ตอนที่ 15 เมื่อเทียบกับคนเป็น คนตายจะเชื่อฟังมากกว่า
ตอนที่ 15 เมื่อเทียบกับคนเป็น คนตายจะเชื่อฟังมากกว่า
มันเกิดขึ้นกะทันหัน ประกอบกับความเร็วอันน่าเหลือเชื่อของอาวุธ แม้แต่เสี่ยวหู่ก็ไม่สามารถตอบสนองได้
แม้ว่ามันจะต้องจะเข้าไปพิทักษ์เจ้านายของมัน แต่ก็ยังช้าเกินไป
ฉู่เสวียนเองก็เห็นก้อนเหล็กสีเข้มและดอกไม้ไฟที่พุ่งออกมาจากรู แต่เขาก็ไม่ได้แสดงความหวาดกลัวออกมาแม้แต่น้อย
ฟรืบ!...
มีเส้นเลือดโลหิตพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา ปรากฏตัวออกมาราวกับสายฟ้าสีเลือด
เต้ง!
เมื่อกระสุนพุ่งไปโดนเส้นลวดโลหิตเข้า มันก็เหมือนกับกระแทกเข้ากับแผ่นเหล็กอย่างจัง
ทันใดนั้นมันก็เบี่ยงออกจากทิศทางและยิงไปที่ฝูงชน เพียงไม่นาน ก็ได้ยินเสียงของชายคนหนึ่ง กระสุนเจาะเข้าไปในเบ้าตาของเขาอย่างแม่นยำและทะลุสมองของเขา
ดวงตาของจ้าวหงเบิกกว้าง มันคือเส้นอะไรกัน? ถึงสามารถกันกระสุนได้เช่นนี้?
เขาคำรามออกมาด้วยความไม่พอใจและยิงออกไปอีกครั้ง
ปังปังปัง!
คราวนี้ได้ยิงออกไปสามนัด!
เต้ง เต้ง เต้ง!
กระสุนทุกนัดถูกเส้นลวดโลหิตกั้นไว้อย่างง่ายดาย
กระสุนทั้งสามนัดถูกเบี่ยงเบนออกไปและไม่ได้ทำอันตรายฉู่เสวียนแม้แต่น้อย แต่กลับยิงชายหนุ่มอีกสามคนที่เป็นสมาชิกในแก๊งของเขาจนตายไป
จ้าวหงรู้สึกตกใจ เขามีกระสุนเพียงสี่นัด และทั้งสี่นัดก็ถูกกันไว้จนหมด ตอนนี้เขามองเห็นได้ชัดเจนแล้วว่าเส้นสีแดงนี้มันคือแมลงเลือดตัวใหญ่ชัดๆ!
ชายหนุ่มคนนี้ไม่เพียงแต่ควบคุมซอมบี้ได้เท่านั้น แต่ยังควบคุมแมลงได้อีกด้วย!
ทำไมถึงเป็นเช่นนี้!
ฉู่เสวียนยื่นมือออกมาแตะเส้นลวดโลหิตเบา ๆ และเขาพูดอย่างใจเย็น "ปืนนี้เป็นทางเลือกสุดท้ายของเจ้าแล้วหรือ?"
ขาของจ้าวหงเป็นอัมพาตไปทันที เขานั่งลงบนพื้นด้วยความอ่อนแรง ไม่มีความคิดที่จะต่อต้านอีกต่อไป
"หมาป่าวิญญาณเป็นของแกแล้ว...ไว้ชีวิตฉันเถอะ" จ้าวหงกลืนน้ำลายลงและพูดอย่างจริงใจ
หลังจากพูดแบบนี้ เขาก็คุกเข่าลงจริง ๆ โดยไม่มีความเย่อหยิ่งของหัวหน้าแก๊งหลิงฉวนแม้แต่น้อย
เขาได้เห็นแล้วว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขาเป็นสัตว์ประหลาด เขาไม่สามารถเทียบกับชายคนนี้ได้
ความมั่งคั่งและชีวิตของเขาอยู่ในมือของอีกฝ่ายแล้ว ตอนนี้ที่ต้องแสดงออกมาคือความจริงใจ ถึงจะมีโอกาสรอด
แต่ฉู่เสวียนกลับส่ายหัว “ข้าพอใจกับร่างกายของเจ้ามากกว่าหมาป่าวิญญาณนี้เสียอีก เช่นนั้นข้าขอทั้งเจ้าและหมาป่าวิญญาณนี้เลยล่ะกัน”
จ้าวหงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และทันใดนั้นก็เข้าใจบางอย่าง สีหน้าของเขาดูตกใจเป็นอย่างมาก “นี่...ฉัน...ฉันเป็นผู้ชายนะ”
เขาพูดอย่างเขินอายเล็กน้อย “แต่ถ้าแกต้องการตัวฉันขนาดนั้น ฉันก็ทำให้ได้...”
คนที่อยู่รอบๆตัวเขาดูสับสนขึ้นมา
จะบ้าเหรอ.
นี่ยังคงเป็นลูกพี่จ้าว ลูกพี่ที่น่าเคารพของพวกเขาอยู่หรือเปล่า?
เพื่อความอยู่รอด เขาสามารถตกลงเรื่องแบบนั้นได้ด้วยเหรอ
ฉู่เสวียนหัวเราะออกมาอย่างโง่เขลา
ชายรักชายอย่างนั้นหรือ?
ข้าไม่ได้คิดเช่นนี้เสียหน่อย
ฉู่เสวียนพูดออกมาอย่างใจเย็น "เสี่ยวหู่มัดเขาแล้วเอาขึ้นไปบนดาดฟ้า"
“เสี่ยวเป้า เจ้าอยู่ที่นี่กับสุนัขสองตัวนี้ และห้ามให้ใครออกไป”
"โห่!"
สมาชิกทั่วไปของแก๊งหลิงฉวนมองหน้ากัน จ้าวหงคุกเข่าลงและยอมจำนนแล้ว ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วคงจะไม่มีใครกล้าขัดขืนอีก
สำหรับพวกเขาแล้ว จึงจำเป็นจะต้องมองชายคนนี้เป็นเจ้านายคนใหม่ที่ดีที่สุด
ธงของราชาได้เปลี่ยนไปแล้ว และอีกไม่นานก็จะต้องมีคนมาโค่นมันลงอีก
ไม่มีทางที่ชายหนุ่มคนนี้จะเป็นหัวหน้าที่เก่งที่สุดหรอกใช่ไหม?
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ผู้คนก็ค่อยๆ สงบลงและกลับไปที่ห้องของตนเพื่อทำทุกอย่างที่ควรจะทำ
ที่ดาดฟ้าของโรงแรมหรู เสี่ยวหู่ขยับเก้าอี้เอนกายที่สะอาดมาให้ ฉู่เสวียนก็นอนบนนั้นอย่างสบาย ๆ
จ้าวหงคุกเข่าต่อหน้าฉู่เสวียนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า "ลูกพี่ คุณต้องการให้ผมทำอะไร ผมทำได้หมด"
ในตอนนั้นแววตาของฉู่เสวียนก็เปล่งประกายด้วยแสงสีม่วง และก็ใช้เทคนิคหุ่นเชิด สะกดจิตของจ้าวหงอีกครั้ง “ข้าถามไป เจ้าก็ตอบมา”
จ้าวหงพยายามดิ้นรนเล็กน้อยในตอนแรก แต่ภายในครึ่งนาที เขาก็กลายเป็นหุ่นเชิดบนเชือก
ไม่ว่าฉู่เสวียนจะถามอะไร เขาก็จะพูดความจริงออกมาทั้งหมด หลังจากนั้นไม่นาน พลังของดวงตาจับวิญญาณก็เสื่อมไป
ฉู่เสวียนได้รับข้อมูลที่เขาต้องการจากจ้าวหงหมดแล้ว
"พลังจิต...เหนือธรรมชาติ...ความสามารถพิเศษ?"
"น่าสนใจดี "
ดาวเคราะห์ดวงนี้มีชื่อว่าดาวเคราะห์ไห่หลันชิง และประเทศที่เขาเดินทางข้ามมิติมาปกครองด้วยราชวงศ์หยานฮัน ซึ่งเป็นการปกครองแบบราชวงศ์เป็นศูนย์รวม สถานที่แห่งนี้คือเมืองตงหูภายใต้เขตอำนาจของมณฑลหลินเจียงแห่งราชวงศ์หยานฮั่น
ในเมืองแห่งนี้มีสองกองกำลังหลัก ได้แก่ แก๊งหลิงฉวนและ บริษัทรักษาความปลอดภัยเฮยเฟิง
จ้าวหงได้รับข้อมูลนี้จากบริษัทรักษาความปลอดภัยเฮยเฟิง
สาเหตุที่ทำให้ซอมบี้ระบาดนั้นไม่ใช่ไวรัส แต่เป็นพลังจิต
แค่คนธรรมดาหากไม่สามารถเชื่อมต่อกับพลังภายในของตนเองได้ ยีนก็จะพังทลาย ร่างกายก็จะกลายพันธุ์ และในที่สุดก็จะกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่กระหายเลือด ซึ่งก็คือซอมบี้
บางคนสามารถต้านทานมันได้ แต่กลับล้มเหลวในการปลุกความสามารถ และแข็งแกร่งขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงได้กลายเป็นคนธรรมดาทั่วไป
บางคนไม่เพียงแต่ต้านทานมันได้ แต่ยังปลุกความสามารถพิเศษและกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งเหนือมนุษย์ด้วยกันอีกด้วย
จ้าวหงเป็นพ่อค้าเนื้อสุนัขมาก่อนที่จะเกิดการระบาดของซอมบี้ เขาเดินไปรอบๆ เมืองตงหูตลอดทั้งวันเพื่อขโมยสุนัขที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ จากนั้นก็ฆ่าพวกมันและเอาเนื้อมาขาย
บางทีด้วยเหตุนี้ พรสวรรค์พิเศษที่เขาปลุกขึ้นมาได้ก็คือ "การควบคุมสุนัข" สามารถปราบปรามสุนัขวิญญาณได้โดยตรงและสื่อสารกับพวกมันได้
สิ่งมีชีวิตพิเศษแบ่งออกเป็นระดับหนึ่งถึงเก้า
ถ้ามีแก่นพลังจิตอยู่ในร่างกายหนึ่งลูก เรียกว่า ผู้อยู่เหนือธรรมชาติขั้นที่หนึ่ง
หากมีสองก็ถือเป็นผู้อยู่เหนือธรรมชาติขั้นที่สองและต่อๆ ไป
จ้าวหงเป็นผู้อยู่เหนือธรรมชาติขั้นที่หนึ่ง
“ลูกพี่...ทำไมฉันถึงรู้สึกแปลกๆแบบนี้ ?” จ้าวหงรู้สึกเวียนหัวอยู่พักหนึ่ง เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ฉู่เสวียนไม่ได้พูดอะไรมาก แต่หันกลับมาและเริ่มเตรียมของเหลวในการกลั่นศพอีกครั้ง
จ้าวหงเป็นผู้อยู่เหนือธรรมชาติขั้นที่หนึ่ง ที่มีสมรรถภาพทางกายแข็งแกร่งอย่างยิ่ง โดยธรรมชาติแล้ว หากได้วัตถุดิบที่ดีเช่นนี้ จะต้องใช้ของเหลวในการกลั่นศพที่ดีที่สุด ไม่เช่นนั้นจะเป็นการสิ้นเปลืองความสามารถทางกายภาพของร่างนี้ไป
คราวนี้ ฉู่เสวียนใช้เวลาเตรียมของนานขึ้นถึงสองชั่วโมงเต็ม
“เอาล่ะ ใส่เขาลงไปในนี้ได้แล้ว” ฉู่เสวียนโบกมือ
เสี่ยวหู่ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเชื่อฟังทันที
จ้าวหงมองของเหลวสีเข้มในอ่างอาบน้ำด้วยท่าทางหวาดกลัว "ลูกพี่ คุณไม่ได้บอกว่าจะไว้ชีวิตฉันเหรอ? แล้วตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่!"
ฉู่เสวียนยิ้ม "เจ้าลงไปแช่ในน้ำอมฤทธิ์นี้ แล้วเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นมาทันที”
จ้าวหงกลืนน้ำลาย เขารู้สึกเหมือนกับว่าฉู่เสวียนกำลังหลอกเขาอยู่เสมอ
ป๋อม
จ้าวหงถูกเสี่ยวหู่กดหัวและยัดลงไปในอ่างอาบน้ำ เขาพยายามดิ้นรนที่จะยื่นศีรษะขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งอันมหาศาลของเสี่ยวหู่ได้ หลังจากกลืนน้ำลายเข้าไปไม่กี่ครั้ง จ้าวหงก็เงียบไป
เห็นได้ชัดว่าเขาได้ตายไปแล้ว ฉู่เสวียนจิบชานมสำเร็จรูปอย่างสบายใจแล้วพยักหน้าเล็กน้อย
เมื่อพิจารณาถึงสภาพร่างกายของจ้าวหง เขาได้เพิ่มหญ้าส่งวิญญาณลงไปในของเหลวกลั่นศพเป็นพิเศษ เพราะมันจะช่วยสะกดจิต เหมาะมากสำหรับจ้าวหง
ฉู่เสวียนหยิบชานมขึ้นมา แล้วเดินมาที่ขอบดาดฟ้า เมื่อยืนอยู่ที่นี่ ก็ทำให้เขามองเห็นสถานการณ์ในเมืองได้อย่างชัดเจน
เขาสามารถเห็นสมาชิกของแก๊งหลิงฉวนที่มายืนรวมตัวกันด้วยความเบื่อหน่าย
บางคนก็เล่นเกม บางคนก็กำลังพิมแชท
ยังมีคนที่ไม่มีอะไรทำ และยืนทะเลาะกันอีกด้วย
“มนุษย์นั้นจิตใจซับซ้อนยากแท้หยั่งถึง”
“เชื่อว่าจะต้องมีคนที่มีเจตนาไม่ดีต่อข้าเกิดขึ้นอยู่เสมอ”
“แก๊งหลิงฉวนนี้ทำสิ่งที่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติ ความดีมีไม่มากนัก การฆ่าพวกเขาก็คงไม่ทำให้บุญของข้าลดลงหรอก”
“ในกรณีนี้ควรเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นศพหยินให้หมด”
“เพราะมีแต่คนตายเท่านั้นที่เชื่อฟังมากกว่าคนเป็น”
ฉู่เสวียนจิบชานมแล้วคิด “เสี่ยวหู่ ข้าให้สิทธิ์เจ้าตัดสินใจเอง เก็บคนที่แข็งแกร่งไว้เพื่อเอามากลั่นเป็นศพหยิน ส่วนคนที่อ่อนแอก็เอาไปกินเป็นอาหารของเจ้าซะ”
เสี่ยวหู่ได้ยินเช่นนี้ก็คำรามออกมาด้วยความตื่นเต้น
ฉู่เสวียนขมวดคิ้ว "เฮ้ ทิ้งไว้ให้เสี่ยวเป้าและเส้นลวดโลหิตด้วยล่ะ อย่ากินหมดคนเดียว"
เสี่ยวหู่พยักหน้าด้วยความเสียใจ แล้วรีบลงไปทันที