บทที่ 136 ภัยพิบัติจากห้วงลึก : มังกรปรากฏกาย
[,แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ],
[,Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด,]
[,หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ,]
บทที่ 136 ภัยพิบัติจากห้วงลึก : มังกรปรากฏกาย
"หลี่กัวตง อยู่ไหม?"
เสียงของลู่เหยียนดังผ่านเครื่องสื่อสารมาอย่างชัดเจน ไม่มีการทักทายใดๆเพิ่มเติม มุ่งตรงเข้าสู่ประเด็นหลักทันที
หลี่กัวตงกำเครื่องสื่อสารแน่น รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งติดอยู่ในลำคอ พูดออกมาอย่างยากลำบาก
"ท่านลู่ ผมอยู่นี่ครับ"
"ฉันคิดว่านายน่าจะรู้แล้วว่าลูกชายของนายทำอะไรลงไป" น้ำเสียงของลู่เหยียนมีแววเย็นชา "ฉันหวังว่านายจะให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลได้นะ"
ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเสียงของหลี่กัวตงก็ดังขึ้น เสียงนั้นต่ำ ทรมาน และแหบพร่า เหมือนก้อนหินที่ผุพัง
แต่ละคำเหมือนถูกบีบออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจเขา
"เป็นความผิดของผมที่สั่งสอนลูกไม่ดีเองครับ ผมไม่ได้ทำหน้าที่พ่อให้ดี ผมขอโทษครับ...ผมยินดีลาออกเพื่อรับผิดชอบ ขอเพียงท่านเมตตา ให้โอกาสลูกชายผมได้กลับตัวกลับใจ"
คำขอของหลี่กัวตงเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความเศร้าโศกของผู้เป็นพ่อ
แต่ทันทีที่เขาพูดจบ คำตอบของลู่เหยียนก็เหมือนน้ำแข็งในฤดูหนาว เย็นยะเยือกและไร้ความปราณี
"หลี่กัวตง นี่ไม่ใช่เรื่องที่นายจะมาตัดสินใจได้ คนที่ลูกชายนายไปยุ่งด้วย รหัสประจำตัวขึ้นต้นด้วย X เข้าใจรึเปล่า? ทุกคนต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่กัวตงก็ตัวแข็งทื่อ
จากนั้นดวงตาของหลี่กัวตงก็แดงก่ำ น้ำตาคลอหน่วย แต่เขาพยายามอย่างหนักที่จะไม่ให้มันไหลออกมา
"ผมเข้าใจแล้วครับ งั้น...งั้นทุกอย่างเกี่ยวกับลูกชายของผม...ท่านจัดการได้เลยครับ..."
ลู่เหยียนเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วหันไปมองเย่เหรินอย่างระมัดระวัง
"คุณเย่ คุณจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?"
เย่เหรินยิ้มกว้าง
"คุณลุง ผมเป็นคนใจแคบนะครับ ไอ้หมอนี่มาลวนลามน้องเจียงของผม แล้วยังมาขู่ผมอีก งั้นก็ส่งมันเข้าคุกไปเย็บผ้า ฝึกฝนให้ดี ขั้นต่ำสามปี ไม่มีกำหนด ถ้ามันสำนึกผิดจริง อาจจะลดโทษให้ก็ได้ครับ"
"ส่วนพวกหมาหมู่ที่ร่วมวงด้วย ก็ห้ามปล่อยไปแม้แต่คนเดียว ต้องให้พวกมันรู้ว่า กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง~"
ทันทีที่เขาพูดจบ บรรยากาศโดยรอบก็เย็นยะเยือกในทันที
หลี่เฮ่ายู่เดิมทีก็ยังมีความหวังริบหรี่ พอได้ยินการตัดสินใจของเย่เหริน สีหน้าก็ซีดเผือดลงในทันที เขาทรุดเข่าลงกับพื้น
มือทั้งสองข้างจับชายกางเกงของเย่เหรินแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง
"พี่...พี่ครับ ผมผิดไปแล้ว ผมรู้แล้วว่าผมผิดไปแล้ว! ขอร้องล่ะ ให้โอกาสผมแก้ตัวเถอะ ผมจะไม่ทำอีกแล้ว!"
เสียงของเขาสั่นเทา น้ำตาไหลอาบแก้ม ไม่เหลือเค้าความอวดดีเหมือนเมื่อก่อนเลย
แต่เย่เหรินก็ยังยิ้มแฉ่ง
"ไม่~"
ลู่เหยียนส่งเสียงฮึ่มอย่างเย็นชา
เมื่อคำสั่งดังขึ้น ผู้ถือโคมข้างกายเจียงซุ่ยก็ก้าวออกมา
เมื่อหลี่เฮ่ายู่เห็นดังนั้น ก็ดิ้นรนพยายามจะลุกขึ้นวิ่งหนี แต่ผู้ถือโคมก็คว้าตัวเขาไว้ได้เหมือนจับลูกไก่
เขาส่งเสียงกรีดร้อง ร้องไห้ แต่ทุกอย่างก็ดูไร้ประโยชน์
เหล่าลูกสมุนที่เคยล้อมหน้าล้อมหลังหลี่เฮ่า เมื่อเห็นภาพนี้ ก็คุกเข่าลงกับพื้น บางคนร่ำไห้คร่ำครวญ ขอร้องเย่เหรินและลู่เหยียนให้ไว้ชีวิต
บางคนก็หน้าซีดเผือดสิ้นหวัง คิดในใจว่า "ติดสอยห้อยตามนายน้อยหลี่มา ก็ได้เข้าคุกกินข้าวหลวงสามมื้อไม่ขาดแล้ว!"
ในขณะเดียวกัน อาถรรพ์ซวยของเย่เหรินยังคงออกฤทธิ์!
เมืองฝูไห่ เมืองข้างเคียงของเมืองเถิงเหยียน
ต่างจากความสงบของเมืองเถิงเหยียน เมืองฝูไห่ในตอนนี้กลับเกิดภัยพิบัติจากห้วงลึกครั้งใหญ่ที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อน!
โคลนจากห้วงลึกพวยพุ่งออกมาจากพื้นดิน ปกคลุมถนนหนทางและทุกซอกทุกมุมของเมืองด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!
โคลนจากห้วงลึกส่งกลิ่นเหม็นเน่า รากฐานของตึกสูงถูกกัดกร่อน รถยนต์บนถนนจมลงไปในโคลน
ความหวาดกลัวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วเหมือนโรคระบาด
เสียงกรีดร้องและเสียงร้องไห้ดังระงม ประหนึ่งภาพวันสิ้นโลก
สาขาผู้ถือโคมประจำเมืองฝูไห่เข้าสู่ภาวะฉุกเฉินทันที!
บรรดาผู้ถือโคมสวมเครื่องแบบสีแดงดำอันเป็นเอกลักษณ์ วิ่งไปมาท่ามกลางฝูงชนที่วุ่นวาย พวกเขาใช้โคมโบราณจากห้วงลึกในมือขับไล่โคลน และสั่งการอพยพผู้คน
เสียงประกาศที่สุขุมเยือกเย็นดังออกมาจากระบบกระจายเสียงซ้ำแล้วซ้ำเล่า แนะนำให้ประชาชนอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย
"หัวหน้า! โคมของผมจะดับแล้ว! โคลนรอบๆมันเยอะเกินไป รับมือไม่ไหวแล้วครับ!"
"ควักเนื้อตัวเองใส่เข้าไปก่อน พยุงไว้สักพัก เดี๋ยวฉันกลับไปรักษาให้!"
ท่ามกลางความโกลาหลเช่นนี้ ยังมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่วิ่งสวนกระแสเข้าไป
ที่ลานกว้างแห่งหนึ่งซึ่งกำลังจะถูกโคลนจากห้วงลึกกลืนกิน หญิงสาวผู้ถือโคมคนหนึ่งกำลังอุ้มเด็กทารกสองสามคนวิ่งอย่างรวดเร็ว
เธอชื่อหลิวเยว่ เป็นหัวหน้าหน่วยที่สาม
"ทุกคนตามฉันมา วิ่งไปทางนี้!"
หลิวเยว่ไม่ลืมตะโกนเตือนผู้คนที่อยู่ข้างหลัง โคมโบราณจากห้วงลึกที่เอวของเธอส่องสว่าง ชี้ทางให้กับผู้คนที่กำลังสับสนอลหม่าน
"โครม!"
ทันใดนั้น พร้อมกับเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ตึกระฟ้าใจกลางเมืองฝูไห่ก็เสียสมดุลในพริบตา ตัวอาคารขนาดมหึมาค่อยๆเอียงลง
โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กของตึกสูงดูบอบบางอย่างยิ่งในเวลานี้
เมื่อส่วนกลางของอาคารถูกฉีกออกเป็นรอยแยกขนาดใหญ่จากห้วงลึก อาคารทั้งหลังก็ถูกตัดขาดออกเป็นสองท่อน
ก้อนหินและเศษกระจกโปรยปรายลงมาดุจสายฝน เสียงกรีดร้องอันสิ้นหวังและเสียงบิดเบี้ยวของโลหะดังระงม ผู้คนต่างแตกตื่นและวิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันอลหม่าน
"แย่แล้ว!"
หลิวเยว่เห็นภาพตรงหน้า ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ แต่เธอไม่อาจทำอะไรได้
ท่ามกลางความเป็นความตาย มังกรดำขนาดมหึมาก็พุ่งทะยานออกมาจากรอยแยกอันลึกล้ำ ร่างกายของมันเต็มไปด้วยบาดแผลลึกจนเห็นกระดูก
ใกล้กับบาดแผล รอยแตกสีดำเหมือนมีชีวิต แผ่ขยายไปตามรอยแผลเหล่านั้น
เห็นได้ชัดว่ามังกรเพิ่งผ่านการต่อสู้มาอย่างหนัก อาการของมันอยู่ในขั้นวิกฤต
ทว่าหลังจากที่มันหลุดพ้นจากรอยแยก มันก็พยายามกระพือปีกกลางอากาศ อ้าปากพ่นเปลวเพลิงสีน้ำเงินประหลาดออกมา
เปลวเพลิงโอบล้อมซากปรักหักพังของตึกที่กำลังจะถล่มอย่างนุ่มนวล ชะลอความเร็วในการร่วงหล่น พร้อมทั้งสร้างเกราะป้องกันเศษซากที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้คนโดยรอบ
ท่ามกลางเปลวเพลิง เศษซากของตึกดูราวกับถูกหยุดเวลา ค่อยๆร่วงลงอย่างน่าอัศจรรย์ หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีผู้คนหนาแน่น
แต่มังกรเองกลับร่วงลงสู่พื้นอย่างแรงเพราะบาดแผลสาหัส ฝุ่นตลบอบอวลไปทั่ว
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นประชาชนที่ตื่นตระหนกหรือผู้ถือโคมที่กำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัย ต่างหยุดชะงัก มองภาพอันน่าเหลือเชื่อนี้ด้วยความตกตะลึง
อีกด้านหนึ่ง
เย่เหรินและเจียงซุ่ยได้รับแจ้งภารกิจเร่งด่วนจากลู่เหยียน ให้รีบไปสนับสนุนที่เมืองฝูไห่
เนื่องจากสถานการณ์ฉุกเฉิน ผู้ยิงใหญ่แขนเดียว หลิวเกา ถึงกับต้องใช้พลังพิเศษของเขา
ผู้ยิงใหญ่ดีดนิ้ว ปรากฏฟองอากาศสีฟ้าครอบคลุมเย่เหริน เจียงซุ่ย และผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆ
หลังจากรู้สึกวิงเวียนศีรษะเพียงครู่เดียว พวกเขาก็มาถึงที่เกิดเหตุในเมืองฝูไห่
"นี่มัน..."
เย่เหรินมองภาพตรงหน้าด้วยความตกใจ
ร่างกายอันใหญ่โตของมังกรดำทอดกายอยู่เต็มถนน รอยแตกสีดำบนผิวหนังของมันกำลังลุกลาม
ลมหายใจของมันแผ่วเบาและหนักหน่วง ดวงตาขนาดใหญ่ไม่ได้สะท้อนความดุร้าย แต่กลับเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและสิ้นหวัง...
มันกำลังจะตาย