บทที่ 23 การทดสอบในวันย่ำฤดูใบไม้ร่วง
บทที่ 23 การทดสอบในวันย่ำฤดูใบไม้ร่วง
การฝึกพิเศษให้เป็นกรณีเฉพาะ ยังอ้างเหตุผลได้ว่าเป็นการทะนุถนอมคนมีพรสวรรค์ แต่การให้ ‘ภาพการเจริญเติบโตของสรรพสิ่ง’ ระดับสี่เพื่อช่วยให้จ้าวซิงผ่านการทดสอบนั้นเป็นความลำเอียงที่เห็นได้ชัด
นี่เป็นครั้งแรกที่ซวี่เหวินจงใช้ตำแหน่งเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เขาจึงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ตลอดมื้ออาหารเขาไม่ได้พูดอะไรเลย กินเสร็จแล้วก็ไล่จ้าวซิงออกไปทันที
จ้าวซิงก็ทำเป็นเข้าใจ ไม่พูดถึงเรื่องนี้ เขายกมือโค้งลาแล้วกลับบ้าน
การช่วยเหลือของซวี่เหวินจงในครั้งนี้ ทำให้คาถาขั้นต้น ‘เติบโตงอกงาม’ ของจ้าวซิงเต็มระดับแล้ว
การสังเกต ‘ภาพการเจริญเติบโตของสรรพสิ่ง’ ฉบับคัดลอก ทำให้เขาเข้าใจคาถาขั้นกลางใหม่อีกหนึ่งอย่างคือ 【เติบโตงอกงามอย่างดุเดือด】
คาถาของสายเกษตรกรมีเพียงสองประเภท คือ ‘ใช้งานได้จริง’ และ ‘ใช้งานได้จริงขั้นสุด’ ซึ่งคาถาขั้นกลางนี้จัดว่าเป็นคาถาที่ใช้งานได้จริงขั้นสุด
【เติบโตงอกงามอย่างดุเดือด: คาถาขั้นกลาง】
【ความชำนาญ: 0/9999】
【ผลลัพธ์: หลังการร่ายคาถาจะทำให้พืชเติบโตจนเกินกว่าที่สภาพแวดล้อมจะรองรับ และส่งผลกระทบต่อการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตอื่น】
ค่าความชำนาญของคาถาขั้นกลางยังคงเป็น 1,000 แต้มต่อหนึ่งขั้น และมีขีดจำกัดเหมือนเดิม แต่ความยากในการเพิ่มค่าความชำนาญจะสูงขึ้น
ทำไมถึงเรียกว่า ‘เติบโตงอกงามอย่างดุเดือด’ ว่าเป็นคาถาที่ใช้งานได้จริงขั้นสุด? เพราะมันเป็นคาถาที่ใช้ในการต่อสู้กับพืชพันธุ์อื่นโดยตรง!
ในการเร่งวงจรการเติบโตของพืชนั้น มันจะดึงเอาสารอาหารจากรอบๆ มาด้วยความรุนแรง เกินกว่าที่สภาพแวดล้อมจะรองรับได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ มันจะแย่งชิงพื้นที่ในการอยู่รอดของพืชพันธุ์อื่นๆ แม้กระทั่งดูดพลังชีวิตของพืชชนิดอื่นมาเป็นสารอาหารของตนเอง
เส้นทางการพัฒนาของคาถานี้ เมื่อพัฒนาต่อไปใน ยุคแห่งการฟื้นฟู จะมีชื่อที่น่าทึ่งว่า “ข้ามีวิชาเพียงหนึ่งเดียว!”
มันยังถูกขนานนามจากผู้เล่นสายการเกษตรว่าเป็น ‘ทักษะเทพแห่งการต่อสู้ภายใน’ พืชของข้ายังอยู่รอดพืชของเจ้าก็อย่าหวังว่าจะรอด! ช่างบ้าคลั่งจริงๆ!
ส่วนคาถาขั้นต้นอีกหนึ่งอย่างที่ได้มาจาก ‘ภาพการเจริญเติบโตของสรรพสิ่ง’ ก็ใช้งานได้ดีเช่นกัน
【ธาตุทั้งห้าแห่งแผ่นดิน: คาถาขั้นต้น】
【ความชำนาญ: 0/9999】
【ผลลัพธ์: นำพลังแห่งแผ่นดินมาใช้ รวมพลังงานจากรากฐานของแผ่นดิน】
พลังแห่งแผ่นดินคือรากฐานของโลก ทุกที่ล้วนเชื่อมต่อกับเส้นพลังลึกลงไปใต้พื้นดิน เพียงแต่ความแข็งแกร่งนั้นแตกต่างกันออกไป
‘ธาตุทั้งห้าแห่งแผ่นดิน’ เป็นคาถาสนับสนุนที่สามารถดึงพลังงานจากรากฐานของแผ่นดินมาใช้ ทำให้แปลงดินในบริเวณนั้นอุดมสมบูรณ์ขึ้น
คาถานี้ใช้เป็นพื้นฐานในการพัฒนาไปสู่【ห้าธาตุแห่งดิน】เป้าหมายสูงสุดของสายเกษตรกรรม
คาถาในสายนี้มีชื่อเล่นว่า ‘คาถาขโมยพลัง’
ต่างจาก【เติบโตงอกงามอย่างดุเดือด】ที่แสดงให้เห็นได้ง่ายและโจ่งแจ้ง คาถาขโมยพลังนี้มีการซ่อนตัวที่สูงมาก
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนชอบอัพเกรดคาถานี้ให้ถึงขั้นสูงสุด จากนั้นแอบไปใช้คาถาข้างๆ ถ้ำพลังของผู้อื่นเพื่อเพิ่มพลังให้ตนเอง
ขโมยพืชผักหรือ? ข้าขโมยพลังจากพื้นดินของเจ้ามาเลยต่างหาก!
"นิสัยมันแก้ยากจริงๆ…ทำไมสิ่งที่ข้าเข้าใจถึงเป็นแต่คาถาเจ้าเล่ห์พวกนี้นะ" การสังเกต ‘ภาพการเจริญเติบโตของสรรพสิ่ง’ จะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันในแต่ละคน เหมือนกับการสืบทอดคาถาจากศาลเจ้าที่มีความเป็นไปแบบสุ่ม จ้าวซิงคาดว่าตัวเองคงเป็นคนเจ้าเล่ห์ในชาติก่อนมากเกินไป
เมื่อกลับถึงบ้าน ฟ้าก็มืดแล้ว แต่ก็ยังไม่ดึกเกินไป
จ้าวซิงตั้งใจว่าจะไปที่สวนผักของตัวเอง เพื่อลองใช้คาถาใหม่ทั้งสอง
แต่เพิ่งเดินเข้าไปในสวนได้ไม่นาน น้องชายก็ถือโคมวิ่งมาอย่างกระตือรือร้น
"พี่ใหญ่ๆ ท่านกำลังทำอะไรหรือ? จะทำอาหารมื้อดึกหรือเปล่า?"
จ้าวซิงพูดไม่ออก "แม่เจ้าไม่ได้ให้เจ้ากินข้าวเย็นหรือไง? นี่เพิ่งมืด ก็คิดถึงมื้อดึกแล้ว"
"กินแล้ว แต่ของพี่ใหญ่ทำอร่อยกว่า" จ้าวเจิ้งพูดพร้อมสูดน้ำลายอย่างคิดถึง
ถึงพี่ชายคนนี้จะชอบตีเขา แต่ก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน คือทำอาหารอร่อย และมักจะหาของอร่อยๆ เช่น ผลไม้แห้งหรือขนมหวานให้กินอยู่เสมอ
"พี่ใหญ่ ข้าจะถือโคมให้ท่านเอง! เดี๋ยวตอนทำอาหาร ข้าจะก่อไฟให้ด้วย"
"ไปๆ ไปไกลๆ ข้า" จ้าวซิงบอกอย่างรำคาญ "ที่ใต้ตู้หัวเตียงของข้ามีขนมเหลืออยู่ ไปหาเอง อย่ามารบกวนข้า"
"ขอบคุณพี่ใหญ่!!!" น้องชายรีบเอาโคมไปแขวนที่รั้ว แล้ววิ่งไปหาขนมกิน
หลังจากใช้เวลาฝึกคาถาใหม่สองชั่วโมง จ้าวซิงเห็นว่าคาถาทั้งสองได้พัฒนาถึงหนึ่งขั้นแล้ว จึงหยุดการฝึก
พรุ่งนี้การทดสอบย่ำฤดูใบไม้ร่วงจะเริ่มขึ้น ควรรักษาพลังงานไว้บ้าง
รุ่งเช้าวันถัดมา จ้าวซิงตื่นขึ้น ล้างหน้าและเตรียมตัวออกจากบ้าน ส่วนบิดาบุญธรรม จ้าวรุ่ยเต๋อ กำลังฝึกกำปั้นอย่างช้าๆ ซึ่งเป็นการฝึกเพื่อบำรุงร่างกาย
"ท่านพ่อ ข้าจะไปที่ว่าการแล้ว" จ้าวซิงทักทาย
จ้าวรุ่ยเต๋อเห็นจ้าวซิงเดินมือเปล่า จึงถามว่า "ทำไมไม่ถือโคมไปด้วย? ที่บ้านไม่ได้ขาดแคลน"
"ข้ามองเห็นได้ในความมืดแล้ว" จ้าวซิงนึกในใจ และทันใดนั้นตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวอมเหลืองในความมืด
"โอ้?" จ้าวรุ่ยเต๋อมองเล็กน้อย แล้วพยักหน้า "งั้นก่อนออกไป ช่วยปลุกเจิ้งเอ๋อร์ให้ข้าหน่อย"
"ได้" จ้าวซิงรีบเดินไปอีกห้อง แล้วถีบประตูเข้าไปทันที
ตั้งแต่ปีที่แล้ว จ้าวเจิ้งได้แยกห้องนอนกับไช่ฟูเหริน ซึ่งเป็นเพราะจ้าวซิงบังคับ ไม่อย่างนั้นฟูเหรินที่รักลูกมากคงยังต้องนอนกอดลูกไปอีกหลายปี
"ใครมันกล้ามารบกวน..." เปลือกตายังไม่ทันเปิดก็เริ่มบ่นแล้ว แต่พอเปิดตาขึ้นเห็นจ้าวซิง ก็รีบกลืนคำพูดลงทันที
"ลุกขึ้น! ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย" จ้าวซิงกระชากผ้าห่มออก แล้วยกจ้าวเจิ้งขึ้นมา น้องชายคนนี้นอนกอดโหลขนมหวานอยู่เลย
"พี่ใหญ่ๆ มีอะไรหรือ?" จ้าวเจิ้งถามด้วยความงุนงง แต่ก็รีบใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย
"ออกไปฝึกวิชา"
"หา?" จ้าวเจิ้งขมวดคิ้ว "ไก่ยังไม่ขันเลย..."
"หืม?"
"ขอรับพี่ใหญ่! ข้าใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว!" จ้าวเจิ้งกลัวทันที ยังไงพี่ใหญ่ก็จะไปในไม่ช้า ต่อต้านก็ไม่พ้นโดนตีอยู่ดี ไปฝึกวิชากับพ่อแม่สักพักแล้วค่อยกลับมานอนต่อก็แล้วกัน
หลังจากปลุกจ้าวเจิ้ง จ้าวซิงก็ออกจากบ้านมุ่งหน้าไปยังที่ว่าการเกษตร
ไม่นานไช่ฟูเหรินก็ตื่นขึ้น เพราะได้ยินเสียงลูกหิว
เธอลุกขึ้นไปที่สวนผักอย่างรวดเร็ว แต่พอไปถึงก็ต้องตกใจ "อ๊า! ทำไมผักที่ปลูกไว้เมื่อสองสามวันก่อนถึงได้..."
"...การทดสอบย่ำฤดูใบไม้ร่วงจะจัดขึ้นที่สวนสมุนไพรนานาพรรณ"
"เริ่มตั้งแต่ยามซื่อ( 09:00 - 11:00 น) ของวันที่ 6 เดือน 8 ไปจนถึงยามซวี (19:00 - 21:00 น.) ของวันที่ 9 เดือน 8"
เพียงเดินเข้าไปใกล้ที่ว่าการเกษตรได้ไม่ถึงพันเมตร ก็ได้ยินเสียงก้องอยู่ในหู นี่เป็นเสียงของเฉินซือเจี๋ย
"การส่งเสียงตามลม สามารถส่งได้ไกลกว่าหลายลี้ เสียงชัดเจนเข้าถึงหู สมกับที่เป็นผู้ตรวจการขั้นเก้านั้นมีพลังไม่ธรรมดา" จ้าวซิงนึกในใจ
นี่คือการใช้คาถา【เรียกลม】ในขั้นสูงสุด การควบคุมพลังงานเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ช่วยเล็กๆ จะทำได้
แต่ยังมีสิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้น เช่น เจ้าเมืองกู่เฉิง หลี่เหวินเจิ้ง ครั้งหนึ่งเขาเคยใช้คาถา【เสียงก้องดั่งทอง ส่งเสียงร้อยลี้】ประกาศ ‘คำสั่งรวมพลชาวเมือง’ ถึงแม้จะต้องอาศัยพลังภายนอกก็ตาม
จ้าวซิงเงี่ยหูฟังอยู่สักพัก ก่อนรีบเข้าไปในที่ว่าการเกษตรเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบ
การทดสอบจะเริ่มตั้งแต่ยามซื่อ( 09:00 - 11:00 น) ของวันที่ 6 เดือน 8 ไปจนถึงยามซวี (19:00 - 21:00 น.) ของวันที่ 9 เดือน 8 รวมเวลาประมาณสี่วันสามคืน
เจ้าหน้าที่แต่ละคนสามารถเลือกต้นกล้าจาก 'เขตเพาะกล้า' ของสวนสมุนไพรนานาพรรณได้ไม่จำกัดจำนวน จากนั้นให้นำไปเพาะปลูกใน【เขตเพาะปลูก】
เจ้าหน้าที่สามารถเข้าสวนได้ทุกเวลาภายในสามวันนี้ แต่เมื่อเข้าไปแล้วจะออกมาไม่ได้
ยามซวีของวันที่ 9 เดือน 8 จะมีเจ้าหน้าที่จากที่ว่าการอำเภอมาร่วมเป็นพยานและเก็บสถิติ
เกณฑ์การประเมินมีสามข้อ ได้แก่ คุณภาพของเมล็ดพันธุ์หรือต้นกล้าที่เลือก จำนวนพืชที่รอดชีวิต และสภาพของพืชหลังจากรอดชีวิต