ตอนที่ 39 : เส้นทางเทพเจ้าถอยห่าง
.
ท่ามกลางสายลมและหิมะอันกว้างใหญ่ ชายสวมเสื้อกันลมสีดำเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ
.
รองเท้าบู๊ทสีดำทิ้งรอยเท้าบนหิมะในแต่ละย่างก้าว เลือดหยดลงตามมุมเสื้อผ้าของเขากระจายบนพื้นหิมะเป็นเส้นสีแดงบางและยาว
.
ซู๋--ซู่--ซู่!
.
ประกายไฟจากการเสียดสีหินเหล็กไฟทำให้ก้นบุหรี่ติดไฟ เขาสูดควันหนาทึบเข้าลึกๆ แล้วค่อยๆ ระบายออกมา...
“กำจัดไปไม่น้อยเลย เหลือแค่เศษสวะบางส่วน…คราวนี้มาจัดการในรวดเดียว” เขาพึมพำกับตัวเอง
ชายสวมเสื้อกันลมเปื้อนเลือด บนเสื้อมีแถบเส้นสีเงินสี่เส้นกะพริบ
ในเวลานี้บนท้องฟ้าสีเทา ดาวสองดวงสว่างขึ้นพร้อมกัน แสงศักดิ์สิทธิ์อันบริสุทธิ์ส่องลงมายังคฤหาสน์หลังหนึ่งซึ่งอยู่ไกลออกไป
เมื่อเห็นฉากนี้ เขาก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“สาวกเทพเจ้า?”
“ถ้าเป็นทิศทางนี้ มันควรจะเป็นคฤหาสน์ของหม่าจง...ในกลุ่มเศษสวะพวกนั้น มีคนได้รับความโปรดปรานจากทวยเทพด้วยเหรอ?”
ขณะที่เขากำลังพึมพำกับตนเองก็มีดวงดาวอีกดวงหนึ่งสว่างขึ้น แสงอันศักดิ์สิทธิ์ระลอกที่สามส่องสว่างลงมา...
“ได้รับพรของเทพเจ้าทั้งสาม?” ในที่สุดความประหลาดใจของเขาก็กลายเป็นความตกใจ “นี่มันสัตว์ประหลาดแบบไหน…”
เขาเร่งฝีเท้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว
พายุหิมะตกหนัก อากาศหนาวเย็นถึงกระดูก ด้านหน้าปรากฏเงาโครงร่างของคฤหาสน์ที่อยู่ไกลออกไป
.
หนึ่งนาที
.
สองนาที
.
สามนาที...
.
คิ้วของเขาขมวดคิ้วมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ว่าเขาจะเดินไปยังไง ก็เห็นเพียงภาพเงาอันเลือนรางของคฤหาสน์เท่านั้น ไม่มีทีท่าว่าจะเข้าใกล้...ราวกับภาพลวงตาท่ามกลางหิมะตกหนัก
ในที่สุดเขาก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง จึงหันกลับมามองข้างหลัง
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร รอยเท้าทั้งหมดที่เขาทิ้งไว้ด้านหลัง มันหายไป
เสียงลมหนาวหวีดหวิวก้องอยู่ในหูของเขา ดูเหมือนจะมีแค่เขาคนเดียวเหลืออยู่ในโลกสีขาวโพลนแห่งนี้
“ใคร?” เขาพูดเสียงเย็นชา
เสียงของเขาหายไปในพายุหิมะที่ตกลงมา เหมือนถูกสัตว์ประหลาดบางอย่างกลืนกิน ความเงียบอันน่าขนลุกยังคงปกคลุมรอบๆ
“...แกล้งทำเป็นผี” เจตนาฆ่าแวบเข้ามาในดวงตา เขาใช้มือขวาจับด้ามปืนข้างเอว แล้วเขตแดนที่มองไม่เห็นก็แผ่ขยายออกไป!
เขาหลับตาคู่นั้นลง บุหรี่ที่คาบอยู่มุมปากเผาไหม้อย่างเงียบๆ เขาใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดสัมผัสสิ่งรอบตัวอย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้น เขาก็ยกปากกระบอกปืนขึ้นเร็วดังสายฟ้า เล็งมันไปในทิศทางด้านข้างแล้วเหนี่ยวไกปืนโดยไม่ลังเล!
.
ปัง--!
.
พลังแห่งการทำลายล้างฉีกกระชากความว่างเปล่า ทำลายเกล็ดหิมะทั้งหมดที่ขวางทาง
ในเวลาเดียวกันทุกสิ่งรอบตัวเขา พลันลุกเป็นไฟเหมือนม้วนกระดาษโดนเผาไหม้ พื้นดิน ท้องฟ้า พายุหิมะ ภาพคฤหาสน์ที่อยู่ไกลออกไป...เขาเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยรังไหมยักษ์ ด้วยกระสุนนัดนี้ทำให้รังไหมแตกเป็นเสี่ยง!
ความรู้สึกที่ถูกปั้นแต่งรอบตัวเขาจางหายไปราวกับกระแสน้ำ ภาพคฤหาสน์ซึ่งอยู่ห่างไกลก็กลับมาชัดเจนอีกครั้ง
"ฮะ?" เสียงแหลมแผ่วเบาดังมาจากทิศที่กระสุนพุ่งไป
เมื่อหันกลับไปมอง สิ่งเดียวที่เห็นคือเด็กผู้ชายที่ติดกระดาษสีขาวปิดบังใบหน้าครึ่งหนึ่ง กำลังนั่งยองๆ กลางหิมะ มือข้างหนึ่งถือกิ่งไม้ ดวงตามองผ่านรูเล็กๆ บนพื้นผิวกระดาษสีขาว เขามองมาด้วยความประหลาดใจ
ตรงพื้นบริเวณด้านหน้าของเด็กชาย มีกิ่งไม้ปักบนพื้นเป็นวงกลมขนาดใหญ่โดยมีเด็กชายเป็นจุดศูนย์กลางวงกลม
มันคือทิศทางที่เขาเพิ่งยิงเมื่อครู่ วงกลมขนาดใหญ่เผยช่องโหว่
“ผมยังคิดว่า คุณต้องเดินต่ออีกสักสองสามนาทีถึงจะรู้ตัว” เด็กชายยักไหล่ "ดูเหมือนผมจะประเมินคุณต่ำไป...คุณเป็นผู้พิทักษ์ที่มีพรสวรรค์ในการค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ในระดับตำนานเลย"
"นายเป็นใคร?"
หานเหมิงขมวดคิ้วและจ้องมองเขา
เขาสัมผัสได้ว่าออร่าของเด็กชายคนนี้แข็งแกร่งกว่าเขา และอีกฝ่ายน่าจะเข้าสู่ระดับที่ห้าแล้ว!
แต่ตอนนี้เขาอายุยี่สิบห้าแล้ว...ส่วนเด็กชายตรงหน้าเขามีอายุมากที่สุดเพียงสิบห้าหรือสิบหกปีเท่านั้น!
ระดับที่ห้าที่มีอายุสิบห้าหรือสิบหกปี?
เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับอัจฉริยะเช่นนี้ในอาณาจักรออโรร่ามาก่อน
“ผมปิดหน้า แล้วยังจะบอกคุณอีกเหรอว่าผมเป็นใคร?” เด็กชายชี้ไปที่กระดาษสีขาวที่ปิดหน้าของเขา ดูเหมือนเขาจะรู้สึกหายใจไม่สะดวกอยู่บ้าง จึงหยิบกระดาษอีกแผ่นที่เจาะตรงจมูกขึ้นมาสวม แล้วพูดต่อเสียงเบาว่า
“คุณก็อายุเยอะแล้ว ทำไมสมองคุณถึงช้าจัง?”
ใบหน้าของหานเหมิงซีดลง
"ถ้านายยังขัดขวางไม่ให้ผู้พิทักษ์ปฏิบัติหน้าที่ นายรู้มั้ยว่านายจะถูกตั้งข้อหาอะไร?"
"ผู้พิทักษ์เจ๋งมากเหรอ?”
เด็กชายหัวเราะเบาๆ มือจับกิ่งไม้วาดไปบนหิมะด้วยท่าทีสบายๆ ชั่วพริบตาเดียวรูปทรงสี่เหลี่ยมปรากฏใต้ฝ่าเท้าหานเหมิง และล้อมรอบตัวเขาเหมือนกรอบรูป
"รอให้คุณออกมาได้ซะก่อน ผมถึงจะยอมรับว่าเจ๋งจริง...บางที อาจจะเป็นหนึ่งในสิบของพลังของผม" ใบหน้าภายใต้กระดาษสีขาวของเด็กชายปรากฏรอยยิ้มขึ้น
หานเหมิงมองลงไป ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร บนพื้นหิมะใต้ฝ่าเท้าเขามีไพ่ขนาดใหญ่ปักอยู่ในหิมะ...
.
[8 ออฟ คลับส์]
.
ขณะที่เขาเห็นไพ่ใบนั้น หานเหมิงก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่าง รูม่านตาเขาหดตัวอย่างกะทันหัน
"...สมาคมสนธยา?!"
.......
.
.
ณ คฤหาสน์
.
เฉินหลิงจ้องมองดาวดวงที่สามซึ่งสว่างขึ้นอย่างว่างเปล่า ความสับสนปรากฏในดวงตาของเขา
เขาไม่รู้จักดาวดวงนี้ และเขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงดึงดูดมันมา...หากการฆ่าคนดึงดูด "เส้นทางการทหาร" แล้วอีกสองเส้นทางล่ะมาได้ยังไง?
เฉินหลิงไม่เข้าใจและหยุดคิดถึงเรื่องนี้ สำหรับเขาแล้ว การเลือกเส้นทางที่จะเดินคือปัญหาที่เขาต้องเผชิญในตอนนี้
ตราบใดที่เขาก้าวเข้าสู่เส้นทางเทพเจ้า เขาจะสามารถควบคุมพลังพิเศษได้...บางทีสักวันหนึ่ง เขาจะสามารถกำจัด "ผู้ชม" ได้ด้วยตัวเอง!
คนหนึ่งคน ไม่สามารถเดินบนเส้นทางหลายสายพร้อมกันได้ เฉกเช่นบุคคลหนึ่งไม่อาจแยกออกเป็นสองคนได้ เฉินหลิงมองไปที่เส้นทางศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามเส้นทาง เขาแทบจะไม่ลังเลและตัดสินใจ...ท้ายที่สุด ในทั้งสามเส้นทางนี้ เขารู้จักแค่เส้นทางการทหารเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น [ระบำสังหาร] ของหานเหมิงก็สร้างความประทับใจอันลึกซึ้งให้กับเขา เขาจึงรู้สึกว่า 'เส้นทางการทหาร' อาจจะดีที่สุดในเรื่องการต่อสู้จากทั้งหมด
เมื่อเขากำลังจะเลือก 'เส้นทางการทหาร' การเปลี่ยนแปลงกะทันหันก็เกิดขึ้น!
ในความว่างเปล่าด้านหลังเขา ดวงตาสีแดงเข้มคู่หนึ่งเปิดขึ้นราวกับคลื่นทะเลโหมกระหน่ำ!
“ผู้ชม” เริ่มเข้ามาแทรกแซงการแสดง!
.
ตึ้ง - ตึ้ง - ตึ้ง - ตึ้ง -
.
ในโรงละคร "ผู้ชม" นับไม่ถ้วนที่กำลังดูการแสดงเริ่มกระทืบเท้าบนพื้นพร้อมๆ กัน เกิดเสียงอึกทึกครึกโครมเหมือนฟ้าร้องอย่างต่อเนื่อง!
ดวงตานับไม่ถ้วนจากโรงละคร จ้องมองดาวสามดวงเหนือท้องฟ้า ในเวลานั้นเอง พลังระดับทำลายล้างโลกของดวงตาสีแดงเข้มเพ่งมองดวงดาวทั้งสามนิ่งพร้อมคำรามข่มขู่อย่างดุร้าย
พวกเขากำลังปฏิเสธเส้นทางสู่เทพเจ้า
พวกเขากำลังคุกคามทวยเทพ!
ในเวลาต่อมา ดาวสามดวงบนท้องฟ้าพลันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
แสงศักดิ์สิทธิ์ที่ปกคลุมร่างกายของเฉินหลิงค่อยๆ แตกเป็นเสี่ยงทีละนิดๆ ราวกับเส้นทางที่ทอดยาวไปบนฟากฟ้า เริ่มพังทลายร่วงลงสู่พื้นด้านล่าง...
เส้นทางสู่เทพเจ้ากำลังหวาดกลัว
พวกเขาเห็นปีศาจที่อยู่ข้างหลังเฉินหลิง เดิมทีพวกมันชอบเฉินหลิง แต่ก็เริ่มกลัวการมีอยู่ของเฉินหลิง พวกมันไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้ปีศาจเริ่มต้นเส้นทางของเขา...เช่นเดียวกับที่ไม่มีใครคิดที่จะเชิญเสือมาเป็นแขกในบ้านของตนเอง
ดังนั้น พวกเขาจึงตัดเส้นทางจิตวิญญาณและถอยออกไป
แสงเปล่งประกายศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามซึ่งปกคลุมร่างกายของเฉินหลิงแตกสลาย เส้นทางสู่เทพเจ้าก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว ในขณะนี้ ทั้งเฉินหลิง เฉียนฝานและคนอื่นๆ ต่างก็ตกตะลึง...
.
.
.