ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2 รายได้อันน้อยนิดกับชีวิตที่ยากลำบาก

บทที่ 1 ซานซิ่วหลัวเฉิน


เสียงฟ้าร้องดังสนั่นสะเทือนทั่วทั้งฟ้าดิน ทั่วเมืองต้าหอฝางเงียบลงในทันที

ภาพความวุ่นวายของผู้คนที่เหาะไปมาทั่วท้องฟ้า บัดนี้กลับดูบางตาไปมาก

เพราะไม่มีใครกล้ารับประกันว่าการบินอยู่บนท้องฟ้าจะไม่ทำให้โชคร้ายโดนฟ้าผ่าเข้า

หากเป็นเช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าถือเป็นการผ่านด่านฟ้าลงโทษล่วงหน้าหรือไม่

เมืองต้าหอฝางครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง มีเมืองชั้นในที่ถูกป้องกันด้วยค่ายกลสามชั้น

ค่ายกลนี้สามารถป้องกันการโจมตีของอสูรระดับสามลงมาได้

แม้ว่าอสูรระดับสามจะจู่โจมมาอย่างกะทันหัน แต่ค่ายกลก็สามารถต้านทานได้ชั่วคราว พอให้คนในเมืองตั้งตัวทัน

แน่นอนว่าการเปิดใช้ค่ายกลขนาดใหญ่ทุกวันเช่นนี้มีค่าใช้จ่ายมหาศาล ดังนั้นจึงครอบคลุมเฉพาะเมืองชั้นในเท่านั้น

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว บริเวณรอบเมืองที่เป็นที่อยู่ของเหล่าซานซิ่ว (เหล่าผู้บำเพ็ญเพียรอิสระ) ซึ่งกระจายตัวจากเมืองชั้นในออกไปก็ไม่ค่อยปลอดภัยนัก

ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีบ้านไม้เล็ก ๆ ที่ประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่นหนึ่งห้อง ห้องนอนหนึ่งห้อง และครัวหนึ่งห้อง ตั้งอยู่อย่างเงียบสงบใกล้ลำธาร โดยห่างจากที่อยู่อาศัยของซานซิ่วคนนึงที่ใกล้ที่สุดราวสองลี้

แม้ว่าภายนอกจะเงียบสงบ แต่ในครัวกลับคึกคักอย่างมาก

“หั่นมันเทศหนึ่งจิน ใส่ไปพร้อมกับหล่อฮังก๊วยสองเหลียง โสมที่ปลูกมาแล้วหนึ่งปีสามเหลียง”

“เนื้อวัวอสูรระดับหนึ่งหนึ่งจิน หั่นเป็นเนื้อสับ อย่าให้มีเศษกระดูกปน”

“ใส่ต้นหอม ขิง ข้าวเจ้า และเมล็ดยี่หร่า”

เสียงพูดเบา ๆ เหล่านี้ออกมาจากปากของชายหนุ่มที่ถอดเสื้อเปลือยอก เขากำลังจ้องมองหม้ออย่างตั้งใจ พลางหยิบวัตถุดิบจากชั้นไม้มาผสมลงไปในหม้ออย่างชำนาญ

ทัพพีในมือของเขาก็ถูกใช้ในการคนอาหารในหม้ออย่างเชี่ยวชาญ

เมื่อเทนํ้าซุปกระดูกวัวสีขาวลงไปเต็มหม้อ หลัวเฉินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เขากำลังเกลี่ยฟืนในเตาไฟออกมาบ้างเล็กน้อย ก่อนจะนั่งเงียบ ๆ รอให้อาหารเสร็จ

หนึ่งชั่วยามต่อมา ชายหนุ่มยกฝาหม้อขึ้น พลางสูดลมหายใจลึกเมื่อมองดูสิ่งที่อยู่ในหม้อ

“ดูจากสีสันนี้ เนียนขาวสดใส เป็นของชั้นเลิศ!”

“ดมกลิ่นนี้ กลมกล่อมไม่ไหม้ กลิ่นหอมชั้นเลิศ!”

หลัวเฉินเอานิ้วจิ้มที่ทัพพีแล้วลิ้มรสเพียงนิดเดียว

“พลังปราณในเนื้อวัวอสูรระดับหนึ่งทั้งห้าจิน ถูกกระจายอย่างสม่ำเสมอในยาพิ่กู่ซ่าน(ยาอดอาหาร)ด้วยการกระตุ้นของตังกุยและโสม”

“ดี รสชาติก็ยอดเยี่ยม เป็นของชั้นเลิศ!”

หลัวเฉินเลียมือของเขาด้วยความพึงพอใจ

ตามประสบการณ์ในช่วงหลายวันมานี้ ยาพิ่กู่ซ่านหม้อนี้สามารถทำยาเม็ดอดอาหารได้ถึงห้าขวดทีเดียว

ฟังดูน่าขำ แต่ความจริงหลัวเฉินกำลังปรุงยาทิพย์!

ยาทิพย์ที่เขากำลังทำคือยาเม็ดอดอาหารซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บำเพ็ญเพียร แม้ว่าจะเป็นเวอร์ชันราคาประหยัดและเรียกได้เพียงว่ายาพิ่กู่ซ่าน แต่ก็ยังมีประโยชน์อยู่มาก

หลัวเฉินไม่รอให้ยาหายร้อน ก่อนจะเทยาออกจากหม้อและวางลงบนเขียงไม้

เขาหยิบกระบอกไม้ไผ่เหลืองขึ้นมาแล้วเทยาที่เป็นครีมหนืด ๆ ลงไป จากนั้นจึงหยดน้ำผึ้งดอกไม้นานาพรรณลงไปเล็กน้อยแล้วเริ่มกลิ้งกระบอกไม้ไผ่

ในขณะที่กลิ้งไม้ไผ่ ยาพิ่กู่ซ่านก็เริ่มกลายเป็นรูปทรงกระบอกเล็ก ๆ สีของมันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนด้วยการผสมของน้ำผึ้ง

หลัวเฉินทำงานอย่างรวดเร็ว จนสามารถปั้นยาครีมให้เป็นเม็ดกลม ๆ ขนาดนิ้วหัวแม่มือ

หนึ่งเม็ด สองเม็ด สามเม็ด...

เมื่อหลัวเฉินหยุดทำงาน เขาพบว่ายาเม็ดอดอาหารห้าสิบเม็ดถูกจัดเรียงอย่างเรียบร้อยบนเขียง

เมื่อมองผลงานของตัวเอง หลัวเฉินยังไม่ทันได้ดีใจ ความสนใจก็ถูกถึงไปที่แผงควบคุมที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่มองเห็น

【ชื่อ: หลัวเฉิน】

【อายุขัย: 27/75】

【รากวิญญาณ: ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน】

【ระดับพลัง: ขั้นปราณก่อกำเนิด ชั้นที่ 3: 75/100】

【เคล็ดวิชา: เคล็ดวิชาชังชุนระดับเชี่ยวชาญ: 235/300】

【เวทมนตร์: คาถาชำระล้างระดับเริ่มต้น 49/100, คาถาพันธนาการระดับคล่องแคล่ว 176/200, คาถาลูกไฟระดับเชี่ยวชาญ 268/300】

【ทักษะ: นักปรุงยาขั้นที่ 1: ยาพิ่กู่ซ่านระดับปรมาจารย์ 501/1000】

【แต้มความสำเร็จ: 10 แต้ม (สามารถใช้ในการเรียนรู้เคล็ดวิชา เวทมนตร์ หรือทักษะในระดับเริ่มต้นได้)】

“ได้แต้มความสำเร็จสิบแต้มแล้ว สามารถใช้เริ่มเรียนรู้ยาเม็ดจงเหมี่ยวได้แล้ว!”

เมื่อมองแผงควบคุมที่แสดงระดับความเชี่ยวชาญนี้ หลัวเฉินรู้สึกตื้นตันใจขึ้นมา

เขามาอยู่ที่นี่หนึ่งปีเต็มแล้ว!

ก่อนหน้านี้เขาเป็นเพียงคนทำงานธรรมดาที่ออกจากบ้านแต่เช้าและกลับบ้านค่ำ พอมีเวลาว่างก็เล่นเกมมือถือแนวเซียนบำเพ็ญเพียร

เพราะไม่มีเงิน เกมเหล่านี้จึงต้องพึ่งการเล่นด้วยความอดทนมาก ๆ ค่อย ๆ สะสมแต้มเพื่ออัพเกรดเคล็ดวิชา

ใครจะรู้ว่าอยู่ ๆ ในคืนหนึ่งที่นอนไม่หลับ ขณะเล่นเกมไปอย่างเพลิดเพลิน เขากลับทะลุมิติมา!

เจ้าของร่างเดิมที่ชื่อหลัวเฉินนี้ ก็มีอายุเท่ากับเขา

เจ้าของร่างเดิมนี้เข้าป่าเขาลึกและพบเจอโชคใหญ่ในถ้ำแห่งหนึ่ง เมื่อพบซากศพของผู้บำเพ็ญเซียน จึงเริ่มเส้นทางบำเพ็ญเพียรมาเป็นเวลาสิบปี

เขาเดินตามแผนที่ ที่อยู่ในซากศพนั้นจนมาถึงเมืองต้าหอฝาง เพื่อเข้าร่วมการคัดเลือกศิษย์ของสำนักเซียนในบริเวณใกล้เคียง

แต่สิบปีก่อน เขาอายุสิบเจ็ดปีแล้ว ซึ่งเกินกำหนดการคัดเลือกศิษย์ที่จำกัดไว้ที่สิบหกปี

อีกทั้งเขายังมีรากวิญญาณห้าธาตุที่สมดุล ซึ่งไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดาที่ไม่มีรากวิญญาณเลย จึงไม่มีสำนักใดรับเขาเข้าไป

โดยปกติเขาควรจะกลับไปยังที่ที่เขาจากมา แต่ด้วยความมุ่งมั่นในการตามหาวิถีเซียน เขาอาศัยยาเม็ดหนึ่งขวด เคล็ดวิชาชังชุน และหินวิญญาณสองสามก้อนจึงตัดสินใจปักหลักอยู่ที่เมืองต้าหอฝางนี้

ในช่วงแรก เขายากจนมากจนไม่สามารถจ่ายค่าเช่าบ้านที่ใกล้เมืองชั้นในได้ ต้องเช่าบ้านใกล้ลำธารที่อยู่รอบนอกเมืองแทน

การใช้ชีวิตในเมืองฝางนั้นไม่ง่ายเลย แม้แต่บ้านที่อยู่ในชั้นนอกสุดก็ต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละครึ่งก้อนหินวิญญาณ

แม้ว่าบ้านนี้เขาจะสร้างเอง แต่ก็ต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละครึ่งหินวิญญาณอยู่ดี

หลังจากใช้หินวิญญาณที่มีจนหมด เจ้าของร่างเดิมก็ไม่ได้อยู่เฉย เขาทำงานช่วยผู้อื่นเฝ้าร้านหรือออกล่าสัตว์ในป่า จึงสามารถเอาชีวิตรอดมาได้อย่างยากลำบาก

ในภายหลัง เขาก็รู้ว่าการใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ยั่งยืน จึงเริ่มคิดค้นสูตรยาที่ได้มาจากซากศพในถ้ำ

ยาจงเหมี่ยวดูเหมือนจะยากไปสำหรับเขา จึงเริ่มศึกษาจากยาพิ่กู่ซ่านก่อน

ต้องบอกว่าคนที่มีโชคมักจะมีบุญวาสนาบ้างไม่มากก็น้อย

หลังจากล้มเหลวหลายครั้งในช่วงแรก เจ้าของร่างเดิมก็สามารถปรุงยาพิ่กู่ซ่านได้สำเร็จ

แม้ว่าคุณภาพของยาจะไม่ดีนัก แต่สำหรับซานซิ่วที่ออกล่าสัตว์ในป่าเป็นเวลานานนับสิบวัน ยาแบบนี้ก็ยังขายได้อยู่บ้าง

ด้วยวิธีนี้ เจ้าของร่างเดิมจึงสามารถปักหลักอยู่ในเมืองต้าหอฝางได้อย่างยากลำบาก

แต่โชคร้ายมาเยือนโดยไม่ทันตั้งตัว

เมื่อเขาคิดว่ายาพิ่กู่ซ่านไม่เพียงพอสำหรับการฝึกฝนอีกต่อไป เขาจึงหันไปปรุงยาตามสูตรยาที่ได้มาบางส่วน

และในครั้งแรกที่เขาลองปรุงยา หม้อก็ระเบิด!

