ตอนที่ 135 พรสวรรค์รับรู้ [เนตรหมื่นลี้] (ฟรี)
ตอนที่ 135 พรสวรรค์รับรู้ [เนตรหมื่นลี้]
การปะทะกันของทั้งสองโลกทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นสองเดือนที่ผ่านมา พื้นที่ต่างๆ ในมิติลับหมื่นรังไหมจึงสั่นสะเทือน
แรงสั่นสะเทือนเหล่านี้ทำให้สัตว์วิญญาณในป่าตื่นตระหนก พวกมันหนีออกจากถิ่นที่อยู่เดิม
ยิ่งนานวันพวกมันก็ยิ่งรวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็กลายเป็นคลื่นสัตว์ร้าย
นี่คือเหตุผลที่ทำให้เกิดคลื่นสัตว์ร้ายขึ้นบ่อยๆ ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา
แน่นอนว่าคลื่นสัตว์ร้ายที่เกิดขึ้นที่เมืองเจียหลินก่อนหน้านี้ไม่เกี่ยวข้องกับการหลอมรวมของทั้งสองโลก
คลื่นสัตว์ร้ายที่เมืองเจียหลินนั้นเกิดจากเอี๋ยนเฟยเฉิน
แต่เรื่องนี้ก็ทำให้ไป๋จื่ออันตระหนักได้
การหลอมรวมของทั้งสองโลกนั้นใกล้เข้ามาทุกที
จากคำใบ้ของ [เนตรหยั่งรู้] ต่อจากนี้จะมีการปะทะกันเป็นระยะเวลาสามเดือน
หลังจากสามเดือนผ่านไป มิติทั้งสองก็จะเริ่มหลอมรวมกัน
วิธีการหลอมรวมในระยะแรกก็คือการเกิดช่องว่างเชื่อมต่อระหว่างมิติทั้งสอง
นี่คือระยะเริ่มต้นของการหลอมรวม
หลังจากผ่านไปสิบสองเดือน มิติทั้งสองก็จะเข้าสู่สถานะหลอมรวม จนกระทั่งหลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์ มันจะใช้เวลาประมาณหนึ่งปี
นี่คือช่วงเวลาหลอมรวม
หลังจากผ่านไปยี่สิบสี่เดือน โลกใบใหม่ที่เกิดจากการหลอมรวมของมิติทั้งสองก็จะเข้าสู่ช่วงเวลาปรับตัว จนกระทั่งโลกใบใหม่มีความเสถียร
นี่คือช่วงเวลาแห่งความเสถียร
ในเดือนที่สามสิบหก โลกใบใหม่จะเสถียรอย่างสมบูรณ์ มันคือจุดเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่
นี่คือกระบวนการหลอมรวมของมิติทั้งสอง
ตอนนี้ผ่านมาสองเดือนกับอีกไม่กี่วันแล้ว
นั่นหมายความว่าเหลือเวลาไม่ถึงเดือน ช่องว่างมิติแรกก็จะปรากฏขึ้น
เวลาเหลือน้อยเต็มที
ไป๋จื่ออันต้องเตรียมตัวล่วงหน้า
“ไม่รู้ว่าโลกใบใหม่จะเป็นยังไง ไม่รู้ว่ามีสัตว์วิญญาณอะไรบ้าง มีทรัพยากรอะไรบ้าง”
“แต่จากข้อมูลจาก [เนตรหยั่งรู้] โลกหลังจากที่หลอมรวมกันแล้วจะกลายเป็นมิติลับขั้นสูง”
“แบบนี้ โลกใบใหม่ก็น่าจะมีทรัพยากรอีกมาก”
“โลกใบใหม่ที่กำลังจะมาหลอมรวมอาจจะเป็นมิติลับระดับกลาง”
“การที่มิติลับระดับกลางสองมิติหลอมรวมกันกลายเป็นมิติลับขั้นสูงมันเป็นเรื่องปกติ”
“แต่นี่เป็นเพียงการคาดเดาของฉันเท่านั้น”
“การที่ฉันรีบเพิ่มพลังให้ตัวเองคงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง”
“หลังจากที่ปลาเกล็ดขาวเงายักษ์วิวัฒนาการเสร็จแล้ว ฉันจะฝึกฝนต่อไป พัฒนาพลังของตัวเองให้แข็งแกร่งมากที่สุด”
ไป๋จื่ออันครุ่นคิด เขาพิจารณาสถานการณ์ตรงหน้า
พูดตามตรง โลกใบใหม่ทำให้เขารู้สึกกังวลใจ
ไม่มีใครเคยเห็นโลกใบใหม่มาก่อน ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นยังไง
ดังนั้น การพัฒนาพลังของตัวเองให้แข็งแกร่งที่สุดจึงเป็นการเตรียมพร้อมที่ดีที่สุด
นี่เป็นเรื่องที่จำเป็นมาก
จากพลังของไป๋จื่ออันในตอนนี้ ถ้าเขาใช้ทุกวิถีทาง เขาก็สามารถทำให้อีกาปีกเพลิงกลายพันธุ์ระดับทองแดงขั้นต้นระเบิดพลังที่เหนือกว่าระดับทองคำขั้นสูงออกมาได้
ถ้าเขาสามารถทำให้อีกาปีกเพลิงกลายพันธุ์เลื่อนขั้นเป็นระดับเงินได้ล่ะก็
บางทีต่อให้เป็นผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับเพชรธรรมดาๆ ก็อาจจะเป็นคู่มือของเขาไม่ได้
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงตัดสินใจได้แล้ว
เขาจะฝึกฝนต่อไป พัฒนาพลังของตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น
แน่นอนว่าเขาจะทำแบบนั้นหลังจากที่รวบรวมวัสดุวิวัฒนาการของปลาเกล็ดขาวเงายักษ์ ช่วยให้มันวิวัฒนาการขั้นที่สองได้สำเร็จแล้ว
ยังไงซะ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการวิวัฒนาการของปลาเกล็ดขาวเงายักษ์
ไป๋จื่ออันต้องทำให้มันสำเร็จก่อนถึงจะไปทำเรื่องอื่นต่อได้
นี่คือแผนการของไป๋จื่ออัน
หลังจากวางแผนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไป๋จื่ออันก็เลิกสนใจเรื่องนี้
จากนั้น ไป๋จื่ออันก็ฟังลูกค้าคนอื่นๆ คุยกันต่อ
แต่ในการสนทนาหลังจากนั้นก็ไม่มีเรื่องสำคัญอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องไร้สาระ
ไป๋จื่ออันไม่ได้สนใจมัน
เมื่อคิดได้แบบนั้น ไป๋จื่ออันก็ออกจากโรงน้ำชา เขามุ่งหน้าไปยังตลาด
ตอนนี้ เขารวบรวมข้อมูลได้มากพอแล้ว
ต่อไปเขาก็ต้องทำตามเป้าหมายเดิม สำรวจสถานการณ์ของตลาด ดูว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
เมื่อคิดได้แบบนั้น ไป๋จื่ออันก็เปิดใช้งาน [เนตรหยั่งรู้] ก่อนจะเดินดูสินค้าต่างๆ ในตลาด
ต้องยอมรับเลยว่าความคิดของเขาถูกต้อง
สองเดือนผ่านไป สินค้าในตลาดก็เปลี่ยนไป
ไป๋จื่ออันเจอของใหม่ๆ มากมาย
เขาเลือกซื้อทรัพยากรระดับทองคำ
ทรัพยากรระดับทองคำบางอย่างมีประโยชน์สำหรับเขา แต่อย่างไรก็ตามก็มีบางอย่างที่ไม่มีประโยชน์
แน่นอนว่าเขาสามารถเก็บมันเอาไว้ แล้วเอาไปให้คนในตระกูลใช้
ยังไงซะ พวกมันก็เป็นของที่ไม่ค่อยมีราคา
แน่นอนว่าสำหรับทรัพยากรบางอย่างที่เหมาะกับไป๋จื่ออัน เขาก็ต้องซื้อมัน
อย่างเช่น แกนกลางกับหัวใจของสัตว์วิญญาณที่มีพรสวรรค์ระดับ A
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อแผนการหลอมรวมพรสวรรค์ของลิงยางตัวน้อย
พอพูดถึงการหลอมรวมพรสวรรค์ของลิงยางตัวน้อย ไป๋จื่ออันก็อดไม่ได้ที่จะบ่นเรื่องเอี๋ยนเฟยเฉิน
การวิจัยของเอี๋ยนเฟยเฉินในอดีตนั้นผิดพลาด
จากการวิจัยของเอี๋ยนเฟยเฉิน มีเพียงสัตว์วิญญาณที่ดูคล้ายลิงเท่านั้นที่สามารถหลอมรวมเข้ากับร่างกายของลิงยางตัวน้อยได้
จริงๆ แล้วข้อสรุปนี้ผิด
พรสวรรค์ที่ลิงยางตัวน้อยต้องการนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นพรสวรรค์ของสัตว์วิญญาณที่ดูคล้ายลิง แต่มันคือพรสวรรค์ระดับ A
ตอนแรก ตอนที่เอี๋ยนเฟยเฉินทำการทดลอง สัตว์วิญญาณที่มันใช้อาจจะมีพรสวรรค์ระดับ B หรือ C ก็ได้
พูดได้เลยว่าระดับของพรสวรรค์จะต้องเท่ากัน นี่คือกุญแจสำคัญในการหลอมรวมพรสวรรค์
แต่สัตว์วิญญาณที่ดูคล้ายกับลิงที่เอี๋ยนเฟยเฉินจับมานั้นดันมีพรสวรรค์ระดับ A ทั้งหมด
ดังนั้น เอี๋ยนเฟยเฉินจึงสรุปผิด มันคิดว่ามีเพียงแค่สัตว์วิญญาณที่ดูคล้ายกับลิงเท่านั้นที่สามารถหลอมรวมกับลิงยางได้
เรื่องนี้ทำให้ไป๋จื่ออันรู้สึกพูดไม่ออก
การทดลองของเอี๋ยนเฟยเฉินมันอันตรายมาก ที่ลิงยางตัวน้อยยังไม่ตายก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว
ด้วยเหตุนี้ แกนกลางกับหัวใจของสัตว์วิญญาณที่มีพรสวรรค์ระดับ A จึงเป็นหนึ่งในเป้าหมายของไป๋จื่ออัน
ที่สำคัญที่สุดก็คือ ระหว่างนั้น ไป๋จื่ออันค้นพบพรสวรรค์ที่เหมาะกับลิงยางตัวน้อย
[เนตรหมื่นลี้] : พรสวรรค์รับรู้ระดับ A สามารถเพิ่มพลังการมองเห็นของสัตว์วิญญาณ สามารถสังเกตการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ รอบตัว ขยายขอบเขตการมองเห็น มองเห็นทุกการเคลื่อนไหวของวัตถุทางไกลได้
“พรสวรรค์ที่เพิ่มพลังการมองเห็น ดูไม่เลว เหมาะที่จะเป็นพรสวรรค์ของลิงยางตัวน้อย”
ไป๋จื่ออันรู้สึกดีใจมากตอนที่เห็นพรสวรรค์นี้
พรสวรรค์นี้เหมาะกับลิงยางตัวน้อย
ลิงยางตัวน้อยมีพรสวรรค์ที่เกี่ยวข้องกับการได้ยินแล้ว
นั่นก็คือพรสวรรค์ [ฟังได้ยินจากทุกสารทิศ]
ถ้ามันได้รับพรสวรรค์ที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็น
ลิงยางตัวน้อยก็จะมีทั้ง [เนตรหมื่นลี้] และ [ฟังได้ยินจากทุกสารทิศ]
ยิ่งไปกว่านั้น การมีพรสวรรค์รับรู้ทั้งสองอย่าง
ต่อให้ศัตรูจะลอบโจมตี มันก็จะรู้ตัวได้ทัน
พูดได้เลยว่าพรสวรรค์ทั้งสองอย่างนี้เหมาะสมกันมาก
ไป๋จื่ออันสนใจมันมาก
ที่สำคัญที่สุดก็คือเขาพบว่าร้านที่ขายแกนกลางที่มีพรสวรรค์ [เนตรหมื่นลี้] ก็มีหัวใจของสัตว์วิญญาณตัวนั้นขายด้วย
แบบนี้เขาก็มีวัสดุหลักครบแล้ว
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงไม่พลาดโอกาส เขาซื้อมันทันที
ยิ่งไปกว่านั้น ไป๋จื่ออันยังซื้อแกนกลางเพิ่มอีกหลายอัน
ยังไงซะพรสวรรค์ [เนตรหมื่นลี้] ก็มีทักษะพรสวรรค์ติดตัวมาด้วย
ทักษะพวกนี้มีประโยชน์มากสำหรับปลาเกล็ดขาวเงายักษ์กับอีกาปีกเพลิงกลายพันธุ์ มันสามารถเสริมพลังให้กับพวกมันได้
ไป๋จื่ออันจะไม่ยอมพลาดโอกาสแบบนี้เด็ดขาด
ตอนที่ไป๋จื่ออันออกจากร้าน แกนกลางกับหัวใจที่มีพรสวรรค์ [เนตรหมื่นลี้] ก็ตกเป็นของเขาเรียบร้อยแล้ว
นี่เป็นผลประโยชน์ที่ดีสำหรับไป๋จื่ออัน
นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ไป๋จื่ออันเจอในตลาดตะวันออก
นอกจากนี้ ไป๋จื่ออันก็ไม่เจออะไรที่น่าสนใจ
ส่วนวัสดุระดับเพชรนั้น เขาหาไม่เจอเลย
นี่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ถึงแม้ว่าไป๋จื่ออันจะเคยได้เห็นวัสดุระดับเพชรมากมายก็จริง
แต่วัสดุระดับเพชรในมิติลับหมื่นรังไหมนั้นหายากมาก
มันไม่ได้หากันได้ง่ายๆ
อย่างไรก็ตาม การมาที่ตลาดตะวันออกในครั้งนี้ทำให้เขาได้รับผลประโยชน์มามากพอแล้ว
การที่เขาเจอพรสวรรค์ที่เหมาะกับลิงยางตัวน้อยถือเป็นเรื่องดี
หลังจากที่เดินดูสินค้าต่างๆ แล้ว ไป๋จื่ออันก็เกิดความคิดขึ้นมา เขาอยากไปเยี่ยมชมตลาดอื่นๆ
ยังไงซะในเมืองไป๋หลินก็มีตลาดใหญ่ๆ อยู่ห้าแห่ง
นั่นก็คือตลาดกลางแจ้งสามแห่งและตลาดมืดสองแห่ง
ตอนนี้ไป๋จื่ออันไปแค่ตลาดตะวันออกเท่านั้น เขายังไม่ได้ไปอีกสี่แห่ง
ไม่รู้ว่าในช่วงสองเดือนมานี้ จะมีวัสดุล้ำค่าอะไรปรากฏตัวขึ้นในตลาดพวกนั้นบ้าง
ไป๋จื่ออันจะยอมพลาดโอกาสแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด
ดังนั้นเขาจึงใช้โอกาสนี้ไปเยี่ยมชมตลาดที่เหลืออีกสี่แห่ง เพื่อที่จะไม่ให้พลาดของดีๆ
เขามีเวลาว่างอีกเยอะ
ยังไงซะตอนนี้เขายังรวบรวมวัสดุเสริมที่ใช้ในการวิวัฒนาการขั้นที่สองของปลาเกล็ดขาวเงายักษ์ยังไม่ครบ
ต่อให้ตอนนี้เขากลับไปที่จวนเจ้าเมือง เขาก็คงจะต้องเสียเวลาเปล่าๆ
เมื่อคิดได้แบบนั้น ไป๋จื่ออันก็ตัดสินใจได้แล้ว
ไป๋จื่ออันหันหลังกลับ เขาเดินไปยังตลาดอื่น
ไม่นานไป๋จื่ออันก็มาถึงตลาดที่สอง
เหมือนกับเมื่อก่อน ไป๋จื่ออันไม่ได้รีบเดินสำรวจตลาด เขานั่งลงในโรงน้ำชาก่อน เขาหวังว่าจะได้รับข้อมูลใหม่ๆ
แต่น่าเสียดายที่ครั้งนี้เขาไม่ได้รับข้อมูลใหม่ๆ
ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าหรือพ่อค้า เรื่องที่พวกเขาคุยกันก็เป็นเรื่องเดิมๆ
คลื่นสัตว์ร้ายที่เมืองเจียหลิน สัตว์วิญญาณพลังอวกาศของหลานจื่อฉี แผ่นดินไหวและคลื่นสัตว์ร้ายที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในหลายๆ พื้นที่
ไป๋จื่ออันเบื่อที่จะฟังแล้ว
ดังนั้น ไป๋จื่ออันจึงไม่เสียเวลา เขาเดินเข้าไปในตลาดทันที
เขาใช้ [เนตรหยั่งรู้] สำรวจสินค้าต่างๆ
เขาก็อยากรู้ว่าในตลาดแห่งนี้จะมีของดีๆ บ้างรึเปล่า
แล้วมันก็เป็นแบบที่ไป๋จื่ออันคิดจริงๆ
เขาเจอของดีๆ ในตลาดแห่งนี้