บทที่ 824: คืนดาบให้ฉัน!
[-แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ-]
[-Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอนแต่จะราคาแพงที่สุด-]
[-หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ-]
บทที่ 824: คืนดาบให้ฉัน!
"อ้อ ฉันเอง ถ้าเธอไม่ได้มาถามทาง แสดงว่าคงมาหาเรื่องสินะ?"
เรื่องแบบนี้เขาเจอมาเยอะแล้ว นักล่าค่าหัวไม่ใช่เรื่องยาก ใครๆก็เป็นได้ถ้ากล้าพอ
แต่เทียบกับพวกที่เอาเป็นเอาตายเพื่อเงินแล้ว พื้นฐานของโซโลนั้นแน่นกว่าเยอะ การฝึกฝนหลายปีส่งผลให้เขาโด่งดังไปทั่วทะเลอีสต์บลูอย่างรวดเร็ว
ถ้าโจรสลัดในโลกใหม่ต้องการท้าทายจักรพรรดิเพื่อสร้างชื่อ ในทะเลอีสต์บลู โซโลก็กลายเป็นเป้าหมายที่คนอื่นอยากท้าทายและดึงตัวไปร่วมกลุ่ม
ด้วยวัยเพียงสิบหก เขากำลังอยู่ในช่วงวัยคะนอง มุทะลุ เมื่อยืนยันว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรู การต่อสู้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่ว่าหญิงหรือชาย ถ้าเป็นศัตรู เขาก็จะสู้จนถึงที่สุด แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าต้องสู้กับผู้หญิง เขาจะใช้สันดาบ ตอนนี้เขาถือดาบวาโด อิจิมอนจิกลับด้านแล้ว
"หาเรื่อง? สำหรับคุณนั่นอาจจะใช่ แต่สำหรับฉัน ฉันแค่ต้องการรู้บางอย่างมากกว่า ว่าแต่ ฉันเคยได้ยินว่าคุณเป็นนักดาบสามเล่ม แล้วทำไมถึงพกดาบมาแค่เล่มเดียวล่ะคะ?"
โรบินไม่ได้บอกว่าตอนนี้เธอเกี่ยวข้องกับบาร็อคเวิร์ค ครอกโคไดล์คนเดียวไม่คู่ควรให้เธอทุ่มสุดตัว แม่ ญาติผู้ใหญ่ และเพื่อนๆของเธออยู่ที่วาโนะคุนิ เธอมีที่ของตัวเองแล้ว
ตอนนี้สิ่งที่เธอทำ ก็แค่สืบหาประวัติศาสตร์ลึกลับเท่านั้น
เรื่องเล็กๆน้อยๆไม่สำคัญเท่าจำนวนดาบของอีกฝ่าย
"พังไปแล้ว ฉันไม่มีเงินซื้อใหม่น่ะ"
โซโลก็เป็นพวกใช้เงินเดือนชนเดือนจริงๆ แล้วที่ถูกคือเขาไม่มีเงินเดือนด้วยซ้ำ
เขาไม่ปล้นโดยตรง ของที่ได้จากการต่อสู้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ได้ ซื้อดาบดีๆสักสองเล่มที่คล้ายกันมาใช้เป็นความฝันของเขาเสมอ
ตอนนี้เขาเป็นนักล่าค่าหัว แต่ในทะเลอีสต์บลู คนที่มีค่าหัวเกินสิบล้านเบรีนั้นหายาก การจะรวยทางลัดนั้นเป็นไปไม่ได้
ถึงเขาจะจับนักโทษได้ค่าหัวบ้าง แต่พอหักค่าใช้จ่ายแล้วก็แทบไม่เหลืออะไรเลย ดาบซามูไรธรรมดาๆก็ราคาห้าหมื่นเบรีแล้ว ตอนนี้เขาไม่มีเงินขนาดนั้นจริงๆ
รูปแบบการต่อสู้ของเขาค่อนข้างรุนแรง อาวุธทั่วไปรับไม่ไหว เขาไม่ใช้ฮาคิ ดาบธรรมดามักจะหักเป็นท่อนๆในเวลาไม่นาน
แม้แต่ดาบวาโด อิจิมอนจิที่โคชิโร่ตีขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งใน 21 ดาบชั้นยอด ก็ยังได้รับความเสียหายจากการต่อสู้อย่างหนักหน่วงเช่นนี้
"อืม...จริงๆแล้วฉันก็ไม่อยากเสียเวลาคุณมากนักหรอกนะคะ แต่ว่าช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหม? คุณหลบการตามหาของฉันได้ยังไง? แล้วก็ยังอ้อมมาข้างหลังฉันได้อีก"
"เธอพูดอะไรน่ะ? ฉันเคยทำเรื่องแบบนั้นเมื่อไหร่?"
"ถ้าคุณพูดความจริง ฉันจะให้เงินคุณไปซื้อดาบที่เหมาะมือนะ"
"ถึงเธอจะพูดอย่างนั้น...ฉันก็ไม่เคยทำเรื่องแบบนั้น แต่เธออุตส่าห์ตามหาฉันขนาดนี้ เธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?"
"ก็บอกคุณไปตั้งนานแล้วไง ว่าอยากรู้เรื่องบางอย่าง ดูเหมือนคุณไม่ค่อยอยากร่วมมือกับฉันนะ"
ความคิดของทั้งสองคนไม่เคยอยู่ในระดับเดียวกัน โรบินในตอนนี้ไม่อยากจะเชื่อว่า ความหลงทางของมนุษย์จะไปถึงขั้นนั้นได้ เธอคิดว่าอีกฝ่ายมีทักษะในการต่อต้านการสืบสวนที่ยอดเยี่ยม
ในขณะที่โซโลมองว่า นี่เป็นผู้หญิงบ้าที่พูดจาไม่รู้เรื่อง เขาอยากจะจัดการเธอแล้วรีบออกไปจากที่นี่
"เพลงดาบหนึ่ง... อึก.."
แต่เขายังไม่ทันได้ลงมือ แขนหลายข้างก็งอกออกมาจากร่างกายของเขา แล้วจับเขากดลงกับพื้น วาโด อิจิมอนจิ ก็ถูกแขนที่งอกออกมาจากพื้นส่งไปยังมือของโรบิน
"ดูเหมือนจะเป็นดาบชั้นยอดนะ ไม่แปลกใจเลยที่มันอยู่ในมือของคุณตลอด"
โรบินที่ฝึกฝนร่างกายในวาโนะคุนิและต่อสู้ในแกรนด์ไลน์มาเป็นเวลานาน ไม่ใช่คนที่โซโลซึ่งยังอ่อนประสบการณ์จะเทียบได้ แรงกดจากแขนหลายข้างทำให้เขาไม่สามารถดิ้นหลุดได้ และเธอก็ใช้โอกาสนี้ยืนยันคุณภาพของดาบเล่มนี้
"บ้าเอ๊ย! ยัยผู้หญิงนี่คิดจะทำอะไร?! เอามันคืนมานะ!"
"ใจเย็นๆ ฉันจะคืนมันให้คุณ ทางตะวันออกประมาณ 5 กิโลเมตรมีเมืองเล็กๆอยู่ ฉันจะรอคุณอยู่ที่นั่น ถ้าคุณรีบไปที่นั่นให้เร็วที่สุด ฉันจะคืนมันให้ ตอนนี้ ขอให้คุณนอนพักสักครู่ก่อนนะ"
แขนที่เกิดจากพลังของผลปีศาจฟันเข้าที่ต้นคออย่างแม่นยำ ทำให้โซโลหมดสติไปชั่วคราว
"เจ้ากิ้งก่าน้อย ฉันจะไปรอที่เมืองก่อน เธอพาโรตอมไปจับตาดูเขา ดูว่าเขาทำได้ยังไง เข้าใจไหม?"
"ก้า~"
ในเมื่ออีกฝ่ายไม่พูดความจริง ก็ต้องบังคับเขาเล็กน้อย โรบินตัดสินจากการที่โซโลตั้งใจจะใช้สันดาบต่อสู้ ว่าเขาเป็นนักดาบที่ยึดมั่นในวิถีดั้งเดิม และนักดาบประเภทนี้มักจะให้ความสำคัญกับดาบของตัวเอง โดยเฉพาะดาบชั้นยอด
เธอไม่เชื่อว่า เมื่อดาบถูกพรากไป อีกฝ่ายจะยังคงปิดบังความสามารถของตัวเอง เธอได้บอกตำแหน่งคร่าวๆของเมือง แต่ถ้าอยากจะไปถึงที่นั่น ก็ต้องตามรอยที่เธอทิ้งไว้ ไม่งั้นก็หลงทางได้ง่ายๆ
หลังจากทิ้งกิ้งก่าน้อยไว้เฝ้าดู โรบินก็ออกเดินทางไปก่อน
......
ไม่นานนัก โซโลที่ฟื้นขึ้นมาก็ทุบพื้นด้วยความโกรธ ก่อนจะพุ่งตัวไปทางทิศตะวันตก ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ยอมเสียดาบเล่มนั้นไป
ความโกรธทำให้เขาถึงกับลืม "แม่มด" ที่สามารถเรียกแขนออกมาได้ชั่วคราว
"?"
หลังจากโซโลจากไป กิ้งก่าน้อยที่ล่องหนอยู่ก็มีเครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นบนใบหน้า มันไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงเดินไปทางทิศตะวันตกโดยไม่หันกลับมามอง
จนกระทั่งตะวันตกดิน โซโลก็ยังไม่พบเมืองเล็กๆนั้น และกิ้งก่าน้อยก็โทรหาโรบินด้วย
จนถึงตอนนี้ โรบินถึงได้เข้าใจความจริง นี่ไม่ใช่คนที่มีความสามารถในการต่อต้านการสืบสวนที่โดดเด่น แต่เป็นคนแปลกหน้าที่ไม่มีความรู้สึกของทิศทางโดยสิ้นเชิง
ปกติแล้ว เขาสามารถไปถึงบริเวณใกล้เคียงได้ภายในหนึ่งชั่วโมง ด้วยร่างกายของเขา เพียงไม่กี่นาทีก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่โซโลกลับใช้เวลาจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นกว่าจะพบโรบิน และยังใช้วิธีพิเศษแบบ "มัดขา" อีกด้วย
ระหว่างทางไปทางทิศตะวันตก เขาได้พบกับจอห์นนี่และโจเซฟ นักล่าค่าหัวสองคนที่ชื่นชมเขาและมองว่าเขาเป็นพี่ใหญ่ พวกเขาออกล่าโจรภูเขาแถวนี้และตั้งรกรากอยู่ที่นี่มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่าเมืองที่โรบินพูดถึงอยู่ที่ไหน และนำทางโซโลมาที่นี่
แต่ถึงแม้พวกเขาจะนำทางทีละคน โซโลก็ยังคงเดินออกนอกเส้นทางโดยไม่รู้ตัว จนพวกเขาต้องใช้วิธีการเคลื่อนไหวแบบพิเศษนี้
"ยัยผู้หญิง! ออกมาเดี๋ยวนี้! แอบอยู่ที่ที่หายากแบบนี้ เธอต้องการอะไรกันแน่?!"
โซโลที่อยู่หน้าเมืองเล็กๆแก้มัดเชือกที่เท้าออก แล้วตะโกนเข้าไปในเมืองด้วยความโกรธ ทำให้ผู้คนแถวนั้นหันมามองเขา
เมื่อมองไปที่ถนนตรงทางเข้าเมืองที่ทอดยาวไปยังโลกภายนอก พวกเขาไม่เข้าใจว่าผู้ชายคนนี้เจอเรื่องอะไรมากระทั่งต้องมาตามหาผู้หญิงแต่เช้าตรู่แบบนี้