(ฟรี) บทที่ 295 รุ่นพี่ผู้มาพร้อมถุงน่องสีดำ
ผู้สมัครคนต่อไปมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกันกับสวี่ชิวเหวิน
เธอเป็นหญิงสาวที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันเจียงหลิง
ตำแหน่งที่เธอมาสมัครคือฝ่ายการเงิน
สวีเฉียนได้ออกไปเรียกหญิงสาวเข้ามาสัมภาษณ์แล้ว
ไม่นานประตูก็เปิดออก และมีหญิงสาวร่างสูงเดินเข้ามา
ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันเจียงหลิงและเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยของสวี่ชิวเหวินชื่อว่า จ้าวหย่าถง
จ้าวหย่าถงมีใบหน้ารูปไข่ คิ้วที่ละเอียดอ่อนและดวงตาสดใส จมูกของเธอเรียวบาง และเธอทาลิปสติกสีแดงสดบนริมฝีปาก
เธอยิ้มเผยให้เห็นฟันที่เรียงตัวกันสวยงามและขาวราวกับเครื่องลายคราม
ทรงผมของเธอถูกจัดเป็นลอนยาวหลวมๆ ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่มาก
เธอสวมสูทสีอ่อนที่ด้านบนและกระโปรงทำงานที่เข้ากันด้านล่าง โดยมีถุงน่องสีดำบางๆพันรอบขา และรองเท้าส้นสูงที่เท้า
ความสูงและขาเรียวยาวของจ้าวหย่าถงถูกเน้นด้วยถุงน่อง
สวี่ชิวเหวินชื่นชมเธอมาก อากาศหนาวขนาดนี้เธอยังกล้าสวมถุงน่องและรองเท้าส้นสูง!
เขาไม่ได้จ้องมองถุงน่องสีดำของรุ่นพี่ร่วมมหาวิทยาลัยอีกต่อไป
เขาเพียงเหลือบมองพวกมันชั่วครู่ก่อนที่จะก้มดูเรซูเม่ในมือ
เมื่อหญิงสาวคนนั้นนั่งลง เขาก็ถามออกมาโดยตรงว่า “จ้าวหย่าถง สำเร็จการศึกษาจากสถาบันเจียงหลิงเมื่อสองปีก่อนและเคยทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งก่อนจะลาออก คุณบอกผมได้ไหมว่าทำไมถึงออกจากงานเก่า?”
“บริษัทก่อนหน้านี้มีลับลมคมในและอุบายต่างๆมากมาย ฉันไม่ชอบสภาพแวดล้อมแบบนั้นจึงเลือกที่จะลาออกค่ะ”
“โอ้ อธิบายรายละเอียดหน่อยสิ”
“ที่บริษัทเก่า วันหนึ่งภรรยาของเจ้านายขอยืมเงินฉัน และวันรุ่งขึ้นพี่ชายของเจ้านายก็มายืมเงินฉันด้วย นอกจากนี้ยังมีคนจำนวนมากที่เข้ามาด้วยคอนเนคชั่น การทำงานที่นั่นน่าเบื่อมาก”
......
สวี่ชิวเหวินและจ้าวหย่าถงพูดคุยกันสักพัก รุ่นพี่จากสถาบันเจียงหลิงคนนี้สงบตลอดการสนทนาและพูดอย่างมีคารมคมคาย
เธอเคยทำงานด้านการเงินที่บริษัทเดิมมาเป็นเวลาสองปีและถือว่ามีประสบการณ์ ดังนั้นสวี่ชิวเหวินจึงค่อนข้างพอใจกับเธอ
แค่ความจริงที่ว่าเธอเป็นรุ่นพี่จากสถาบันเจียงหลิงก็เพียงพอแล้วที่เขาจะให้โอกาส ไม่ต้องกล่าวถึงถุงน่องสีดำที่ขา...
สวี่ชิวเหวินหยุดถามคำถามและกล่าวตรงประเด็น “คุณคาดหวังเงินเดือนเท่าไหร่?”
เมื่อได้ยินหัวข้อเงินเดือน สีหน้าของจ้าวหย่าถงก็กลายเป็นจริงจังในที่สุด
เธอรู้ว่านี่เป็นช่วงเวลาสำคัญ หากเธอขอมากเกินไปอีกฝ่ายอาจจะมองว่าโลภ แต่หากขอน้อยเกินไปเธอก็คงไม่เต็มใจ
หลังจากพิจารณาไม่กี่วินาที เธอก็ตอบว่า “ประมาณ 2,500 ค่ะ”
นี่เป็นคำตอบที่อนุรักษ์นิยมและปลอดภัยมาก
สวี่ชิวเหวินยิ้มเมื่อได้ยิน เขาพูดทันทีว่า “ผมจะให้คุณ 3,000 หยวน พร้อมด้วยประกันสังคมและกองทุนที่อยู่อาศัย อีกทั้งบริษัทมีที่พักให้ แต่ไม่รวมค่าอาหาร”
สามพันหยวนพร้อมประกันสังคมและกองทุนที่อยู่อาศัย บวกกับที่พักฟรี ข้อตกลงนี้ดีเกินกว่าจะเป็นจริงได้
ที่บริษัทเดิมเงินเดือนของจ้าวหย่าถงอยู่ที่เพียง 1,800 หยวนเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ได้เพิ่มมาเกือบสองท่า เธอจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
เธอยิ้มทันทีและพูดว่า “ฉันตกลงค่ะ”
สวี่ชิวเหวินพยักหน้า “ผมจะอธิบายให้ชัดเจนก่อน เราเป็นบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ ทุกอย่างในบริษัทมีการประสานงานกับทีมผู้ผลิต โดยปกติแล้วคุณจะไม่ต้องทำงานล่วงเวลา แต่ในสถานการณ์พิเศษบางทีอาจเป็นข้อยกเว้น แน่นอนว่าคุณย่อมได้ค่าชดเชยที่ทำงานล่วงเวลา”
จ้าวหย่าถงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ฉันเข้าใจค่ะ”
“เอาล่ะ งั้นไปรอผมที่ห้องประชุมชั้นบน”
จ้าวหย่าถงเดินตามสวีเฉียนไปที่ห้องประชุมขนาดเล็กบนชั้นสาม
หลังจากที่จ้าวหย่าถงจากไป สวี่ชิวเหวินก็สัมภาษณ์คนอื่นต่อ
การสัมภาษณ์ดำเนินไปจนถึงเวลา 13.30 น.
หลังจากเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์ทั้งหมด สวี่ชิวเหวินก็รวบรวมผู้สมัครที่ถูกคัดเลือดทั้งหมดไปไว้ในห้องประชุมขนาดเล็กบนชั้นสาม
เมื่อสวี่ชิวเหวินมาถึงห้องประชุม มีผู้สมัครหลายคนนั่งอยู่ที่นี่แล้ว
วันนี้เขาตัดสินใจจ้างงานทั้งหมด 4 คน เจ้าหน้าที่การเงินหนึ่ง ธุรการสอง และแผนกต้อนรับอีกหนึ่ง
เจ้าหน้าที่การเงินและพนักงานต้อนรับเป็นหญิงสาว ส่วนธุรการทั้งสองเป็นชายหนุ่ม
รวมซ่งเสี่ยวมี่และสวีเฉียนแล้ว สวี่ชิวเหวินจ้างพนักงานทั้งหมด 6 คน
คนที่เขาเลือกเหล่านี้เป็นตำแหน่งทั่วไปของบริษัท ไม่รวมตำแหน่งทางเทคนิคเฉพาะด้าน เช่น คนตัดต่อ ช่างกล้อง และตำแหน่งอื่นๆ
ตำแหน่งเหล่านั้นได้รับการจัดหาโดยหานเฟย และสวี่ชิวเหวินไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าไปยุ่ง
สวี่ชิวเหวินให้เลขานุการชั่วคราวสวีเฉียนดูแลรายงานการประชุม
สวี่ชิวเหวินเริ่มต้นด้วยคำพูดที่เป็นพิธีการเล็กน้อย เช่น ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่บริษัท หวังว่าทุกคนจะทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาบริษัท และรับรองว่าความพยายามของพวกเขาจะไม่สูญเปล่า
พนักงานใหม่ล้วนรู้หน้าที่ พวกเขาปรบมือให้สวี่ชิวเหวินหลังจากกล่าวจบ
แน่นอนว่าสวี่ชิวเหวินไม่ได้ถูกหลอกด้วยเสียงปรบมือ เขารู้ว่าหลายคนย่อมมีข้อสงสัยเนื่องจากอายุที่ยังน้อยของเขา
สวี่ชิวเหวินแนะนำตัวเองสั้นๆ เริ่มจากชื่อของเขา และเน้นไปที่ข้อเท็จจริงที่ว่าเขาเพิ่งถ่ายทำละครยอดนิยมทางทีวีเมื่อไม่นานมานี้
ในระหว่างการสัมภาษณ์ ผู้สมัครบางคนจำเขาได้ แต่ในเวลานี้นอกเหนือจากซ่งเสี่ยวมี่และสวีเฉียนแล้ว คนอื่นๆในห้องประชุมจำเขาไม่ได้เนื่องจากอาจไม่ได้ดูทีวีมากนัก
หลังจากฟังสวี่ชิวเหวินแนะนำตัวเองแล้ว ห้องประชุมก็เงียบลง
พนักงานใหม่หลายคนมองเขาด้วยความประหลาดใจและดวงตาเบิกกว้าง
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเหล่าเพื่อนร่วมงานใหม่ ซ่งเสี่ยวมี่ก็เม้มริมฝีปากและแอบยิ้มอย่างเงียบๆ
เธอเองก็แปลกใจเหมือนกันเมื่อรู้เรื่องนี้ครั้งแรก
หลังจากเกิดความประหลาดใจ ความกังวลของพนักงานใหม่ก็ผ่อนคลายลงบ้าง
ท้ายที่สุดแล้วการมีเจ้านายผู้มีชื่อเสียงย่อมทำให้ดูเหมือนมีโอกาสน้อยที่บริษัทจะล้มละลายในระยะสั้น ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจให้พวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
สวี่ชิวเหวินสังเกตเห็นการแสดงออกของคนทั้งหลาย เขายิ้มเล็กน้อยและตรงเข้าประเด็น “ผมตีพิมพ์นิยายเรื่อง ‘แสงตะวันกลางใจ’ บนจิ้นเจียงและเป้าหมายต่อไปของเราคือการดัดแปลงให้เป็นละครทีวี”
จ้าวหย่าถงรอให้สวี่ชิวเหวินกล่าวจบและถามว่า “คุณสวี่ การสร้างละครทีวีด้วยคนจำนวนเท่านี้มันไม่ยากเกินไปหน่อยหรอคะ?”
สวี่ชิวเหวินอธิบายว่า “คุณไม่จำเป็นต้องกังวล มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลเรื่องการถ่ายทำอยู่แล้ว งานของคุณคือสนับสนุนผู้กำกับหานเฟยอย่างเต็มที่และดูแลงานจิปาถะอื่นๆ”
จ้าวหย่าถงพยักหน้า
“คุณไม่เคยสัมผัสกับวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์มาก่อน บังเอิญว่าตอนนี้บริษัทไม่มีอะไรให้ทำมากนัก คุณควรใช้โอกาสนี้เพื่อเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับอุตสาหากรรมนี้ให้มากขึ้น”
พนักงานใหม่ต่างพยักหน้าเห็นด้วย
สวี่ชิวเหวินกล่าวต่อ “บริษัทเพิ่งก่อตั้งและมีคนค่อนข้างน้อย พวกคุณบางคนอาจต้องทำงานหลายบทบาท ผมจะเฝ้าดูผลงานของพวกคุณ ตราบใดที่คุณทำได้ดี การเลื่อนตำแหน่งและโบนัสจะไม่เป็นปัญหา ผมไม่ใช่คนตระหนี่”
“เข้าใจแล้วค่ะ/ครับ คุณสวี่!”
สวี่ชิวเหวินพยักหน้าและมองไปที่จ้าวหย่าถง “จ้าวหย่าถง คุณจะรับผิดชอบด้านการเงินและบุคลากรของบริษัทนับจากนี้เป็นต้นไป”
“ค่ะคุณสวี่!” จ้าวหย่าถงพยักหน้าทันที
“ทำรายการสิ่งของที่บริษัทจำเป็นต้องซื้อด้วย สำหรับตอนนี้ให้สวีเฉียนจัดการ...”
การประชุมใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
สวี่ชิวเหวินมอบหมายงานเพียงไม่กี่อย่าง
หลังการประชุม สวี่ชิวเหวินพูดกับพนักงานต้อนรับคนใหม่ว่า “หลู่ซินเหยา โปรดอยู่ก่อน”
หลู่ซินเหยาเป็นพนักงานหญิงคนที่สี่ที่ได้รับคัดเลือกจากสวี่ชิวเหวิน เธอมีรูปลักษณ์งดงามและรอยยิ้มอ่อนหวานที่สุดในบรรดาพนักงานทั้งหมด ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับแผนกต้อนรับที่ใช้รูปร่างหน้าตาเป็นมาตรฐาน
เมื่อคนอื่นๆออกจากห้องประชุมแล้ว สวี่ชิวเหวินก็มองไปที่หลู่ซินเหยาและพูดว่า “พนักงานต้อนรับคือหน้าตาของบริษัท ผมหวังว่าคุณจะทำงานได้ดีและไม่ทำให้ผมผิดหวัง”
หลู่ซินเหยายิ้มและตอบรับ “ไม่ต้องกังวลค่ะคุณสวี่ ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง”
สวี่ชิวเหวินรู้สึกประทับใจกับบุคลิกที่มีชีวิตชีวาของหลู่ซินเหยาระหว่างการสัมภาษณ์
หลังการประชุม สวี่ชิวเหวินไปที่ชั้น 2 เพื่อเซ็นสัญญากับพนักงานใหม่
หลังจากเซ็นสัญญาแล้วเขาก็กลับไปที่ชั้น 1 อีกครั้ง
ชั้น 1 มีทั้งหมดหกห้อง ด้านซ้ายสี่และด้านขวาสอง
สองห้องด้านขวาของแผนกต้อนรับถูกกำหนดให้เป็นห้องรับแขกและห้องน้ำ แน่นอนว่าห้องรับแขกย่อมมีขนาดใหญ่กว่า
สี่ห้องทางด้านซ้ายถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่สำนักงาน
ห้อง 101 สำหรับแผนกธุรกาจสี่คน และห้อง 102 สำหรับแผนกการเงิน
เนื่องจากบริษัทยังไม่มีพนักงานมากนัก จึงมีห้องว่างเหลืออีกสองในเวลานี้
เมื่อบริษัทโฆษณาเดิมย้ายออกไป โต๊ะและเก้าอี้เก่าถูกทิ้งไว้ อย่างไรก็ตาม พวกมันเก่าและถูกใช้งานโดยผู้อื่นแล้ว สวี่ชิวเหวินจึงตัดสินใจเปลี่ยนโต๊ะและเก้าอี้ใหม่ทั้งหมดโดยไม่ได้ประหยัดเงินเพียงเล็กน้อยนี้
สวี่ชิวเหวินเข้าไปในห้อง 101 และมองไปรอบๆ แม้ว่าบนโต๊ะจะว่างเปล่า แต่อย่างน้อยพนักงานก็พร้อมและทำให้ดูเหมือนเป็นสำนักงานจริงๆ
สวี่ชิวเหวินหันไปหาจ้าวหย่าถงแล้วพูดว่า “ซื้อคอมพิวเตอร์สักสองสามเครื่องโดยเร็วที่สุด พวกเราจะต้องใช้ในอนาคต”
“ค่ะคุณสวี่”
สวี่ชิวเหวินเหลือบมองเวลา ตอนนี้เลยบ่ายสองแล้ว
เขาปรบมือเพื่อดึงดูดความสนใจของทุกคนและพูดว่า “พวกคุณทุกคนยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงและคงจะหิวแล้ว ผมจะเลี้ยงอาหารกลางวันพวกคุณเพื่อเป็นการต้อนรับพนักงานใหม่”
พนักงานใหม่หิวมากแล้ว แต่พวกเขาไม่มีเวลาทานมื้อเที่ยงและไม่สามารถออกไปได้
สวี่ชิวเหวินพาพนักงานใหม่ไปเลี้ยงอาหารกลางวันที่ร้านบริเวณใกล้เคียง
หลังอาหารกลางวัน สวี่ชิวเหวินพาพวกเขาไปดูหอพักของบริษัท
ชุมชนที่สวี่ชิวเหวินเลือกเป็นหอพักมีสภาพแวดล้อมที่สวยงาม สามารถเข้าถึงห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตได้สะดวกสบายมาก
นอกเหนือจากเฉียนหลงที่ตัดสินใจไม่ย้ายเข้ามาเพราะอาศัยอยู่กับแฟนสาว พนักงานอีกห้าคนวางแผนจะยกเลิกสัญญาเช่าปัจจุบันและย้ายเข้ามาอยู่ในหอพักของบริษัท
อู่หยงเป็นพนักงานชายเพียงคนเดียวในหอพักและต้องไปอยู่ห้อง 502 ตามลำพัง
เนื่องจากอพาร์ทเมนท์เป็นยูนิตแบบ 3 ห้องนอน หลู่ซินเหยา ซ่งเสี่ยวมี่ และสวีเฉียนจึงแชร์ห้อง 201 ด้วยกัน
จ้าวหย่าถงทำได้เพียงอาศัยอยู่ในห้อง 301 เพียงลำพังเท่านั้นก่อนจะมีพนักงานหญิงคนใหม่
หลังจากพาพนักงานใหม่ชมหอพักแล้ว สวี่ชิวเหวินก็เหลือบมองโทรศัพท์แล้วหันไปพูดกับพนักงานว่า “เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน พวกคุณสามารถกลับได้เลย งานอย่างเป็นทางการจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมเป็นต้นไป... ผมจะทิ้งกุญแจไว้ ดังนั้นหากต้องการย้ายเข้าก็ดำเนินการได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องโทรหาผม”
พนักงานโบกมือและกล่าวคำอำลา
สวี่ชิวเหวินเรียกจ้าวหย่าถงและสวีเฉียนให้อยู่ก่อน
หลังจากที่คนอื่นๆจากไปแล้ว สวี่ชิวเหวินก็หยิบกุญแจบริษัทออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วมอบให้สวีเฉียน จากนั้นก็สั่งจ้าวหย่าถงว่า “จ้าวหย่าถง เตรียมรายการสิ่งของที่เราต้องการโดยเร็วที่สุด จากนั้นให้สวีเฉียนไปซื้อ ผมต้องการให้มันเสร็จก่อนวันที่ 13 มีนาคม หากคุณประสบปัญหาใดๆสามารถโทรหาผมได้ตลอดเวลา”
ในการประชุมก่อนหน้านี้ สวี่ชิวเหวินได้บอกหมายเลขโทรศัพท์ของเขากับพนักงานใหม่แล้วและยังบันทึกหมายเลขของพวกเขาไว้ด้วย
“ได้ค่ะคุณสวี่!” หญิงสาวทั้งสองตอบรับพร้อมกัน
จู่ๆสวี่ชิวเหวินก็นึกอะไรบางอย่างได้และพูดว่า “โอ้ ผมเกือบลืมไปเลยว่าคุณยังเบิกเงินจากบัญชีบริษัทไม่ได้... เอาบัตรนี้ไปสิ”
เขาพูดและหยิบบัตรเอทีเอ็มออกมาจากกระเป๋า
“บัตรใบนี้มีอยู่ 100,000 หยวน รหัสผ่านคือ 654321 ผมต้องการให้ใบเสร็จรับเงินและใบแจ้งหนี้ทุกรายการถูกบันทึกไว้อย่างชัดเจน”
“ไม่ต้องห่วงค่ะคุณสวี่”
สวี่ชิวเหวินพยักหน้า “เอาล่ะ พวกคุณกลับได้แล้ว”
หลังจากหญิงสาวทั้งสองออกไป สวี่ชิวเหวินก็รีบไปที่รถของเขาและขับออกจากชุมชนอย่างรวดเร็ว
รถแล่นไปตามถนนโดยไม่หยุดพัก
ใบหน้าของสวี่ชิวเหวินเต็มไปด้วยรอยยิ้มตลอดทาง
เขากำลังเดินทางไปรับใครบางคนที่สถานีรถไฟ!
/////