แรงระเบิดทำให้บ้านไม้หลังนี้พังทลายลง

และในตอนนั้นเองที่หลัวเฉินทะลุมิติมาและเข้าครอบครองร่างนี้

เมื่อคิดถึงสถานการณ์ในช่วงที่ทะลุมิติมา หลัวเฉินแทบอยากจะร้องไห้

ตอนนั้นฝนตกหนัก เขายืนท่ามกลางซากปรักหักพัง มีเลือดไหลอาบหน้า และมึนงงกับโลกใบนี้

แต่โชคดีที่ทุกอย่างผ่านไปแล้ว

“หนึ่งปีแล้ว ยาพิ่กู่ซ่านในที่สุดก็ถึงระดับปรมาจารย์ อย่างน้อยก็เพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน”

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือแต้มความสำเร็จสะสมได้ถึงสิบแต้มแล้ว สามารถใช้เรียนรู้ยาเม็ดจงเหมี่ยวได้!”

หลัวเฉินมีสูตรยาทั้งหมดสามสูตรอยู่ในมือ

สูตรยาระดับหนึ่งตัวแรกคือยาพิ่กู่ซ่าน สูตรยาระดับหนึ่งอีกตัวคือยาเม็ดจงเหมี่ยว และอีกสูตรคือสูตรยาระดับสองที่ไม่สมบูรณ์

สูตรยานั้นชื่อว่า หยูลู่ตัน(ยาหยาดน้ำค้างทิพย์) หากปรุงสำเร็จจะได้ยาเม็ดหยูลู่ระดับสอง ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้บำเพ็ญเพียรที่ฝึกวิชาน้ำ

ยานี้หนึ่งขวดมีราคาสูงถึงหนึ่งหินวิญญาณระดับกลาง!

ด้วยผลกำไรมหาศาลเช่นนี้ จึงไม่แปลกที่เจ้าของร่างเดิมจะตื่นเต้นมาก

บางทีเขาอาจจะเชื่อมั่นในโชคของตัวเอง หรือความสำเร็จในการปรุงยาพิ่กู่ซ่านทำให้เขามั่นใจมากขึ้น หรือบางทีอาจเป็นเพราะความยากจนทำให้เขาตัดสินใจเสี่ยง

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด เขาก็ได้ตัดสินใจลงมืออย่างกล้าหาญ

และผลลัพธ์ก็คือ หม้อระเบิด บ้านถล่ม และคนตาย

ตอนนี้หลัวเฉินก็มาถึงจุดตัดสินใจนั้นเช่นกัน

หากอาศัยแต่ยาพิ่กู่ซ่านเพียงอย่างเดียว เขาคงแค่มีชีวิตอยู่ แต่ไม่พอที่จะฝึกฝนพลังได้

หากต้องการมีทรัพยากรในการฝึกฝน เขาจะต้องหาหนทางทำเงินเพิ่มทางอื่นนอกจากขายแค่ยาพิ่กู่ซ่าน

เป้าหมายของเขาไม่ใช่หยูลู่ตัน เพราะแต้มความสำเร็จสิบแต้มยังไม่เพียงพอที่จะเรียนรู้การปรุงยาระดับสองได้

ดังนั้นเมื่อเขาพบว่ามีฟังก์ชันแต้มความสำเร็จในแผงควบคุม เขาก็ตัดสินใจตั้งแต่นั้น

“ยาเม็ดจงเหมี่ยวต้องปรุงให้ได้!”

“หากไม่ทำ จะไม่มีทางรอด!”

“ต่อให้ต้องสละชื่อเสียงก็ยอม!”

(จบบท)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด