บทที่ 32 ไม่รักษากฎ เล่นทีเผลอ!
บทที่ 32 ไม่รักษากฎ เล่นทีเผลอ!
“เจ้า...” จงซื่อชางกำลังจะเรียกสายฟ้าฟาดใส่คน แต่ในชั่วพริบตาเขาก็สูญเสียเป้าหมายไป
ไม่ใช่เพราะจ้าวซิงวิ่งเร็ว แต่เป็นเพราะรอบตัวเขามีตุ๊กตาหญ้าจำนวนมากผุดขึ้นจากพื้นดิน
ตุ๊กตาหญ้าสีเหลืองนั้นกลมกลืนไปกับสีของพื้นดิน แถมจ้าวซิงยังกลบด้วยทรายอีก ทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็นได้เลย!
เจ้าหมอนี่ถึงกับฝังตุ๊กตาหญ้าในดินเล่นเป็นนินจาปีศาจ!
“สานตุ๊กตาหญ้ามากมายไว้มีประโยชน์อะไร? หึ คาถาตุ๊กตาหญ้าก็แค่ของเล่นขี้ประติ๋วเท่านั้น!”
“ข้าทำลายมันได้ง่ายๆ เลย!”
จงซื่อชางเรียกสายฟ้าโจมตี
“เปรี้ยง!”
สายฟ้าฟาดลงจากกลุ่มเมฆอย่างแม่นยำตรงเข้าหาตุ๊กตาหญ้า
แต่ผลที่ได้กลับทำให้จงซื่อชางตกตะลึง!
เขาพบว่าตุ๊กตาหญ้าสีทองนี้เพียงแค่มีรอยไหม้สีดำบนหน้าอก แต่ไม่ได้เกิดควันหรือไฟลุกอย่างที่คิด
“เกิดอะไรขึ้น? ตุ๊กตาหญ้ายังต้านทานสายฟ้าได้งั้นหรือ?”
จงซื่อชางรู้สึกเหลือเชื่อ
เขาไม่ถนัดคาถาตุ๊กตาหญ้าและดูถูกคาถานี้มาตลอด คิดว่าการถักทอคาถานี้มันยุ่งยากและซับซ้อน จงซื่อชางไม่มีวันทำงานละเอียดแบบผู้หญิงได้
ใครจะคิดว่าตุ๊กตาหญ้าของจ้าวซิงนั้นแตกต่างจากที่เขาเคยเห็นอย่างสิ้นเชิง!
“เปรี้ยง! เปรี้ยง!”
อีกหลายสายฟ้าฟาดลงมา จงซื่อชางต้องใช้แรงมากกว่าจะจัดการตุ๊กตาหญ้าได้เพียงตัวเดียว
“เจ้าจะเรียกสายฟ้าได้อีกกี่ครั้งกัน?” จ้าวซิงยืนหลบอยู่หลังตุ๊กตาหญ้า มองจงซื่อชางด้วยท่าทางยิ้มเยาะ
ตุ๊กตาหญ้าที่เขาวางไว้ขอบเขตดินเพื่อคอยเตือนภัยนี้ถูกสร้างอย่างลวกๆ และยังไม่ได้ถึงระดับหนึ่งด้วยซ้ำ
ส่วนหุ่นมหาพลัง 20 ตัวที่เพิ่งโผล่มาจากป่าไผ่ต่างหากคือผู้คุ้มกันตัวจริง
“จัดหนักให้จงซื่อชางหน่อย”
หุ่นมหาพลังยี่สิบตัวพุ่งเข้ามารวมกัน
“อะไรนะ? ยังมีอีกมากขนาดนี้?!”
จงซื่อชางสะดุ้งตกใจ
ตุ๊กตาหญ้าที่ปรากฏขึ้นมาภายหลังเหล่านี้ชัดเจนว่าไม่ใช่ของอย่างเดียวกับพวกก่อนหน้า
แต่ละตัวเป็นสีทองอร่าม แตกต่างจากสีเหลืองแห้ง มีรูปร่างกำยำและดูมีชีวิตชีวา
จงซื่อชางเหลือบมองเห็นหุ่นมหาพลังกระโดดแต่ละครั้งได้ระยะทางถึงสามสี่เมตร นี่มันเป็นพลังการเคลื่อนไหวที่ตุ๊กตาหญ้าพึงมีงั้นหรือ?!
“เรียกสายลม!”
จงซื่อชางไม่สนใจการโจมตีแล้ว เขาต้องการหยุดหุ่นมหาพลังพวกนี้ให้ได้ก่อน
แม้จะเข้าสู่ระดับชั้นพลังที่สี่แล้ว มีพลังและกำลังมากมาย แต่ก็ไม่กล้าให้พวกตุ๊กตาหญ้าเหล่านี้ล้อมไว้ได้
ศิษย์ฟ้าดินมีความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดค่อนข้างอ่อนแอ อีกทั้งใครที่เล่นคาถาจะเหมือนนักสู้ที่บ้าบิ่นทุบตีใส่กันเล่า?
“วู้ว~”
กระแสลมตะวันตกที่รุนแรงพัดใส่หุ่นมหาพลัง
เทคนิคการควบคุมลมของจงซื่อชางยังถือว่าใช้ได้ พัดเอาเศษทรายและหินบนพื้นขึ้นมาโดยไม่ให้แรงลมเบนไปทางด้านล่างมากจนเกินไป
“ปัง! ปัง! ปัง!”
กรวดทรายกระแทกใส่ร่างกายของตุ๊กตาหญ้าจนเกิดเสียงโลหะกระทบกัน
มันหยุดตุ๊กตาหญ้าไว้ได้ชั่วขณะ แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่จงซื่อชางคาดไว้
กลับกัน ฝุ่นทรายปกคลุมจนบดบังทัศนวิสัยของตัวเอง ทำให้มองไม่เห็นว่ามีตุ๊กตาหญ้าสองตัวแอบย่องมาด้านหลังเขา
“ฟึบ ฟึบ ฟึบ…”
ในสายลมมีเสียงแปลกๆ แทรกออกมา
“เสียงอะไรนั่น?!” จงซื่อชางหันไปมองก็พบว่าบนพื้นมีเถาวัลย์สองเส้นเลื้อยคล้ายงู!
คาถา พืชพรรณเป็นทหาร – ตุ๊กตาหญ้าพันธนาการ!
ตุ๊กตาหญ้าพันธนาการที่สร้างจากเถาวัลย์ สามารถยืดเถาเพื่อพันธนาการศัตรู
“เพี๊ยะ!” เถาวัลย์เส้นหนึ่งฟาดลงบนแขนขวาของจงซื่อชาง แม้ว่าเขาจะหลบได้ แต่มันก็ทิ้งรอยสีแดงไว้บนมือขวา
“นี่มันตุ๊กตาหญ้าอะไรอีก?!” จงซื่อชางกระโดดถอยออกไป ยังไม่ทันได้คิด เถาวัลย์เส้นที่สองและสามก็ฟาดใส่อีก
หลบได้ครั้งสองครั้ง แต่สุดท้ายก็หลบไม่พ้นเถาวัลย์จำนวนมาก
แขนทั้งสองข้างของจงซื่อชางถูกเถาวัลย์พันธนาการ ดึงแน่นทั้งซ้ายและขวา
เขาไม่สามารถใช้คาถาได้ สายลมและสายฟ้าจึงจางหายไป
เขาพยายามดิ้นรนให้หลุดแต่กลับพบว่ามันไม่ได้ผล เถาวัลย์มีความเหนียวแน่นอย่างเหลือเชื่อ มีการเสริมความแข็งแกร่งถึงสามชั้น! ตุ๊กตาหญ้าพันธนาการหลุดได้ยากมาก
ชั่วพริบตาต่อมา ขาทั้งสองข้างก็ถูกเถาวัลย์พันและดึงออก
“อ๊ากกก...”
จงซื่อชางถูกบังคับให้ทำท่าฉีกขาดกลางอากาศเป็นเส้นตรง ก่อนจะทิ้งตัวลงไปกระแทกพื้นอย่างแรง
“ซี้ด~”
ความเจ็บปวดของชายชาตรีนั้น ใครรู้ก็รู้ดี จงซื่อชางเจ็บจนพูดอะไรไม่ออก
ในตอนนั้นเอง หุ่นมหาพลังก็พุ่งเข้ามา
ไม่พูดพร่ำทำเพลง ต่อยเข้าที่จงซื่อชางทันที
“ข้ายอมแพ้...”
ยังไม่ทันได้พูดจบก็ถูกซัดจนร่วง
“ข้ายอมแพ้!”
จงซื่อชางรีบตะโกนเสียงดัง กลัวว่าจ้าวซิงจะไม่ได้ยิน เขารู้ว่าตุ๊กตาหญ้าจะทำตามคำสั่งของผู้ใช้คาถา หากไม่เสร็จสิ้นเป้าหมายก็จะไม่หยุดลง
โชคดีที่หลังจากเขาล้มลง หุ่นมหาพลังก็หยุดนิ่ง
ฝุ่นทรายจางลง ตุ๊กตาหญ้าแยกย้าย เผยให้เห็นจ้าวซิงที่ยืนอยู่ด้วยท่าทางสบายๆ
“พี่จง ว่าไงบ้าง?”
“เจ้าไม่รักษากฎ เล่นทีเผลอใส่ข้า” จงซื่อชางทำท่าเรียบเฉย “ข้ายังมีคาถาลับอีกมากที่ไม่ได้ใช้ เพียงแค่พลาดท่าตอนเผลอเท่านั้น อีกอย่างเจ้าใช้ตุ๊กตาหญ้าแล้วจะถือว่ามีฝีมืออย่างไรได้ การต่อสู้ของศิษย์ฟ้าดินที่ไหนจะมาปะทะกันตรงๆ กันเล่า?”
คนล้มแต่ปากยังเก่ง จงซื่อชางถูกทิ้งให้นอนเหมือนโดนผ่ากระดูกกลางอากาศ แต่เขาก็ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้
จ้าวซิงจึงย้อนถามกลับไป “เจ้าเองที่บอกว่าไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ การใช้ตุ๊กตาหญ้าถือเป็นคาถาของสำนักเกษตรหรือไม่?”
“ข้า...” จงซื่อชางเถียงไม่ออก ถึงแม้เขาจะดูถูกคาถาตุ๊กตาหญ้าแค่ไหน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคงดูไร้ศักดิ์ศรีเกินไป
แปะ! จ้าวซิงดีดนิ้วให้ตุ๊กตาหญ้าปล่อยตัวจงซื่อชาง จากนั้นก็หันหลังกลับไปที่ดินแดนของตนเอง “พี่จงหากยังไม่พอใจ วันหลังค่อยมาสู้ใหม่ ข้ารอเจ้ามาทำลายคาถาตุ๊กตาหญ้าของข้าอยู่”
จงซื่อชางมองดูจ้าวซิงที่หันหลังกลับไป ทันใดนั้นก็ทนไม่ไหว หน้าไม่เรียบเฉยอีกต่อไป
เขาทำหน้ากระตุก ก่อนจะมองลงไปใต้เป้ากางเกงแล้วเอามือควานลงไป
“เฮ้อ โชคดีที่แค่ผิวหนังถลอก ไม่ส่งผลกระทบ ไม่เป็นไร...”
การประลองของจงซื่อชางกับจ้าวซิงนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและจบลงอย่างรวดเร็ว
บวกกับระหว่างการประลองมีฝุ่นทรายคลุ้ง คนที่มองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
“ตุ๊กตาหญ้าของเขาแข็งแกร่งขนาดนี้เชียว?” เหวินหนานซิงมองจากที่นั่งบนกำแพง “จงซื่อชางยังยืนไม่ครบสองยก ได้ใช้แค่สายฟ้าฟาดและเรียกลม สุดท้ายก็พ่ายแพ้ ดูท่าข้าคงต้องประเมินคาถาตุ๊กตาหญ้าเสียใหม่”
เหวินหนานซิงเองก็ละเลยคาถาตุ๊กตาหญ้า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สำนักก็เผยแพร่คาถาตุ๊กตาหญ้าน้อยลงเรื่อยๆ จากเดิมที่มีคาถาหลายสิบชนิดก็เหลือเพียงไม่กี่ชนิด
แต่เมื่อได้เห็นจ้าวซิงใช้คาถาตุ๊กตาหญ้า เหวินหนานซิงก็เปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับคาถาตุ๊กตาหญ้าไปอย่างมาก
“น่าสนใจทีเดียว เจ้าหมอนั่นก็เชี่ยวชาญคาถาตุ๊กตาหญ้าเช่นกัน” เซียวเจ๋อมีแววตาแปลกไป มองจ้าวซิงด้วยความสนใจมากขึ้น “หุ่นมหาพลังนั้นในคาถา 81 รูปแบบของเหลียงกล่าวถึงไว้ ข้าไม่คิดว่าเขาจะใช้ได้...หรือข้าจะลองไปขอคำชี้แนะดี?”
เซียวเจ๋อรู้สึกคันไม้คันมือ เขาเองก็ชอบใช้คาถาตุ๊กตาหญ้าอยู่ แต่อาจารย์ของเขาเองก็ไม่ได้เชี่ยวชาญมากนัก
เขาเรียนรู้มาเพียงไม่กี่แบบ แม้จะใช้เวลานานก็ยังเรียนรู้ได้เพียงสามแบบเท่านั้น
แต่พอได้เห็นก็ทนไม่ได้ อยากให้จ้าวซิงสอนให้เขาเสียเดี๋ยวนั้น
“ช่างเถอะ ไว้รอสอบเสร็จแล้วค่อยพูด” เซียวเจ๋ออดทนไว้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะกระตือรือร้นเช่นจงซื่อชาง สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการสอบฤดูใบไม้ร่วงเพื่อให้ได้คะแนนดีๆ
บนแท่นกรรมการ เกาหลี่หนงมองดูจงซื่อชางที่เดินกะโผลกกะเผลก สีหน้าไม่สู้ดีนัก
เพียงแค่เสี้ยววินาทีก่อนหน้านี้เขายังหัวเราะเยาะอยู่เลย รู้สึกว่าเหวินหนานซิงกับเซียวเจ๋อถูกจ้าวซิงแอบขโมยพลังไป
ไม่คิดว่าเสี้ยววินาทีต่อมาก็ถึงตาลูกศิษย์ของตนโดนซัด
ยิ่งกว่านั้นยังเกิดขึ้นต่อหน้าคนมากมาย ศิษย์เอกของตนเองยังสู้ตุ๊กตาหญ้าไม่ได้ มันช่างน่าอับอายจริงๆ ถังหว่านชุนปางหยวนสองคนนี้ไม่รู้จะดีใจขนาดไหน!
เกาหลี่หนงลอบชำเลืองไปดู ก็พบว่ามุมปากของเพื่อนร่วมงานทั้งสองคนยิ้มย่องยิ่งกว่าน้ำในล้อเกวียนเสียอีก