ตอนที่แล้วบทที่ 14: ฉันไม่น่าคาดหวังอะไรกับนายเลย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 16: จับฉลากได้ผลงานแล้ว แต่ดันแปลก

บทที่ 15: ชานมต้องดื่มแบบนี้เหรอ?


เจิ้งอวี้  เปิดฉากตะโกนเสียงดัง

พูดตามตรง เขาเริ่มทนไม่ไหวแล้ว

พฤติกรรมล่าสุดของสวี่เย่ นั้นไม่ปกติเอาซะเลย

เขารู้สึกกังวลใจมาก

เรื่องโฆษณาที่พังไปแล้วก็ช่างมันไป ปัญหาก็ไม่ได้ใหญ่มาก

แต่คลิปวิดีโอที่สวี่เย่โพสต์ล่าสุด มันไม่ใช่สิ่งที่ไอดอลหรือดาราควรจะทำเลย

ใช่แล้ว เสียงกวงเอนเตอร์เทนเมนต์วางแผนให้สวี่เย่เป็นไอดอลดารา

เพราะใบหน้าของสวี่เย่มีเสน่ห์ดึงดูดอยู่แล้ว

เส้นทางของไอดอลดารากำลังเริ่มขึ้นในประเทศตอนนี้

การแสดงของสวี่เย่เมื่อคืนนี้ก็ทำให้เขาเริ่มมีฐานแฟนคลับแล้ว

แผนการโปรโมตจากบริษัทก็กำลังจะตามมา

แต่ตอนนี้ เจิ้งอวี้ไม่กล้าจะโปรโมตต่อแล้ว

สวี่เย่เองก็รู้สึกอึดอัดนิดหน่อย เพราะเรื่องนี้มันอธิบายไม่ได้จริง ๆ

“พี่อวี้ ผมก็แค่หาเรื่องสนุก ๆ ทำ”

เจิ้งอวี้ตะโกนออกมา แต่ความโกรธในใจของเขาก็เบาบางลงไปครึ่งหนึ่ง

จะโกรธอะไรนักหนา ก็นี่มันเป็นเด็กที่เขาเลี้ยงดูมาตั้งแต่แรก

“โอเค ๆ ฉันจะไม่สนใจนายแล้ว รายละเอียดของรายการตอนต่อไปถ้าได้เมื่อไหร่ก็ติดต่อฉัน บริษัทจะได้ช่วยสนับสนุนบ้าง” เจิ้งอวี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ

“ได้เลย รู้แล้วครับ”

หลังจากนั้น เจิ้งอวี้ก็เตือนอีกสองสามคำ ก่อนที่จะวางสายไป

อีกด้านหนึ่ง สวี่เย่วางโทรศัพท์ลง

ไม่มีปัญหาใหญ่

เขาแค่ต้องสร้างผลงานออกมาเรื่อย ๆ เพื่อรักษากระแสของเขาเอาไว้

เพลง Love at 105°C นั้น เมื่อก่อนบนโลกได้สร้างปรากฏการณ์ยอดการเล่นถึงสี่หมื่นล้านครั้ง

ไม่ใช่แค่ในแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเว็บไซต์ใหญ่ ๆ ในประเทศ และยังสร้างยอดเล่นถึงหลายสิบล้านครั้งในต่างประเทศ

บางคนล้อเลียนว่าเพลงนี้เป็นแค่เพลงตลาด

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ยอดการเล่นของเพลงนี้อยู่ตรงนั้น มันไม่สามารถถูกมองข้ามได้

เมื่อเฉินหยูซิน ปล่อยเวอร์ชันอย่างเป็นทางการออกมา เพลงนี้จะขึ้นชาร์ตแน่นอน

ในตอนนั้น เพลงนี้จะช่วยให้เฉินหยูซินโด่งดังขึ้น และตัวเขาเองในฐานะผู้แต่งเพลงก็จะได้รับความนิยมเช่นกัน

“ฉันไม่ได้แค่เขียน ไม่สิ แค่คัดลอกเพลงตลาดรึไง รอให้ระบบให้เพลงจริงจังมาแล้วพวกนายจะได้เห็นฝีมือของฉัน”

สวี่เย่คิดกับตัวเองในใจ

การทำตัวแปลก ๆ ก็เพื่อความอยู่รอด

เมื่อตัวเขาถูกส่งมาในโลกนี้ เขาก็ยังอยากทิ้งร่องรอยไว้ในวงการบันเทิงของโลกนี้เช่นกัน

ในขณะนั้น เสียงหนึ่งดังขึ้นในห้อง

“ขอให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนไปรวมตัวกันที่ห้องฝึกซ้อมชั้นสอง”

นี่คือเสียงจากลำโพงที่ติดตั้งในห้อง ซึ่งทีมงานรายการใช้สำหรับแจ้งข่าวสารต่าง ๆ

สวี่เย่ลุกขึ้นและเดินออกจากห้อง

เมื่อเดินมาถึงห้องนั่งเล่น เขาได้ยินเสียงจากห้องนอนของตงอวี้คุน

“พวกคุณอย่ามายุ่งกับผมอีกเลย ตอนนี้ผมไม่เกี่ยวข้องกับพวกคุณแล้ว”

“ผมไม่ใช่เด็กแล้ว ผมโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว คุณหลอกผมไม่ได้อีกต่อไป”

น้ำเสียงของตงอวี้คุนฟังดูตื่นเต้นมาก

สักพักห้องนั้นก็เงียบไป

ตงอวี้คุนเปิดประตูและเดินออกมา

เมื่อเห็นสวี่เย่ยืนอยู่หน้าประตู ตงอวี้คุนก็ยิ้มเจือน ๆ ให้

“ไปกันเถอะ” สวี่เย่เรียกเขา

ตงอวี้คุนพยักหน้า

ทั้งสองเดินออกจากห้องไปด้วยกัน

ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ค่อย ๆ เดินออกจากห้องและมุ่งหน้าไปที่ลิฟต์

สวี่เย่ยังคงสนใจในสิ่งที่ตงอวี้คุนพูดเมื่อครู่นี้ แต่เขาก็ไม่กล้าถามตรง ๆ

นี่มันเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย

ตงอวี้คุนกลับพูดขึ้นว่า “พี่เย่ ผมจะทุ่มเทให้กับรายการนี้อย่างเต็มที่”

ตอนที่พูดประโยคนั้น สายตาของเขาดูมั่นคงมาก

“สู้ ๆ ล่ะ”

สวี่เย่ไม่รู้หรอกว่า จริง ๆ แล้วตอนนี้เขากำลังสร้างแรงกดดันอย่างมากให้กับตงอวี้คุน

เด็กหนุ่มคนนี้แสดงท่าทางนิ่งเงียบ แม้แต่เวลายิ้มก็เป็นแค่รอยยิ้มจอมปลอมแบบเด็กฝึกมาตรฐาน

ที่ชั้นสองของอพาร์ตเมนต์ของเหล่าดารา

ที่นี่เคยเป็นสตูดิโอสอนเต้นมาก่อน แต่ตอนนี้ถูกทีมงานรายการเช่ามาใช้เป็นห้องฝึกซ้อม

ในสัปดาห์นี้ ทีมงานได้เตรียมครูฝึกมาเพื่อฝึกซ้อมผู้เข้าแข่งขันและเตรียมตัวสำหรับการแสดงครั้งถัดไป

ผู้กำกับจางกวงหรง วางแผนสำหรับรายการนี้โดยมุ่งหวังจะสร้างซุปเปอร์สตาร์ที่มีความสามารถรอบด้าน

เมื่อผู้เข้าแข่งขันมารวมตัวกันในห้องเรียน ครูฝึกก็เข้ามา ทุกคนก็ตื่นเต้นกันใหญ่

คนที่เดินเข้ามาคือผู้หญิงคนหนึ่งในชุดกระโปรงจีบรอบสีเทา ส่วนเสื้อเป็นเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว

ขาเรียวยาวที่ดูแข็งแรงของเธอเคลื่อนไหวอยู่ใต้กระโปรง ดูมีพลังอย่างมาก

รองเท้าผ้าใบสีขาวและถุงเท้าสีขาวเพิ่มความกระฉับกระเฉงให้กับเธอ

ผมทรงหางม้าคู่บนศีรษะของเธอและใบหน้าที่ดูอ่อนหวานน่ารักทำให้เธอดูเหมือนสาวข้างบ้าน

แต่ผู้เข้าแข่งขันในห้อง ไม่มีใครกล้าดูถูกเธอเลย

เพราะเธอคือเซ็นเตอร์ของเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังในขณะนี้วง หยวนฉีเส้าหญิง

หวังหนานเจียเดบิวต์เมื่อสามปีก่อน เข้าร่วมวง หยวนฉีเส้าหญิง ซึ่งวงนี้สามารถทำลายทุกอุปสรรคจนกลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปอันดับหนึ่งในประเทศ

และในวงนี้ คนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดก็คือหวังหนานเจีย

เธอเป็นศิลปินที่ทั้งร้องและเต้นได้ดี

โดยเฉพาะการเต้น

ขาของเธอแตกต่างจากขาของเฉินหยูซินที่ดูเรียวยาว ขาของหวังหนานเจียดูมีกล้ามเนื้อแน่นและมีเส้นขาเรียบเนียนเต็มไปด้วยพลัง

นี่เป็นผลมาจากการฝึกเต้นบ่อย ๆ

ความงามของหวังหนานเจียนั้นแตกต่างจากเหยียนมี่ (กรรมการดารา) ที่ดูแข็งแกร่ง เพราะ หวังหนานเจียดูน่ารักสดใส

