ตอนที่แล้วบทที่ 140 คุกเข่าวิงวอนให้จางฮั่นเป็นเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 142 นักเล่านิทานรู้ได้อย่างไร

บทที่ 141 ภาระงานที่เพิ่มขึ้นของดาวไท่อิน


ณ แคว้นหยุนโจว ท่ามกลางเทือกเขาอันสลับซับซ้อน

ศิษย์นับสิบจากนิกายศักดิ์สิทธิ์แห่งแคว้นหยุนโจวนั่งฟังผู้อาวุโสลำดับสามบอกเล่าเรื่องราวความรุ่งโรจน์และความเสื่อมถอยของนิกาย สีหน้าของพวกเขาดูไม่สู้ดีนัก แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

ดวงตาทุกคู่จับจ้องไปที่จางฮั่น พวกเขาได้เห็นกับตาว่าเขาสามารถสร้างค่ายกลได้ด้วยความคิดเพียงแวบเดียว อีกทั้งยังมีพลังอันน่าสะพรึงกลัว นี่คือวิธีการสร้างค่ายกลที่ล้ำสมัยอย่างแท้จริง

หากเขายินยอมเป็นประมุขนิกาย พวกเขาก็จะตอบตกลงทันที แต่น่าเสียดายที่เขากลับไม่เต็มใจ

ทุกคนมองดูจางฮั่นที่กำลังครุ่นคิดอย่างหนัก ต่างพากันเงียบกริบ รอคอยคำตอบจากเขาว่าจะรับเป็นประมุขนิกายหรือไม่

เวลาผ่านไปราวสองธูปก็ยังไม่เห็นจางฮั่นตื่นจากภวังค์ หญิงชราทนไม่ไหวจึงเอ่ยปากถาม

"สหายเต๋า ท่านกำลังพิจารณาว่าจะรับเป็นประมุขนิกายหรือไม่หรือ?"

"อย่าคิดว่านิกายเป็นของเสียหายแล้วไม่อยากรับนะ แม้ตอนนี้นิกายจะบอบช้ำ แต่รากฐานยังอยู่ครบ ขอเพียงมีท่านคอยดูแล รับรองว่าจะฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติในเร็ววัน"

"ลองคิดดูสิ! รากฐานของนิกายศักดิ์สิทธิ์นี่! หากท่านเป็นประมุข ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นของท่าน!"

หญิงชราพยายามโน้มน้าวสุดความสามารถ

"หา? อะไรนะ?" จางฮั่นที่กำลังครุ่นคิดสะดุ้งตื่น หันไปมองหญิงชรา

"อ๊ะ? ท่านไม่ได้กำลังคิดว่าจะรับเป็นประมุขนิกายหรือ?" หญิงชราชะงักงัน

"ไม่ใช่ เจ้าคิดมากไปแล้ว" จางฮั่นกลอกตา

เขาไหนเลยจะคิดเรื่องเป็นประมุขนิกายที่ไหน แท้จริงแล้วเขากำลังคิดว่า ดูเหมือนคนแซ่เย่จะมีโชคชะตาพิเศษ ลูกหลานของเขาในอนาคต จะให้รับพี่ใหญ่เป็นบิดาบุญธรรมดีไหม จะได้ใช้แซ่เย่อย่างถูกต้องตามครรลองคลองธรรม

ใครจะไปรู้ว่าคนพวกนี้กลับคิดจะให้เขาเป็นประมุขนิกาย...

จางฮั่นอยากจะพูดเพียงประโยคเดียวว่า

ข้าไม่อยากเป็นประมุขนิกายจริงๆ นะ!

"สหายเต๋า ท่านไม่อยากเป็นประมุขนิกายจริงๆ หรือ?" หญิงชราถามอย่างจนปัญญา

"ไม่อยากหรอก พอเถอะ ข้ายังมีธุระต้องทำอีก ขอตัวก่อนละ"

"อย่าเพิ่งไป สหายเต๋า ท่านไม่ลองพิจารณาอีกสักหน่อยหรือ?"

"ไม่พิจารณาแล้ว นิกายของพวกเจ้าอาจถูกเย่ฉินจับตาอยู่ก็ได้ ถ้าข้าเป็นประมุขนิกายแล้วถูกเย่ฉินจับตาจะทำอย่างไร? ดังนั้นอย่ามารบกวนข้าอีกเลย"

"ไม่เป็นไรๆ นับแต่ประมุขนิกายศักดิ์สิทธิ์แห่งแคว้นหยุนโจวสิ้นชีพ สหพันธ์ผู้ฝึกตนได้ออกประกันอุบัติเหตุชีวิตเซียน ท่านสามารถซื้อได้..."

"...ลาก่อน!"

"สหายเต๋า โปรดรอก่อน!!"

จางฮั่นทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงรีบสร้างค่ายกลลอยขึ้นฟ้า พร้อมกับเรียกดาวไท่อินที่ยังอีกสองชั่วยามจึงจะขึ้นเวรมาสร้างค่ายกลกักขังเพื่อสกัดกั้นกลุ่มคนเหล่านี้ จากนั้นก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว กลัวว่าพวกเขาจะไล่ตามมาอีก

กลุ่มคนที่ถูกค่ายกลไท่อินกักขังเห็นจางฮั่นเด็ดขาดและเก่งกาจเช่นนั้น ต่างก็ร้อนใจ

"สหายเต๋า โปรดรอก่อน!"

"มา มา มา ทุกคนช่วยกันทำลายค่ายกลนี้..."

"ค่ายกลนี้น่าจะเป็นค่ายกลไท่อิน เพียงแค่หาจุดศูนย์กลางแล้วทำลาย ก็สามารถทำลายค่ายกลได้ง่ายๆ!"

"ข้าเจอแล้ว จุดศูนย์กลางอยู่บนฟ้า บนดาวไท่อินนั่น!!"

"เอ่อ?? งั้นเจ้าขึ้นไปทำลายดาวไท่อินสิ??"

ทุกคนต่างพากันเอ่ยปาก

ในที่สุดพวกเขาก็พบว่าไม่มีทางเอาชนะค่ายกลนี้ได้เลย

การทำลายค่ายกลด้วยกำลัง พวกเขาทำไม่ได้ ด้วยพลังของพวกเขาไม่สามารถทำลายค่ายกลนี้ได้ในครั้งเดียว

เปลี่ยนวิธีเป็นค่อยๆ สึกกร่อนพลังของค่ายกล พวกเขาก็พบว่าค่ายกลนี้รับพลังงานจากดาวไท่อิน

เว้นแต่พวกเขาจะสามารถทำให้ดาวไท่อินหมดพลัง

ไม่เช่นนั้นก็อย่าคิดที่จะทำลายค่ายกล

แต่การทำให้ดาวไท่อินหมดพลัง...

ให้เวลาสามหมื่นปีก็ยังไม่พอ...

ทุกคนคิดแล้วก็รู้สึกสิ้นหวังทันที

"ไม่ต้องกังวลไป สหายเต๋าท่านนั้นคงมีการคำนวณแล้ว ค่ายกลนี้น่าจะคลายตัวเองภายในสองชั่วยาม ฮึ วิธีการสร้างค่ายกลของสหายเต๋าท่านนั้นช่างแข็งแกร่งจริงๆ ถ้าเขามาเป็นประมุขนิกายศักดิ์สิทธิ์แห่งแคว้นหยุนโจวของพวกเราคงจะดีเหลือเกิน"

หญิงชราก้าวออกมาปลอบใจทุกคนเบาๆ

นางเงยหน้ามองทิศทางที่จางฮั่นจากไป

แม้จางฮั่นจะปฏิเสธนางมาตลอด แต่ไม่รู้ทำไม นางมีลางสังหรณ์

จางฮั่นจะต้องมาที่นิกายของพวกเขา และเป็นประมุขนิกายอย่างแน่นอน

นี่เป็นเพียงลางสังหรณ์

แต่กลับทำให้หญิงชรารู้สึกว่า สิ่งนี้จะต้องเป็นจริงแน่นอน

หญิงชรายิ้มน้อยๆ ชั่วขณะนั้นก็ไม่สนใจว่าตัวเองติดอยู่ในค่ายกล

...

อีกด้านหนึ่ง

จางฮั่นบินไปสองชั่วยาม เมื่อแน่ใจว่าสลัดกลุ่มคนเหล่านั้นหลุดแล้ว ในที่สุดก็ถอนหายใจโล่งอก

คนพวกนี้ช่างยากเย็นเหลือเกิน

จุ๊ๆ

พูดออกไปคงไม่มีใครเชื่อ

ลูกศิษย์นิกายศักดิ์สิทธิ์มากมายคุกเข่าขอร้องให้เขาเป็นประมุขนิกาย แต่กลับถูกเขาปฏิเสธ

ถ้าอนาคตเขาไม่ใช่ประมุขนิกายอู๋เต้า ก็คงไม่เป็นไร บางทีเขาอาจจะตอบตกลง

แต่กลับกลายเป็นว่า อนาคตเขาคือประมุขนิกายเร้นลับอู๋เต้า!

หนึ่งคือนิกายที่สืบทอดมาสามล้านปี อีกหนึ่งคือนิกายที่อายุไม่ถึงห้าพันปี

มีแต่คนไม่มีสมองเท่านั้นที่จะเลือกไปเป็นประมุขนิกายศักดิ์สิทธิ์

อย่างไรเสีย จางฮั่นก็ไม่มีทางไปเป็นประมุขนิกายศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน

ถ้าเขาสามารถไปเป็นประมุขนิกายศักดิ์สิทธิ์ได้ เขาจะกินวัสดุสร้างค่ายกลทั้งหมดในแคว้นตงโจวรวมถึงแคว้นหยุนโจวให้หมดเกลี้ยง!! ไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว!!

"ว่าแต่ ถึงเวลาถอนค่ายกลแล้ว"

จางฮั่นพึมพำ จิตใจสั่งการ ถอนค่ายกล

พร้อมกันนั้นก็ตัดการเชื่อมต่อระหว่างตัวเองกับดาวไท่อิน

หลังจางฮั่นตัดการเชื่อมต่อ เงยหน้าขึ้นมองเเห็นดาวไท่อินยังคงลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า รู้สึกสงสัยว่าทำไมดาวไท่อินไม่หายไป

คิดดูอีกที ก็ตบหน้าผากตัวเอง

สองชั่วยามผ่านไปแล้ว

ดาวไท่อินถึงเวลาขึ้นเวรพอดี

นี่ก็ดีนะ

ช่วยประหยัดเส้นทางให้ดาวไท่อิน ไม่ต้องกลับไปแล้วกลับมาอีก

ดาวไท่อินที่ขยันขันแข็งช่างน่าชื่นชมจริงๆ

จางฮั่นอุทานชื่นชม

นับตั้งแต่ถูกพี่ใหญ่ใช้วิชาปิดผนึกสวรรค์พิภพหนึ่งกระบวนท่า ทำลายวิธีสร้างค่ายกลโดยอาศัยพลังฟ้าดินของเขา

จางฮั่นก็ครุ่นคิดหาวิธีรับมือ

หลังจากศึกษาอยู่พักหนึ่ง วิธีเดียวที่เขาคิดได้

ก็คือต้องสร้างความคุ้นเคยกับฟ้าดินที่จะยืมพลัง

เพียงแค่ความคุ้นเคยระหว่างกันสูงพอ ก็จะสามารถทำลายการปิดผนึกสวรรค์พิภพแบบนี้ได้

แล้วความคุ้นเคยจะเกิดขึ้นได้อย่างไร...

ก็ต้องยืมพลังบ่อยๆ สิ

ดังนั้น จางฮั่นจึงเริ่มยืมพลังจากดาวไท่อินทั้งวันทั้งคืน มีเรื่องไม่มีเรื่องก็ยืมสักหน่อย

ดาวไท่อินที่ทำงานหกชั่วยามทุกวัน ถูกจางฮั่นบังคับให้ทำงานแปดเก้าชั่วยามอย่างโหดร้าย...

โชคดีที่ดาวไท่อินด่าคนไม่เป็น

ไม่งั้นจางฮั่นคงแย่แน่

แต่จางฮั่นก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้

ตอนนี้ สายตาของเขาทอดมองไปยังเมืองที่อยู่เบื้องหน้า

ตั้งใจจะเข้าไปพักผ่อนในเมือง สืบข่าวเกี่ยวกับตำแหน่งและสถานการณ์ของราชันมังกรนั่น แล้วค่อยไปพบราชันมังกรที่ถูกอาจารย์ของเขาเอาชนะ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด