บทที่ 36 : ท้องแล้วจะไม่มีใครเอา
“แล้วนายคิดว่าไงล่ะ” มู่หยุ่นเยี่ยตอบด้วยน้ำเสียงรำคาญ
เผยหยวนเซวียนรีบตอบทันที “กระผมเข้าใจแล้วครับ!”
หยานเชียนอี้รู้ว่าท่านประสบพิษร้าย หากตำรวจสืบสวนจนสาวถึงตัวเธอ อาจจะเกี่ยวโยงไปถึงเรื่องของท่านก็ได้
ไม่ว่าอย่างไร หากหยานเชียนอี้มีเจตนาร้ายจริง พวกเขาก็สามารถจัดการเธอได้ในภายหลัง
“จริงสิ ท่าน มีอีกเรื่องที่ต้องขออนุญาตสอบถาม โรงเรียนทหารแห่งจักรวรรดิปีนี้ยังเหลือโควตาพิเศษอีก 6 ที่ ท่านจะให้เปิดรับนักเรียนพิเศษหรือไม่ครับ”
“เรื่องแค่นี้ก็ต้องถามฉันด้วย แล้วผู้อำนวยการเขามีไว้ทำไม” มู่หยุ่นเยี่ยน้ำเสียงเข้มขึ้น “ปีนี้คนอ่อนแอมีเยอะ ไม่ต้องเปิดแล้ว!”
โควตานักเรียนพิเศษสามารถสมัครได้โดยไม่จำกัด แต่ปีที่แล้วเปิดไป 10 ที่สุดท้ายก็ไม่มีใครผ่านการคัดเลือกสักคน
เผยหยวนเซวียนถามต่อ “ท่านอาจารย์คาดการณ์ว่าท่านจะตอบแบบนี้ เขาจึงขอสอบถามว่าเราควรลดมาตรฐานการคัดเลือกไหมครับ”
“ไม่จำเป็น!”
นโยบายของมู่หยุ่นเยี่ยคือ 'คัดแต่คนที่แข็งแกร่งเท่านั้น'
หากได้เข้าโรงเรียนทหาร ภาระบนบ่าของพวกเขาคือการปกป้องชาติบ้านเมือง พร้อมที่จะต้องเข้าสู่สนามรบเสมอ และเขาไม่ต้องการพาคนที่อ่อนแอไปเผชิญหน้ากับศัตรู
เผยหยวนเซวียนถามต่อ “แล้วท่านจะกลับมาเมื่อไหร่ครับ”
คำตอบของเขาคือเสียง "ตู๊ดๆๆ"
มู่หยุ่นเยี่ยวางสายไปแล้ว
…
เมื่อหยานเชียนอี้และหยานหงเดินเข้ามาในห้องอาหาร ก็ได้ยินเสียงอารมณ์เสียของย่า
"หานหย่าหรง! นี่เธอเอาอะไรมาให้ฉันกิน นี่มันทำร้ายคนแก่หรือไง เอาเนื้อมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!"
บนโต๊ะอาหาร มีแต่ถุงอาหารเหลวแบบบรรจุถุง
ในยุคปัจจุบัน มีเพียงครอบครัวที่ยากจนมากเท่านั้นที่ต้องกินของเหล่านี้
“คุณแม่ บ้านเรากำลังจะล้มละลายแล้ว” หานหย่าหรงพูด “เว้นแต่เชียนอี้จะเลิกกับผู้ชายคนนั้นและไปแต่งงานกับตระกูลมู่ ไม่เช่นนั้นเราคงต้องกินอาหารเหลวแบบนี้ไปตลอด”
“อาหารเหลวก็ดีนะ สะดวกและมีสารอาหารครบถ้วน” หยานเชียนอี้นั่งลงที่โต๊ะอาหาร พร้อมหยิบถุงอาหารเหลวมาดื่มอย่างเพลิดเพลิน
ในโลกอื่น เธอเคยผ่านช่วงเวลาที่อดอยากมาแล้ว ตอนนั้นเธอคิดถึงอาหารเหลวนี้มาก
หยานเซียนอี้ได้รับการยกย่องจากผู้คนในโลกนั้นหลังจากที่เธอสอนให้พวกเขาทำอาหารเหลวได้
ท่าย่าตวัดสายตามองเธออย่างเย็นชา "แล้วอาเลี่ยล่ะ ทำไมเจ้ามาคนเดียว"
"เขายังหลับอยู่ค่ะ หนูไม่ได้ปลุกเขา" หยานเชียนอี้ยิ้มบาง "เมื่อคืนเหนื่อยมากน่ะค่ะ"
ท่านย่าเบ้ปากอย่างไม่พอใจ
เจ้าเด็กดื้อหน้ายิ้มเยาะนี่ ทำไมดูคุ้นตาจัง? เหมือนตอนเธออายุน้อยยังไงยังงั้น
แต่หยานหงที่ฟังคำตอบของหยานเชียนอี้กลับดูร้อนรนอย่างมาก "ลูกพ่อ! ลูกกับเขา… ลูก...ลูก...ได้ทำเรื่องนั้นแล้วงั้นหรือ?"
“ใช่ค่ะ” หยานเชียนอี้ตอบด้วยท่าทางสบาย ๆ “เราก็แต่งงานกันแล้ว มันไม่ใช่เรื่องปกติเหรอคะ”
หานหย่าหรงที่กำลังคุยอยู่ รีบหันมาด้วยความตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของหยานเชียนอี้
ถ้าหยานเชียนอี้เกิดท้องขึ้นมา มีท้องป่องอย่างเห็นได้ชัด ตระกูลมู่คงไม่มีทางยอมรับเธอแน่!
“พ่อไม่เห็นด้วย!” หยานหงพูดเสียงแข็ง “ลูกยังเป็นเด็กอยู่ ไม่ควรมีลูกตอนนี้!”
หยานเชียนอี้ยังคงจิบอาหารเหลวของเธอต่อไปอย่างใจเย็น
พ่อเพิ่งเมื่อสองวันก่อนยังรีบเร่งที่จะขายเธอไปให้ใครก็ไม่รู้เพื่อให้ไปมีลูก แล้วตอนนี้กลับไม่ยอมเสียแล้ว
เธอรู้ทันแผนการของเขาชัดเจนเลยล่ะ
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ซื่อหม่าเดินเข้ามา “คุณชายตระกูลฉูมาที่นี่ค่ะ เขาบอกว่าอยากพบคุณหนูใหญ่”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หานหรูยี่ก็ลุกขึ้นยืนทันที เตรียมตัวจะออกไป
แต่หานหย่าหรงจับแขนเธอไว้และสั่งไม่ให้ขยับ จากนั้นเธอก็เชิดคางขึ้นและถามซื่อหม่าเสียงเรียบ
“ในบ้านนี้มีคุณหนูตั้งสองคน เขาจะพบคุณหนูคนไหนกันแน่”
ซื่อหม่าก็ยืนเชิดหน้าเล็กน้อย น้ำเสียงยกสูงขึ้นกว่าเดิมเน้นย้ำว่า “คุณชายบอกแล้ว ว่าเขาจะพบคุณหนูใหญ่ นั่นก็คือคุณหนูเชียนอี้ค่ะ”