บทที่ 1 ร้านยาตระกูลเฉิน ลูกมือฝึกหัด
ราชวงศ์ต้าหลี่
เขตผิงโจว อำเภอชิงซาน
สายลมหนาวเย็นพัดกระโชกโหม หิมะโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า ถนนหนทางเงียบเหงา เสียงร้องขายของพ่อค้าแม่ขายเงียบหายไปนานแล้ว
ริมถนนหินอ่อนที่เย็นเยียบและสกปรกรกรุงรัง เต็มไปด้วยผู้คนหนีภัยพิบัติที่กำลังสั่นเทาด้วยความหนาว สวมเสื้อผ้าขาดวิ่น ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานและความเฉยชา ทำให้เมืองนี้ปกคลุมไปด้วยบรรยากาศอันเศร้าสลด
หน้าร้านยาตระกูลเฉินที่ถนนตะวันตกเฉียงใต้
ตั้งแต่เช้าตรู่ก็มีผู้คนมาเข้าแถวยาวเหยียด นับร้อยคนที่ผอมโซ ผิวเหลืองซีดมาล้อมวงกันแน่นขนัด
ผู้ดูแลวัยกลางคนในชุดสีฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ "มาทำอะไรกัน? มาเบียดเสียดอะไรกัน? ถอยออกไปหน่อย วันนี้ร้านยาไม่ได้แจกข้าวต้ม แค่รับคนเข้าทำงานเท่านั้น!"
"ฟังให้ดีทุกคน ร้านยาตระกูลเฉินของเราเป็นร้านยาชั้นนำของอำเภอชิงซาน ปกติแล้วคนหัวแหลมแค่ไหนก็เข้ามาทำงานที่นี่ไม่ได้"
"วันนี้เจ้าของร้านใจดี นึกถึงความลำบากของพวกเจ้าที่หนีภัยพิบัติมา จึงเปิดรับเด็กหนุ่มอายุไม่เกิน 16 ปี ที่มีภูมิหลังสะอาด อ่านออกเขียนได้ มาเป็นลูกมือฝึกหัด"
"ทำงานในร้านยาแม้ไม่มีค่าจ้าง แต่มีอาหารให้กินอิ่มวันละสามมื้อ เทศกาลสำคัญมีเงินรางวัล ปีละสองฤดูมีเสื้อผ้าให้เปลี่ยน ยังได้เรียนรู้วิชาปรุงยาและรักษาโรค สวัสดิการดีเยี่ยมแน่นอน"
"ยืนเหม่ออะไรกัน? ใครคุณสมบัติตรงก็มาเข้าแถวลงทะเบียน ใครไม่ตรงก็รีบไปให้พ้น อย่ามายืนขวางหูขวางตา!"
ผู้ดูแลชุดฟ้าพูดพลางสั่งการให้ลูกน้องเริ่มลงทะเบียนคัดคนเข้าทำงาน
ผู้คนแห่กันเข้าไปข้างหน้า ใบหน้าทุกคนเต็มไปด้วยความคาดหวังอันร้อนแรง ในใจของคนน่าสงสารที่หิวโหยและหนาวสั่นเหล่านี้ ร้านยาตระกูลเฉินที่มีข้าวกินที่พักอาศัย ช่างเป็นสถานที่วิเศษราวกับสวรรค์
ถึงขนาดที่คนอายุเกินก็อยากจะฉวยโอกาสลองดู
"บ้าหรือเปล่า ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง?"
"พวกเราต้องการแค่เด็กหนุ่มอายุไม่เกิน 16 ปี แก่อายุปูนนี้แล้วยังจะมาเบียดเสียดหาที่ตายหรือไง?"
ผู้ดูแลชุดฟ้าตวาดพลางฟาดแส้ใส่กลุ่มคน ถึงได้หยุดความวุ่นวายนี้ลงได้
ไม่ไกลออกไป เด็กหนุ่มผมเหลืองแห้งกรอบ รูปร่างผอมแห้งแต่ดวงตาเป็นประกาย มองดูเหตุการณ์วุ่นวายนี้ด้วยสีหน้าประหลาด
เขาชื่อเว่ยฮั่น อายุ 14 ปี!
ไม่มีใครรู้ว่าที่จริงแล้วเขาเป็นผู้ข้ามมิติ!
สามเดือนก่อน เว่ยฮั่นเป็นเพียงโปรแกรมเมอร์ธรรมดาคนหนึ่งบนโลกสีฟ้า แต่เพราะทำงานล่วงเวลาจนเสียชีวิตกะทันหัน พอตื่นขึ้นมาก็มาอยู่ในโลกแปลกถิ่นนี้เสียแล้ว
ก่อนข้ามมิติ บริษัทของเว่ยฮั่นกำลังพัฒนาเกมแนวบำเพ็ญตนเป็นเซียน จุดขายคือตัวละครที่เป็นอมตะ จะอยู่รอดในโลกอันตรายได้นานแค่ไหน?
ในเกม ผู้เล่นมีอายุขัยไม่จำกัด ตราบใดที่ไม่ถูกโจมตีจนพินาศ บาดแผลส่วนใหญ่ก็สามารถฟื้นฟูได้ในพริบตา เท่ากับมีร่างกายอมตะฉบับเยาว์วัย
แต่ใครจะคิดว่าเกมเพิ่งพัฒนาเสร็จ เว่ยฮั่นก็ตายข้ามมิติเสียแล้ว
และระบบของเกมนี้ก็ผูกติดมากับเขาด้วย
[ระบบฝึกฝนอัตโนมัติแห่งความเป็นอมตะ]
[ผู้เล่น]: เว่ยฮั่น
[อายุ]: 14
[อายุขัย]: อมตะ 《คงที่》
[ระดับพลัง]: ยังไม่มี
[วิชาบำเพ็ญ]: ยังไม่มี
[ทักษะทั้งหมด]: ทำอาหาร《ชำนาญ, 35/3,000》, จับปลา《เริ่มต้น, 12/1,000》, เพาะปลูก《เริ่มต้น, 88/1,000》
[ตำแหน่งฝึกฝนอัตโนมัติ]: สามตำแหน่ง
มองดูแผงคุณสมบัติของตัวเอง เว่ยฮั่นอดยิ้มขมขื่นไม่ได้
การเป็นอมตะเป็นเรื่องที่น่าสนุกมาก แต่โลกโบราณที่เต็มไปด้วยภูตผีปีศาจนี้ไม่ใช่ที่ที่อันตรายธรรมดา
ราชวงศ์ต้าหลี่สืบทอดมานานกว่า 600 ปีแล้ว ไม่เพียงแต่มีปีศาจและสิ่งลึกลับมากมาย แต่ละมณฑลและเมืองก็เกิดภัยพิบัติไม่หยุดหย่อน ประชาชนยิ่งแร้นแค้นยากจน
เว่ยฮั่นเพิ่งข้ามมิติมาก็เจอน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ร้ายแรงที่สุดในรอบร้อยปี
ทั้งหมู่บ้านกว่าพันคนเหลือรอดไม่ถึงสิบ เขาที่ยังเด็กต้องอพยพหนีภัยไปทางใต้ เร่ร่อนสองเดือนกว่าจะมาถึงที่นี่
ระหว่างทาง เขาเคยเจอปีศาจฆ่าคน
เคยไม่ได้กินน้ำแม้แต่หยดเดียวตลอดครึ่งเดือน ได้เห็นผู้คนต้องแลกลูกกินกัน
เพราะระบบอมตะ เขาที่ควรตายไปแล้วนับพันนับหมื่นครั้งก็ยังคงมีชีวิตอยู่อย่างเหนียวแน่น
น่าเสียดายที่ระบบแค่รับประกันว่าเขาไม่ตายเท่านั้น คนก็ยังหิวได้ ยังกลัวหนาวได้
ความทรมานจากความหิวโหยและความหนาวเหน็บยังคงบีบคั้นเขาทุกวินาที
เพื่อให้ได้กินอิ่มท้องสักมื้อ เว่ยฮั่นจึงต้องมายืนอยู่ที่นี่
"ร้านยานี่ก็ไม่เลวแฮะ อย่างน้อยก็ได้เรียนรู้วิชา ทั้งยังมีข้าวกินที่พักอาศัย ดีกว่าคนหนีภัยอื่นที่ต้องขายตัวเป็นทาสเยอะ"
"พอมั่นคงแล้ว ค่อยหาโอกาสฝึกวิชายุทธ์บำเพ็ญตนเป็นเซียน คนเราก็ต้องกินข้าวอยู่ดี"
เว่ยฮั่นปลอบใจตัวเองเงียบๆ
หลังจากรอคอยอยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็ถึงคิวเขาที่จะได้ลงทะเบียน
"ชื่ออะไร?" ลูกน้องถาม
"ข้าชื่อเว่ยฮั่น มาจากหมู่บ้านเกาะซาน เมืองทูเซี่ยน มณฑลยวี่ อายุ 14 ปี!" เว่ยฮั่นตอบชัดถ้อยชัดคำ "ญาติพี่น้องล้วนเสียชีวิตระหว่างหนีภัย ตอนเด็กเคยเรียนที่โรงเรียนในหมู่บ้าน อ่านออกเขียนได้"
"อืม!"
ลูกน้องพยักหน้าอย่างพอใจ มองเว่ยฮั่นด้วยสายตาเวทนา เห็นเขาพูดจาคล่องแคล่ว ท่าทางเรียบร้อย ก็ตรงตามที่ต้องการพอดี
"นี่คือสัญญาห้าปี เซ็นชื่อประทับตราด้วย" ลูกน้องยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้
เว่ยฮั่นชำเลืองมองอย่างไม่ใส่ใจ เงื่อนไขในสัญญาก็ไม่ได้เกินไป แค่ห้ามย้ายงานภายในห้าปีเท่านั้น
ราชวงศ์ต้าหลี่ห้ามมีทาสอย่างเด็ดขาด!
แม้ลูกมือฝึกหัดจะมีฐานะต่ำต้อย แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกขายไป
เว่ยฮั่นรีบเซ็นชื่อของตัวเองลงไปอย่างว่องไว แล้วประทับลายนิ้วมือ นับแต่นี้เขาก็เป็นสมาชิกของร้านยาตระกูลเฉินอย่างเป็นทางการ
"จะเป็นอมตะแล้วจะอย่างไร? การได้กินอิ่มท้องต่างหากคือสิ่งสำคัญที่สุด"
"คืนนี้ในที่สุดก็ไม่ต้องนอนข้างถนน สั่นงันงกด้วยความหนาวแล้ว!"
เว่ยฮั่นพึมพำอย่างขบขัน พยายามกลมกลืนตัวเองเข้ากับฝูงชนอย่างเงียบเชียบ
เขาไม่ใช่พวกหัวดื้อที่คิดว่าแค่ข้ามมิติมาแล้วมีระบบติดตัวก็จะเก่งกาจไปหมด ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน
การเป็นอมตะไม่ได้หมายความว่าจะเก่งกาจ ตอนนี้เขายังคงอ่อนแอไม่ต่างอะไรกับเด็กทั่วไป
หากความลับของเขาถูกเปิดเผย คนมากมายคงอยากจะศึกษาวิจัยเขา
แม้จะไม่มีใครฆ่าเขาตายได้ แล้วอย่างไร? แค่เอาก้อนเหล็กมามัดแล้วโยนลงทะเลก็จัดการเขาได้แล้วไม่ใช่หรือ?
ถ้าต้องจมน้ำตายแล้วฟื้นคืนชีพซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทะเล แค่คิดก็ขนลุกแล้ว
"พอแล้วๆ ครบจำนวนแล้ว ใครที่ไม่ได้รับเลือกก็แสดงว่าโชคไม่ดี ไปกันได้แล้ว!"
"พวกที่เซ็นชื่อประทับตราแล้วตามข้ามา ต่อไปนี้พวกเราก็เป็นพวกเดียวกันแล้ว ไปชำระล้างร่างกายเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เรือนหลังก่อน เดี๋ยวเถ้าแก่ยังจะมาอบรมอีก รีบๆ หน่อย!"
หลังจากวุ่นวายอยู่พักใหญ่
ผู้ดูแลชุดฟ้าก็คัดเลือกเด็กหนุ่มได้ 30 คน
แล้วพาทุกคนเข้าไปในร้านยา
นี่เป็นร้านขนาดใหญ่ที่มีหน้าร้านกว้างแปดห้อง สูงสามชั้น มีเรือนสามหลัง ครอบคลุมพื้นที่กว่าสิบไร่
ภายในร้านคนพลุกพล่าน อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นยา
แพทย์และลูกมือยุ่งวุ่นวาย คนไข้เข้าแถวยาวเหยียด
เรือนหลังก็คึกคักไม่แพ้กัน มีองครักษ์กำลังฝึกยุทธ์ มีลูกศิษย์กำลังต้มยา ยังมีคนงานกำลังตากสมุนไพร
เมื่อเทียบกับความเยือกเย็นและความวุ่นวายภายนอก
ที่นี่ราวกับเป็นอีกโลกหนึ่ง
ดวงตาของเหล่าเด็กหนุ่มเปล่งประกายขึ้นมาทันที
แม้แต่เว่ยฮั่นเองก็อดสนใจขึ้นมาไม่ได้ "ที่นี่ ไม่เลวเลยนะ!"
(ในส่วนความสามารถ ฝึกฝนอัตโนมัติ ทางต้นฉบับเขียนไว้ 2 แบบ คือ AFK เป็นภาษาอังกฤษเลย และ ฝึกฝนอัตโนมัติ แบบจีน)