ตอนที่แล้วบทที่ 24 ยุคสมัยที่ทุกอย่างต้องใช้คูปอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 26 ไม่มีรถม้าแล้ว ทำเลื่อนหิมะดีไหม

บทที่ 25 รถม้าถูกยืมหมดแล้ว


เมื่อหลี่หลงและเถาต้าเฉียงจูงรถม้าเข้ามาในทีมการผลิต บรรดาเด็กๆหลายคนก็พากันวิ่งไปที่รถม้า ขณะที่บางคนก็รีบวิ่งกลับไปบ้านของตัวเอง

“หลี่เฉียง หลี่เฉียง! ลุงของนายกลับมาแล้ว!” หลี่เฉียงถูกเพื่อนบ้านคนหนึ่งตะโกนบอก

หลี่เฉียงเงยหน้าขึ้นมองรถม้าที่อยู่ไกลออกไป เขาปาดน้ำมูกแล้วเก็บของเล่นวัวเหล็กที่กำลังหมุนอยู่บนพื้นน้ำแข็ง จากนั้นก็วิ่งตรงไปหารถม้า “ลุง ลุง!”

เมื่อเห็นหลี่เฉียงวิ่งเข้ามาใกล้ หลี่หลงก็หยิบลูกอมกำมือหนึ่งจากกระเป๋าสะพายแล้วยื่นให้เขา “เอาไปสิ เอาไปแบ่งให้เพื่อนๆด้วยนะ”

หลี่เฉียงใช้มือกำลูกอมแล้ววิ่งกลับไปหากลุ่มเพื่อนด้วยความดีใจ

“หลี่เฉียง หลี่เฉียง! ลุงของนายบอกว่าให้แบ่งกันนะ!”

“ใช่แล้ว ขอฉันสักเม็ดสิ แค่เม็ดเดียวก็ได้ พรุ่งนี้ฉันจะเอากล่องบุหรี่มาแลกให้!”

บรรดาเด็กๆวิ่งตามหลี่เฉียงไปด้วยความตื่นเต้น หลี่เฉียงรู้สึกภูมิใจมากที่ได้เป็นจุดสนใจ

หลี่หลงยิ้มแล้วหยิบลูกอมอีกกำมือหนึ่งส่งให้เถาต้าเฉียง “ต้าเฉียง เอานี่ไปสิ”

เถาต้าเฉียงลังเลอยู่สักพัก แต่สุดท้ายก็ไม่ปฏิเสธ เขาไม่ได้กินลูกอมมานานแล้ว

คราวนี้พวกเขาพารถม้าไปบ้านของครอบครัวเถาก่อน

หลี่หลงและเถาต้าเฉียงรู้สึกแปลกใจที่เห็นไม่ใช่แค่เถาเจี้ยนเซ่ออยู่ที่บ้าน แต่เถาต้าหยงพี่ชายของเถาต้าเฉียงที่แยกไปอยู่บ้านตัวเองกับภรรยาของเขา หม่าฉุนหง ก็อยู่ด้วย

“อ้าว หลี่หลงมาแล้ว ต้าเฉียงก็กลับมาแล้วเหรอ? นี่มัน...”

“ครึ่งหนึ่งของไม้ในรถม้านี้เป็นของบ้านพวกคุณ” หลี่หลงเข้าใจสถานการณ์ทันที จึงพูดต่ออย่างไม่อ้อมค้อม พร้อมชี้ไปที่รถม้า “พอดีทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า งั้นช่วยกันขนไม้ลงเลยแล้วกัน”

พอเห็นไม้เต็มคันรถ ครอบครัวเถาต่างก็มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อวานได้มาแค่ไม่กี่ท่อน และยังเล็กอยู่ แต่ครั้งนี้ได้มาเป็นครึ่งคันรถ ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว

ทุกคนช่วยกันขนไม้ ทั้งใหญ่ทั้งเล็กครึ่งคันรถไม่นานรถม้าก็เบาขึ้นมาก หลี่หลงจึงใช้เชือกมัดไม้ที่เหลือไว้แล้วเตรียมกลับบ้าน

เถาเจี้ยนเซ่อสังเกตเห็นว่ามีซากแกะอยู่ใต้กองไม้ในรถม้าและยังมีกระสอบอะไรบางอย่าง แต่เห็นหลี่หลงเตรียมกลับบ้านแล้ว เขาก็เริ่มร้อนใจ กระแอมเบาๆ แล้วส่งสัญญาณให้ลูกชายคนโตเถาต้าหยงพูด

เถาต้าหยงไม่มีทางเลือก จึงเอ่ยขึ้นว่า

“เอ่อ... หลี่หลง พอดีฉันเห็นว่ายังมีแกะอยู่บนรถ นั่นมีส่วนของบ้านฉันด้วยไหม?”

“อืม มีขาแกะอยู่ข้างหนึ่ง” หลี่หลงพูดพลางมัดเชือกต่อ “เดี๋ยวกลับไปผมจะเอาแกะลงแล้วแบ่งขามาให้ต้าเฉียงเอามาให้”

“มีแค่ขาเดียวเหรอ?” เถาเจี้ยนเซ่ออดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา “ฉันเห็นว่ามีอยู่สองตัวนี่นา...”

“พ่อ! แกะนั่นพี่หลงเอามาเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับผมนะ!” เถาต้าเฉียงถึงกับอายจนอยากจะมุดดินหนี ทำไมบ้านเขาถึงเป็นแบบนี้?

“เงียบไป! ออกไปทำงาน ก็ต้องได้ส่วนแบ่งมา ไม่ว่ายังไงนายก็ช่วยงานไปแล้ว ก็ควรจะได้ส่วนของนาย!” เถาเจี้ยนเซ่อหันไปตวาดเถาต้าเฉียง แล้วหันกลับมามองหลี่หลง คอยดูว่าเขาจะพูดอะไรอีก

“คุณลุงเจี้ยนเซ่อ คุณคงไม่ได้คิดจริงๆหรอกว่าแกะพวกนี้ผมไป ‘เก็บมา’ จริงๆใช่ไหม?” หลี่หลงหันมามองเขาพร้อมรอยยิ้ม “ผมให้ขาแกะต้าเฉียงเพราะเขามาช่วยงาน แต่จริง ๆ แล้วผมไม่จำเป็นต้องให้ก็ได้ เพราะผมแบ่งไม้ให้พวกคุณครึ่งหนึ่งแล้ว นั่นต่างหากคือสิ่งที่ต้าเฉียงควรได้”

พูดจบเขาก็ไม่พูดอะไรอีก จูงรถม้าออกจากบ้านเถาไปทันที

เถาเจี้ยนเซ่อโดนหลี่หลงสวนกลับไปจนตั้งตัวไม่ทัน

เถาต้าเฉียงถึงกับโมโห เขากระทืบเท้าหนึ่งทีแล้วรีบวิ่งตามหลี่หลงไป

เถาเจี้ยนเซ่อรู้สึกตัวอีกทีลูกชายก็วิ่งหายไปแล้ว

“ไอ้ลูกไม่รักดี! แกทำให้ฉันโมโหจริงๆ!” เถาเจี้ยนเซ่อสบถออกมาอย่างหงุดหงิด ไม่รู้ว่าเขาโมโหหลี่หลงหรือโมโหลูกชายตัวเองกันแน่

เถาต้าเฉียงวิ่งตามรถม้าไปทันแล้วพูดกับหลี่หลงด้วยความรู้สึกผิด “พี่หลง พ่อผม...”

“ไม่เป็นไรหรอก พ่อนายก็คือพ่อนาย นายก็คือตัวนาย อีกอย่างนะ พ่อนายทำเพื่อประโยชน์ของคุณมันก็ไม่ผิดหรอก เพียงแต่ว่าเขาอาจจะโลภไปหน่อยเท่านั้นเอง” หลี่หลงไม่ได้รู้สึกโกรธแต่อย่างใด เขารู้ว่าบ้านไหนๆ ก็ไม่ค่อยมีอะไรกิน คนเรามักจะเกิดความคิดเล่ห์เหลี่ยมเวลาจนถึงทางตัน ในบางสถานการณ์คำพูดที่ว่า ‘ความยากจนก่อให้เกิดเล่ห์กล ความร่ำรวยทำให้จิตใจดีงาม’ ก็เป็นความจริง

เมื่อเห็นว่าหลี่หลงไม่ได้โกรธ เถาต้าเฉียงก็รู้สึกโล่งใจ

เมื่อถึงบ้านของหลี่หลง เขาพบว่ามีคนอยู่หน้าบ้านจำนวนมาก

หลี่เจี้ยนกั๋วที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตูรีบเดินออกมารับ เมื่อเห็นพวกเขามาถึงก็โล่งอกและถามว่า

“ไม่หนาวจนแข็งไปใช่ไหม?”

“ไม่ครับ ผมยังได้กินของดี ๆ ด้วย” หลี่หลงตอบเบา ๆ

“ฮ่าฮ่า อย่างนั้นก็ดี” หลี่เจี้ยนกั๋วได้กลิ่นคาวแกะ รู้ว่าวันนี้น้องชายคงได้อะไรมามากพอสมควร จึงยิ้มอย่างมีความสุข

หลี่หลงจูงรถม้าเข้าไปในลานบ้าน ทุกคนก็เริ่มช่วยกันขนไม้ลงจากรถ ครู่หนึ่งก็เห็นว่ามีซากแกะสองตัวอยู่ใต้ไม้ และยังมีกองถ่านหินอีกกองหนึ่ง

“นี่นายยังไปหาถ่านมาได้อีกเหรอ?” หลี่เจี้ยนกั๋วรู้สึกประหลาดใจ

“ผมไปเจอคนรู้จักพอดี เขามีถ่านเยอะ ก็เลยเอาของไปแลกมาได้นิดหน่อย” มีคนอยู่เยอะ หลี่หลงเลยเล่าแบบกว้าง ๆ “ก็ไม่ได้มากเท่าไหร่หรอก”

“อืม” หลี่เจี้ยนกั๋วเข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

คนที่มุงดูอยู่มีบางคนอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “หลี่หลง นี่แกะพวกนี้ยังเก็บได้อยู่เหรอ?”

“ก็ประมาณนั้นแหละครับ” หลี่หลงพูดติดตลก “ช่วงนี้ผมโชคดี”

“โชคดีขนาดนั้นเลยเหรอ? งั้นฉันจะลองไปเก็บบ้าง นายเข้าไปในภูเขาทางไหนเหรอ?” มีคนถามอีก

“เห็นตรงนั้นไหมครับ?” หลี่หลงชี้ไปที่ช่องเขาที่มองเห็นได้ “ก็เข้าไปตรงนั้นแหละ”

มองเห็นภูเขาไกลๆก็เหมือนเห็นม้าที่กำลังจะตาย หากไม่มีคนพาไปหรือไม่รู้ทาง ต่อให้มองเห็นช่องเขาก็ไม่รู้จะเข้าไปยังไง

ถึงจะหาทางเข้าเจอ แต่ข้างในมีภูเขาหลายชั้น เดินผิดทางก็มีโอกาสหลงได้ง่าย ๆ

พอขนของเสร็จ หลี่หลงกระซิบกับหลี่เจี้ยนกั๋วว่า “พี่ใหญ่ ตอนเอาแกะลงช่วยแบ่งขาแกะให้ต้าเฉียงด้วย”

“แค่ขาเดียวเหรอ?” หลี่เจี้ยนกั๋วสงสัย

“แค่ขาเดียวพอครับ ต่อไปถ้าเขาอยากกินเนื้อก็มาเอาที่บ้านเรานี่แหละ ถ้าให้ไปตอนนี้ เขาก็ไม่ได้กินหรอก” หลี่หลงกระซิบ

“ได้ ฉันเข้าใจแล้ว นายจะเอารถม้าไปคืนใช่ไหม?”

“ครับ ผมจะไปคืนรถม้า”

หลี่หลงให้เถาต้าเฉียงอยู่บ้าน ส่วนตัวเขาเองไปคืนรถม้าที่โรงม้าเสร็จแล้วก็เดินไปที่บ้านหัวหน้าทีม

“หลี่หลง คืนรถม้าแล้วเหรอ?” สวี่เฉิงจวินทักทายอย่างเป็นกันเอง

หลี่หลงเห็นสวี่หมิงหวาอยู่ด้วย ก็หยิบลูกอมกำมือหนึ่งจากกระเป๋ายื่นให้ “หมิงหวา เอาไปกินสิ”

“ดูสิ ตามใจลูกเอาใจหลานเกินไปแล้ว” สวี่เฉิงจวินหัวเราะ

“ก็ต้องตามใจสิครับ” หลี่หลงตอบกลับ

“หลี่หลง ฉันมีเรื่องจะบอกเธอสักหน่อย ฉันคิดว่าเธอน่าจะอยากยืมรถม้าอีก แต่เพิ่งจะคุยกันไปแป๊บเดียว รถม้าก็ถูกยืมจนหมดแล้ว” สวี่เฉิงจวินพูดขึ้น ทำเอาหลี่หลงแปลกใจ

แต่คิดไปคิดมาก็ไม่แปลกนัก สิ่งที่เขาทำมาสองวันนี่มันทำให้คนอื่นตาร้อนได้แน่ ทางเข้าภูเขาก็ไม่ได้หายากขนาดนั้น ก็ต้องมีคนอยากลองเข้าไปหาดูบ้าง

“งั้นเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ” หลี่หลงยิ้มออกมาแล้วถามต่อไปว่า “หัวหน้าครับ ผมอยากถามว่า พอจะมีคูปองซื้อจักรยานหรือคูปองซื้อจักรเย็บผ้าไหมครับ?”

การยืมรถม้าของทีมผลิตไปเรื่อย ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี พอถึงฤดูใบไม้ผลิ รถม้าก็จะช้าเกินไป ถ้าได้จักรยานสักคัน คงหาเงินได้เร็วขึ้น

แน่นอนว่าตอนนี้เงินในมือเขายังน้อยอยู่ สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือการหาเงิน

“เรื่องคูปองเหรอ ฉันพอจะช่วยถามให้ได้” สวี่เฉิงจวินตอบกลับแบบไม่รับปาก

หลี่หลงเข้าใจได้ทันที

(จบบท)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด