ตอนที่แล้วตอนที่ 16 มองหาสถานที่สำหรับสร้างค่ายก  แกนวิญญาณระดับ 3
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 ดอกทองร่วงหล่น

ตอนที่ 17 มีผู้บ่มเพาะอมตะในมณฑลหลินเจียงของเรา


ตอนที่ 17 มีผู้บ่มเพาะอมตะในมณฑลหลินเจียงของเรา

หัวใจของเหล่าเจิ้งเริ่มกลับมาสงบอีกครั้ง  ตามหลักเหตุผลแล้ว เขาไม่ควรบอกว่าสิ่งนี้คืออะไร แต่ชายหนุ่มตรงหน้าก็ได้ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ และเห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่มีพลังเหนือมนุษย์  เช่นนี้ก็ไม่จำเป็นจะต้องเก็บงำเป็นความลับ

เขาดันจ้วงเฉียงและซุนเหมิงที่กำลังพยายามขัดขวางเขาออก และพูดอย่างจริงจังว่า "นี่คือแกนวิญญาณระดับที่ 3 ที่ได้มาจากหมีซอมบี้ระดับ 3"

"แต่ฉันขอร้องเถอะ คุณอย่าเอามันไปเลย เพราะมันมีประโยชน์ต่อสถาบันวิทยาศาสตร์ชีวภาพของเราเป็นอย่างมาก"

"ด้วยความช่วยเหลือนี้ เราอาจจะสามารถพัฒนาอาวุธที่ควบคุมซอมบี้ได้ นี่จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อโลก..."

ฉู่เสวียนกล่าวว่า “ข้าบอกว่าจะเอามันไปจากเจ้าเมื่อไหร่กันที่?”

การแสดงออกของเหล่าเจิ้งแข็งทื่อไปทันที "คุณไม่ได้ต้องการมันเหรอ นี่คือแก่นวิญญาณขั้นที่ 3 เชียวนะ"

ฉู่เสวียนหัวเราะเบา ๆ "ในสายตาของข้า มันไม่แตกต่างจากลูกแก้วบนพื้นมากนัก”

“ข้าขอดูหน่อยได้หรือไม่” เขายื่นมือออกมา

เหล่าเจิ้งลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยื่นกล่องให้เขา  เขาใช้ชีวิตมาจนแก่ปูนนี้ และได้พบกับผู้คนมามากมาย แต่คำพูดของชายหนุ่มคนนี้มีความเย่อหยิ่ง และดูเหมือนว่าเขาจะดูถูกแก่นแท้ของพลังวิญญาณนี้จริงๆ

ฉู่เสวียนเปิดกล่อง จากนั้นข้าก็เห็นลูกปัดสีแดงเข้มนอนอยู่ในก้นกล่องอย่างเงียบ ๆ  เมื่อมองแวบแรก  มันดูเหมือนจะไม่แตกต่างไปจากลูกแก้วธรรมดาๆมากนัก แต่เมื่อเขาสัมผัสอย่างระมัดระวัง เขาก็ค้นพบว่าลูกแก้วนี้มีพลังงานอยู่ แก่นแท้ของพลังงานนี้ด้อยกว่าพลังในหินวิญญาณเสียอีก แม้ว่าปริมาณจะค่อนข้างมาก แต่เมื่อเทียบกันแล้ว แทบจะเทียบกับความเข้มข้นของพลังวิญญาณในหินวิญญาณระดับต่ำไม่ได้ด้วยซ้ำ

หลังจากมองไม่กี่ครั้ง ฉู่เสวียนก็นำของกลับเข้าไปในกล่อง  แล้วส่ายหัวเล็กน้อย

แกนพลังวิญญาณขั้นที่ 3 ที่บอกว่ามีพลังงานนักหนา กลับน้องกว่าพลังวิญญาณในหินวิญญาณระดับต่ำเสียอีก

แต่ก็ทำให้เขาพอจะเข้าใจแนวคิดคร่าวๆ เกี่ยวกับระบบพิเศษของดาวเคราะห์โลกาวินาศนี้ขึ้นมาบ้าง

“เจ้าสองคนเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติขั้นที่ 1 อย่างนั้นเหรอ ? เจ้ามาจากค่ายทหารใช่หรือไม่?”

สายตาของฉู่เสวียนจ้องไปที่ชายชุดดำสองคน เขาเห็นว่าทุกการเคลื่อนไหวของชายทั้งสองดูจะประสานกัน  ความร่วมมือแบบนี้เป็นเรื่องยากที่จะปลูกฝังในคนทั่วไป และต้องได้รับการฝึกมาจากค่ายทหารเท่านั้น

ทั้งสองมองหน้ากันและพยักหน้า

จ้วงเฉียงพูดอย่างจริงจังว่า "พวกเราอยู่ในกองทัพหลินเจียงของมณฑลหลินเจียง ได้รับคำสั่งให้นำแกนวิญญาณของหมี่ซอมบี้กลับมา และปกป้องศาสตราจารย์เจิ้งให้กลับไปอย่างปลอดภัย"

ฉู่เสวียนพยักหน้าเล็กน้อย แม้ว่าวิกฤตซอมบี้จะปะทุขึ้นจนวันสิ้นโลกมาถึง แต่ตราบใดที่มนุษยชาติยังไม่สูญพันธุ์ อย่างน้อยก็ถือว่ามีกองกำลังอยู่ เห็นได้ชัดว่าอำนาจอย่างเป็นทางการของราชวงศ์หยานฮั่นยังคงไม่สูญสิ้น

“แล้วใครจะมารับตัวพวกเจ้ากลับไป” ฉู่เสวียนถามอย่างไม่ใส่ใจ

ซุนเหมิงตอบว่า "บริษัทรักษาความปลอดภัยเฮยเฟิง  พวกเขาจะขับเฮลิคอปเตอร์มารับพวกเรา"

ฉู่เสวียนพยักหน้า "แล้วพวกเขาอยู่ที่ไหนล่ะ"

จ้วงเฉียงทำอะไรไม่ถูก "เฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาไม่ได้ใช้งานมาเป็นเวลานาน  และจำเป็นต้องซ่อมแซม  จึงตกลงกันว่าจะออกมาก่อนเที่ยงวัน  แต่เรากลับถูกซอมบี้รุมล้อมเป็นจำนวนมาก  จึงต้องส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือออกไปล่วงหน้า"

"ด้วยเหตุนี้บางทีอาจจะล่าช้าไปบ้าง”

ชายทั้งสองมองหน้ากันและถอนหายใจ ท้ายที่สุดแล้วบริษัทรักษาความปลอดภัยเฮยเฟิงก็เป็นเพียงกองกำลังเล็กๆระดับท้องถิ่น จะเอาไปเทียบกับกองทัพหลินเจียงที่เข้มงวดได้อย่างไร

ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะตายหรือไม่ แต่ถ้าหากไม่สามารถนำแกนวิญญาณระดับ 3 กลับไปได้ มันก็ถือว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของมณฑลหลินเจียง

ฉู่เสวียนยิ้มเล็กน้อย "แต่พวกเจ้าก็ช่วยดึงดูดซอมบี้ได้มากมาย  ซึ่งเป็นประโยชน์กับข้ามาก"

"เจ้าช่วยข้าหน่อยได้หรือไม่ แล้วข้าจะช่วยพวกเจ้าให้กลับไปอย่างปลอดภัย"

ศาสตราจารย์เจิ้งเบิกตากว้าง

"ได้โปรดพูดออกมา! เราจะช่วยแน่นอนถ้าเราทำได้!"   หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็รู้สึกว่าเขาพูดมากเกินไป  จึงรีบพูดออกมาว่า "แต่เราไม่สามารถทำอะไรที่ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ได้ เพราะมันคือสิ่งสำคัญที่สุด "

ฉู่เสวียนยิ้ม "เจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไร แค่ยืนบนดาดฟ้านี้ แล้วดึงดูดให้ซอมบี้เขามายังที่แห่งนี้ต่อไป  ด้วยยันต์หินที่ข้าแปะไว้ ไม่ต้องกลัวว่าประตูจะพัง"

ศาสตราจารย์เจิ้งและชายทั้งสองมองหน้ากันทันที  เมื่อเห็นแววตาของแต่ละคน แวบแรกก็มีข้อสงสัยบางอย่าง

ดึงดูดซอมบี้ต่อไปงั้นเหรอ? ชายหนุ่มคนนี้ต้องการทำอะไร?พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉู่เสวียนกำลังจะทำอะไร ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้

ศาสตราจารย์เจิ้งจึงพยักหน้า "เรื่องนี้ไม่ยาก เราทำได้"

ฉู่เสวียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ  ครู่ต่อมาเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วยกดาบของเขาขึ้นมา

ในตอนนั้นก็ได้มีลมแรงพัดเข้ามาที่ดาดฟ้าจนทั้งสามคนลืมตาแทบไม่ได้ เมื่อพวกเขากลับมามองเห็นได้ชัดเจนอีกครั้ง จู่ๆ ฉู่เสวียนก็ปรากฏตัวอยู่บนท้องฟ้า

ศาสตราจารย์เจิ้งและอีกสามคนตกตะลึง  เมื่อครู่ที่ฉู่เสวียนปรากฏตัวครั้งแรกพวกเขามองเห็นไม่ชัด แต่ตอนนี้พวกเขาเห็นแล้วว่าฉู่เสวียนสามารถบินขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ด้วยตาของพวกเขาเอง!

นี่มันอะไรกัน?

บินได้ด้วยดาบ! นี่ไม่ใช่สิ่งมนุษย์จะมาสามารถทำได้ นอกจากในนิยายกำลังภายในเท่านั้น?

แต่มันกลับมาปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเขาจริงๆ!

จ้วงเฉียงกลืนน้ำลายลงไป  "กำลังบินอยู่ในอากาศ! นี่ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะสามารถทำได้..."

ซุนเหมิงพูดด้วยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "เขาเป็นผู้ฝึกฝนหรือเปล่า"

หัวใจของศาสตราจารย์เจิ้งก็เต็มไปด้วยความสับสนอลหม่าน  เขารู้สึกเหมือนว่าโลกทัศน์ของเขาที่ถูกก่อร่างสร้างขึ้นมาใหม่จากวิกฤตซอมบี้ได้พังทลายลงอีกครั้ง "เราต้องรายงานเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดหลังจากกลับไป...”

“ผู้ฝึกฝนอมตะ... เรามีผู้ฝึกฝนอมตะในมณฑลหลินเจียงจริงๆ!”  มือแก่ๆ ของเหล่าเจิ้งสั่นเทา

อีกด้านหนึ่ง เมื่อฉู่เสวียนบินขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาก็พยายามหาสถานที่ที่เหมาะสมในการตั้งมหาค่ายกลแปลงโลหิต  ซึ่งประกอบไปด้วยขบวนทั้งหมด 18 รูปแบบ  เขาจำเป็นจะต้องจัดขบวนทั้ง 18 รูปแบบนี้ให้อยู่ใน 18 ตำแหน่ง และหินวิญญาณจะต้องฝังอยู่ในขบวนทั้ง 18 รูปแบบนี้ด้วย

ในที่สุด มหาค่ายกลแปลงโลหิตก็ถูกเปิดใช้งานด้วยหินวิญญาณ

ความสำเร็จของค่ายกลที่ฉู่เสวียนได้จัดขึ้นมา ถือว่าอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น

แต่เขาก็ตั้งใจให้มันออกมาเป็นเช่นนี้   ทั้งที่เขาสามารถจัดเตรียมมหาค่ายกลแปลงโลหิตได้อย่างเชี่ยวชาญ

ครึ่งชั่วโมงต่อมา เขาก็ได้จัดขบวนทั้ง 18 รูปแบบเสร็จสิ้น เมื่อมองจากทางด้านบน ขบวนทั้ง 18  รูปแบบนี้มีอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จเป็นจุดศูนย์กลาง ก็ก่อตัวออกไปทั้งสิบแปดด้าน ล้อมรอบซอมบี้จำนวนมากที่เข้ามาในอาคารแห่งนี้ไว้

เหตุผลที่ฉู่เสวียนขอให้ศาสตราจารย์เจิ้งและคนอื่น ๆ อยู่บนดาดฟ้า ก็เพื่อดึงดูดซอมบี้ต่อไปและป้องกันไม่ให้พวกมันเดินออกมาจากอาคารอย่างไร้จุดหมาย หลังจากทำเช่นนี้ ฉู่เสวียนก็กลับไปที่ดาดฟ้า

ศาสตราจารย์เจิ้งและอีกสองคนกำลังกินโปรตีนบาร์และดื่มน้ำอยู่ เมื่อเห็นฉู่เสวียนกลับมา พวกเขาก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

"มากับข้าทีละคน" ฉู่เสวียนดึงศาสตราจารย์เจิ้งแล้วพาออกไป

อาวุธเวทย์มนตร์บินได้ของเขาสามารถบรรทุกคนเพิ่มได้อีกเพียงคนเดียวเท่านั้น

ชายทั้งสองก้าวไปข้างหน้าด้วยสัญชาตญาณ พยายามยืนขวางศาสตราจารย์เจิ้งเอาไว้

เพราะท้ายที่สุดแล้ว คำสั่งที่พวกเขาได้รับคือปกป้องความปลอดภัยของศาสตราจารย์เจิ้งให้ถึงที่สุด

แต่ศาสตราจารย์เจิ้งก็รีบวิ่งไปข้างหน้าแล้วขยิบตาให้พวกเขา

เมื่อทั้งสองคนคิดอะไรได้บางอย่างได้ ก็รีบก้าวตามไปทันที

ด้วยความแข็งแกร่งของฉู่เสวียน การฆ่าทั้งสามคนนั้นไม่ต่างอะไรจากปลอกกล้วยเข้าปาก เป็นเพียงเรื่องของโอกาสเท่านั้น

แต่ว่าฉู่เสวียนก็ได้ทำตามที่ให้สัญญากับพวกเขาไว้จริงๆ ในเวลานี้หากพวกเขาไม่กล้าไว้วางใจฉู่เสวียน นี่ไม่เท่ากับทำให้ฉู่เสวียนโกรธอย่างนั้นเหรอ?

“สหาย ฉันจะไปกับคุณก่อน” ศาสตราจารย์เจิ้งพูดด้วยรอยยิ้ม

ฉู่เสวียนดูเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม ด้วยสติปัญญาที่มีเหนือมนุษยชาติทั่วไป  เขาย่อมมองเห็นความหมายที่ซ่อนอยู่ในการกระทำของศาสตราจารย์เจิ้งออกอย่างง่ายดาย

แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะถึงอย่างไรสามคนนี้ก็ช่วยดึงดูดซอมบี้จำนวนมากมายมาให้เขา  และมันก็ทำให้เขาอารมณ์ดี ฉะนั้นการรักษาสัญญาและส่งพวกเขาออกไปยังที่ที่ปลอดภัยนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องทำ

ในไม่ช้า ฉู่เสวียนก็พาทั้งสามคนออกจากอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จ  และวางพวกเขาไว้ในที่โล่งที่ไร้ซอมบี้

“ไปติดต่อหน่วยกู้ภัยด้วยตัวเองก็แล้วกัน ข้ายังมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ” ฉู่เสวียนโบกมือให้พวกเขา แล้วออกไปทันที

"ขอบคุณมาก" ศาสตราจารย์เจิ้งโค้งคำนับเขาและอดไม่ได้ที่จะถามออกมาว่า "ฉันขอถามชื่อของคุณได้ไหม"

“ฉู่เสวียน” ฉู่เสวียนตอยอบ่างไม่ใส่ใจ

"ขอบคุณเจ้านะสหายฉู่เสวียน ฉันชื่อเจิ้งเป่าซาน ฉันจะจดจำบุญคุณของคุณที่ช่วยชีวิตพวกเราในวันนี้ตลอดไป” ศาสตราจารย์เจิ้งโค้งคำนับอีกครั้งและจากไปภายใต้การดูแลของจ้วงเฉียงและซุนเหมิง

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด