ตอนที่แล้วตอนที่ 1349 ชายชราผู้ไร้เทียมทาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1351 ผู้รักษาสมดุล

ตอนที่ 1350 ของเก่าในโลงศพ (ฟรี)


ตอนที่ 1350 ของเก่าในโลงศพ

อิ๋งโกวดิ้นรนขัดขืน แต่ความกลัวทำให้พลังของมันหายไป ร่างกายของมันขดตัวเป็นก้อน เขี้ยวของมันหดกลับเข้าไป โซ่ตรวนกระทบกับผนังหุบเหว ประกายไฟพุ่งกระจาย

อิ๋งโกวเป็นหนึ่งในสิบราชาผีดิบ ร่างกายของมันเป็นอมตะ แม้แต่ฉินเหรินเยว่ ปรมาจารย์ผู้ทรงเกียรติ ก็ยังไม่กล้าเข้าไปใกล้มันแบบเดียวกับที่ลู่โจวทำ

ฉินเหรินเยว่ยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะริมฝีปาก เขาส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ เสียงดังและการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันสามารถทำลายการป้องกันทางจิตใจของคนเราได้อย่างง่ายดาย มันจะทำให้คนเราควบคุมตัวเองไม่ได้ ความเงียบคือสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดในการจัดระเบียบความคิด

“พวกเราได้หยกเสือขาวมังกรขดมาแล้ว พี่ลู่” ฉินเหรินเยว่กล่าว เขากำลังพยายามโน้มน้าวให้ลู่โจวจากไป

แต่ฉินเหรินเยว่ไม่คิดเลยว่าลู่โจวจะไม่เพียงแต่ไม่ยอมจากไปเท่านั้น แต่เขายังทำในสิ่งที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม

ลู่โจวเข้าไปใกล้อิ๋งโกว เขามาหยุดอยู่ห่างจากอิ๋งโกวประมาณสามเมตร

อิ๋งโกวเริ่มดึงโซ่ตรวน มันส่งเสียงดัง อิ๋งโกวสั่นเทา มันกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ

ลู่โจวถอนพลังศักดิ์สิทธิ์กลับไปบางส่วน แสงสว่างบนร่างกายของเขาเริ่มมืดมัวลง

และก็เป็นอย่างที่คิด อิ๋งโกวค่อยๆ สงบสติอารมณ์ลง

‘พลังศักดิ์สิทธิ์งั้นเหรอ? ’

พลังศักดิ์สิทธิ์มาจากคัมภีร์เทวาโลก และคัมภีร์เทวาโลกมาจากระบบ ดังนั้นมันจึงเป็นพลังจากต่างโลก แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้มันจะเป็นพลังจากต่างโลก แต่มันก็ไม่น่าจะทำให้อิ๋งโกวกลัวได้ขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นถัวป๋าซื่อเฉิง เทียนหวู่ และท่านเจิ้นหนาน น่าจะมีประสาทสัมผัสที่ไวกว่าอิ๋งโกว ทำไมพวกเขาถึงไม่ได้รู้สึกอะไรเลย?

“เจ้ารู้จักข้างั้นเหรอ?” ลู่โจวถาม

อิ๋งโกวไม่กล้าพูด มันไม่กล้าแม้แต่จะมองลู่โจว

“ใครเป็นคนล่ามโซ่เจ้าเอาไว้?” ลู่โจวถาม

อิ๋งโกวอ้าปากและหุบปาก มันพูดไม่ออก หลังจากนั้นไม่นานมันก็พูดออกมา “เซี...เซียน...”

ด้วยพลังฝึกฝนของลู่โจวและฉินเหรินเยว่ในตอนนี้ พวกเขาไม่สามารถวัดความแข็งแกร่งของเซียนได้

“เซียนงั้นเหรอ?” ฉินเหรินเยว่พูดอย่างจริงจัง

ข่าวลือที่แพร่สะพัดออกไปบอกว่าจักรพรรดิเป็นคนขังอิ๋งโกวเอาไว้ที่นี่เพื่อปกป้องสุสาน แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง

“เจ้าอยากเป็นอิสระรึเปล่า?” ลู่โจวมองดูอิ๋งโกว

เมื่อได้ยินคำถามนี้ สี่ผู้อาวุโสแห่งเขาหลี่ก็ส่ายหัวอย่างรุนแรง ส่วนฉินเหรินเยว่และนักดาบทั้ง 49 คนต่างก็ตกใจ

“พี่ลู่! ท่านทำแบบนั้นไม่ได้! หากท่านปล่อยมันไป มันจะต้องสร้างความวุ่นวายให้กับโลกใบนี้แน่!” ฉินเหรินเยว่รีบห้าม

อิ๋งโกวส่ายหัว ทุกคนต่างก็งุนงง

ลู่โจวบินกลับขึ้นไปบนสะพานไม้ ทุกคนโล่งอก

โซ่ตรวนทั้งสี่หยุดส่งเสียงดัง

ในที่สุดทุกคนก็หันไปมองประตูหิน ถึงเวลาแล้วที่จะต้องดูว่าเบื้องหลังประตูบานนั้นมีอะไร?

“หยกชิ้นนี้เทียบเท่ากับของวิเศษ มันไม่ธรรมดา” ฉินเหรินเยว่มองดูหยกเสือขาวมังกรขดในมือ

“มีเขตแดนพลังพิเศษสลักอยู่บนประตูหิน ตั้งแต่จักรพรรดิถูกฝัง ผู้พิทักษ์อย่างเจียนเจินก็ได้แต่เดินวนอยู่ข้างนอกสุสานเท่านั้น” จี๋สือกล่าว

ฉินเหรินเยว่บินไปยังประตูหิน นักดาบทั้ง 49 คนและคนของศาลาปีศาจลอยฟ้าติดตามเขาไป

เสียงโซ่ตรวนดังขึ้น

พวกเขามองลงไปยังหุบเหว อิ๋งโกวหลับตาลง มือของมันวางอยู่บนร่างกาย มันดูเหมือนกับกำลังหลับสนิท

“อย่ามองมาเลย เจ้านี่น่ากลัวจริงๆ” หยวนเอ๋อกล่าว

จี๋สือก่อนจะมองดูลู่โจว เมื่อนึกถึงการต่อสู้ระหว่างลู่โจวกับเมิ่งหมิงซื่อ เขาก็รู้สึกว่าอิ๋งโกวไม่ได้น่ากลัวอะไร สิ่งที่น่ากลัวคือคนที่ยืนอยู่ข้างๆ พวกเขามากกว่า

“เปิดประตูหิน” ลู่โจวมองดูประตูหิน

“ตกลง” ฉินเหรินเยว่โยนหยกเสือขาวมังกรขดออกไป

ตุบ!

หยกเสือขาวมังกรขดกลายเป็นลำแสงพุ่งเข้าหาประตูหิน

เสือขาวและมังกรที่สลักอยู่บนประตูเปล่งประกาย ประตูหินแยกออกจากกัน

เปรี๊ยะ!

ห้องหินที่มืดมิดและกว้างขวางปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา แสงสว่างจากผนึกพลังงานไม่อาจส่องสว่างไปทั่วห้องได้

ลู่โจวดีดนิ้ว ลูกแก้วแสงสว่างส่องสว่างไปทั่วห้อง

ห้องหินที่มืดมิดเต็มไปด้วยรูปปั้นมนุษย์

“นักรบเซ่นไหว้...”

สี่ผู้อาวุโสแห่งเขาหลี่แสดงสีหน้าที่จริงจังออกมา

“นักรบเซ่นไหว้งั้นเหรอ?”

“ความจริงแล้วแม้ในวาระสุดท้ายของชีวิต จักรพรรดิก็ยังคงไม่อยากจะสละบัลลังก์ เขาอยากจะครอบครองโลกใบนี้ต่อไป เพื่อที่จะเอาใจเขาและทำตามความปรารถนาสุดท้ายของเขา ราชวงศ์จึงได้เลือกคนเป็นๆ กว่า 10,000 คน มาสร้างเป็นนักรบดินเผา พวกเขาจะติดตามจักรพรรดิไปแม้จะเป็นหลังความตายก็ตาม”

“…”

พวกเขาไม่เข้าใจความคิดแบบนี้ แต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้แปลกอะไร เพราะยังไงซะเมื่อผู้ฝึกยุทธฝึกฝนตัวเองไปถึงระดับหนึ่ง พวกเขาก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป การฝังคนเป็นๆ ไว้ในสุสานของจักรพรรดิจึงไม่ใช่เรื่องแปลก

“ตอนนั้นเขากำลังจะตาย แล้วยังจะดื้อรั้นอีก” หยานเจินหลู่ถอนหายใจ

สี่ผู้อาวุโสแห่งเขาหลี่เงียบ

“ทำไมพวกเจ้าถึงได้จงรักภักดีต่อเขา?” ลู่หลี่หันไปมองสี่ผู้อาวุโสแห่งเขาหลี่

“จักรพรรดิเคยช่วยเหลือพวกเราไว้” ชุยหมิงกวงตอบ

เมื่อได้ยินแบบนั้น พวกเขาก็เข้าใจได้ทันที ทำไมสี่ผู้อาวุโสแห่งเขาหลี่ถึงได้ถูกเมิ่งหมิงซื่อหลอกลวงได้

พวกเขามองดูสุสาน

“นักรบเซ่นไหว้พวกนี้จะฟื้นคืนชีพขึ้นมารึเปล่า?” หยวนเอ๋อถาม นางถอยหลังไปหนึ่งก้าว

“ใครจะรู้ได้? ที่นี่มีปีศาจอยู่ ไม่แปลกที่พวกมันจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ ระวังตัวเอาไว้จะดีกว่า” ฉินเหรินเยว่กล่าว

ลู่โจวบินไปข้างหน้า เขาใช้พลังแห่งการมอง พลังแห่งการได้ยิน และพลังแห่งการรับกลิ่นอายสำรวจพื้นที่ จากนั้นเขาก็หยิบกระจกทองคำไท่ชูออกมา เขาถ่ายโอนพลังศักดิ์สิทธิ์ไปยังมันก่อนจะส่องมันเข้าไปในสุสาน มันเผยให้เห็นเขตแดนพลังและกับดักทั้งหมด

“ไปกันเถอะ” ลู่โจวกล่าว เขายกกระจกทองคำไท่ชูขึ้นก่อนจะบินไปข้างหน้า

ทุกคนรีบติดตามเขาไป

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

พวกเขาบินผ่านหัวของนักรบเซ่นไหว้นับหมื่น

ไม่นานนัก พวกเขาก็มาถึงใจกลางสุสาน แท่นสี่เหลี่ยมที่มีโลงศพสีดำสองโลงตั้งอยู่บนนั้น ลำแสงส่องไปยังแท่นสี่เหลี่ยมนั้น

“สมบัติล้ำค่าของพี่ลู่นั้นยอดเยี่ยมมากจริงๆ หากไม่มีมัน ข้าเกรงว่าพวกเราคงจะไปเหยียบกับดักเข้าแล้ว” ฉินเหรินเยว่กล่าวหลังจากที่ทุกคนร่อนลงสู่พื้นดิน

“สุสานแห่งนี้อยู่ใต้ดิน แต่ดูลำแสงนั่นสิ นั่นหมายความว่าข้างในเขาหลี่นั้นกลวง” ลู่โจวไม่สนใจคำเยินยอของฉินเหรินเยว่ เขาชี้นิ้วขึ้นไปข้างบน

“จริงด้วย ราชวงศ์ลงทุนกับสุสานนี้มากจริงๆ”

“ข้างบนนั้นน่าจะมีกับดักอยู่ การออกไปจากที่นั่นคงไม่ใช่เรื่องง่าย” ลู่โจวกล่าว

ทุกคนพยักหน้า

“ทำไมถึงมีโลงศพสองโลง?” ยู่เฉิงไห่เดินไปยังโลงศพทั้งสอง ก่อนจะมองไปรอบๆ

“พวกเราก็ไม่รู้เรื่องนั้น เพราะยังไงซะพวกเราก็ไม่เคยเข้ามาข้างใน คนที่เข้ามาจะไม่มีทางออกไปได้” จี๋สือส่ายหัว

“ไม่ว่าจะมีกี่โลง หนึ่งในนั้นต้องเป็นของจักรพรรดิแน่ ส่วนอีกโลงหนึ่งน่าจะเป็นของสนมคนโปรดของจักรพรรดิ” จ้าวหยูกล่าว

“เป็นไปไม่ได้” จี๋สือส่ายหัว “นี่มันไม่ถูกต้องตามธรรมเนียม สนมไม่มีสิทธิ์ที่จะถูกฝังไว้ข้างๆ จักรพรรดิ มีเพียงแค่จักรพรรดินีเท่านั้นที่ได้รับสิทธิ์นั้น หลังจากที่สนมเสียชีวิต พวกนางจะถูกฝังไว้รวมกันในห้องด้านนอก”

“ใครสนใจกัน? พอเปิดมันออกเดี๋ยวพวกเราก็ได้รู้เองนั่นแหละ” หมิงซี่หยินกล่าว

ทุกคนพยักหน้า

“เปิดมันออก” ลู่โจวชี้นิ้วไปยังโลงศพทางซ้าย

ยู่เฉิงไห่ใช้มือข้างหนึ่งผลักฝาโลงศพ มันเคลื่อนไหวง่ายกว่าที่คิด

ทุกคนมองดู

หยานเจินหลู่จุดไฟเครื่องราง

“ว่างเปล่า?!” ยู่เฉิงไห่ตกใจ

ไม่มีใครคาดคิดเรื่องนี้

สี่ผู้อาวุโสแห่งเขาหลี่ไม่เชื่อ พวกเขารีบเข้าไปดู และก็เป็นอย่างที่คิด ข้างในนั้นว่างเปล่า มีเพียงแค่เครื่องประดับ ของใช้ส่วนตัว และเสื้อผ้า

“เป็นไปไม่ได้!”

สี่ผู้อาวุโสแห่งเขาหลี่ยังคงไม่อยากจะเชื่อ

“ข้าเห็นจักรพรรดิถูกนำเข้ามาในสุสานด้วยตาของข้าเอง...นี่มัน...” ถานจื่อปิงกล่าว

ตามธรรมเนียมแล้ว โลงศพของจักรพรรดิมักจะถูกวางไว้ทางซ้าย เพราะแบบนั้นแล้วโลงศพทางขวาจึงไม่น่าจะเป็นของจักรพรรดิ

ในเมื่อด้านซ้ายว่างเปล่า พวกเขาก็ต้องดูทางด้านขวา

จี๋สือก้าวไปยังโลงศพทางขวา เขาผลักฝาโลงศพออก

ทุกคนมองดู

และก็เป็นไปตามคาด มันว่างเปล่าเช่นกัน

“…”

ทุกคนต่างก็สับสน พวกเขามองหน้ากัน

“ว่างเปล่างั้นเหรอ?”

หลังจากที่พยายามอย่างหนัก สุสานกลับว่างเปล่า นี่มันไม่เสียเวลาเปล่างั้นเหรอ?

“เป็นไปได้รึเปล่าว่าจักรพรรดิยังไม่ตาย?” หยานเจินหลู่กล่าว

สี่ผู้อาวุโสแห่งเขาหลี่เบิกตากว้าง

“ในอดีตก่อนที่จักรพรรดิจะสิ้นพระชนม์ พวกเราทั้งสี่อยู่ข้างๆ พระองค์ ตอนที่พระองค์สิ้นพระชนม์ มีคนมากมายอยู่ที่นั่น การตายของพระองค์ไม่อาจเป็นเรื่องโกหกได้ ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่พระองค์ยังมีชีวิตอยู่ พระองค์ยังตามหาวิธีที่จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป พระองค์ยังตามหาอิ๋งโกว! หากพระองค์ยังมีชีวิตอยู่ ทำไมถึงไม่ปรากฏตัวออกมา?” จี๋สือกล่าว

ถึงแม้ว่าจักรพรรดิจะไม่ได้ขังอิ๋งโกวเอาไว้ที่นี่ แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเคยตามหาอิ๋งโกว

ทุกคนต่างก็งุนงง จริงอยู่ หากจักรพรรดิสามารถมีชีวิตอยู่ตลอดไปได้ เขาคงจะกลับมาที่ต้าฉินเพื่อทวงบัลลังก์

ลู่โจวไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขาก้าวไปข้างหน้าและสำรวจสิ่งของในโลงศพ เขาโบกมือ ของมากมายถูกเปิดเผยออกมา

ผู้ฝึกยุทธไม่ได้สนใจทรัพย์สินทางโลก

ไม่มีใครรู้ว่าลู่โจวกำลังตามหาอะไร พวกเขาจึงได้แต่มองดูอย่างเงียบๆ

“ท่านอาจารย์ พวกเราไม่ได้ขาดแคลนของพวกนี้” หมิงซี่หยินกล่าว

สิ่งของของคนตายนั้นไม่เป็นมงคล ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็ไม่ใช่โจรปล้นสุสาน

จ้าวหยูทำหน้าไม่ถูกเมื่อได้ยินแบบนั้น

ลู่โจวยังคงสำรวจสิ่งของต่างๆ ต่อไป

ฟิ้ว!

“ติ้ง! ทำภารกิจสำเร็จ ความลับของป้ายหยกสีทอง ได้รับรางวัล: แต้มบุญ 10,000 แต้ม”

“ติ้ง! พบกล่องผ้าไหมแห่งสวรรค์”

‘กล่องผ้าไหมแห่งสวรรค์? ’

ลู่โจวเห็นกล่องผ้าไหมสีน้ำตาล แต่มันดูไม่พิเศษอะไร

บางทีอาจจะเป็นเพราะโลงศพนั้นว่างเปล่า ทำให้กล่องผ้าไหมไม่ได้มีฝุ่นเกาะ

ลู่โจวโบกมือ กล่องผ้าไหมบินเข้าไปอยู่ในมือของเขา

“ติ้ง! กล่องผ้าไหมแห่งสวรรค์คือสิ่งประดิษฐ์ มันสามารถถูกเปิดได้เมื่อท่านไปถึงขอบเขตพลังฝึกฝนระดับหนึ่ง”

“???”

“ข้าจำได้แล้ว! นี่คือสิ่งที่ฝ่าบาทได้มาจากเสาหลักแห่งหายนะ!” จี๋สืออุทาน

“เขาเปิดกล่องผ้าไหมไม่ได้งั้นเหรอ?” ลู่โจวถาม

“สิ่งนี้แปลกประหลาดมาก มันไม่อาจถูกเปิดโดยใช้กำลังภายนอกได้ จักรพรรดิเคยลองหลายวิธีแล้ว แต่เขาก็ยังคงเปิดมันไม่ได้ สุดท้ายเขาก็ลืมมันไป” จี๋สือส่ายหัว

“สิ่งของที่พบในเสาหลักแห่งหายนะล้วนเป็นสมบัติล้ำค่า กล่องใบนี้ก็คงจะไม่ต่างกัน” ถานจื่อปิงกล่าว

ปัง!

ลู่โจวโบกมือ

ผนึกพลังงานมากมายโจมตีกล่องผ้าไหม แต่มันกลับไม่ได้รับความเสียหายใดๆ

“เป็นเคล็ดวิชาผนึกที่ทรงพลังมาก” ฉินเหรินเยว่เดินเข้าไปดูใกล้ๆ

“เคล็ดวิชาผนึก?”

“ข้าเคยไปที่เสาหลักแห่งหายนะในเทียนฉี่แห่งผิงตัน ข้าเคยเห็นลวดลายแบบนี้” ฉินเหรินเยว่กล่าว

ลู่โจวนึกถึงภายในเสาหลักแห่งหายนะในหยูจง จริงอยู่ บนกำแพงมีลวดลายแบบนี้อยู่ ถึงแม้ว่าลวดลายบนกล่องผ้าไหมจะไม่ได้เหมือนกับลวดลายในเสาหลักแห่งหายนะ 100% แต่มันก็ยังคงมีรูปแบบเดียวกัน

ลู่โจวไม่ได้พยายามเปิดมันด้วยกำลังอีกต่อไป เขาคิดว่ามันคงจะเปล่าประโยชน์ เพราะยังไงซะระบบก็ได้แจ้งเตือนเขาแล้วว่ามันจะเปิดออกเมื่อเขาไปถึงขอบเขตพลังฝึกฝนระดับหนึ่ง สิ่งที่เขาต้องทำก็คือฝึกฝนตัวเอง

“ท่านอาจารย์” ยู่ฉางตงเรียก เขากำลังชี้นิ้วไปยังโลงศพทางขวา

ทุกคนมองไปทางนั้น

ยู่ฉางตงเรียกผู้เป็นอาจารย์เพราะเขาเห็นบางสิ่งบางอย่างที่คุ้นเคย มันคือคัมภีร์เทวาโลก

“ของๆ ข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” ลู่โจวขมวดคิ้ว

ลู่โจวโบกมือ คัมภีร์เทวาโลกบินเข้ามาหาเขา

คนอื่นๆ ต่างก็งุนงง

‘เป็นของท่านได้ยังไงกัน? ’

ฉินเหรินเยว่อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ลังเล สุดท้ายแล้วเขาก็ได้แต่เก็บคำพูดเอาไว้ วันนี้เขามาที่นี่ไม่ได้หวังผลประโยชน์อะไร เป้าหมายของเขาก็คือการสร้างสัมพันธ์อันดีกับศาลาปีศาจลอยฟ้า ในขณะเดียวกันเขาก็อยากจะสนองความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง

“ติ้ง! ได้รับคัมภีร์เทวาโลกฉบับสมบูรณ์ หมายเหตุ: ไม่แนะนำให้ใช้คัมภีร์นี้ในขณะที่พลังฝึกฝนของท่านยังอยู่ในระดับนี้”

ลู่โจวเห็นแถบใหม่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอระบบ: ภารกิจหลัก

จากนั้น เขาก็ได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับภารกิจ

“ติ้ง! ภารกิจหลัก: ค้นหาดินแดนแห่งความว่างเปล่า หมายเหตุ: แนะนำให้พัฒนาพลังฝึกฝนโดยเร็วที่สุด”

ลู่โจวมองดูหน้าจอคัมภีร์เทวาโลก คอลัมน์ใหม่ปรากฏขึ้น แต่มันมืดมัว เขาไม่สามารถมองเห็นมันได้ เขาเก็บคัมภีร์เทวาโลกกลับไป

“นี่มัน...”

“เจ้าอยากได้มันงั้นเหรอ?” ลู่โจวถาม

“ไม่...ไม่ใช่...” ฉินเหรินเยว่ยิ้ม “สิ่งนี้มีพลังพิเศษซ่อนอยู่ มันไม่ธรรมดา”

จักรพรรดินีแห่งดินแดนหยานเคยนำคัมภีร์เทวาโลกไปวางไว้ใต้หมอน นางได้รับประโยชน์จากมัน

ถึงแม้ลู่โจวจะไม่รู้ว่าทำไมคัมภีร์เทวาโลกถึงได้กระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง แต่เขามั่นใจว่าพลังที่อยู่ในนั้นมีค่ามากพอที่จะทำให้คนฆ่ากันได้

‘ของๆ ฉัน จะเป็นของธรรมดาๆ ได้ยังไง? ’

“ท่านอาจารย์ ที่นี่ไม่มีอะไรแล้ว” ยู่เฉิงไห่กล่าวอย่างช่วยไม่ได้ ตอนแรกเขาคิดว่าจะได้พบกับสมบัติล้ำค่ามากมายที่นี่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะคิดมากไปเอง

“ยินดีด้วย พี่ลู่” ฉินเหรินเยว่กล่าว เขารู้ดีว่าลู่โจวคือคนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากการเดินทางมาที่สุสานแห่งนี้

“ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่มีใครอยู่แล้ว แต่มันก็ยังคงเป็นสุสานของจักรพรรดิ ท่านผู้อาวุโส ได้โปรดปิดฝาโลงศพด้วย” จ้าวหยูมองดูโลงศพทั้งสอง เขาได้แต่ส่ายหัว

ลู่โจวโบกมือ

ยู่เฉิงไห่และยู่ฉางตงโบกมือ พวกเขาปิดฝาโลงศพ

“ขอบพระคุณท่านผู้อาวุโส” จ้าวหยูโค้งคำนับ

สี่ผู้อาวุโสแห่งเขาหลี่ถอนหายใจ

ในขณะที่พวกเขากำลังจะจากไป ลมหนาวก็พัดมาจากด้านบน

ผู้ฝึกยุทธไม่ได้กลัวความหนาวเย็น แต่ลมหนาวที่พัดมานั้นแปลกประหลาดมาก มันดูเหมือนกับว่าจะทะลวงผ่านพลังป้องกันของพวกเขา ทำให้พวกเขารู้สึกหนาวสั่น มันเหมือนกับว่ากำลังถูกไล่

“ไปกันเถอะ” ลู่โจวกล่าว เขาเองก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่นานกว่านี้

ตุบ!

แต่ในตอนนั้นเองสี่ผู้อาวุโสแห่งเขาหลี่คุกเข่าลงพร้อมเพรียงกัน...

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด