บทที่ 18: เพลงที่หลุดโลก และท่าเต้นที่ชวนให้ติดใจ
วันนี้การแต่งตัวของสวี่เย่ ถือว่าแปลกประหลาดสุด ๆ
เขาสวมสูทสีชมพู เสื้อเชิ้ตสีเทา ผูกเนกไทสีดำ และรองเท้าหนังสีดำอีกคู่
ในขณะที่ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ใส่ชุดที่ออกแบบมาเพื่อการแสดง บ้างก็เป็นชุดโบราณเพื่อใช้เต้นรำโบราณหรือเต้นรำแบบชาติพันธุ์ บ้างก็ใส่ชุดหลวม ๆ เพื่อเต้นสตรีทแดนซ์
แต่สวี่เย่กลับเป็นคนเดียวที่ใส่สูท
แถมยังเป็นสูทสีชมพูอีกด้วย
การแต่งตัวแบบนี้ทำให้คนรู้สึกเหมือนหลุดมาในโรงละครเก่า ๆ แทนที่จะเป็นรายการประกวดเสียอีก
สำหรับคนอื่น ๆ อาจจะดูแปลก แต่การแต่งตัวแบบนี้ถูกออกแบบมาแล้ว
สมัยที่ พี่น้องตะเกียบ เคยแสดงเพลง Little Apple บนเวที พวกเขาก็ใส่ชุดแบบนี้
มันเข้ากับบรรยากาศของเพลงเป็นอย่างดี
กล้องหันมาทางสวี่เย่พอดี
เขาค่อย ๆ หยิบเมล็ดแตงออกมาจากกระเป๋าสูท
กร๊อบ กร๊อบ
เขาเริ่มแกะเมล็ดแตงโมท่ามกลางความเงียบ
“อีกแล้ว! เขาติดแกะเมล็ดแตงโมแน่ ๆ!”
“ใส่สูทแล้วแกะเมล็ดแตงโม นายเจ๋งจริง ๆ นะ!”
“ฉันเริ่มอยากรู้แล้วว่า การแสดงแบบไหนกันที่จะเข้ากับชุดนี้ได้!”
ในห้องไลฟ์ ผู้ชมต่างพากันพูดถึงสวี่เย่
แม้กระทั่งผู้เข้าแข่งขันคนแรกที่ขึ้นแสดงไปแล้วก็ยังไม่ได้รับความสนใจมากเท่าเขา
ที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องพักบนโซฟา
ตงอวี้คุนเงยหน้าขึ้นมองหน้าจอ จากนั้นก็มองไปทางสวี่เย่
หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เขาเริ่มสนิทกับสวี่เย่มากขึ้น
เขารู้สึกว่านักร้องที่เซ็นสัญญากับเสียงกวงเอนเตอร์เทนเมนต์คนนี้ดูเหมือนจะเป็นปริศนา ยากที่จะเข้าใจ
ทุกการกระทำของเขาดูเหมือนจะหลุดโลก แต่กลับดึงดูดผู้คนให้สนใจได้เสมอ
ตงอวี้คุนรู้สึกว่า หมอนี่ทั้งมีปัญหาและมั่นใจในตัวเองอย่างประหลาด
แต่เขาก็อดที่จะรู้สึกอิจฉาไม่ได้
ไม่แปลกใจเลยที่พี่เย่จะเป็นพี่ใหญ่ของฉัน
ใช่แล้ว ตอนนี้ตงอวี้คุนเริ่มมองสวี่เย่เป็นพี่ใหญ่จริง ๆ แล้ว
ไม่รู้ว่าหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาผ่านอะไรมา
“เรียกร้องความสนใจ!” หนุ่มหล่อคนหนึ่งที่ตัวสูงนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของตงอวี้คุนเอ่ยขึ้นอย่างเบา ๆ
ตงอวี้คุนรู้จักผู้ชายคนนี้ เขาชื่อ หลี่ซิงเฉิน เป็นเด็กฝึกของบริษัทชิงเหนียวเอนเตอร์เทนเมนต์
ครั้งนี้ หลี่ซิงเฉินมารายการ Tomorrow's Superstar เพื่อหวังจะคว้าแชมป์
และชิงเหนียวเอนเตอร์เทนเมนต์ก็เตรียมตัวมาอย่างดี
ทุกการแสดงของเขาเหมือนเป็นการเตรียมตัวสำหรับการเดบิวต์จริง ๆ
รอเพียงแค่คว้าแชมป์แล้วเดบิวต์ทันที
แต่ในตอนที่แล้ว หลี่ซิงเฉินกลับเป็นเหมือนคนอื่น ๆ ที่กลายเป็นเพียงระลอกคลื่นเล็ก ๆ ในกระแสใหญ่ของสวี่เย่ ไม่มีใครสนใจเลย
เมื่อหลี่ซิงเฉินรู้สึกถึงสายตาของตงอวี้คุน เขาก็หันมามองด้วยสายตาท้าทาย
จากนั้นก็นั่งสบาย ๆ บนโซฟา รอการแสดงถัดไปอย่างใจเย็น
เมื่อการแสดงของผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ เริ่มขึ้น บรรยากาศในห้องพักก็เริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ
เสียงเดียวที่ดังออกมาคือเสียงแกะเมล็ดแตงโมของสวี่เย่
ไม่นานนักก็ถึงเวลาของตงอวี้คุน
ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดีและท่าเต้นที่ถูกต้อง การแสดงของเขาค่อนข้างดี ทำให้ผู้ชมส่งเสียงเชียร์กันอย่างกึกก้อง
หลังจากตงอวี้คุนลงจากเวที ก็ถึงเวลาของสวี่เย่
เมื่อถึงเวลานั้น สวี่เย่ลุกขึ้นเดินไปยังทางออกของห้องพัก
ภายใต้การนำของทีมงาน เขาเดินไปยังโซนรอหลังเวที
ในขณะนั้น กรรมการดารา เหยียนมี่ และหวังหนานเจียกำลังวิจารณ์การแสดงของตงอวี้คุนอยู่
ไม่นานนักตงอวี้คุนก็ลงจากเวที
เมื่อเห็นสวี่เย่ เขาขมวดคิ้ว แต่ก็ยังฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “พี่เย่ สู้ ๆ นะครับ”
“ขอบใจนะ”
สวี่เย่รู้สึกว่าตงอวี้คุนเหมือนมีอะไรในใจ ทั้งที่เขาเป็นเด็กฝึกมาสองปีครึ่งแล้ว แต่กลับดูเหมือนจะตื่นเต้นมาก
ตงอวี้คุนพยักหน้าเบา ๆ แล้วก็เดินจากไป
สวี่เย่ใส่ไมโครโฟนไร้สายที่ทีมงานเตรียมไว้ แล้วเดินขึ้นเวทีไป
เมื่อเขาขึ้นไปยืนบนเวที เหยียนมี่และหวังหนานเจียต่างพากันงุนงง
นี่เขาแต่งตัวอะไรกันนะ?
สไตล์ของสวี่เย่ไม่เข้ากับเวทีนี้เลยสักนิด
ในขณะนั้นเอง ผู้ชมคนหนึ่งก็ตะโกนขึ้นมา
“สวี่เย่! ไปหาหมอซะเถอะ!”
เป็นผู้หญิงที่ตะโกนออกมา
สวี่เย่ตกใจจนสะดุ้งเล็กน้อย
หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นตะโกนจบ ก็มีผู้ชมอีกหลายคนตะโกนตาม
สถานการณ์แบบนี้อยู่นอกความคาดหมายของสวี่เย่
เขาดูเหมือนจะเริ่มมีแฟนคลับแล้วนะ?
สวี่เย่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขายืนบนเวทีแบบนี้
ความตื่นเต้นที่เคยมีหายไปหมดสิ้น
เขาเริ่มรู้สึกสนุกกับการยืนบนเวทีนี้แล้ว
เหยียนมี่จำสวี่เย่ได้เป็นอย่างดี นี่คือผู้ชายคนแรกในชีวิตของเธอที่ยื่นเมล็ดแตงโมให้
เอาจริง ๆ ถ้าคุณอยากให้ผู้หญิงจดจำคุณได้ มันก็ง่ายมาก แค่เอาความรู้สึกครั้งแรกของเธอไปก็พอ
ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกแบบไหนก็ตาม
เหยียนมี่ย้อนนึกถึงการแสดงครั้งก่อนของสวี่เย่ ก็ยังรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ อยู่
เธอหยิบไมโครโฟนขึ้นมาพูดว่า “สวี่เย่ นายใส่ชุดนี้จะเต้นได้เหรอ?”
หวังหนานเจียเองก็พูดล้อเล่นว่า “บางทีท่าเต้นของสวี่เย่อาจจะแตกต่างก็ได้นะคะ”
เธอเองก็จำสวี่เย่ได้ดีเหมือนกัน
จะไม่ให้จำได้ยังไง เธอเพิ่งเคยเห็นคนดื่มชานมแบบกลับหัวเป็นครั้งแรก
ความประทับใจแรกมักจะติดตรึงเสมอ
สวี่เย่พูดขึ้นอย่างช้า ๆ ว่า “วันนี้ผมจะนำเพลงที่ชื่อว่า Little Apple มาแสดงครับ หวังว่าทุกคนจะสนุกกับความสุขที่ผมนำมาให้นะครับ”
พอขึ้นเวทีเป็นครั้งที่สอง ความกังวลของสวี่เย่ต่อการแสดงเพลง Little Apple ก็หายไป
เขารู้สึกตื่นเต้นมาก
เหยียนมี่ขมวดคิ้ว
ทำไมผู้เข้าแข่งขันคนอื่นถึงพูดว่า ‘รอชมการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจ’ แต่นายกลับบอกว่ามันคือ ‘ความสุข’ ?
เธอยิ้มแล้วตอบว่า “เริ่มเลยค่ะ”
ทันทีที่เธอพูดจบ ไฟบนเวทีก็เปลี่ยนไป
เสียงเพลงเริ่มบรรเลงขึ้น
มันเป็นดนตรีที่มีจังหวะสนุกสนาน
ในขณะนั้น สวี่เย่หันหลังให้กับผู้ชม
เขากำลังจะเริ่มเต้นแล้ว
พร้อมกับจังหวะดนตรี สวี่เย่วางมือหนึ่งไว้ที่สะโพก และยกมืออีกข้างขึ้น จากนั้นเขาก็เริ่มโยกตัวตามจังหวะเพลง
ต่อมา สวี่เย่ยกแขนขึ้นทั้งสองข้าง วาดแขนเป็นวงกลมเหนือศีรษะแล้วค่อย ๆ วางลง
เพราะเขาใส่สูทสีชมพู และสูทก็รัดสะโพกของเขาไว้ ทำให้มองเห็นชัดเจนว่าก้นของเขากำลังโยกไปมา
ผู้ชมในห้องส่ง กรรมการบนโต๊ะ และผู้เข้าแข่งขันในห้องพักต่างก็มึนงงไปหมด
นี่มันอะไรกัน?
นี่มันดิสโก้ของคนแก่หรือไง?
ทันใดนั้น สวี่เย่กระโดดแล้วหมุนตัวกลับมา ยกมือขวาชี้ขึ้นฟ้า มือซ้ายวางไว้ที่สะโพก
ในขณะที่ร่างกายของเขายังคงเคลื่อนไหวตามจังหวะ
อินโทรค่อย ๆ จบลง
สวี่เย่ยกแขนขึ้นในท่าที่เหมือนโชว์กล้ามแขน แล้วเริ่มร้องเพลง
“ฉันปลูกเมล็ดพันธุ์ลงไป สุดท้ายมันก็กลายเป็นผลไม้ วันนี้คือวันที่ยิ่งใหญ่”
บนเวที สวี่เย่ใช้ท่าเต้นย้อนยุคแสดงอย่างเต็มที่พร้อมกับร้องเพลงไปด้วย
เพลง Little Apple นั้นทั้งติดหูและท่าเต้นก็ชวนให้ติดใจ
“เด็ดดาวมามอบให้เธอ ฉุดดวงจันทร์มามอบให้เธอ ให้พระอาทิตย์ขึ้นเพื่อตัวเธอทุกวัน”
“กลายเป็นเทียนไขยอมเผาตัวเอง เพื่อให้เธอได้มีแสงสว่าง”
“ฉันยอมมอบทุกอย่างให้เธอ ขอแค่เธอมีความสุข”
“เธอทำให้ทุก ๆ วันของฉันมีความหมาย”
“ชีวิตสั้นนัก แต่ฉันรักเธอ ไม่มีวันทิ้งเธอไปไหน”
กรรมการดารา เหยียนมี่ และหวังหนานเจียต่างอ้าปากค้างจนแทบจะใส่ไข่เข้าไปได้แล้ว
พวกเธอเคยเห็นอะไรที่หลุดโลกมาก็มาก
แต่เวทีของสวี่เย่พวกเธอไม่เคยเจอมาก่อน
นี่มันเพลงอะไรกัน?
นี่มันท่าเต้นแบบไหนกัน?
ทั้งที่สวี่เย่แสดงอย่างจริงจัง แต่ทำไมถึงทำให้พวกเธออยากหัวเราะก็ไม่รู้