OS ตอนที่ 34 ผู้คุมสุสาน
เมื่อบันไดปรากฏขึ้น อีควิน็อกซ์ก็ตรวจสอบสถานะของเขากับพวกสัตว์อัญเชิญของเขาอีกครั้งก่อนจะลงไป
บันไดจะลงไปเป็นเกลียวพร้อมกับกะโหลกศีรษะที่ประดับผนังและบางส่วนที่เปล่งแสงผ่านเบ้าตา พวกเขาใช้เวลาสองสามนาทีในการลงไปถึงชั้นล่าง
ตรงหน้าพวกเขามีพื้นที่กว้างที่มีแท่นบูชา ซึ่งมีแผ่นหินที่มีเครื่องหมายลอยในอากาศ ซึ่งอีควิน็อกซ์ไม่สามารถมองเห็นได้ เนื่องจากอยู่ไกลจากเขามาก
ถัดจากแผ่นหินมีร่างผีที่กอดมันไว้ราวกับว่ากำลังปกป้องเศษชิ้นส่วนนั้น ใกล้เชิงแท่นบูชามีสิ่งมีชีวิตที่สวมเสื้อคลุม และกำลังร่ายมนตร์สะกดเพื่อพยายามทำลายผนึก มนตร์สะกดไม่เพียงแต่ไร้ผล แต่ยังไม่สามารถทำลายบาเรียมที่คอยกีดขวางได้อีกด้วย
อีควิน็อกซ์กำลังสังเกตสถานการณ์ขณะเดินเข้าไปใกล้แท่นบูชา เมื่อเขาอยู่ห่างจากแท่นบูชาประมาณห้าเมตร ผู้คุมสุสานก็พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า
“เราไม่ได้มีแขกมาเป็นเวลานานแล้ว ฉันหวังว่าบ้านของเราจะสามารถต้อนรับคุณเป็นอย่างดี” ผู้คุมสุสานกล่าว
อีควิน็อกซ์ตกใจแต่ก็ตอบกลับไปว่า
“ไม่เป็นไร ถึงแม้ว่าจะน่าอึดอัดเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าเป็นต้อนรับที่ดีมาก” อีควิน็อกซ์พูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
จากนั้น ผู้คุมสุสานก็หันไปเผชิญหน้ากับอีควิน็อกซ์ ใบหน้าของผู้คุมสุสานมีสภาพเน่าเปื่อยไม่มีผิวหนังบนใบหน้า แต่มีแต่กล้ามเนื้อที่เน่าเปื่อย เสื้อคลุมของเขาสึกกร่อน ดวงตาของเขาเป็นเพียงเบ้าตากลวงที่เรืองแสงในแสงสีเหลือง
ผู้คุมสุสานสวมใส่เครื่องประดับทองที่เต็มไปด้วยฝุ่น ซึ่งดูเหมือนสวมใส่มาอย่างน้อยหนึ่งศตวรรษ ทุกครั้งที่ผู้คุมสุสานหายใจ คุณจะเห็นลมหายใจของเขา ซึ่งบ่งบอกว่าต้องเป็นลมหายใจเย็น
“ดูเหมือนว่าจะยังมีชาวแอสโมเดียนจะหลงเหลืออยู่ คุณคือของขวัญจากพระเจ้า จริงสิ ฉันได้ละทิ้งเทพเจ้าที่โลกนี้ไปนานแล้ว มันเป็นทางเลือกที่ฉันไม่เคยเสียใจเลย เพราะฉันได้รับพรให้มีพลังมากมายเหนือคณนานับ”
ผู้คุมสุสานพูดขณะหัวเราะอย่างบ้าคลั่งราวกับว่าเขากำลังเมามาย
อีควิน็อกซ์ไม่ได้ยืนฟังอยู่เฉย ๆ เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้แท่นบูชา เขาได้ขว้างระเบิดควอนตัมที่ยังไม่ได้จุดชนวนไปทั่วบริเวณนั้น เขาทำอย่างนั้นขณะฟังเรื่องราวของผู้คุมสุสานไปด้วย เพราะเมื่อเขาตรวจสอบผู้คุมสุสาน เขาก็เริ่มรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาในทันที
==
ชื่อ: ผู้คุมสุสาน (อ่อนแอ)
เลเวล: ???
HP: 100000 / 100000
คำอธิบาย: สาวกของเหล่าคอร์รัปแทนท์ที่กลายเป็นผู้คุมสุสาน โดยคาถาของเขาที่หมายจะทำลายผนึกที่วางไว้บนซากของพวกคอร์รัปแทนท์ ค่าสถานะอื่น ๆ นอกเหนือจากพลังชีวิตจะลดลงเนื่องจากลักษณะเฉพาะของผนึกที่วางไว้ในสุสานที่ถูกลืม
==
ขณะที่ผู้คุมสุสานกำลังก็บ่นพึมพำ ซึ่งมันน่าจะเป็นเนื้อเรื่องของภารกิจ ทางด้านอีควิน็อกซ์ เขากำลังมุ่งความสนใจไปที่การทำให้ห้องเต็มไปด้วยระเบิดควอนตัม เผื่อว่ามีศัตรูโผล่เข้ามาลอบโจมตีเขา
เขาค่อนข้างมั่นใจว่า นอกจากผู้คุมสุสานแล้ว มันน่าจะมีมอนสเตอร์ตัวอื่นด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นพวกมัน แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะไม่ปรากฏตัว
นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าบอสจะพูดคนเดียวจนจบแล้ว
“เด็กหนุ่มชาวแอสโมเดียนเอ๋ย เลือดอันบริสุทธิ์ของคุณจะเป็นตัวปลดผนึกบนร่างของคอร์รัปแทนท์ เมื่อผนึกหายไป ฉันจะได้รับอิสระและสามารถเชื่อมต่อกับคอร์รัปแทนท์ และทำการบุกยึดโลกนี้กลับคืนมาได้!”
ผู้คุมสุสานตะโกนด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น และเขาเริ่มร่ายมนตร์สะกด
พื้นดินเริ่มสั่นเล็กน้อย และมือเริ่มโผล่ออกมาจากพื้น ผ่านไปแค่ไม่กี่นาที ร่างของซอมบี้ก็ปรากฏขึ้นมา นักรบซอมบี้ที่มีชุดเกราะที่เน่าเปื่อยและดาบที่เป็นสนิมก็ลุกขึ้น ซอมบี้ไม่ได้พุ่งเข้าหากลุ่มของอีควิน็อกซ์ในทันที แต่กลับยืนอยู่ที่เดิมและรอคำสั่งเพิ่มเติมจากผู้คุมสุสาน
“มรณาต้องมลทิน” ผู้คุมสุสานเริ่มสวดและพลังงานสีม่วงโอบล้อมซอมบี้และซอมบี้ก็คำราม เพราะพวกมันได้รับพลัง จากนั้น ผู้คุมสุสานก็สั่งการว่า “ลูกสมุนของฉัน จงจับตัวชาวแอสโมเดียนนั่นมาให้ฉัน เขาจะเป็นผู้ทำลายงานผนึกที่พวกเขาสละชีวิตสร้างมันขึ้นมา ฮ่าฮ่าฮ่า!”
‘หา? ฉันเลือดไหลได้งั้นเหรอ? เพราะในทางเทคนิคแล้ว ฉันยังคงเป็นผู้เล่น ต่อให้ฉันถูกโจมตีเลือดก็ไม่ไหลออกมา ถึงจะฆ่าฉันให้ตาย ฉันก็แค่ฟื้นคืนชีพได้ที่ห้องด้านบน’
อีควิน็อกซ์คิดอย่างเจ้าเล่ห์
ทันทีที่ซอมบี้พุ่งเข้าหาอีควิน็อกซ์ เขาก็จุดชนวนระเบิดควอนตัมทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง พวกซอมบี้ถูกโจมตีและสลายหายไปทันทีด้วยแรงระเบิด
เมื่อการโจมตีระลอกแรกผ่านพ้นไป ร่างเงาของดูลาฮานก็ปรากฏขึ้นเหนือเขา และฟาดหอกออกไป 360° หลายสิบครั้ง จนกระทั่งฝูงซอมบี้บางตาลง
ทางด้านอีควิน็อกซ์ ใบหน้าของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข เนื่องจากเขาได้ยินเสียงแถบประสบการณ์ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อผู้คุมสุสานเห็นสิ่งนี้ เขาก็โกรธจัดและพยายามร่ายคาถา แต่อีควิน็อกซ์ได้จุดชนวนระเบิดควอนตัมใส่หน้าของมัน ซึ่งทำให้การร่ายคาถาถูกยกเลิก มันยิ่งทำให้ผู้คุมสุสานโกรธมากขึ้นไปอีก
ผู้คุมสุสานจึงเริ่มร่ายคาถาที่ไม่จำเป็นต้องร่ายคาถาออกมา แต่คาถาเหล่าเป็นการโจมตีแบบวงกว้าง ซึ่งแม้แต่ฝูงซอมบี้ของเขาเองก็ยังโดนลูกหลงไปด้วย
อีควิน็อกซ์ยิ้มเยาะและสั่งการสัตว์อัญเชิญของเขาว่า
"ซิริอุสใช้ท่าหอน และตามด้วยท่าแฟนท่อมรัช ส่วนคันลาออนใช้ท่าลมหายใจมังกรไฟเพื่อเพิ่มแสงสว่างให้สถานที่แห่งนี้"
ทักษะของคันลาออนได้รับการปรับสมดุลใหม่ เนื่องจากเจ้ามังกรมีเลเวลเกิน 10 ทำให้ทักษะของมันจึงกลายเป็นแบบนี้
==
ทักษะ: ลมหายใจมังกรไฟ
เอฟเฟ็กต์: พ่นความเสียหายจากลมหายใจพลังธาตุเป็นเวลา 10 วินาที ทักษะนี้จะไม่นับช่วงเวลาคูลดาวน์หลังจากเริ่มใช้งานทักษะ แต่จะเริ่มนับหลังจากใช้ระยะเวลาพ่นลมหายใจจนหมด
คูลดาวน์: 30 วินาที
==