บทที่ 9 การเข้ารอบนี้ ไม่เอาก็ได้
สวี่เย่รู้อยู่แล้วว่าการร้องเพลงแบบนี้มันต้องผิดปกติแน่ ๆ ถ้าเขาเป็นเถิงเก๋อ ก็คงไม่เป็นไร เพราะเสียงร้องของเถิงเก๋อเป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว
แต่สำหรับการแสดงในวันนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เพลงนี้ถูกนำมาแสดงในโลกนี้
สวี่เย่ยิ้มอย่างเขิน ๆ แล้วตอบว่า “พี่มี่ ผมเรียนด้วยตัวเองครับ”
เหยียนมี่มองดูเนื้อเพลงในมืออีกครั้ง
“เธอ...”
เธอพูดได้แค่ครึ่งเดียวแล้วก็หยุดไป ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ
ถ้าจะบอกว่าสวี่เย่ร้องไม่ดี ก็ไม่ใช่แบบนั้น
ฝีมือการร้องของเขานับว่าดี แม้แต่ในระดับนักร้องมืออาชีพก็ถือว่าไม่เลวเลย
เสียงไม่เพี้ยน และการควบคุมลมหายใจก็ทำได้ดีมาก
จริง ๆ แล้วการร้องแบบนี้ก็นับว่ามีฝีมือ
แต่...มันฟังดูแปลก ๆ นี่นา
คนข้าง ๆ เหยียนมี่หัวเราะแล้วพูดว่า “พี่มี่ คุณคิดว่าเขาเป็นยังไงบ้าง?”
เหยียนมี่จับหน้าผากเบา ๆ ก่อนจะหัวเราะอย่างอ่อนใจ “ในแง่ของการร้องเพลง เธอมีพื้นฐานที่ดีมาก ฉันดูจากข้อมูลของเธอแล้วนะ สำหรับคนที่ไม่เคยเรียนร้องเพลงแบบมืออาชีพมาก่อน สามารถแต่งเพลงออกมาแบบนี้ถือว่าเก่งมาก”
ในใจของสวี่เย่เริ่มตื่นเต้น เขาไม่แน่ใจว่าการร้องเพลงแบบนี้จะทำให้เขาผ่านหรือไม่
ในตอนนั้น ห้องถ่ายทอดสดก็เต็มไปด้วยข้อความคอมเมนต์ที่ลอยขึ้นมา
“ต้องผ่านสิ! ร้องดีมากนะ แต่ครั้งหน้าช่วยอย่าร้องอีกนะ”
“รู้สึกได้เลยว่าสวี่เย่ร้องเพลงเก่งจริง ๆ แต่ทำไมถึงร้องเพลงออกมาแบบนี้ล่ะ”
“ต้องให้เขาผ่านนะ ฉันอยากเห็นว่าเขาจะเล่นอะไรอีกในรอบต่อไป!”
ผู้ชมต่างหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
ทันทีที่ถึงรอบของสวี่เย่ บรรยากาศของรายการก็ดูแปลกไป
ดูแล้วสนุกมาก
เหยียนมี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่รู้ว่าจะให้เขาผ่านดีหรือไม่
หลังจากหยุดคิดไปหลายวินาที ในที่สุดเหยียนมี่ก็หยิบป้ายขึ้นมา
เธอชูป้ายขึ้นอย่างช้า ๆ แล้วพูดว่า “แม้ว่าเพลงที่เธอร้องจะดูแปลก ๆ แต่ฉันก็จะให้เธอผ่าน เพราะเธอเป็นคนแรกในรายการนี้ที่นำเพลงต้นฉบับมาแสดง หวังว่าจะได้เห็นการแสดงของเธอในรอบต่อไป”
บนป้ายเขียนคำว่า "ผ่าน"
สวี่เย่ยิ้มและพูดว่า “ขอบคุณครับพี่มี่”
เหยียนมี่ยิ้ม แต่ในใจเธอรู้สึกไม่ดีเลยที่ให้เขาผ่านรอบนี้
คนข้าง ๆ พูดว่า “มาสิ ทุกคนที่ผ่านพี่มี่จะมีของขวัญให้นะ”
สวี่เย่วิ่งไปอย่างรวดเร็ว
เหยียนมี่หยิบขวดลูกอมออกมาแล้วยื่นให้สวี่เย่
“นี่ ลูกอมสำหรับเธอ”
สวี่เย่รับขวดลูกอมใส ๆ ที่มีลูกอมสีสันสดใสข้างใน เป็นของขวัญเล็ก ๆ ที่ไม่ใช่ของมีราคา แต่มีความหมายในใจ
ในตอนนั้นเอง สวี่เย่หยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า แล้วกางมือออก วางเมล็ดแตงโมลงบนโต๊ะตรงหน้าเหยียนมี่
สวี่เย่ยิ้มและพูดว่า “พี่มี่ เชิญทานเมล็ดแตงโมครับ”
เหยียนมี่ถึงกับชะงักอีกครั้ง
“ฮ่า ๆ ๆ เขามีเมล็ดแตงโมในกระเป๋าจริง ๆ ด้วย!”
“สวี่เย่ช่างตลกจริง ๆ!”
ผู้ชมต่างหัวเราะกันอีกครั้ง
เหยียนมี่พูดด้วยสีหน้าที่หมดคำพูด “เธอกลับไปได้แล้วล่ะ”
สวี่เย่จึงเดินออกจากเวทีไป
เหยียนมี่มองไปที่เมล็ดแตงโมบนโต๊ะ แล้วในใจรู้สึกเสียใจนิดหน่อย
“ฉันไม่น่าจะให้เขาผ่านรอบเลย”
เหยียนมี่เอามือปิดหน้า พร้อมทำสีหน้าหมดหนทาง
เมื่อสวี่เย่กลับมาที่ห้องพักผู้เข้าแข่งขัน ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ต่างมองเขาด้วยสีหน้าประหลาด
สวี่เย่นั่งลงบนเก้าอี้ และหยิบลูกอมมากิน
หวานดีเหมือนกัน
เวลาประมาณสี่ทุ่มกว่า ๆ รายการ Tomorrow's Superstar ตอนแรกก็จบลง
ผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านเข้ารอบถูกเรียกรวมตัวกัน จางกวงหรงเดินเข้ามาและเริ่มอธิบายเกี่ยวกับแผนงานต่อไป
จางกวงหรงกวาดตามองทุกคนและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ในตอนต่อไปของรายการก็จะเป็นการแสดงสดเหมือนเดิม แต่จะเป็นเวทีแสดงคู่ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะถูกจับคู่กันและพักอยู่ที่ อพาร์ตเมนต์ที่ทางรายการจัดเตรียมให้ การใช้ชีวิตของพวกเธอก็จะถูกถ่ายทอดสดเป็นบางส่วนด้วย...”
จางกวงหรงพูดเรื่องสำคัญและข้อควรระวังหลังจากนี้อีกมากมาย
รายการ Tomorrow's Superstar เป็นรายการที่เน้นการฝึกฝนและสร้างผู้เข้าแข่งขัน
หลังจากนี้จะมีการถ่ายทอดสดชีวิตประจำวันและการฝึกซ้อมของผู้เข้าแข่งขันเป็นบางส่วนให้ผู้ชมได้ดู
อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องที่พักอีกแล้ว เพราะทางรายการจัดเตรียมให้หมด
สวี่เย่ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก
ในที่สุดก็ผ่านรอบนี้ได้
เมื่อเขากลับถึงโรงแรม ความนิยมของรายการ Tomorrow's Superstar ตอนแรกก็พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
เดิมทีผู้คนคาดหวังว่ามันจะเป็นเพียงแค่รายการประกวดทั่วไป
แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีผู้เข้าแข่งขันอย่างสวี่เย่โผล่มา
หัวข้อ "ใครสอนนายร้องเพลงแบบนี้" กำลังเป็นที่ฮือฮาในโซเชียล มีเดีย ขึ้นถึงอันดับสามของเทรนด์ฮิต
ในโพสต์นั้นยังมีคลิปวิดีโอการร้องเพลงของสวี่เย่แนบมาด้วย
เสี่ยวอู๋เป็นคนที่ไม่ค่อยดูรายการวาไรตี้ วันนี้ตอนสี่ทุ่มกว่า ๆ เธอเพิ่งเลิกงานและตั้งใจว่าจะกลับไปดูซีรีส์สักตอนแล้วเข้านอน
ระหว่างที่เธอนั่งรถไฟฟ้ากลับบ้าน เธอเปิดมือถือและเลื่อนดูโพสต์ในเวยป๋อ (Weibo) แล้วก็เจอโพสต์ที่ติดเทรนด์ฮิต
เสี่ยวอู๋รู้สึกอยากรู้อยากเห็นจึงกดเข้าไปดู
“Love at 105°C ? แค่ชื่อก็น่าจะเป็นเพลงรักละมั้ง?”
“ใครสอนนายร้องเพลงแบบนี้? หรือผู้เข้าแข่งขันที่ชื่อสวี่เย่คนนี้จะร้องเพลงได้เก่งมาก?”
เสี่ยวอู๋กดเข้าไปดูคลิปวิดีโอโดยไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
เธอไม่เคยได้ยินชื่อสวี่เย่เลย ไม่รู้จักด้วยซ้ำ
แต่ทันทีที่เสียงเพลงของสวี่เย่ดังขึ้นในหูฟังของเธอ
ร่างของเสี่ยวอู๋ถึงกับสั่น และเธอก็ชะงักไปทันที
“ใครสอนนายร้องเพลงแบบนี้?”
คำถามนี้ผุดขึ้นมาในใจของเสี่ยวอู๋เช่นกัน
การร้องแบบนี้ มันฟังดูเหมือนทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
แต่เป็นทุ่งหญ้าที่ดูเหมือนจะมีภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ด้วย
มันทำให้คนฟังรู้สึกมึนงง
“ทั้ง ๆ ที่ฟังดูแปลกมาก แต่ทำไมฉันยิ่งฟังยิ่งติดหูขึ้นเรื่อย ๆ ล่ะ”
เสี่ยวอู๋ฟังจบแล้วก็เห็นคำถามของเหยียนมี่ในตอนท้าย จึงหัวเราะออกมา
“นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นผู้เข้าแข่งขันที่ทำให้กรรมการหน้าเขียวแบบนี้”
เสี่ยวอู๋ดูคลิปนี้อย่างสนุกสนาน
เพลงนี้ช่างติดหูจริง ๆ
“ต้องกลับไปดูรายการ Tomorrow's Superstar ซะแล้วสิ”
มีหลายคนที่เป็นเหมือนเสี่ยวอู๋ พวกเขาคลิกเข้ามาดูคลิปที่ติดเทรนด์ฮิต
และเมื่อดูแล้ว พวกเขาก็ออกจากคลิปนั้นไม่ได้อีกเลย
เสียงเพลงของสวี่เย่ช่างล้างสมองจริง ๆ
แม้ว่ามันจะฟังดูแปลก แต่ก็ทำให้คนอยากฟังต่อไปอีก
“สวี่เย่มีเวยป๋อไหม?”
“หาไม่เจอเลย สวี่เย่ รีบสมัครเวยป๋อเถอะ ฉันจะกดติดตามนาย!”
“ผู้เข้าแข่งขันคนนี้ดูเหมือนจะป่วยนะ”
ในโพสต์นั้น ผู้ใช้ต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
ในตอนกลางคืน
เจิ้งอวี้เพิ่งเสร็จจากงาน เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเวยป๋อ เพื่อติดตามข่าวสารในวงการบันเทิง
ไม่นานนัก เขาก็เห็นโพสต์ที่ติดเทรนด์ฮิตนั้น
“ใครสอนนายร้องเพลงแบบนี้? นี่มันเรื่องอะไร?”
เจิ้งอวี้ขมวดคิ้วก่อนจะกดเข้าไปดู
“โอ้โห! สวี่เย่ติดเทรนด์ฮิตแล้ว! และยังติดเทรนด์ฮิตอันดับสามด้วย! สุดยอดไปเลย!”
เจิ้งอวี้ถึงกับตื่นเต้น
ก่อนหน้านี้สวี่เย่ไม่เคยติดเทรนด์ฮิตมาก่อน นี่คงเป็นสัญญาณของความโด่งดังแล้ว!
“สุดท้ายแล้ว เพลงต้นฉบับที่เขาร้องก็คงจะดีมาก”
เจิ้งอวี้ยิ้มอย่างภูมิใจ
ทองแท้อย่างไรก็ต้องเปล่งประกาย ตอนนี้สวี่เย่ก็กำลังจะมีชื่อเสียงแล้ว
“ขอลองฟังสักหน่อย ว่าสวี่เย่ร้องเพลงได้ดีแค่ไหน”
เจิ้งอวี้กดเข้าไปในคลิปวิดีโอ
คลิปวิดีโอเริ่มเล่น
แต่ทันทีที่สวี่เย่เริ่มร้องเพลง รอยยิ้มบนใบหน้าของเจิ้งอวี้ก็หายไปในทันที
เขานั่งนิ่งไปทั้งที่ใบหน้ากลับมืดมน มองหน้าจอโทรศัพท์ด้วยความตะลึง
“บ้าจริง ใครสอนนายร้องเพลงแบบนี้!!”
เจิ้งอวี้โกรธจนเผลออุทานออกมา
เพลงดี ๆ เพลงหนึ่ง นายทำไมถึงร้องออกมาเป็นแบบนี้?
เมื่อเขาดูวิดีโอจบ เขารู้สึกอับอายมาก
“การเข้ารอบนี้ ไม่เอาก็ได้”
เจิ้งอวี้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออกทันที
“ท่านประธาน ฉันขอถามหน่อยว่าถ้าจะลบโพสต์ที่ติดเทรนด์ฮิตออก ต้องใช้เงินเท่าไหร่?”