ตอนที่ 18 ดอกทองร่วงหล่น
ตอนที่ 18 ดอกทองร่วงหล่น
ฉู่เสวียนมองตามด้านหลังของทั้งสามคน แล้วหยุดมอง เนื่องจากว่าเขาต้องเริ่มเปิดใช้งานมหาค่ายกลแปลงโลหิตก่อน เพราะนี่คือเรื่องสำคัญที่สุด เขาจึงควบคุมดาบบังเหินและลอยขึ้นไปในอากาศ
เมื่อมองดูซอมบี้ที่อัดแน่นกันเหมือนแมลงวันไร้หัวในอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จนี้ ค่ายกลก็ถูกเปิดใช้งานทันที
บัซ!
แสงสีเลือดแปลกๆ โผล่ออกมาจากขบวนทั้ง 18 รูปแบบ ทันใดนั้นบริเวณนี้ก็ถูกปกคลุมทั้งหมด ทุกสิ่งในมหาค่ายกลแปลงโลหิตกลายเป็นเลือด ทำให้มองเห็นได้ยาก สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในนั้นถูกดูดเลือดและพลังงานออกไปด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ซอมบี้เหล่านั้นคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง ในตอนแรกพวกมันยังคงมีพลังมาก แต่เมื่อเลือดและพลังงานในร่างกายของพวกมันถูกดูดไปจนหมด พวกมันก็เหี่ยวแห้งลงไปอย่างรวดเร็ว
ภายในเวลาไม่ถึงสามนาที ซอมบี้ก็กลายเป็นมัมมี่และล้มลงกับพื้นไป
หนึ่งหยด สองหยด สามหยด...พลังงานเลือดเหล่านี้รวมตัวกันไปที่แผ่นค่ายกล และควบแน่นเป็นเม็ดเลือดขนาดเท่ากำปั้น
ฉู่เสวียนเหยียบดาบบังเหินแล้วลอยขึ้นไปในอากาศ เขารู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก ประสิทธิภาพของค่ายกลนั้นสูงกว่าที่คิดมาก!
หลังจากนั้นไม่นาน เลือดของซอมบี้ทั้งหมดในพื้นที่ก็ถูกกำจัดออกไปโดยมหาค่ายกลแปลงโลหิต
หินวิญญาณที่ใส่ลงไปในมหาค่ายกลแปลงโลหิตก็เพิ่งหมดลง
ฉู่เสวียนมองเข้าไปใกล้ ๆ และเห็นลูกปัดโลหิตขนาดใหญ่ 13 เม็ดควบแน่นอยู่บนแผ่นค่ายกล แต่ละอันมีสีแดงและกลมเหมือนทับทิม
เมื่อลองดมกลิ่นใกล้ๆ ก็ยังคงได้กลิ่นจางๆ ของเลือด
ฉู่เสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชม ลูกปัดโลหิตทั้ง 13 เม็ดมีขนาดประมาณกำปั้นและมีคุณภาพสูงมาก
และแต่ละเม็ด มีค่าเท่าลูกปัดโลหิตธรรมดาอย่างน้อยยี่สิบเม็ด
“ลูกปัดโลหิตขนาดใหญ่ทั้งสิบสามเม็ดนี้น่าจะเพียงพอสำหรับข้าที่จะเลื่อนเขตแดนไปให้ถึงขั้นที่ 9 ของการกลั่นลมปราณ” ฉู่เสวียนพยักหน้าเล็กน้อยด้วยความพึงพอใจ
เขากำลังจะจากไป แต่ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นนิมิตปรากฏบนท้องฟ้า แสงสีทองจำนวนมากปรากฏขึ้นมาจากที่ไหนไม่รู้ ก่อตัวเป็นดอกไม้สีทองและตกลงมาจากท้องฟ้า ล้อมรอบตัวเขา
ฉากนี้กินเวลาห้านาที ก่อนที่จะมันค่อยๆ หายไป
ฉู่เสวียนดูตกตะลึงเป็นอย่างมาก ดอกทองร่วงหล่น! นิมิตหมายเช่นนี้ เป็นนิมิตอันดีที่จะเกิดขึ้นตอนที่ทำคุณสร้างบุญกุศลครั้งยิ่งใหญ่ไม่ใช่หรือ? เหตุใดมันถึงเกิดขึ้นกับข้าได้?
หลังจากประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็จำได้ว่าเขาเพิ่งฆ่าซอมบี้ไปหลายพันตัว แม้ว่าเขาจะไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน แต่ก็ต้องมีอย่างน้อยสามพันตัว สำหรับการฆ่าซอมบี้หนึ่งตัว ก็เท่ากับว่าสร้างบุญแล้ว นี่เขากำลังฆ่าซอมบี้ไปหลายพันตัว ก็ทำให้เขาได้สร้างบุญสะสมขึ้นมามากมาย จนทำให้เกิดปรากฎการณ์ดอกทองร่วงหล่นเช่นนี้!
ทันใดนั้นการแสดงออกของฉู่เสวียนก็แปลกไป การบำเพ็ญกุศล บุญใหญ่ ดอกทองร่วงหล่น... สามคำนี้ดูจะขัดแย้งกับเส้นทางที่เขาเลือกเดินเป็นอย่างมาก
เนื่องจากผู้บำเพ็ญสายมารทุกคนจะต้องได้รับผลกรรมจากการกระทำชั่วนับไม่ถ้วน ซึ่งก็ดีแค่ไหนแล้วที่สวรรค์ไม่ลงทัณฑ์จนเกิดฟ้าร้องฟ้าผ่าขึ้นมา
สร้างบุญใหญ่อย่างนั้นหรือ?
บุญที่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเนี้ยนะ?
“ข้าเกรงว่า..ข้าอาจเป็นผู้บำเพ็ญสายมารเพียงคนเดียวที่เจอกับนิมิตแห่งบุญจากการสร้างบุญกุศลครั้งใหญ่ใช่ไหม” ฉู่เสวียนหัวเราะออกมาอย่างไม่ใส่ใจ
ในเวลานี้ ดอกไม้สีทองทั้งหมดที่ตกลงมาก็หายเข้าไปในร่างของเขา ฉู่เสวียนกะพริบตามองดู
ทว่าทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ามีความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว และมันก็ทำให้เขาเข้าใจอะไรหลายๆอย่างได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตอนนี้เขาได้รู้ถึงปัญหาในการฝึกฝนเคล็ดลับวิชา "พลังวิญญาณแปลงโลหิตช่วงชิง" ของตนเองแล้ว
สิ่งนี้เป็นเหมือนการรู้แจ้ง และคำตอบต่างๆที่เขาพยายามค้นหามาตลอดก็เข้ามาในใจของเขาทันที โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องคิดอะไร จึงทำให้ง่ายที่จะหาวิธีแก้ปัญหาในเรื่องที่เคยคิดว่ายากมาตลอด
นอกจากนี้เขายังค้นพบกับอะไรบางอย่างที่ไม่คาดฟัน
นั่นก็คือมีอายุยืนยาว! และโชคดี!
นี่คือผลลัพธ์ที่ได้มาจากพลังบุญที่เขาได้ทำไว้!
มันทำให้เขามีความเข้าใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก!
โชคดีและมีอายุยืนยาว!
เขาสะสมบุญมากมายจากการฆ่าซอมบี้ในครั้งนี้ จึงทำให้มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับเขา
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้บำเพ็ญสายธรรมเหล่านั้นจะขับไล่ผู้บำเพ็ญมารและเรียกร้องความยุติธรรมให้กับสวรรค์ทุกวัน ด้วยผลลัพธ์ที่ได้จากการสะสมบุญนี้ ใครบ้างที่ไม่อยากได้!”
ฉู่เสวียนพูดขึ้นทันที "ถ้าข้าวางมหาค่ายกลแปลงโลหิตในอนาคตและสังเวยซอมบี้หนึ่งแสนตัว ซอมบี้หนึ่งล้านตัว หรือแม้แต่ซอมบี้หลายร้อยล้านตัวโดยตรงเพื่อสังเวยเลือด... "
"นี่ก็เท่ากับเป็นการสร้างบุญมหาศาล จะเป็นไปได้ไหมที่สวรรค์จะให้รางวัลกับข้ามากกว่าเดิม?”
“การรู้แจ้ง โชคลาภ และอายุขัยของข้าก็จะเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง!”
ทันใดนั้นเขาก็คิดถึงความเป็นไปได้นี้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สีหน้าของเขาก็มีความสุขมากยิ่งขึ้น
ดาวเคราะห์โลกาวินาศแห่งนี้ถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้ฝึกฝนสายมารจริงๆ!
ฉู่เสวียนรีบเก็บธงขบวนค่ายกลกลับมาอย่างรวดเร็ว และจากไปพร้อมกับดาบบังเหิน
หลังจากได้รับลูกปัดโลหิตมามากมายในครั้งนี้ ก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องทำการฝึกฝนอย่างหนักแล้ว
หลังจากที่ฉู่เสวียนจากไป เฮลิคอปเตอร์ก็ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า ที่เบาะหลังของเฮลิคอปเตอร์คือเจิ้งเป่าซาน,จ้วงเฉียงและซุนเหมิง นอกจากนี้ยังมีนักบินที่ขับเฮลิคอปเตอร์อยู่ข้างหน้าอีกคน เขาเป็นกัปตันนักบินชุดแรกของบริษัทรักษาความปลอดภัยเฮยเฟิง ชื่อว่าหวังหยง
“ศาสตราจารย์เจิ้ง ความจริงแล้วเราจะรีบมาที่นี่ทันทีที่ได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากพวกคุณ แต่เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ไม่ได้บินมานานแล้ว ซึ่งเราก็ไม่มีอะไหล่สำรองด้วย ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาในการอุ่นเครื่องนานไปหน่อย โปรดอย่างตำหนิพวกเราเลย” หวังหยงกล่าวอย่างช่วยไม่ได้
จ้วงเฉียงเยาะเย้ยออกมา "ถ้าไม่มีคนมาช่วยชีวิตเรา ป่านนี้เราคงตายกันหมดแล้ว !"
"ซึ่งมันจะทำให้การวิจัยล่าช้าไปอีก และตอนนั้นต่อให้จะต้องโยนพวกคุณออกไปเป็นอาหารให้กับซอมบี้เพื่อเป็นการไถ่โทษ ก็ไม่สามารถชดเชยได้อยู่ดี!”
หวังหยงยิ้มอย่างเชื่องช้า “ใช่ ใช่ คุณพูดถูก”
เขายังคงอยากจะตีสนิทศาสตราจารย์เจิ้ง แต่ศาสตราจารย์เจิ้งมักจะเบือนหน้าหนีและมองมาที่เขาครั้งสองครั้งเท่านั้น หวังหยงจึงรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก
ในตอนนั้นเขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นสายตาก็หันไปเห็นอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จตรงหน้า แล้วอุทานออกมาว่า "โอ้พระเจ้า เกิดอะไรขึ้นที่นี่"
เจิ้งเป่าซานและอีกสองคนมองลงไป และทันใดนั้นก็พบว่านี่คืออาคารที่พวกเขาเกือบจะโดนซอมบี้กินก่อนหน้านี้
ทว่าอาคารแห่งนี้ที่เคยมีซอมบี้หลายพันตัว ในตอนนี้กลับมีแต่ความเงียบงัน เมื่อขับเฮลิคอปเตอร์ลงไปตรวจสอบดูอย่างใกล้ชิด ก็เห็นว่ามีซากศพซอมบี้ที่เหี่ยวแห้งกระจัดกระจายไปทั่วพื้นดิน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ซอมบี้เหล่านี้ยังมีชีวิต แต่ตอนนี้พวกมันได้ตายไปหมดแล้วจริงๆ
“หยุดก่อน ฉันอยากลงไปดูสักหน่อย” เจิ้งเป่าซานพูดอย่างจริงจัง
หวังหยงตกตะลึง "แต่ว่าข้างล่างนั้นอาจมีซอมบี้ซ่อนตัวอยู่ก็ได้นะครับ ... "
"ฉันบอกว่าฉันต้องการลงไป" เจิ้งเป่าซานจ้องเข้าไปในดวงตาของหวังหยง น้ำเสียงของเขาดูเย็นชาเป็นอย่างมาก
หวังยงไม่กล้าขัดคำสั่งอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลดเฮลิคอปเตอร์ลง
หลังจากนั้นไม่นาน เจิ้งเป่าซานที่มีจ้วงเฉียงและซุนเหมิงคุ้มครองความปลอดภัยอยู่ก็เดินลงมาจากเฮลิคอปเตอร์มาดูที่นอกอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จ ตอนนี้เมื่อพวกเขาเข้ามาดูใกล้ๆ พวกเขาก็เห็นศพของซอมบี้ที่แห้งตายนอนอยู่ทั่วสถานที่
จ้วงเฉียงหยิบมีดออกมาแล้วผ่าศพออก แต่กลับพบว่าไม่มีเลือดเหลืออยู่เลย ด้วยแรงเพียงเล็กน้อย ศพเหล่านี้ก็ถูกบดขยี้จนกลายเป็นผุยผง มันเหมือนกับว่าเลือดและน้ำทั้งหมดในร่างกายระเหยออกไปจนหมด
“มันเกิดขึ้นได้ยังไง?” เจิ้งเป่าซานตกตะลึง
พวกเขาเพิ่งจากที่นี่ไปเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้ายังมีซอมบี้นับพันตัวอยู่ที่นี่ อีกทั้งเลือดของพวกมันยังแห้งหายไปหมด นี่ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะสามารถทำได้!
“ผู้ฝึกฝนอมตะคนนั้นหรือเปล่าครับ?” ซุนเหมิงกระซิบ
เจิ้งเป่าซานคิดถึงพฤติกรรมของฉู่เสวียนแล้วพยักหน้าอย่างจริงจัง "อาจเป็นเขา!"
"เรื่องนี้สำคัญมาก เราต้องรีบกลับไปบอกนายพลเย่เกี่ยวกับเรื่องนี้"
"ใช่”จ้วงเฉียงกล่าวอย่างจริงจัง