บทที่ 808: "หุบเหวมังกร" แห่งวาโนะคุนิ
[,แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ],
[,Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด,]
[,หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ,]
บทที่ 808: "หุบเหวมังกร" แห่งวาโนะคุนิ
วาโนะคุนิเองก็มีปราการธรรมชาติอันแข็งแกร่งอยู่แล้ว ทั้งกระแสน้ำเชี่ยวกรากรอบเกาะ และกำแพงผาสูงชัน หลังจากกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรเข้ายึดครอง พวกเขาก็สร้างระบบป้องกันใหม่ขึ้นมา นั่นคือฝูงเกียราดอส
เหล่าคอยคิงขนาดยักษ์ในอดีตได้วิวัฒนาการไปแล้ว ปัจจุบันมีเกียราดอสขนาดมหึมาหลายตัวอาศัยอยู่รอบๆวาโนะคุนิ เรือทุกลำที่ไม่มีสัญลักษณ์ของร้อยอสูรจะกลายเป็นเป้าหมายโจมตีของพวกมันทันที
เรือจากภายนอกที่ต้องการเข้าวาโนะคุนิอย่างปลอดภัย จำเป็นต้องแจ้งให้กลุ่มร้อยอสูรทราบล่วงหน้า เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว พวกเขาจะส่งเรือนำทางมา หรือไม่ก็ทำเครื่องหมายพิเศษบนเรือ
เครื่องหมายนั้นคือสีชนิดพิเศษ ทำจากน้ำคั้นจากกิ่งไม้ผสมกับผงโลหะอาร์เซอุส หากไม่มีสีนี้ ไม่มีเรือนำทาง หรือไม่ใช่เรือที่พวกเกียราดอสคุ้นเคย พวกมันจะถือว่าเป็นศัตรูและโจมตีได้ทันที
รูปแบบการโจมตีนั้นขึ้นอยู่กับโชค เพราะเกียราดอสแต่ละตัวมีนิสัยต่างกัน ถ้าโชคดีอาจจะแค่โดนคว่ำเรือ แต่ถ้าโชคไม่ดี พวกเกียราดอสก็พร้อมจะไล่ล่าจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง
ส่วนเรื่องการไล่แบบธรรมดาๆ...
พวกมันคือเกียราดอส ฉายา "จอมโหด" ถ้าไม่ได้รับการยอมรับจากพวกมัน ก็ไม่มีทางได้สัมผัสความอ่อนโยนแบบโปเกมอนหรอก
ในไทม์ไลน์เดิม เอสสามารถลอยมาติดที่วาโนะคุนิหลังจากเรืออับปางได้โดยบังเอิญ เช่นเดียวกับกลุ่มโจรสลัดหนวดขาว และบังเอิญเป็นช่วงที่ไคโดไม่อยู่
แต่ตอนนี้ ความบังเอิญแบบนั้นไม่มีอีกแล้ว
"ว๊าก! เกิด...เกิดอะไรขึ้น!"
"จับเชือกไว้ให้แน่น! อย่าตกไป! อาจารย์! โคดัคหลุดไปทางนั้นแล้ว จับมันไว้!"
แมวป่าบนเรือเกือบปลิวไปเพราะแรงคลื่น โชคดีที่มิฮาลค์ขว้างเชือกไปจับมันไว้ได้ทัน
ก่อนหน้านี้กระแสน้ำก็แค่ไหลเชี่ยว แต่ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงรุนแรงขนาดนี้ในพริบตา
ด้วยทักษะการควบคุมเรือที่ยอดเยี่ยม กลุ่มโจรสลัดโพดำจึงสามารถประคองเรือไว้ได้
เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ฟ้าผ่าลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ชนกำแพงอากาศที่มองไม่เห็น กลางทะเลเกิดวังน้ำวน ภัยพิบัติต่างๆทำให้พวกเขาได้ลิ้มรสความโหดร้ายของโลกใหม่ก่อนที่จะได้เจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเสียอีก
แม้แต่สคัลก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ประสบการณ์ในอดีตไม่มีประโยชน์เลย
เอสและคนอื่นๆคิดว่าสภาพอากาศอันตรายแบบนี้ทำให้พวกเขาไม่เจอศัตรู พวกเขาไม่รู้เลยว่า ที่จริงแล้วเป็นเพราะกระแสน้ำที่เปลี่ยนทิศพัดพาพวกเขาเข้ามาในเขตน่านน้ำของร้อยอสูร และยังหลบเรือลาดตระเวนได้อีกต่างหาก
คลื่นยักษ์สงบลงชั่วคราว แต่ยังไม่ทันที่คนบนเรือจะได้พักหายใจ ภัยคุกคามก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ร่างมหึมาของเนเรอุสโผล่ขึ้นจากน้ำ แค่ส่วนบนที่พ้นน้ำก็สูงถึงสิบเมตรแล้ว ตอนนี้มันกำลังจ้องมองคนบนเรือของเอสด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
"แก...."
เอสเพิ่งพูดได้คำเดียว เนเรอุสก็ยกแขนขึ้นฟาดไปที่เรือของพวกเขาแล้ว
อิสึกะเต็มใจคุยกับเขาเพราะเธอมีนิสัยใจดี แต่เนเรอุสต่างออกไป แม้จะกินผลปีศาจสายโซออนที่ผ่านการดัดแปลงแล้ว แต่โดยพื้นฐานเธอก็ยังเป็นราชินีของเกียราดอส คิดแบบเกียราดอสเป็นหลัก
ไม่มีเรือนำทาง ไม่มีเครื่องหมาย ธงโจรสลัดที่ไม่รู้จัก พวกนั้นก็คือศัตรู และกับศัตรู ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความ
"หมัดอัคคี!"
เห็นยักษ์สาวตรงหน้าไม่พูดพร่ำทำเพลง เปิดฉากโจมตี เอสก็โต้กลับทันที หมัดเพลิงมหึมาพุ่งเข้าหาเนเรอุส
"ไฟ?"
มุมปากเนเรอุสปรากฏรอยยิ้มเหยียดหยาม เมื่อไม่มีอะไรต้องกังวล เอสที่เพิ่งเข้าโลกใหม่และใช้พลังเต็มที่ สามารถต่อสู้กับจินเบได้หลายวันหลายคืน แต่ที่นั่นคือบนบก
บนบก พวกเงือกเสียเปรียบอย่างมาก แต่ตอนนี้ ที่นี่คือท้องทะเล
ประสานมือ พลังคลื่นน้ำก็รวมตัวกันแล้ว เข้าปะทะหมัดเพลิงของเอส
น้ำดับไฟ เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ดี ในวินาทีที่น้ำและไฟปะทะกัน ไอน้ำจำนวนมากบดบังทัศนวิสัยของทั้งสอง แม้เอสจะเพิ่มพลังไฟ แต่การประลองพลังกับราชาเกียราดอสกลางทะเลไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาด
หางมังกรของเนเรอุสสะบัดใต้น้ำ มังกรน้ำพุ่งขึ้นดาดฟ้า ภายใต้แรงบีบของกระแสน้ำ เปลวไฟของเอสดับวูบ คนบนเรือก็กระจัดกระจาย
การตอบโต้เล็กๆน้อยๆไม่ได้ผล ผิวของเนเรอุสมีเกล็ดแข็ง การโจมตีของลูกเรือธรรมดาทำอะไรเธอไม่ได้
ไม่รอให้เอสลุกขึ้น เนเรอุสก็อ้าปากพ่นเปลวเพลิงออกมา ราวกับจะบอกว่า ใครๆก็พ่นไฟได้ในยุคนี้
เช่นโปเกมอนบางตัว แม้จะบินไม่ได้ แต่ก็พ่นไฟได้
เห็นเปลวไฟพุ่งเข้ามา เอสก็ยังยืนหยัดขึ้นมาได้ เพียงแค่โดนน้ำราดตัวไม่ได้ทำให้เขาหมดแรง ถ้าไม่แช่น้ำตลอดก็ไม่มีผลอะไร
อาศัยร่างกายที่เป็นเปลวเพลิง เขาซึมซับเปลวเพลิงที่พ่นออกมา แต่การโจมตีต่อเนื่องของเนเรอุสก็มาถึง หางน้ำทำลายเรือของพวกเขา คลื่นยักษ์ที่เกิดจากการโต้คลื่นก็ซัดเข้ามาอีกครั้ง
บนบก เอสยังพอสู้กับเนเรอุสได้ แต่ในทะเล เขาไม่มีทางสู้เลย แม้ตัวเองจะพอรับมือได้ เนเรอุสก็ทำลายเรือเขาได้
สะบัดหาง คลื่นซัดไปไกล ส่วนคนของกลุ่มโจรสลัดโพดำจะตายรอด ถูกพัดไปที่ไหน เนเรอุสไม่สนใจ ถ้าเธอไม่มองผิด บนเรือนั้นน่าจะมีมนุษย์เงือก ถ้าพยายามหน่อยก็คงรอดได้
เมื่อแน่ใจว่าคนเหล่านั้นถูกพัดไปแล้ว จะไม่เข้าเขตวาโนะคุนิ เนเรอุสก็หันไปมองบริวารของตน
เพียะ!
หางฟาดลงบนผิวน้ำ เกียราดอสหลายตัวก็โผล่ขึ้นมา ดูเหมือนเด็กนักเรียนที่ถูกครูใหญ่ดุ
"ทำไม เรือที่ไม่มีเครื่องหมายถึงมาที่นี่ได้?"
อาร์เซอุสมอบตำแหน่งราชินีของเผ่าพันธุ์ให้เธอ ไม่มีเกียราดอสตัวไหนสั่นคลอนได้ แม้จะมีเกียราดอสไม่พอใจ ก็แค่บ่นลับหลัง
เกียราดอสพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้อาวุโสของเนเรอุส บางตัวยังไม่เข้าใจที่เธอได้เป็นราชินีตอนแรก ทำตามคำสั่งเธอก็เพราะอาร์เซอุส
แต่เมื่อเนเรอุสค่อยๆแสดงพลังออกมา บัลลังก์ของเธอก็ยิ่งมั่นคง ตอนนี้เธอแค่กำลังแสดงอำนาจ และเป้าหมายคือเกียราดอสใหม่ที่อาศัยอยู่ในทะเลอื่น เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก ไม่เคยเจอเธอมาก่อน
"องค์ราชินี เรือนั้นมันเล็กเกินไป..."
"ไม่ว่าเรือจะเล็กหรือใหญ่ ก็ถือเป็นเรือโจรสลัด! นี่คือคำสั่งของท่านผู้นำ! หากยังมีครั้งต่อไปอีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือน!"
"ขอรับ..."
หลังจากเสียงดุนั้นเงียบไป ท้องทะเลก็กลับสู่ความสงบ เกียราดอสตัวอื่นดำดิ่งลงสู่ใต้น้ำอีกครั้ง ส่วนเนเรอุสก็ยังคงครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่
‘บทเรียนที่เรียนมาจากแมนเดรลล์ ฉันก็เอามาสั่งสอนลูกน้องแบบนั้น คงจะไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?’