หวังหนานเจีย ยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า “สวัสดีค่ะทุกคน ฉันคือหวังหนานเจียจากวงหยวนฉีเส้าหญิง ในช่วงเวลาต่อจากนี้ ฉันจะเป็นครูสอนเต้นให้กับทุกคน”

เกิดเสียงฮือฮาขึ้นในห้องเรียน

ผู้เข้าแข่งขันต่างตื่นเต้นกันมาก

หลายคนไม่เคยเจอหวังหนานเจียมาก่อน การที่ได้หวังหนานเจียมาเป็นครูสอนเต้นถือว่าคุ้มมาก

หวังหนานเจียกล่าวต่อว่า “วันนี้วันแรก เรามาทำความรู้จักกันก่อน ฉันจะเลี้ยงชานมทุกคน เรื่องฝึกซ้อมเราค่อยว่ากันช่วงบ่ายนะ!”

รอยยิ้มหวานของเธอ พร้อมกับลักยิ้มข้างแก้ม

ผู้เข้าแข่งขันต่างพร้อมใจกันตะโกนว่า “ขอบคุณครูหวัง!”

ในเวลานี้ กล้องของทีมงานก็เริ่มถ่ายทอดสดแล้ว

ผู้ชมในห้องไลฟ์ก็ส่งเสียงเชียร์กันสนุกสนาน

“หวังหนานเจียน่ารักมาก!”

“ขาคู่นั้น ฉันยังจำได้ตอนที่เธอเต้นเหมือนขามีสปริงติดอยู่เลย!”

“อยากโดนขาเธอบีบให้ตายจริง ๆ!”

“ความคิดของคนข้างบนน่ากลัวนะ!”

“หวังหนานเจียใจดีมากเลย ยังเลี้ยงชานมทุกคนอีก”

ผู้ชมต่างมีความสุขกับสิ่งที่เห็น

มีทั้งหนุ่มหล่อและสาวสวย รายการนี้น่าดูจริง ๆ

ผู้ช่วยของหวังหนานเจียเดินเข้ามาพร้อมกับทีมงานอีกสองสามคน ทุกคนถือชานมมาด้วย

พวกเขาวางชานมไว้บนโต๊ะ

หวังหนานเจียยิ้มและกล่าวว่า “มาเอาชานมได้เลยค่ะ”

ผู้เข้าแข่งขันต่างทยอยกันเดินไปที่โต๊ะ

ทุกคนเมื่อได้รับชานมก็กล่าวอย่างสุภาพว่า “ขอบคุณครูหวัง”

หวังหนานเจียก็ยิ้มรับคำขอบคุณอย่างภาคภูมิใจ

แต่ผู้เข้าแข่งขันไม่รู้เลยว่า ตอนนี้หวังหนานเจียก็ตื่นเต้นในใจเหมือนกัน

“โอ้โห หล่อ ๆ ทั้งนั้นเลย! มีแต่เด็กน่ารักทั้งนั้น รายการนี้ฉันมาถูกที่แล้ว!”

ในเวลานี้ สวี่เย่ก็เดินมาที่โต๊ะ

“ขอบคุณครูหวัง” สวี่เย่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม

หวังหนานเจียจ้องตาเขา “ฉันรู้จักคุณนะ เมื่อเช้านี้ฉันเพิ่งเห็นโพสต์ในเวยป๋อของคุณเอง”

สวี่เย่รู้สึกอายเล็กน้อย

เขาเริ่มกังวลเกี่ยวกับอนาคตในวงการบันเทิงของเขา

เขาทำตัวแบบนี้ จะมีผู้หญิงที่ชอบเขาไหมนะ? “วิธีใส่ถุงขยะของคุณดูน่าสนใจดี” หวังหนานเจียกล่าวพร้อมยิ้ม

“ก็พอได้” สวี่เย่ตอบ

หวังหนานเจียจ้องมองสวี่เย่อย่างพิจารณา เธอคิดว่าสวี่เย่ดูปกติดี

ไม่เห็นมีทีท่าว่าจะเป็นบ้าเลย

ในขณะนั้น สวี่เย่ได้แกะหลอดออกมาแล้ว

เขาพลิกชานมในมือของเขา โดยให้ก้นถ้วยหันขึ้นด้านบน และฝาปิดหันลงล่าง

หวังหนานเจียมองด้วยความสงสัย

นี่เขาทำอะไรนะ? ไม่กี่วินาทีต่อมา ดวงตากลมโตของเธอก็เบิกกว้างขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง

สวี่เย่แทงหลอดเข้าไปในถ้วยชานมอย่างแรง

แต่หลอดไม่ได้ถูกเสียบเข้าไปทางฝาถ้วย แต่เป็นทางก้นถ้วยแทน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด