กำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 492 ผู้อาวุโสมีวิธีแล้วหรือ
กำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 492 ผู้อาวุโสมีวิธีแล้วหรือ
“ข่าวสารนี้ มีค่ามาก”
หลี่อวิ๋นกล่าวอย่างแผ่วเบา
ลูกปัดเพรียกวิญญาณในความหมายหนึ่ง นับเป็นสมบัติลับของยมโลก
นอกจากยมโลกแล้ว ขุมอำนาจอื่น ๆ ไม่อาจหลอมสร้าง แม้แต่การใช้งานก็ยังทำไม่ได้ มีเพียงคนของยมโลกเท่านั้นที่สามารถใช้งานได้ สมบัติลับชิ้นนี้ กล่าวโดยไม่เกรงใจ
แม้จะมีเพียงหนึ่งคน เบื้องหลังเขาก็เหมือนกับมีทหารกล้านับล้านล้าน
แม้จะใช้ได้เพียงระดับราชันเซียนลงมา แต่ในโลกปัจจุบัน สามารถทำลายขุมอำนาจใด ๆ ก็ได้ ไม่อาจต้านทานได้
“ผู้อาวุโส ไมทราบว่าสิ่งของเหล่านี้ สามารถแลกเปลี่ยนข่าวสารได้มากน้อยเพียงใด”
เจ้าสัจจะยืนยงไม่ลังเล ใช้นิ้วมือหยิบแหวนเก็บของหนึ่งวง วางไว้เบื้องหน้าหลี่อวิ๋น
“โอ้?”
หลี่อวิ๋นรับแหวนเก็บของ จิตสำนึกวิญญาณตรวจสอบอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็วางแหวนเก็บของลง กล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “แม้จะมีสิ่งของมากมาย แต่มูลค่ากลับธรรมดา”
เจ้าสัจจะยืนยง: “…”
นี่เป็นสมบัติลับเกือบครึ่งหนึ่งของเขาแล้ว
ทรัพยากรที่เหลือ เขาคิดจะแลกเปลี่ยนโอกาสในการทะลวงผ่านระดับตบะปัจจุบัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะยากแล้ว
เขานั้นประเมินสมบัติของตนเองสูงเกินไป และประเมินมูลค่าของลูกปัดเพรียกวิญญาณต่ำเกินไป
เพราะว่า…
สิ่งของชิ้นนี้ หากมีเพียงชิ้นเดียว ก็สามารถทำลายล้างโลกได้ แม้แต่เจ้าของลูกปัดเพรียกวิญญาณเป็นเพียงคนธรรมดา หากสามารถใช้งานได้ ก็สามารถปราบปรามปฐมกาลที่บำเพ็ญเพียรมานับล้านล้านปีได้
หากกล่าวว่ามูลค่าไม่อาจประเมินได้ ก็ไม่เกินจริง
“แม้ว่ามูลค่าจะไม่สูงมาก แต่ข่าวสารบางอย่าง ก็มิใช่ว่าจะบอกเจ้าไม่ได้”
หลี่อวิ๋นรับแหวนเก็บของ กล่าวอย่างเชื่องช้า
ได้ยินดังนั้น
ไม่เพียงแค่เจ้าสัจจะยืนยง แม้แต่ปฐมกาลก็ยังคงมีสีหน้าตื่นเต้น มองมาที่หลี่อวิ๋นอย่างรวดเร็ว
“ยมโลกมีลูกปัดเพรียกวิญญาณเจ็ดลูก!”
หลี่อวิ๋นยื่นมือออกมา ใช้นิ้วชี้ไปยังเลขเจ็ด จากนั้นกล่าวต่อว่า “ตอนนี้ มีหกลูกถูกเจ้าแห่งยมโลกเก็บซ่อนเอาไว้ ส่วนอีกหนึ่งลูกอยู่ในมือลู่ฉางเฟิงแห่งยมโลก!”
“ลู่ฉางเฟิงหรือ?”
ปฐมกาลได้ยินชื่อนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เอ่ยขึ้นอย่างตกใจ
“ผู้อาวุโสเคยได้ยินชื่อนี้หรือ”
เจ้าสัจจะยืนยงกล่าวด้วยความดีใจ
“เคยได้ยิน!”
ปฐมกาลพยักหน้า กล่าวว่า “ตอนที่เรือรบยมโลกปรากฏขึ้น คนที่สวมชุดเกราะผู้นั้นคือลู่ฉางเฟิง!”
“เขาคือผู้ที่อยู่ในระดับยืนยงระยะสูงสุด ในอดีต ตอนที่โลกเพลิงนิลแตกสลาย เขานั้นมีโอกาสที่จะก้าวเข้าสู่ระดับราชันเซียน แต่น่าเสียดาย เขาต้องเผชิญหน้ากับหายนะของโลกเพลิงนิล!”
“หากเขาไม่ตาย ตอนนี้คงเป็นถึงราชันเซียน ต่อมาถูกเจ้าแห่งยมโลกเรียกกลับมาจากสังสารวัฏ ให้มาทำงานให้กับยมโลก”
“การที่โลกแสงนิลถูกทำลาย ลู่ฉางเฟิงผู้นี้มีส่วนเกี่ยวข้อง!”
เจ้าสัจจะยืนยงกล่าวอย่างตกตะลึง
เขาไม่นึกเลยว่าลู่ฉางเฟิงจะมีภูมิหลังอันน่ากลัวเช่นนี้
คนที่เกือบจะก้าวเข้าสู่ระดับราชันเซียน แล้วยังทำคุณงามความดีให้กับยมโลก นับว่าไม่แปลกใจเลยที่เขาจะสามารถครอบครองลูกปัดเพรียกวิญญาณ การที่จะแย่งชิงจากคนผู้นี้ ยากยิ่งกว่าการขึ้นสวรรค์
หากแย่งชิงมาได้เล่า?
เจ้าแห่งยมโลกยังมีอีกหกชิ้น!
“แถมให้อีกข่าวหนึ่ง ตอนนี้โลกสวรรค์ก่อกำเนิด โลกอินทนิลเร้นลับ และโลกเซียนปฐพี เต็มไปด้วยวิญญาณ สาเหตุก็เพราะลูกปัดเพรียกวิญญาณในมือลู่ฉางเฟิง!”
“ลูกปัดเพรียกวิญญาณหนึ่งลูก สามารถควบคุมโลกได้หนึ่งใบ!”
“ยมโลกในยุครุ่งเรือง อาจจะไม่ได้มีลูกปัดเพรียกวิญญาณหนึ่งลูก แต่ก็คงจะมีหลายหมื่นลูก!”
หลี่อวิ๋นกล่าวอย่างต่อเนื่อง
ปฐมกาล: …
เจ้าสัจจะยืนยง: …
ในเวลานี้ แม้พวกเขาจะไม่เคยเห็นยมโลกในยุครุ่งเรือง แต่คำอธิบายของเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ก็ทำให้พวกเขาเห็นภาพเพียงเล็กน้อย
เพียงแค่ลูกปัดเพรียกวิญญาณหนึ่งลูก ก็สามารถปราบปรามพวกเขาได้
ยากที่จะจินตนาการว่า โลกหมื่นสวรรค์ในอดีต ต้องเผชิญหน้ากับยมโลกที่แข็งแกร่งที่สุด ความกดดันนั้นมากมายเพียงใด หากพลาดแม้เพียงครั้งเดียว โลกหมื่นสวรรค์ในตอนนี้อาจจะตกอยู่ในมือของยมโลก!
โชคดีที่ลูกปัดเพรียกวิญญาณ ไม่อาจควบคุมระดับราชันเซียนได้
มิเช่นนั้น ยมโลกคงไร้เทียมทานอย่างแท้จริง
“ผู้อาวุโส ในเมื่อลู่ฉางเฟิงมีลูกปัดเพรียกวิญญาณหนึ่งลูก เช่นนั้น ลูกปัดเพรียกวิญญาณที่เหลืออยู่ที่ใด หรืออยู่ในมือของใคร” เจ้าสัจจะยืนยงเอ่ยถาม
แม้ว่าคนของยมโลกจะไม่สามารถตายได้ แต่ลูกปัดเพรียกวิญญาณไม่อาจฟื้นฟูตัวเองหลังจากแตกสลายได้
หากทำลายลูกปัดเพรียกวิญญาณ พลังของยมโลกย่อมลดลงอย่างมาก อย่างน้อยก็บาดเจ็บสาหัส
เพราะว่าหากไม่มีลูกปัดเพรียกวิญญาณ ลู่ฉางเฟิงและคนอื่น ๆ ก็จะไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้
ทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเขาต่างก็ขึ้นอยู่กับลูกปัดเพรียกวิญญาณ เว้นเสียแต่ว่าเจ้าแห่งยมโลกสามารถสร้างสังสารวัฏหกวิถีได้ เช่นนั้น วิญญาณก็จะไม่ถูกควบคุมโดยลูกปัดเพรียกวิญญาณ
น่าเสียดายที่โลกแสงนิลในปัจจุบันดูเหมือนว่าจะไม่มีสังสารวัฏหกวิถี อย่างน้อยก็ยังไม่มีข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องนี้
ในความหมายหนึ่ง จักรพรรดินียมโลกยังเหนือกว่าเล็กน้อย
“ข่าวสารนี้ หากเจ้าซื้อไป ก็คงไร้ประโยชน์ แม้จะรู้ว่าอยู่ที่ใด แต่เจ้าสามารถบุกเข้าไปในยมโลกที่ทหารกล้ามากมายคอยคุ้มกันหรือ” หลี่อวิ๋นกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
เจ้าสัจจะยืนยงมีสีหน้าลำบากใจ
ในเวลานี้เขาจึงรู้สึกตัว พลังของเขาอ่อนแอเกินไป หากบุกเข้าไปในยมโลกอย่างบุ่มบ่าม คงใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งเค่อ ยมโลกก็จะมีผู้ใต้บังคับบัญชาในระดับเซียนแท้ระยะสูงสุดเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน
“เช่นนั้น ผู้น้อย…”
เจ้าสัจจะยืนยงกำลังจะเอ่ยขึ้น
ข้างกาย ปฐมกาลกล่าวขึ้นก่อนว่า “ผู้อาวุโสหมายความว่า หากพวกเราสามารถบุกเข้าไปในยมโลกได้ ก็จะมีวิธีทำลายลูกปัดเพรียกวิญญาณหรือ”
“มีความเป็นไปได้ แต่โอกาสที่พวกเจ้าจะไม่อาจกลับมาได้นั้นสูงยิ่งกว่า”
หลี่อวิ๋นกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
เขาสามารถทำนายทุกสิ่งทุกอย่าง เหตุการณ์ทั้งหมดบนโลกใบนี้ ไม่อาจหลีกหนีจากการทำนายของเขา ภายใต้การชี้แนะของเขา ทุก ๆ สถานที่สามารถเข้าออกได้อย่างปลอดภัย แม้แต่ยมโลกก็ไม่เว้น
แน่นอนว่า…การเข้าออกอย่างปลอดภัย หมายถึงการเดินเล่น แต่หากต้องการลงมือ ทำลายลูกปัดเพรียกวิญญาณของพวกเขา ผลลัพธ์คงยากที่จะคาดเดา
“เช่นนั้น…”
ปฐมกาลดวงตาเป็นประกาย เขากล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ผู้อาวุโสมีวิธีแล้วหรือ”
ในเวลานี้ แม้แต่เจ้าสัจจะยืนยง ก็ยังคงตื่นเต้น
หากทำลายลูกปัดเพรียกวิญญาณได้ พวกเขาก็จะมีโอกาสพลิกสถานการณ์!
“แน่นอนว่ามี”
หลี่อวิ๋นพยักหน้าเบา ๆ
“ขอให้ผู้อาวุโสชี้แนะ!”
เจ้าสัจจะยืนยงกัดฟัน ใช้นิ้วมือหยิบแหวนเก็บของอีกหนึ่งวง ส่งไปเบื้องหน้าหลี่อวิ๋น
นี่คือสิ่งที่เขาเตรียมเอาไว้เพื่อทะลวงผ่านระดับเซียนแท้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าการทะลวงผ่านระดับเซียนแท้สามารถทำได้ทุกเมื่อ อายุขัยของเขายังคงมีอีกมาก แต่การทำลายลูกปัดเพรียกวิญญาณของยมโลก ไม่อาจรอคอยได้
“ไม่พอ”
หลี่อวิ๋นมองแหวนเก็บของแวบหนึ่ง กล่าวสองคำออกมาอย่างแผ่วเบา
