20 - แย่งชิงตำแหน่งบุตรเขยแห่งตระกูลหลิว
20 - แย่งชิงตำแหน่งบุตรเขยแห่งตระกูลหลิว
ขุนนางส่วนใหญ่ถอยกลับไปแล้วมีเพียงกงซุนอู๋จี้ที่เป็นพี่ชายของฮองเฮาเท่านั้นที่ยังคงอยู่ร่วมงานเลี้ยงภายในวังหลวง
ในระหว่างนี้หลี่อวี้ซู่มีความเศร้าโศกอย่างมาก วันนี้กงซุนชงชายคนรักของนางกำลังจะแต่งงานกับผู้อื่น ส่วนนางกลับต้องแต่งกับเจ้าโง่ฉิน ยิ่งคิดนางก็ยิ่งคับแค้นใจ
หลี่ซื่อหลงมองเห็นสภาพของฉินโม่ที่ยังคงนั่งรับประทานอาหารไม่รู้จักพอก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
"เจ้าโง่นี่ตะกละจริงๆ มันก็แค่เนื้อต้มแบบที่ค่ายทหารทำไม่ใช่หรือ!"
"ถ้าเช่นนั้นครั้งต่อไปท่านก็ไปทานเนื้อต้มกับเหล่าทหารสิ!" ในฐานะคนที่มาจากยุคหลัง ฉินโม่ไม่เกรงกลัวอำนาจราชวงศ์มากนัก
ดังนั้นจะให้เขาทำตัวสุภาพนอบน้อมเช่นผู้อื่น คงเป็นไปไม่ได้!
"ฉินโม่ เจ้าคิดจริงหรือว่าข้าไม่กล้าตีเจ้า!" หลี่ซื่อหลงเริ่มรู้สึกเสียหน้า
"ท่านก็แค่แสดงท่าทางใหญ่โตข่มขู่ผู้อื่น อย่างไรเสียท่านแม่ยายของข้าก็ซื่อตรงมากกว่าแน่นอน อร่อยท่านแม่ยายก็บอกว่าอร่อย ไม่อร่อยท่านแม่ยายก็บอกว่าไม่อร่อย ไม่เหมือนพวกท่านที่บอกว่าอาหารเหล่านี้เป็นเพียงเนื้อต้มของเหล่าทหาร แต่ตะเกียบของตัวเองกลับครีบไม่หยุด!"
ฉินโม่ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้ววิ่งไปซ่อนข้างหลังกงซุนฮองเฮา "ครั้งหน้าพวกท่านไม่ต้องหวังว่าจะได้กินของที่ข้าทำอีก!"
หลี่ซื่อหลงโกรธจนหัวเราะออกมา "เจ้าโง่ หากเจ้ามีฝีมือก็อย่าหลบอยู่หลังฮองเฮา มาดูว่าข้าจะตีเจ้าให้ตายหรือไม่!"
"ข้าไม่ออก เจ้าโง่เท่านั้นแหละที่จะออกไป!"
หลี่ซื่อหลงอับจนปัญญาเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็ได้แต่หันไปกล่าวกับกงซุนอู๋จี้
"ชงเอ๋อเป็นเด็กดี ทั้งยังมีสติปัญญาและความกล้าหาญยากจะหาใครเทียบได้ หลังจากนี้ให้เขาเข้าวังมาอ่านหนังสือร่วมกับไท่จื่อ ข้าจะจัดการเรื่องการสมรสให้เอง!"
"ขอบพระทัยฝ่าบาท เป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อกระหม่อมและครอบครัว!" กงซุนอู๋จี้รีบคุกเข่าลง
เหตุผลที่เขาขอพระราชทานสมรสในวันนี้ก็เพื่อเป็นการบอกต่อฮ่องเต้และฮองเฮารู้ว่า เขาล้มเลิกความคิดเรื่องที่จะให้บุตรชายของเขาเกี่ยวดองกับองค์หญิงเจ็ดแล้ว
แต่หากฮ่องเต้ปฏิเสธการสมรสครั้งนี้ นั่นก็หมายความว่าตระกูลกงซุนได้สูญเสียความไว้วางใจจากฮ่องเต้ไปแล้ว
ความระแวงสงสัยของฮ่องเต้นั้นเป็นสิ่งที่ขุนนางทุกคนไม่อาจรับได้ เพราะมันอาจเกี่ยวข้องถึงความเจริญรุ่งเรืองของตระกูลพวกเขาได้เลย
นอกจากนี้ การแต่งตั้งให้บุตรชายของเขาเป็นเพื่อนอ่านหนังสือของไท่จื่อ ยังบ่งบอกว่ากงซุนชงจะเป็นกำลังสำคัญของไท่จื่อในอนาคต ตระกูลกงซุนยังคงเจริญรุ่งเรืองสืบไปอีกสองรุ่นเป็นอย่างน้อย
กงซุนฮองเฮาก็รู้สึกโล่งใจ เพราะไม่ว่าอย่างไรกงซุนชงก็เป็นหลานชายของนาง "เช่นนี้เถิด เรื่องนี้ไม่ควรให้ฝ่าบาทเป็นผู้จัดการ หม่อมฉันจะจัดการให้เอง!"
แม้ว่าหลี่ซื่อหลงจะเป็นฮ่องเต้ แต่ในเรื่องนี้หากกงซุนฮองเฮาเป็นผู้จัดการจะเหมาะสมกว่า
ไท่จื่อก็รู้สึกดีใจมาก เขาและกงซุนชงเป็นลูกพี่ลูกน้องที่มีอายุใกล้เคียงกัน หากกงซุนชงแต่งงานกับบุตรีของหลิวเฉิงหู่ผู้บัญชาการทหารชายแดนภาคใต้ นั่นหมายความว่าเขาจะสามารถสร้างสายสัมพันธ์กับตระกูลหลิวได้
"ดูเหมือนว่าพระบิดาจะยังคงสนับสนุนข้าอย่างเต็มที่" เขาคิดด้วยความยินดี
แต่หลี่จื้อที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าเริ่มดำคล้ำมากขึ้นเรื่อยๆ เขากัดฟันแน่นพลางคิดในใจว่า
"ข้าไม่ยอมรับ! ข้าเป็นบุตรของฮองเฮาเช่นกัน ตัวข้ามีความสามารถและสติปัญญามากกว่าพี่ใหญ่อย่างชัดเจน แต่เหตุใดตำแหน่งไท่จื่อจึงไม่เป็นของข้า?"
เมื่อเห็นว่าหลี่ซื่อหลงกับฮองเฮาเตรียมจะตกลงการสมรสครั้งนี้ หลี่อวี้ซู่ยิ่งร้องไห้ด้วยความเศร้าโศก "ไม่ได้ ข้าไม่ยอมรับการสมรสครั้งนี้!"
ทุกคนหันไปมองหลี่อวี้ซู่ที่กำลังร้องไห้ พร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ
และที่มุมห้อง ยังมีอีกคนหนึ่งที่กัดฟันแน่น มองเหตุการณ์นี้ด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ "ไม่ นี่ไม่ใช่ความจริง ข้าไม่อาจยอมให้กงซุนชงแต่งงานกับหรูอวี้ได้!"
ในขณะนั้นแววตาของเขาเต็มไปด้วยความแน่วแน่ เขาคุกเข่าลงและกล่าวว่า
"พระบิดา พระมารดา ข้าไม่เห็นด้วยกับการสมรสครั้งนี้!"
ทุกคนหันไปมองหลี่เยว่พร้อมกัน
หลี่ซื่อหลงใบหน้าดำคล้ำ หลี่อวี้ซู่ที่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของกงซุนชงยังพอเข้าใจได้ แต่เจ้าซึ่งเป็นเพียงองค์ชายแปดมีสิทธิ์อะไรที่จะไม่เห็นด้วย?
"บังอาจ!"
หลี่ซื่อหลงตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว "หลี่อวี้ซู่ หลี่เยว่ พวกเจ้าสองคนต้องการทำให้ข้าโกรธจนตายหรือ?"
กงซุนฮองเฮามีสีหน้าไม่สู้ดีนัก "อวี้ซู่ การสมรสเป็นเรื่องที่บิดามารดาควรจัดการ เจ้าเป็นเพียงเด็กไม่มีสิทธิ์จะขัดขวาง?"
หลี่อวี้ซู่เปิดปากจะกล่าวอะไรบางอย่าง แต่เมื่อต้องเผชิญกับแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและความผิดหวังของหลี่ซื่อหลง นางก็ลังเลขึ้นมา
การหักหน้าฮ่องเต้ต่อหน้าผู้คนมากมายย่อมไม่ต่างอะไรจากการตบหน้าบิดาของแผ่นดิน หากนางทำเช่นนั้นไม่ว่านางจะเป็นที่โปรดปรานมากแค่ไหน อนาคตของนางจะต้องดับวูบลงอย่างแน่นอน
หลี่อวี้ซู่กัดริมฝีปากแน่น "ลูกเพียงแต่กลัวว่าเปียวเกอและคุณหนูจู(บุตรสาวของจูกว๋อกงเลยเรียกว่าคุณหนูจู แต่จริงๆ แซ่หลิว)จะเข้ากันไม่ได้ จึงอยากให้พระบิดาและท่านลุงพิจารณามากกว่านี้!"
กงซุนอู๋จี้ถอนหายใจเบาๆ ด้วยความเศร้าโศก บุตรชายของเขาและองค์หญิงเจ็ดผูกสัมพันธ์รักใคร่เขารู้เรื่องนี้ดี แต่ฮ่องเต้ไม่มีทางปล่อยให้ตระกูลกงซุนมีอำนาจในราชสำนักฝ่ายในมากกว่านี้เด็ดขาด
"องค์หญิงจิ่นหยางมีเจตนาดี ฝ่าบาทและฮองเฮาโปรดให้อภัยองค์หญิงด้วย แต่ข้าไม่เข้าใจว่าเหตุใดองค์ชายแปดถึงต้องคัดค้านเรื่องนี้"
องค์หญิงจิ่นหยางเป็นหลานสาวของเขา ดังนั้นท่าทีของกงซุนอู๋จี้จึงเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ส่วนหลี่เยว่เป็นเพียงอ๋องตัวเล็กๆ มารดาของเขาก็เป็นเพียงนางกำนันของฮองเฮา แม้ว่าในปัจจุบันนางจะถูกแต่งตั้งเป็นเฟย(สนมระดับกลาง)แล้ว แต่ทั้งสองแม่ลูกก็ไม่มีอำนาจใดคอยหนุนหลังอยู่ดี
"เยว่เอ๋อ เจ้าคัดค้านเพราะเหตุใด?" หลี่ซื่อหลงหันสายตาไปที่หลี่เยว่ ทุกคนต่างขมวดคิ้ว
"พระบิดา ลูก...ลูก..."
หลี่เยว่กล่าวตะกุกตะกัก เขาไม่อาจบอกความจริงได้ว่าเขาหลงรักหลิวหรูอวี้ หากบอกออกไป พระบิดาคงหักขาเขาแน่!
การที่อ๋องแอบพบกับบุตรีของขุนนาง หากเรื่องนี้แพร่ออกไป มันไม่ใช่เพียงการทำลายเกียรติยศของราชวงศ์เท่านั้น แต่ยังเป็นความผิดฐานสะสมกำลังคิดการไม่ซื่ออีกด้วย
และในเมื่อกงซุนอู๋จี้ได้ขอพระราชทานสมรส ฮ่องเต้และฮองเฮาก็เห็นชอบแล้ว ต่อให้เขาเปิดเผยเรื่องนี้ออกไปก็ไม่สามารถขัดขวางได้อยู่ดี
แม้เขาจะบอกความจริงทุกสิ่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งอาจทำให้ชื่อเสียงของหลิวหรูอวี้เสื่อมเสียอีกด้วย
"ลูกก็เหมือนกับพี่เจ็ด ลูกเพียงกลัวว่าเปียวเกอกับคุณหนูตระกูลหลิวจะเข้ากันไม่ได้!"
เขาฝืนยิ้มออกมา แต่มือของเขากำแน่น เล็บจิกเข้าไปในเนื้อจนมีเลือดไหลซึมออกมาเล็กน้อย
ฮองเฮามีจิตใจละเอียดอ่อน นางถอนหายใจเบาๆ ราวกับเข้าใจอะไรบางอย่าง "พอเถิด นี่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ พวกเจ้าอย่าพูดอะไรอีกเลย!"
หลี่ซื่อหลงกล่าวเสริม "เรื่องเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะคัดค้านได้ กลับไปคัดลอกกฎของราชสำนักสิบรอบ พรุ่งนี้เช้าข้าจะต้องเห็นรายงานของพวกเจ้าวางอยู่บนโต๊ะทำงานของข้า!"
"ลูกทราบแล้ว!"
หลี่เยว่แม้จะไม่พอใจแต่ก็ต้องอดกลั้น
กงซุนอู๋จี้คิดในใจว่า หลี่เยว่น่าจะอยู่ข้างหลี่อวี้ซู่ ตอนนี้ความขุ่นเคืองในใจของเขาจึงจางหายไป
หลังจากนั้น บรรยากาศกลับมาสนุกสนานเช่นเดิม
…………….