่าสนใจยิ่งอยู่ด้วย มันควรจะมาจากเจ้าผู้ปกครองห้วงลึกแห่งมหาสมุทรนั่นแหละ ถ้าถูกสัมผัสเข้ามันก็จะเริ่มดูดกลืนชีวิตทันที”

“ถ้างั้นจะรับมือยังไง?” หัวใจของหลินเซวียนบีบรัดแน่นขึ้นมา

“ข้าสามารถใช้ปราณจิตวิญญาณสะกดความเสียหายนี้ได้หากแต่พวกเจ้านั้น...ไม่อาจต้านทาน ยังไงเสียมันก็เป็นพลังระดับสูงล้ำยิ่ง” จี้รู่เยว่ส่ายหัว

“ใช้วิธีการโจมตีระยะไกลคงดีที่สุดแล้ว”

“เข้าใจล่ะ”

ลู่ผิงเจียงสู้กับชายชราเพื่อซื้อเวลาทำให้เรือสามารถเทียบท่าได้สำเร็จหลังจากนั้นเหล่านักสู้ก็พากันกระโดดลงจากเรือและเข้าร่วมการต่อสู้

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของกองพลก่อสร้างบนเกาะที่ถูกล้อมและกำลังต่อสู้อย่างหนักหน่วงก็พลันรู้สึกเบาใจขึ้นมา

“กำลังเสริมมาแล้ว!”

“ฆ่า! ฆ่าไอ้พวกปิศาจต่างชาติพวกนี้ให้หมด!”

“ฉันรู้อยู่แล้วล่ะว่าองค์กรยังไงก็ไม่มีทางทิ้งพวกเรา!”

ขวัญกำลังใจของกองพลก่อสร้างเพิ่มขึ้นอย่างมหาศัลและพวกเขายังสามารถสังหารคนไปได้อีกหลายคนในเวลาเพียงสั้นๆ

ลู่ผิงไห่กวาดตามองรอบๆแต่กลับไม่เห็นนักสู้ขอบเขตที่9คนอื่นๆขององค์กรผู้กู้โลกเลย

“นักสู้ขอบเขตที่9ขององค์กรผู้กู้โลกน่าจะเข้าไปในแดนลับแล้ว พวกเราเองก็ไปกันเถอะ”

เซี่ยงเฉียนหยานพยักหน้ารับคำและตามไปทันที

คนทั้งสองล่วงเข้าสู่แดนลับเมืองบาดาล

นักสู้ขอบเขตที่9นั้นมีเพียงขอบเขตที่9ด้วยกันเท่านั้นที่สามารถรับมือได้ สิ่งนี้คือกฏเหล็กและมีเพียงน้อยคนเท่านั้นที่สามารถก้าวข้ามมันได้

พวกเขาต้องตามหานักสู้ขอบเขตที่9ขององค์กรผู้กู้โลกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และหยุดพวกเขาเอาไว้ให้ได้

มีเพียงเมื่อทั้งสองฝ่ายจากไปแล้วเท่านั้นเหล่านักสู้ขอบเขตที่8ถึงจะได้โอกาสแสดงฝีมือ

หลินเซวียนใช้สกิลร่างจุติของเขาเพื่อสร้างร่างแยกของดาบพิษออกมาในทันทีก่อนจะจัดแจงให้เขาสวมใส่อุปกรณ์สวมใส่และเข้าร่วมการต่อสู้

ในเวลาเดียวกันร่างแยกอื่นๆของเขาเช่นโล่วิญญาณ ระเบิดเพลิง พี่นมและคนอื่นๆเองก็ล้วนเล่นตามบทบาทที่ตัวเองได้รับอยู่ตามจุดต่างๆ

จี้รู่เยว่คว้าร่างของเขาเอาไว้ “ไปกันเถอะ เจ้าสิ่งนั้นอยู่ด้านในและข้าก็อยากจะฟัดกับมันเต็มแก่แล้ว”

เธอสะบัดมือส่งร่างของนักสู้จากกองทัพขององค์กรผู้กู้โลกปลิวกระเด็นออกไปด้วยคลื่นลมรุนแรง

เส้นทางเบื้องหน้าสำหรับพวกเขาทั้งสองคนสู่ประตูแสงเปิดกว้างแล้ว

ด้วยความช่วยเหลือจากจี้รู่เยว่ หลินเซวียนจึงสามารถมุ่งหน้าตรงไปยังประตูแสงได้อย่างง่ายดาย

สภาพแวดล้อมรอบกายของเขาเริ่มเปลี่ยนไปอย่างมหาศาลและเขาพลันรู้สึกเปียกชื้นขึ้นมาที่บริเวณเท้า

หลินเซวียนก้มหน้าลงมองและพบว่าบริเวณเท้าของเขานั้นเป็นน้ำทะเลที่ทั้งเปียกแฉะและเค็มชื้นแถมรอบกายยังเป็นชายหาดสุดลูกหูลูกตาอีกด้วย

เบื้องหน้าของเขาคือมหาสมุทรกว้างขวางไร้ขอบเขต!

เมืองบาดาลเองก็ตั้งอยู่ในเขตทะเลนี้เอง

ครึ่งหนึ่งของเมืองนั้นตั้งอยู่เหนือน้ำทะเลและอีกครึ่งนั้นจมอยู่ใต้ทะเลสมกับชื่อเมืองบาดาลโดยแท้

บริเวณชายหาดในเวลานี้อบอวลคับคั่งไปด้วยเสียงตะโกนโหวกเหวกและการสังหาร

บริเวณหาดทรายเจิ่งนองไปด้วยเลือด ซากศพและเปลวเพลิงอยู่ทุกหนแห่ง

ศพเหล่านั้นมีทั้งศพมนุษย์และศพของอสูร

หลินเซวียนยังพบอีกด้วยว่าศพของอสูรบางตัวนั้นใหญ่โตอย่างผิดปกติประหนึ่งอสูรทะเลที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ส่วนลึกของใต้ทะเลนั้นจู่ๆก็โดนพัดมาเกยตื้นก็ไม่ปาน

“เป็นที่นี่เองรึ...” จี้รู่เยว่ชะงักไป

“ข้าเคยเห็นนภาและผืนนทีนี้มาก่อนแต่มันกลับให้ความรู้สึกแปลกไปบ้าง”

“คุณเคยเห็นมาก่อน?” หลินเซวียนชะงัก

“ดั่งที่ข้าเคยเล่าให้ฟังว่ามันมีประเทศของมนุษย์ปุถุชนที่ชื่อว่าต้นกกอยู่ทางตะวันออกของราชวังคุนหลุนและวิหารมังกรสวรรค์และไกลออกไปอีกทางตะวันออกของประเทศต้นกกนี้ก็คือมหาสมุทรที่ถูกเรียกกับว่าทะเลไร้ขอบเขต หากแต่แดนลับนี้ดูเหมือนจะผสมผสานเข้ากับสิ่งแปลกประหลาดบางอย่างซึ่งข้าเองก็บอกไม่ได้เหมือนกัน”

จี้รู่เยว่ขบคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยต่อ “หากแต่ข้ารู้กฎของทะเลไร้ขอบเขตดีดังนั้นจงจดจำสิ่งที่ข้ากล่าวเอาไว้”

“หนึ่งจงตามหาไข่มุกสีชมพูบนชายหาดให้เร็วที่สุดเพราะเจ้าสามารถใช้มันเพื่อหายใจใต้น้ำและสลายแรงดันน้ำได้”

“สองคือในทะเลไร้ขอบเขตนั้นเต็มไปด้วยอสูรทะเลน่าสะพรึงมากมายและพวกมันไวต่อเสียงยิ่ง ถ้ามีอสูรทะเลตัวใดเข้ามาใกล้ก็จงอย่าได้ส่งเสียงดัง”

“สามคือข้าจะไปหาเจ้าสิ่งนั้นดังนั้นเจ้าต้องดูแลตัวเองแต่ข้าคิดว่าตัวความแข็งแกร่งของเจ้าแล้วเจ้าคงมิตายที่นี่หรอก” หลังจากจี้รู่เยว่กล่าวจบเธอก็หายตัวไปทันทีทิ้งให้หลินเซวียนยืนปั้นหน้าไม่ถูกอยู่เพียงลำพัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด