บทที่ 35 เมล็ดพันธุ์เต๋าพลังอิทธิฤทธิ์: ขนวิหคหนักพันจิน!
บทที่ 35 เมล็ดพันธุ์เต๋าพลังอิทธิฤทธิ์: ขนวิหคหนักพันจิน!
ยามค่ำคืนมาเยือน แต่ซูหมิงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะกลับไม่รู้ตัว จิตใจของเขาทั้งหมดถูกดึงดูดด้วยวิชาหุ่นเชิดกระดาษ
ผ่านไปห้าชั่วยามเต็มๆ
ซูหมิงที่อ่านวิชาหุ่นเชิดกระดาษทั้งเล่มจบก็เงยหน้าขึ้น หลังจากถอนหายใจยาว ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายตื่นเต้น
"นี่คือพลังที่แท้จริงของวิชาหุ่นเชิดกระดาษฉบับสมบูรณ์!"
เคหาสน์หุ่นเชิดสมกับเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของวิชาหุ่นเชิดกระดาษ แม้แต่เคหาสน์หุ่นเชิดที่เพิ่งสร้างใหม่ ก็มีคุณสมบัติสามอย่าง
หนึ่ง ซ่อมแซมหุ่นเชิดกระดาษที่เสียหาย
สอง เพิ่มจำนวนหุ่นเชิดกระดาษที่ผู้ฝึกตนสามารถควบคุมได้
สาม เพิ่มระยะทางในการควบคุมหุ่นเชิดกระดาษของผู้ฝึกตน
นี่เป็นแค่เคหาสน์หุ่นเชิดที่เพิ่งสร้างใหม่ ถ้าฝึกฝนต่อไป เคหาสน์หุ่นเชิดจะให้กำเนิดเมล็ดพันธุ์เต๋าพลังอิทธิฤทธิ์!
เมื่อพูดถึงพลังอิทธิฤทธิ์ ก็ต้องพูดถึงความแตกต่างระหว่างสมบัติวิเศษกับสมบัติล้ำค่า
สิ่งที่ผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นทองคำลงไปใช้ เรียกว่าสมบัติวิเศษ ส่วนผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นทองคำ สามารถใช้สมบัติล้ำค่าได้
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างสมบัติล้ำค่ากับสมบัติวิเศษ ไม่ใช่ความแตกต่างของวัสดุที่ใช้หลอม
แต่มันคือความแตกต่างระหว่างอักขระกับพลังอิทธิฤทธิ์
เมื่อผู้ฝึกตนเลื่อนขั้นไปถึงขอบเขตแก่นทองคำ พวกเขามักจะหลอมสมบัติล้ำค่าประจำตัว สมบัติล้ำค่าประจำตัวแบบนี้ ต้องให้ผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นทองคำสลักพลังอิทธิฤทธิ์ประจำตัวของพวกเขาลงบนสมบัติล้ำค่า
และในช่วงเวลาต่อมา พวกเขาก็จะใช้ปราณแก่นทองคำฝึกฝนสมบัติล้ำค่าอย่างต่อเนื่อง แบบนี้ พลังของสมบัติล้ำค่าก็จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ตามการฝึกฝนของผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นทองคำ
ในทางทฤษฎีแล้ว พลังของสมบัติล้ำค่าแบบนี้สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างไม่จำกัด จนกระทั่งกลายเป็นสมบัติวิญญาณ เมื่อผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นทองคำทะลวงไปถึงขอบเขตทารกวิญญาณ
สมบัติล้ำค่าที่ผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นทองคำหลอมขึ้นมา เนื่องจากมันสลักพลังอิทธิฤทธิ์ที่ผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นทองคำฝึกฝนไว้ ต่อให้คนอื่นได้มันมา พวกเขาก็ใช้มันไม่ได้
เว้นแต่เจ้าของเดิมจะทิ้งวิธีการควบคุมพิเศษไว้ วิธีการควบคุมแบบนี้ ผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นทองคำเรียกมันว่าเคล็ดวิชาควบคุมสมบัติ
ส่วนสมบัติวิเศษต่างออกไป
ช่างหลอมสมบัติวิเศษแค่สลักอักขระลงบนสมบัติวิเศษ ผู้ฝึกตนทุกคนก็สามารถใช้มันได้
ดังนั้น สมบัติวิเศษจึงมีแค่ระดับสอง เมื่อไปถึงขอบเขตแก่นทองคำ แทบจะไม่มีผู้ฝึกตนคนไหนใช้สมบัติวิเศษ พวกเขาจะใช้สมบัติล้ำค่า หรือไม่ก็ใช้พลังอิทธิฤทธิ์แทน
แม้แต่ทักษะวิชา พวกเขาก็ไม่ค่อยใช้
แต่ตามที่บันทึกไว้ในตำราโบราณเล่มนี้ เมื่อเคหาสน์หุ่นเชิดถูกฝึกฝนถึงระดับหนึ่ง มันจะให้กำเนิดเมล็ดพันธุ์เต๋าพลังอิทธิฤทธิ์!
เมล็ดพันธุ์เต๋าพลังอิทธิฤทธิ์คืออะไร?
พูดง่ายๆ ก็คือเมล็ดพันธุ์ของพลังอิทธิฤทธิ์ เมื่อผู้ฝึกตนเลื่อนขั้นไปถึงขอบเขตแก่นทองคำ พวกเขาแค่ส่งปราณแก่นทองคำเข้าไปฝึกฝนต่อไป ก็สามารถทำให้พลังอิทธิฤทธิ์นี้ปรากฏขึ้นได้
เมื่อถึงเวลานั้น เคหาสน์หุ่นเชิดก็จะกลายเป็นสมบัติล้ำค่าประจำตัวของผู้ฝึกตน
ยิ่งไปกว่านั้น ตามที่บันทึกไว้ในตำราโบราณ เคหาสน์หุ่นเชิดสามารถให้กำเนิดเมล็ดพันธุ์เต๋าพลังอิทธิฤทธิ์ได้มากกว่าหนึ่งชนิด มันขึ้นอยู่กับว่าผู้ฝึกตนเลือกคำสาปสังเวยโลหิตแบบไหน ในตอนเริ่มต้นการฝึกฝน
น่าเสียดายที่ตำราโบราณเล่มนี้ บันทึกคำสาปสังเวยโลหิตไว้เพียงแบบเดียว
เมล็ดพันธุ์เต๋าพลังอิทธิฤทธิ์ที่คำสาปสังเวยโลหิตนี้ให้กำเนิด ชื่อว่า… ขนวิหคหนักพันจิน!
มันมีความหมายว่า ขนนกหนึ่งเส้นหนักเป็นพันจิน(ห้าร้อยกิโลกรัม)
ตามคำอธิบายในคำสาปสังเวยโลหิต เมื่อเมล็ดพันธุ์เต๋าพลังอิทธิฤทธิ์นี้ปรากฏขึ้น เมื่อผู้ฝึกตนปล่อยเคหาสน์หุ่นเชิดออกมา บริเวณที่เคหาสน์หุ่นเชิดปกคลุม ก็จะกลายเป็นอาณาเขตแรงโน้มถ่วง!
แรงโน้มถ่วงในอาณาเขตแรงโน้มถ่วงนี้ จะถูกควบคุมโดยผู้ฝึกตน ถ้าใช้พลังอิทธิฤทธิ์นี้จนถึงขีดสุด ต่อให้เป็นขนนกหนึ่งเส้น มันก็จะหนักเป็นพันจิน!
ถ้าเป็นของมีน่ำหนักพันจิน มันก็เท่ากับสามหมื่นจิน!
ส่วนขนนกหนึ่งเส้น หนักแค่หนึ่งกรัมเท่านั้น
ถ้าคนผู้หนึ่งหนัก 150 จิน(75 กิโลกรัม) ถูกพลังอิทธิฤทธิ์ขนวิหคหนักพันจินกดทับ มันก็เหมือนกับมีน้ำหนัก 225 ล้านจินกดทับอยู่บนตัว
ด้วยน้ำหนักแบบนี้ ต่อให้เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตสร้างรากฐาน หรือแม้แต่ผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นทองคำ ก็จะถูกบดขยี้เป็นเนื้อบด
แน่นอน เมล็ดพันธุ์เต๋าพลังอิทธิฤทธิ์ที่เพิ่งสร้างใหม่ๆ จะไม่มีพลังแบบนี้
เว้นแต่จะฝึกฝนเมล็ดพันธุ์เต๋าพลังอิทธิฤทธิ์นี้ให้เป็นพลังอิทธิฤทธิ์เต็มตัว แล้วใช้ปราณแก่นทองคำฝึกฝนเคหาสน์หุ่นเชิดจนเกือบจะเป็นสมบัติวิญญาณ บางทีมันอาจจะแสดงพลังที่น่ากลัวแบบนี้ออกมาได้
"แต่ถ้าอยากฝึกฝนเคหาสน์หุ่นเชิดจนถึงระดับที่ให้กำเนิดเมล็ดพันธุ์เต๋าพลังอิทธิฤทธิ์ ข้าไม่รู้ว่าแต้มเสริมพลัง 608 แต้มของข้าจะพอหรือเปล่า"
ซูหมิงขมวดคิ้ว
จากนั้นเขาก็ส่ายหน้า
"ช่างเถอะ คิดมากไปทำไม? เมื่อเทียบกับคนอื่นแล้ว เงื่อนไขของข้าดีกว่ามาก ถ้าคนอื่นได้วิชาหุ่นเชิดกระดาษมา พวกเขาก็ได้แต่ใช้แก่นแท้โลหิตหัวใจฝึกฝนมัน
การสร้างเคหาสน์หุ่นเชิดในช่วงแรก ต้องใช้แก่นแท้โลหิตหัวใจ 20 หยด ทุกครั้งที่ฝึกฝน ต้องใช้แก่นแท้โลหิตหัวใจไม่น้อยกว่า 20 หยด
ส่วนการฝึกฝนเคหาสน์หุ่นเชิด มันยากกว่าหุ่นเชิดกระดาษทั่วไปมากกว่าร้อยเท่า คิดดูแล้ว ต่อให้เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตสร้างรากฐาน ก็อาจจะไม่สามารถทำให้มันให้กำเนิดเมล็ดพันธุ์เต๋าพลังอิทธิฤทธิ์ได้
เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว ข้ามีแต้มเสริมพลัง ข้าได้เปรียบมากแล้ว จะไม่พอใจอะไรอีกล่ะ ใช่ไหม?"
ในวิชาหุ่นเชิดกระดาษฉบับสมบูรณ์ นอกจากเคหาสน์หุ่นเชิดที่สำคัญที่สุดแล้ว ยังบันทึกหุ่นเชิดกระดาษแบบใหม่สองแบบ
แต่เมื่อเทียบกับหุ่นเชิดกระดาษแบบใหม่แล้ว ซูหมิงอยากสร้างเคหาสน์หุ่นเชิดมากกว่า
ตอนนี้ วิชาวาฬยักษ์ทะเลคลั่งของเขาฝึกฝนมาถึงขั้นที่สองแล้ว แก่นแท้โลหิตหัวใจในร่างกายของเขาก็สะสมได้ถึง 50 หยด
ส่วนการสร้างเคหาสน์หุ่นเชิดต้องใช้แก่นแท้โลหิตหัวใจ 20 หยด ซูหมิงตรงตามข้อกำหนดในการสร้างแล้ว
แน่นอน หลังจากสร้างสำเร็จ ซูหมิงต้องอ่อนแอไประยะหนึ่ง
แต่ในความคิดของเขา นี่เป็นแค่ราคาที่ต้องจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งพลัง
วันต่อมา
หลังจากที่ซูหมิงฝึกฝนวิชาโฮ่วถูเสร็จ เขาก็เริ่มฝึกฝนวิชาสุริยันส่องเทวะขั้นแรกอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งก้านธูปต่อมา
ซูหมิงที่รู้สึกว่าจิตสำนึกแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยก็ลืมตาขึ้น
"ผลของการฝึกฝนวิชาสุริยันส่องเทวะอ่อนแอลงเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าวิชาสุริยันส่องเทวะขั้นแรก ต่อให้ฝึกฝนจนถึงขีดสุด จิตสำนึกก็แค่เทียบเท่ากับจางจิ่งอวี้"
จิตสำนึกของจางจิ่งอวี้สามารถครอบคลุมพื้นที่หนึ่งลี้ เทียบเท่ากับผู้ฝึกตนขอบเขตสร้างรากฐานขั้นหนึ่งแล้ว
การมีจิตสำนึกเทียบเท่ากับผู้ฝึกตนขอบเขตสร้างรากฐานในขอบเขตขัดเกลาปราณ มันแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกตนขอบเขตขัดเกลาปราณขั้นเก้าถึงเก้าส่วน
ซูหมิงส่ายหน้า ไม่คิดมากอีกต่อไป
ร้านค้าเลขที่ 18 บนเขตติ้ง
ท่านปู่กงมองซูหมิงด้วยความประหลาดใจ "เสี่ยวซู เจ้าซื้อกระดาษยันต์วิเศษมากมายขนาดนี้ไปทำอะไร?"
ซูหมิงยิ้ม ไม่ตอบ
เขาไม่อยากเปิดเผยความลับของวิชาหุ่นเชิดกระดาษ แต่เขาก็ไม่อยากโกหกท่านปู่กง
เมื่อเห็นว่าซูหมิงไม่พูดอะไร ท่านปู่กงก็เดาว่าเขาย่อมมีความลับของตัวเอง
ในโลกแห่งการบ่มเพาะ มีผู้ฝึกตนมากมายที่มีความลับ แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับซูหมิงจะดี แต่เขาก็ไม่ได้สนิทสนมถึงขั้นสอดรู้สอดเห็นความลับของคนอื่น
ท่านปู่กงมองใบสั่งซื้อที่ซูหมิงมอบให้ แล้วส่ายหน้า "กระดาษยันต์วิเศษที่เจ้าต้องการ มันมากเกินไป ข้าต้องออกไปซื้อของ"
"ไม่เป็นไรขอรับ ข้าน้อยรอได้"
ซูหมิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
กระดาษยันต์วิเศษที่ใช้สร้างเคหาสน์หุ่นเชิด มันมากเกินไปจริงๆ
ท้ายที่สุดแล้ว ครั้งนี้เขาต้องใช้กระดาษยันต์วิเศษสร้างตำหนักออกมา
งานนี้ ต่อให้มองในสายตาของช่างหลอมสมบัติวิเศษอย่างซูหมิง มันก็ยิ่งใหญ่และซับซ้อนมาก
แต่โชคดีที่วัสดุที่ใช้สร้างเคหาสน์หุ่นเชิดไม่ได้มีค่ามาก เหมือนกับหุ่นเชิดกระดาษ แค่ใช้กระดาษยันต์วิเศษทั่วไปก็พอ
เพียงแต่ต้องใช้กระดาษยันต์วิเศษจำนวนมาก
ร้านขายกระดาษยันต์วิเศษของท่านปู่กง ถือว่าเป็นร้านค้าที่ทำธุรกิจได้ดีในเขตด้านตะวันตก แม้แต่ร้านของเขายังมีกระดาษยันต์วิเศษไม่มากขนาดนี้ ร้านค้าอื่นๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เพื่อรักษาความลับของวิชาหุ่นเชิดกระดาษ ซูหมิงจึงไม่ได้ซื้อกระดาษยันต์วิเศษทั่วทั้งย่านการค้า แต่ซื้อจากท่านปู่กงโดยตรง