ตอนที่แล้วตอนที่ 14 จ้าวหงอยู่ที่ไหน ข้าไม่อยากพูดอีกเป็นครั้งที่สอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16 มองหาสถานที่สำหรับสร้างค่ายก  แกนวิญญาณระดับ 3

ตอนที่ 15 เมื่อเทียบกับคนเป็น คนตายจะเชื่อฟังมากกว่า


ตอนที่ 15 เมื่อเทียบกับคนเป็น คนตายจะเชื่อฟังมากกว่า

มันเกิดขึ้นกะทันหัน ประกอบกับความเร็วอันน่าเหลือเชื่อของอาวุธ แม้แต่เสี่ยวหู่ก็ไม่สามารถตอบสนองได้

แม้ว่ามันจะต้องจะเข้าไปพิทักษ์เจ้านายของมัน แต่ก็ยังช้าเกินไป

ฉู่เสวียนเองก็เห็นก้อนเหล็กสีเข้มและดอกไม้ไฟที่พุ่งออกมาจากรู แต่เขาก็ไม่ได้แสดงความหวาดกลัวออกมาแม้แต่น้อย

ฟรืบ!...

มีเส้นเลือดโลหิตพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา ปรากฏตัวออกมาราวกับสายฟ้าสีเลือด

เต้ง!

เมื่อกระสุนพุ่งไปโดนเส้นลวดโลหิตเข้า  มันก็เหมือนกับกระแทกเข้ากับแผ่นเหล็กอย่างจัง

ทันใดนั้นมันก็เบี่ยงออกจากทิศทางและยิงไปที่ฝูงชน เพียงไม่นาน ก็ได้ยินเสียงของชายคนหนึ่ง กระสุนเจาะเข้าไปในเบ้าตาของเขาอย่างแม่นยำและทะลุสมองของเขา

ดวงตาของจ้าวหงเบิกกว้าง มันคือเส้นอะไรกัน? ถึงสามารถกันกระสุนได้เช่นนี้?

เขาคำรามออกมาด้วยความไม่พอใจและยิงออกไปอีกครั้ง

ปังปังปัง!

คราวนี้ได้ยิงออกไปสามนัด!

เต้ง เต้ง เต้ง!

กระสุนทุกนัดถูกเส้นลวดโลหิตกั้นไว้อย่างง่ายดาย

กระสุนทั้งสามนัดถูกเบี่ยงเบนออกไปและไม่ได้ทำอันตรายฉู่เสวียนแม้แต่น้อย แต่กลับยิงชายหนุ่มอีกสามคนที่เป็นสมาชิกในแก๊งของเขาจนตายไป

จ้าวหงรู้สึกตกใจ เขามีกระสุนเพียงสี่นัด และทั้งสี่นัดก็ถูกกันไว้จนหมด ตอนนี้เขามองเห็นได้ชัดเจนแล้วว่าเส้นสีแดงนี้มันคือแมลงเลือดตัวใหญ่ชัดๆ!

ชายหนุ่มคนนี้ไม่เพียงแต่ควบคุมซอมบี้ได้เท่านั้น แต่ยังควบคุมแมลงได้อีกด้วย!

ทำไมถึงเป็นเช่นนี้!

ฉู่เสวียนยื่นมือออกมาแตะเส้นลวดโลหิตเบา ๆ และเขาพูดอย่างใจเย็น "ปืนนี้เป็นทางเลือกสุดท้ายของเจ้าแล้วหรือ?"

ขาของจ้าวหงเป็นอัมพาตไปทันที เขานั่งลงบนพื้นด้วยความอ่อนแรง ไม่มีความคิดที่จะต่อต้านอีกต่อไป

"หมาป่าวิญญาณเป็นของแกแล้ว...ไว้ชีวิตฉันเถอะ"  จ้าวหงกลืนน้ำลายลงและพูดอย่างจริงใจ

หลังจากพูดแบบนี้ เขาก็คุกเข่าลงจริง ๆ โดยไม่มีความเย่อหยิ่งของหัวหน้าแก๊งหลิงฉวนแม้แต่น้อย

เขาได้เห็นแล้วว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขาเป็นสัตว์ประหลาด  เขาไม่สามารถเทียบกับชายคนนี้ได้

ความมั่งคั่งและชีวิตของเขาอยู่ในมือของอีกฝ่ายแล้ว ตอนนี้ที่ต้องแสดงออกมาคือความจริงใจ  ถึงจะมีโอกาสรอด

แต่ฉู่เสวียนกลับส่ายหัว “ข้าพอใจกับร่างกายของเจ้ามากกว่าหมาป่าวิญญาณนี้เสียอีก เช่นนั้นข้าขอทั้งเจ้าและหมาป่าวิญญาณนี้เลยล่ะกัน”

จ้าวหงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และทันใดนั้นก็เข้าใจบางอย่าง สีหน้าของเขาดูตกใจเป็นอย่างมาก  “นี่...ฉัน...ฉันเป็นผู้ชายนะ”

เขาพูดอย่างเขินอายเล็กน้อย “แต่ถ้าแกต้องการตัวฉันขนาดนั้น ฉันก็ทำให้ได้...”

คนที่อยู่รอบๆตัวเขาดูสับสนขึ้นมา

จะบ้าเหรอ.

นี่ยังคงเป็นลูกพี่จ้าว ลูกพี่ที่น่าเคารพของพวกเขาอยู่หรือเปล่า?

เพื่อความอยู่รอด เขาสามารถตกลงเรื่องแบบนั้นได้ด้วยเหรอ

ฉู่เสวียนหัวเราะออกมาอย่างโง่เขลา

ชายรักชายอย่างนั้นหรือ?

ข้าไม่ได้คิดเช่นนี้เสียหน่อย

ฉู่เสวียนพูดออกมาอย่างใจเย็น "เสี่ยวหู่มัดเขาแล้วเอาขึ้นไปบนดาดฟ้า"

“เสี่ยวเป้า เจ้าอยู่ที่นี่กับสุนัขสองตัวนี้ และห้ามให้ใครออกไป”

"โห่!"

สมาชิกทั่วไปของแก๊งหลิงฉวนมองหน้ากัน  จ้าวหงคุกเข่าลงและยอมจำนนแล้ว ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วคงจะไม่มีใครกล้าขัดขืนอีก

สำหรับพวกเขาแล้ว จึงจำเป็นจะต้องมองชายคนนี้เป็นเจ้านายคนใหม่ที่ดีที่สุด

ธงของราชาได้เปลี่ยนไปแล้ว และอีกไม่นานก็จะต้องมีคนมาโค่นมันลงอีก

ไม่มีทางที่ชายหนุ่มคนนี้จะเป็นหัวหน้าที่เก่งที่สุดหรอกใช่ไหม?

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ผู้คนก็ค่อยๆ สงบลงและกลับไปที่ห้องของตนเพื่อทำทุกอย่างที่ควรจะทำ

ที่ดาดฟ้าของโรงแรมหรู   เสี่ยวหู่ขยับเก้าอี้เอนกายที่สะอาดมาให้ ฉู่เสวียนก็นอนบนนั้นอย่างสบาย ๆ

จ้าวหงคุกเข่าต่อหน้าฉู่เสวียนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า "ลูกพี่ คุณต้องการให้ผมทำอะไร ผมทำได้หมด"

ในตอนนั้นแววตาของฉู่เสวียนก็เปล่งประกายด้วยแสงสีม่วง  และก็ใช้เทคนิคหุ่นเชิด สะกดจิตของจ้าวหงอีกครั้ง “ข้าถามไป เจ้าก็ตอบมา”

จ้าวหงพยายามดิ้นรนเล็กน้อยในตอนแรก แต่ภายในครึ่งนาที เขาก็กลายเป็นหุ่นเชิดบนเชือก

ไม่ว่าฉู่เสวียนจะถามอะไร เขาก็จะพูดความจริงออกมาทั้งหมด หลังจากนั้นไม่นาน พลังของดวงตาจับวิญญาณก็เสื่อมไป

ฉู่เสวียนได้รับข้อมูลที่เขาต้องการจากจ้าวหงหมดแล้ว

"พลังจิต...เหนือธรรมชาติ...ความสามารถพิเศษ?"

"น่าสนใจดี "

ดาวเคราะห์ดวงนี้มีชื่อว่าดาวเคราะห์ไห่หลันชิง และประเทศที่เขาเดินทางข้ามมิติมาปกครองด้วยราชวงศ์หยานฮัน ซึ่งเป็นการปกครองแบบราชวงศ์เป็นศูนย์รวม  สถานที่แห่งนี้คือเมืองตงหูภายใต้เขตอำนาจของมณฑลหลินเจียงแห่งราชวงศ์หยานฮั่น

ในเมืองแห่งนี้มีสองกองกำลังหลัก ได้แก่ แก๊งหลิงฉวนและ บริษัทรักษาความปลอดภัยเฮยเฟิง

จ้าวหงได้รับข้อมูลนี้จากบริษัทรักษาความปลอดภัยเฮยเฟิง

สาเหตุที่ทำให้ซอมบี้ระบาดนั้นไม่ใช่ไวรัส แต่เป็นพลังจิต

แค่คนธรรมดาหากไม่สามารถเชื่อมต่อกับพลังภายในของตนเองได้  ยีนก็จะพังทลาย ร่างกายก็จะกลายพันธุ์ และในที่สุดก็จะกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่กระหายเลือด ซึ่งก็คือซอมบี้

บางคนสามารถต้านทานมันได้  แต่กลับล้มเหลวในการปลุกความสามารถ และแข็งแกร่งขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงได้กลายเป็นคนธรรมดาทั่วไป

บางคนไม่เพียงแต่ต้านทานมันได้ แต่ยังปลุกความสามารถพิเศษและกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งเหนือมนุษย์ด้วยกันอีกด้วย

จ้าวหงเป็นพ่อค้าเนื้อสุนัขมาก่อนที่จะเกิดการระบาดของซอมบี้ เขาเดินไปรอบๆ เมืองตงหูตลอดทั้งวันเพื่อขโมยสุนัขที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ จากนั้นก็ฆ่าพวกมันและเอาเนื้อมาขาย

บางทีด้วยเหตุนี้ พรสวรรค์พิเศษที่เขาปลุกขึ้นมาได้ก็คือ "การควบคุมสุนัข" สามารถปราบปรามสุนัขวิญญาณได้โดยตรงและสื่อสารกับพวกมันได้

สิ่งมีชีวิตพิเศษแบ่งออกเป็นระดับหนึ่งถึงเก้า

ถ้ามีแก่นพลังจิตอยู่ในร่างกายหนึ่งลูก เรียกว่า ผู้อยู่เหนือธรรมชาติขั้นที่หนึ่ง

หากมีสองก็ถือเป็นผู้อยู่เหนือธรรมชาติขั้นที่สองและต่อๆ ไป

จ้าวหงเป็นผู้อยู่เหนือธรรมชาติขั้นที่หนึ่ง

“ลูกพี่...ทำไมฉันถึงรู้สึกแปลกๆแบบนี้ ?” จ้าวหงรู้สึกเวียนหัวอยู่พักหนึ่ง เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

ฉู่เสวียนไม่ได้พูดอะไรมาก แต่หันกลับมาและเริ่มเตรียมของเหลวในการกลั่นศพอีกครั้ง

จ้าวหงเป็นผู้อยู่เหนือธรรมชาติขั้นที่หนึ่ง ที่มีสมรรถภาพทางกายแข็งแกร่งอย่างยิ่ง โดยธรรมชาติแล้ว หากได้วัตถุดิบที่ดีเช่นนี้ จะต้องใช้ของเหลวในการกลั่นศพที่ดีที่สุด ไม่เช่นนั้นจะเป็นการสิ้นเปลืองความสามารถทางกายภาพของร่างนี้ไป

คราวนี้ ฉู่เสวียนใช้เวลาเตรียมของนานขึ้นถึงสองชั่วโมงเต็ม

“เอาล่ะ ใส่เขาลงไปในนี้ได้แล้ว” ฉู่เสวียนโบกมือ

เสี่ยวหู่ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเชื่อฟังทันที

จ้าวหงมองของเหลวสีเข้มในอ่างอาบน้ำด้วยท่าทางหวาดกลัว "ลูกพี่ คุณไม่ได้บอกว่าจะไว้ชีวิตฉันเหรอ? แล้วตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่!"

ฉู่เสวียนยิ้ม "เจ้าลงไปแช่ในน้ำอมฤทธิ์นี้  แล้วเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นมาทันที”

จ้าวหงกลืนน้ำลาย เขารู้สึกเหมือนกับว่าฉู่เสวียนกำลังหลอกเขาอยู่เสมอ

ป๋อม

จ้าวหงถูกเสี่ยวหู่กดหัวและยัดลงไปในอ่างอาบน้ำ เขาพยายามดิ้นรนที่จะยื่นศีรษะขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งอันมหาศาลของเสี่ยวหู่ได้ หลังจากกลืนน้ำลายเข้าไปไม่กี่ครั้ง จ้าวหงก็เงียบไป

เห็นได้ชัดว่าเขาได้ตายไปแล้ว ฉู่เสวียนจิบชานมสำเร็จรูปอย่างสบายใจแล้วพยักหน้าเล็กน้อย

เมื่อพิจารณาถึงสภาพร่างกายของจ้าวหง  เขาได้เพิ่มหญ้าส่งวิญญาณลงไปในของเหลวกลั่นศพเป็นพิเศษ เพราะมันจะช่วยสะกดจิต เหมาะมากสำหรับจ้าวหง

ฉู่เสวียนหยิบชานมขึ้นมา แล้วเดินมาที่ขอบดาดฟ้า  เมื่อยืนอยู่ที่นี่ ก็ทำให้เขามองเห็นสถานการณ์ในเมืองได้อย่างชัดเจน

เขาสามารถเห็นสมาชิกของแก๊งหลิงฉวนที่มายืนรวมตัวกันด้วยความเบื่อหน่าย

บางคนก็เล่นเกม บางคนก็กำลังพิมแชท

ยังมีคนที่ไม่มีอะไรทำ และยืนทะเลาะกันอีกด้วย

“มนุษย์นั้นจิตใจซับซ้อนยากแท้หยั่งถึง”

“เชื่อว่าจะต้องมีคนที่มีเจตนาไม่ดีต่อข้าเกิดขึ้นอยู่เสมอ”

“แก๊งหลิงฉวนนี้ทำสิ่งที่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติ ความดีมีไม่มากนัก การฆ่าพวกเขาก็คงไม่ทำให้บุญของข้าลดลงหรอก”

“ในกรณีนี้ควรเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นศพหยินให้หมด”

“เพราะมีแต่คนตายเท่านั้นที่เชื่อฟังมากกว่าคนเป็น”

ฉู่เสวียนจิบชานมแล้วคิด “เสี่ยวหู่ ข้าให้สิทธิ์เจ้าตัดสินใจเอง เก็บคนที่แข็งแกร่งไว้เพื่อเอามากลั่นเป็นศพหยิน ส่วนคนที่อ่อนแอก็เอาไปกินเป็นอาหารของเจ้าซะ”

เสี่ยวหู่ได้ยินเช่นนี้ก็คำรามออกมาด้วยความตื่นเต้น

ฉู่เสวียนขมวดคิ้ว "เฮ้ ทิ้งไว้ให้เสี่ยวเป้าและเส้นลวดโลหิตด้วยล่ะ  อย่ากินหมดคนเดียว"

เสี่ยวหู่พยักหน้าด้วยความเสียใจ แล้วรีบลงไปทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด