กำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 499 เจ้าซื้อไปไม่ขาดทุน
กำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 499 เจ้าซื้อไปไม่ขาดทุน
ภายในหอคอยกลไกสวรรค์
เมิ่งชิ่งจือก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เข้ามา เขาก็โค้งคำนับอย่างรวดเร็ว กล่าวว่า “ผู้น้อย เมิ่งชิ่งจือ ขอคารวะผู้อาวุโส!”
“โอ้?”
หลี่อวิ๋นได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยรอยยิ้ม กล่าวอย่างติดตลกว่า “ดูเหมือนว่าการเดินทางครั้งก่อนของเจ้าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี ไม่นานมานี้ ตบะของเจ้าแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว!”
“ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะผู้อาวุโส”
เมิ่งชิ่งจือหัวเราะเบา ๆ กล่าว
หลังจากบรรลุระดับมหาจักรพรรดิแล้ว การที่จะก้าวหน้าต่อไปนั้นยากยิ่งนัก แต่เมิ่งชิ่งจือเพิ่งจะทะลวงผ่านระดับมหาจักรพรรดิมาไม่นาน เวลาผ่านไปไม่กี่ปี เขาก็มาถึงระดับมหาจักรพรรดิระยะกลาง
เรียกได้ว่าก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว!
สาเหตุหลักที่เขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น เป็นเพราะเขาได้รับทรัพย์สมบัติส่วนใหญ่ของภูผาเมฆาล่อง ต้องรู้ว่าในนั้นยังมีมรดกส่วนหนึ่งของตระกูลฟาง
การเดินทางครั้งนี้ ทำให้สำนักมารเก้าขุมนรกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
เมื่อสำนักมารเก้าขุมนรกได้รับทรัพย์สมบัติมากมายเช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงเมิ่งชิ่งจือ แม้แต่ฟางหานก็ยังแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่วงเวลานี้ เขาสามารถขึ้นไปอยู่ในลำดับที่หนึ่งในรายนามอัจฉริยะหมื่นโลกาได้อย่างสมบูรณ์
ในช่วงเวลานั้นสร้างความตกตะลึงให้กับคนนับไม่ถ้วน
แน่นอน เรื่องนี้ยังต้องขอบคุณยมโลกในโลกอินทนิลเร้นลับ ที่ทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่าง มิเช่นนั้น ฟางหานคงไม่สามารถครองตำแหน่งลำดับที่หนึ่งเอาไว้ได้อย่างแน่นอน
“การที่เจ้าแข็งแกร่งเช่นนี้ เป็นเพราะวาสนาของเจ้า”
หลี่อวิ๋นโบกมือ ชี้ไปยังเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกล กล่าวว่า “เชิญนั่ง วันนี้เจ้ามาที่หอคอยกลไกสวรรค์ คงไม่ใช่ว่าต้องการไปที่โลกอินทนิลเร้นลับ เพื่อฉกฉวยผลประโยชน์กระมัง?”
“ผู้อาวุโสรู้ทุกเรื่อง”
เมิ่งชิ่งจือลูบมือ หัวเราะออกมา
“อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้า โลกอินทนิลเร้นลับไม่ใช่โลกธรรมดา แม้แต่เซียนแท้ยังคงต้องระมัดระวัง หากประมาทก็อาจจะต้องตายได้!” หลี่อวิ๋นกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
หากโลกอินทนิลเร้นลับยังไม่มียมโลกอยู่ การเดินทางไปที่โลกอินทนิลเร้นลับของเมิ่งชิ่งจือคงไม่เป็นปัญหา แต่ตอนนี้โลกอินทนิลเร้นลับมียมโลกอยู่ ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป
โลกอินทนิลเร้นลับทั้งหมด ล้วนเป็นดินแดนของยมโลก
ช่วงเวลานี้ หากมีใครเดินทางไปที่นั่น พวกเขาก็อาจจะถูกจับกุม
จากนั้นก็กลายเป็นคนของยมโลก
“ไม่ใช่ว่ามีผู้อาวุโสอยู่หรือ?”
เมิ่งชิ่งจือกล่าวอย่างประจบประแจง
เขากล่าวต่อด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “มีผู้อาวุโสอยู่ ไม่ต้องพูดถึงโลกอินทนิลเร้นลับ แม้แต่โลกสูงสุด ผู้น้อยก็ยังกล้าที่จะเดินทางไป!”
“ตราบใดที่ผู้อาวุโสไม่อยากให้ผู้น้อยตาย ใครในโลกหมื่นสวรรค์จะสามารถสังหารผู้น้อยได้”
“เหอะ”
หลี่อวิ๋นหัวเราะออกมา มองเมิ่งชิ่งจืออย่างมีความหมาย
“เจ้าใช้เวลาหลายล้านปี เพียงเพื่อคิดวิธีประจบประแจงข้าหรอกหรือ?”
เมิ่งชิ่งจือมีสีหน้าตกตะลึง ครู่หนึ่งก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มอีกครั้ง กล่าวว่า “ผู้น้อยกล่าวออกมาจากใจจริง มิได้เสแสร้งแต่อย่างใด!”
“ข้ารู้ว่าเจ้าพูดออกมาจากใจจริง แต่…” หลี่อวิ๋นกล่าวต่อ
“ข้อมูลภายในหอคอยกลไกสวรรค์ ไม่อาจลดราคาให้เจ้าได้”
เมิ่งชิ่งจือเม้มปาก
เขาคาดการณ์ผิดพลาด
เรื่องลดราคา เขายังไม่ได้เอ่ยปาก หลี่อวิ๋นก็ปิดกั้นเส้นทางนี้แล้ว เช่นนี้แล้ว เรื่องราวคงจะลำบาก
เพราะว่า…เขามาที่นี่เพื่อถามหาข้อมูลเกี่ยวกับยมโลก
ยมโลกนั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง บุคคลระดับยืนยงมีไม่รู้กี่คน คิดด้วยนิ้วเท้าก็รู้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับยมโลกนั้นมีมูลค่ามากมาย
เขาคนเดียวไม่อาจซื้อข้อมูลได้มากนัก
“ผู้อาวุโส”
เมิ่งชิ่งจือลูบมืออีกครั้ง ในเมื่อหลี่อวิ๋นไม่ยอมลดราคา เขาก็เข้าเรื่องทันที กล่าวถามขึ้นว่า
“ช่วงเวลานี้ มีใครซื้อข้อมูลเกี่ยวกับยมโลกหรือไม่ และคิดที่จะลงมือกับยมโลก?”
ในสายตาของเขา…
ยมโลกยังคงเงียบสงบ มิได้เคลื่อนไหวใด ๆ นี่เป็นโอกาสที่ดีในการจัดการกับยมโลก หากพลาดโอกาสนี้ การที่จะจัดการกับยมโลกในอนาคต
คงจะยากยิ่งนัก
เขาคิดที่จะใช้โอกาสนี้จัดการกับยมโลก เช่นนั้นแน่นอนว่าในโลกเซียนปฐพีก็คงมีคนคิดเช่นเดียวกัน
เขาไม่ถามข้อมูลเกี่ยวกับยมโลก เพียงแค่ถามว่ามีใครคิดจะจัดการกับยมโลกหรือไม่ ค่าใช้จ่ายคงจะไม่มากนักกระมัง?
ยิ่งไปกว่านั้น…
คนที่ซื้อข้อมูลเกี่ยวกับยมโลกจากหอคอยกลไกสวรรค์ ได้รับคำชี้แนะจากหลี่อวิ๋น แน่นอนว่าพวกเขาสามารถจัดการกับยมโลกได้อย่างง่ายดาย
เมื่อถึงตอนนั้น…
เขาเพียงแค่ติดตามสถานการณ์ หาโอกาสฉกฉวยผลประโยชน์ ก็สามารถได้รับผลประโยชน์มากมายแล้ว มิใช่หรือ?
“อืม?”
หลี่อวิ๋นมองเมิ่งชิ่งจือแวบหนึ่ง หัวเราะเบา ๆ
“ข้อมูลเช่นนี้ ย่อมมีมูลค่าสูง ต้องแลกเปลี่ยนกับสมบัติเวทระดับจักรพรรดิสามชิ้น!”
“นี่…”
เมิ่งชิ่งจือมีสีหน้าตกตะลึง กล่าวอย่างยากลำบาก
“ทำไมถึงแพงเช่นนี้”
…
ในสายตาของเขา…
ข้อมูลนี้ สำหรับหลี่อวิ๋นแล้วไม่มีค่าอันใด เพราะว่าหลี่อวิ๋นรู้ดีว่ามีใครมาถามข้อมูลเกี่ยวกับยมโลกบ้าง และคิดจะลงมือกับยมโลก
เขาเพียงแค่พยักหน้าหรือส่ายหน้าก็เท่านั้น
เรื่องง่าย ๆ เช่นนี้ ทำไมถึงมีมูลค่าถึงสมบัติเวทระดับจักรพรรดิสามชิ้น
ไม่ต่างอะไรกับการปล้น!
ไม่สิ!
เกินกว่าการปล้น!
เพราะว่าการปล้นไม่อาจได้รับสมบัติเวทระดับจักรพรรดิสามชิ้น!
“เจ้าคิดผิดแล้ว”
หลี่อวิ๋นมองเมิ่งชิ่งจือแวบหนึ่ง กล่าวอย่างมีความหมาย
“ข้อมูลภายในหอคอยกลไกสวรรค์ มูลค่าของมันมิได้ขึ้นอยู่กับว่ามันมีประโยชน์กับข้าหรือไม่”
“แต่ขึ้นอยู่กับว่ามันมีประโยชน์กับพวกเจ้าหรือไม่!”
“ต้องรู้ว่า ข้อมูลทุกอย่างที่หอคอยกลไกสวรรค์ขายออกไป สำหรับข้าแล้วไม่มีค่าอันใด เพราะข้าไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อทำสิ่งใด”
“แต่เมื่อมันอยู่ในมือพวกเจ้า ข้อมูลเหล่านั้นกลับมีมูลค่ามหาศาล!”
กล่าวจบ น้ำเสียงของหลี่อวิ๋นก็ทุ้มลึกขึ้น เขากล่าวต่อว่า “ตัวอย่างเช่น ข้อมูลที่เจ้าต้องการเมื่อครู่ มีใครต้องการจัดการกับยมโลกหรือไม่ ข้อมูลนี้ หากตกอยู่ในมือของยมโลก”
“เจ้าคิดว่าจะเป็นเช่นไร พวกเขายินดีที่จะจ่ายเท่าไหร่เพื่อตามหาคนที่ต้องการจัดการกับพวกเขา?”
“หรือว่าข้อมูลนี้ ตกอยู่ในมือเจ้า เจ้าคิดว่าจะได้รับผลประโยชน์มากน้อยเพียงใด”
“ดังนั้น…”
“สมบัติเวทระดับจักรพรรดิสามชิ้น เจ้าซื้อไปไม่ขาดทุน ไม่ถูกหลอกลวง อนาคตจะได้รับผลประโยชน์มากมาย!”
“...”
เมิ่งชิ่งจือไร้คำพูด
เขาย่อมเข้าใจในสิ่งที่หลี่อวิ๋นกล่าว แต่การหาเงินไม่เคยง่ายดายเช่นนี้มาก่อน
นี่เป็นเพราะเขาไม่เชี่ยวชาญการทำนาย หากเขาก็เชี่ยวชาญเช่นกัน ในตอนนี้เขาคงจะเปิดหอคอยกลไกสวรรค์สาขาสองแล้ว
แน่นอน…ความคิดนี้เขาเพียงแค่คิดเล่น ๆ เท่านั้น
เพราะว่า…เขามิได้มีวิชาที่สามารถต้านทานฟันเฟืองได้ หากต้านทานฟันเฟืองไม่ได้ วันใดวันหนึ่งเคราะห์สวรรค์อาจจะตกลงมา เขาก็จะตาย
เมิ่งชิ่งจือถอนหายใจ โบกมือเบา ๆ สมบัติเวทระดับจักรพรรดิสามชิ้นปรากฏขึ้นบนโต๊ะเบื้องหน้าหลี่อวิ๋น
“ผู้อาวุโส ตอนนี้ท่านสามารถบอกผู้น้อยได้แล้วกระมัง ว่ามีใครต้องการจัดการกับยมโลกหรือไม่?”
“มี!”
หลี่อวิ๋นรับสมบัติเวททั้งสามชิ้น ไม่ได้อ้อมค้อม เอ่ยเพียงหนึ่งคำออกมา