บทที่ 49 ข่าวดี!
หลังจากพูดจบ มู่หยุนเลี่ยก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที
หยานเชียนอี้ยืนงงอยู่ตรงนั้น
เขาหมายความว่า "ต้องการ" เธอจริงๆหรือ
หรือเขาพูดเพื่อช่วยเธอเฉยๆกันแน่
“เฮ้! ไอ้เด็กนี่!” หยานหงตะโกนขึ้นด้วยความโมโห “ไม่มีเงินแล้วยังกล้าพูดหน้าตายแบบนี้ นี่คิดจะบังคับแต่งงานรึไง แม้แต่พวกโจรยังไม่ทำแบบนี้เลย!”
“สามีคะ เขาเป็นแค่เด็กกำพร้า จะเอาเงินที่ไหนมา” หานหย่าหรงพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะด้วยน้ำเสียงเผ็ดร้อน
“ดูหน้าตาหล่อๆ ของเขาน่ะสิ คงคิดจะเกาะเราอยู่แล้ว”
“ฉันก็รู้ว่าเขาไม่มีเงิน ฉันถึงอยากให้เขารู้ตัวซะที!” หยานหงลดเสียงลงเมื่อเห็นว่าหยานเชียนอี้มองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ
“ลูกพ่อ หวังว่าลูกจะเข้าใจ ตอนนี้บ้านเรากำลังลำบาก...”
หยานเชียนอี้ไม่อยากฟังอีกต่อไป เธอก้าวเท้าตามมู่หยุนเหลี่ยออกไป แต่เขาก็หายตัวไปแล้ว
ทันใดนั้น เธอเจอคุณย่าเดินกลับเข้าบ้านพอดี
คุณย่ามองสภาพบ้านที่ยุ่งเหยิงและถามด้วยความตกใจ “เชียนอี้ บ้านเราเกิดอะไรขึ้น อาเเลี่ยไปไหนแล้ว ฉันพยายามทักเขา แต่เขาก็ไม่ตอบเลย”
หยานเชียนอี้ไม่อยากพูดอะไร เธอเดินขึ้นบันไดไปโดยไม่สนใจ
คุณย่าตะโกนเรียก “นี่ ยัยเด็กบ้า! ฉันถามอยู่นะ!”
หยานหงวิ่งตามออกมาจากห้องรับแขก
“แม่ครับ คุณช่วยพูดกับเชียนอี้หน่อยได้ไหม บอกให้เธอเลิกยุ่งกับมู่หยุนเลี่ยซะ! ตอนนี้มีแค่แม่เท่านั้นที่เธออาจจะฟังบ้าง”
คุณย่าส่ายหน้า “ดูเธอตอนนี้สิ เหมือนจะฟังฉันตรงไหน”
“แล้วเราจะทำยังไงต่อดี วันนี้มู่จื่อเฉิงก็บุกมาถึงบ้านแล้ว!” หยานหงพูดด้วยความกระวนกระวาย
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมผู้จัดการหลี่ถึงดูอ่อนโยนแปลกๆแบบนั้น แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็รับเงินไปแล้วตั้งแปดพร้อยล้าน ยังไงเขาก็ต้องให้คำตอบกับมู่เจีย
วันนี้ผู้จัดการหลี่อาจจะไม่อยากทำเรื่องใหญ่โตเพราะกลัวเสียหน้า แต่ครั้งหน้าเขาอาจจะไม่ใจดีแบบนี้ก็ได้
“แกจัดการเอง!” คุณย่าพูดอย่างไม่สนใจ
“แม่! คุณไม่เห็นตอนนี้ใช่ไหม? มู่หยุนเลี่ยจัดการคนของมู่เจียไปตั้ง 20-30 คน! เขามีฝีมือขนาดนั้น คุณยังกล้าให้เชียนอี้อยู่กับเขาอีกเหรอ”
“อ้อ อาเลี่ยเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ ก็ดีแล้วนี่ จะได้ปกป้องเชียนอี้” คุณย่าตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“แม่! ตอนนี้บริษัทของเรากำลังมีปัญหา แม่จะยืนดูดายแบบนี้ไม่ได้ แม่ไม่มีเงินเก็บเหลืออยู่เลยเหรอครับ” หยานหงถาม
“ไม่มี! สองปีนี้ฉันก็ช่วยไปเยอะแล้ว อย่ามาหวังอะไรจากฉันอีก!”
หยานเชียนอี้เดินกลับไปที่ห้องอย่างรวดเร็ว เธอปิดประตูเสียงดังเพื่อหนีเสียงทะเลาะเบาะแว้งข้างล่าง
เธอนอนคว่ำหน้าลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า สายตามองขึ้นไปบนเพดานด้วยความว่างเปล่า
เมื่อสองปีที่แล้ว บ้านนี้ไม่ใช่แบบนี้
ตอนนั้น เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและความรักที่อยู่รอบตัวในบ้านหลังนี้
ถ้าแม่ยังอยู่ก็คงดี…
ดวงตาเธอเริ่มร้อนผ่าว เธอเอื้อมมือไปคว้าผ้าห่มมาปิดหน้า
แต่วันนี้ไม่เหมือนทุกที เธอคว้าผ้าห่มไม่เจอ
เมื่อมองไปที่เตียง เธอเห็นว่าผ้าห่มถูกพับเป็นก้อนเล็กๆ อย่างเรียบร้อยอยู่ที่หัวเตียง หมอนก็ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
อืมม... เป็นคนที่ดูแลบ้านเก่งจริงๆ
แม้จะอารมณ์ไม่ดีบ้าง แต่ข้อดีของเขาก็มีเยอะ
พอคิดถึงมู่หยุนเลี่ย หยานเชียนอี้ก็รู้สึกดีขึ้นบ้าง
ทันใดนั้น สายรัดข้อมือของเธอก็สว่างขึ้น
“นายท่าน! มีข่าวดีค่ะ!”