บทที่ 9 ตกเป็นเครื่องมือหาเงินด้วยการมีลูก
ตระกูลเหยียน
ในห้องของตระกูลเหยียน เหยียนหงกำลังเดินวนไปมาอย่างกระวนกระวาย
“จะทำยังไงดี! ฉันรับสินสอดของตระกูลมู่มาแล้ว เงินจำนวนนั้นพอดีที่จะช่วยแก้วิกฤตทางการเงินของบริษัท!แต่ตอนนี้หยานเชียนอี้หายไปแล้ว ฉันต้องคืนสินสอด!” หานย่าหรงพูดปลอบใจว่า
“คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไปค่ะ สินสอดของตระกูลมู่ไม่เพียงแต่จะไม่ต้องคืนไปสักบาท พวกเขายังต้องชดใช้เราอีกด้วย”
เหยียนหงหยุดเดินและถามด้วยความสงสัย “หมายความว่ายังไง”
หานย่าหรงค่อยๆ วางถ้วยชาลง แล้วเดินเข้ามาจับแขนของเหยียนหง
“คุณลองคิดดูสิ เราได้ส่งตัวเซียนยี่ให้คนของตระกูลมู่ไปเรียบร้อยแล้ว เธอยังขึ้นรถของตระกูลมู่ และก็เกิดเรื่องขึ้นระหว่างทางไปตระกูลมู่ ตอนนี้เซียนยี่หายไป ตระกูลมู่ต้องให้คำอธิบายกับเราแน่”
เหยียนหงตาเป็นประกาย คิ้วที่ขมวดอยู่คลายลงทันที “นั่นสิ มีเหตุผลจริงๆ! คุณนี่ฉลาดจริงๆ”
“คุณวางใจได้ค่ะ จากนี้ไปฉันจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ ทุกอย่างจะดีขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้วิกฤตทางการเงินของบริษัทก็แก้ได้แล้ว”
การที่ให้หยานเชียนอี้แต่งงานไป ก็เป็นความคิดของหานย่าหรงที่เสนอให้เหยียนหง
เหยียนหงกล่าวชมหานย่าหรงอีกครั้ง แล้วพูดต่อ “ฉันจะโทรถามตำรวจอีกทีว่ามีข่าวคราวของเซียนอี้หรือเปล่า”
เมื่อเห็นเหยียนหงขึ้นไปบนห้องทำงานเพื่อโทรศัพท์ หานรู่ยีดูไม่พอใจ
“แม่คะ พ่อเขายังสนใจเซียนอี้มากอยู่เลย”
“ลูกจ๋า ลูกจะอิจฉาอะไร ตอนนี้เซียนยี่หายไปแล้ว พ่อของลูกห่วงเพียงแต่สินสอดของตระกูลมู่จะถูกเอาคืน แม่เห็นว่าในใจเขาไม่มีลูกสาวคนนี้มานานแล้ว ตอนนี้เขาก็แค่แสดงออกไปอย่างนั้นเอง เพราะสุดท้ายเธอคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา เขาจะทำใจแข็งอย่างเปิดเผยไม่ได้”
“แต่แม่คะ แม่ไม่คิดอยากจะหาเซียนยี่กลับมาจริงๆเหรอ” หานรู่ยีถามด้วยความกังวล “ถ้าไม่ฉีดยาให้เธอ เธอก็จะฟื้นขึ้นมา แล้วถ้าเธอกลับมาเอง…”
“ลูกไม่ต้องห่วงหรอก” หานย่าหรงขัดจังหวะลูกสาว
“ถ้าไม่ใช่ตำรวจที่หาเธอพบ ต่อให้เธอฟื้นขึ้นมา เธอก็ไม่มีทางกลับมาได้ตลอดชีวิต เธอถูกพวกคนร้ายจับตัวไป ก็จะกลายเป็นเครื่องมือหาเงินด้วยการมีลูกและไม่มีทางรอดกลับมาได้”
“แต่พี่เธอยังอยู่ ถ้าพี่ใช้เส้นสายของเขาหาตัวเธอ ก็คงไม่ยากเท่าไหร่ใช่ไหมคะ”
หานย่าหรงหัวเราะเยาะ “ลูกคิดว่าคนพวกนั้นง่ายขนาดนั้นเหรอ การหาคนมันจะง่ายขนาดนั้นได้ยังไง อีกอย่างพี่ของลูกตอนนี้ไม่ได้เป็นคนของสหพันธรัฐอวกาศของเราอีกแล้ว เขาจะยื่นมือเข้ามาในเรื่องนี้ไม่ได้หรอก”
“จริงด้วยค่ะ” หานรู่ยีพยักหน้า
“ลูกแม่ ตอนนี้ไม่เพียงแต่พ่อของลูกกับฉวียางเป็นของลูกคนเดียวแล้ว แม้แต่พี่ชายของลูกก็ไม่มีใครแย่งจากลูกอีก ลูกต้องรักษาโอกาสนี้ให้ดี วันดีๆ ของเรายังรออยู่ข้างหน้า” หานย่าหรงกำลังเพลิดเพลินกับการคิดถึงอนาคตที่สดใส แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงโกลาหลดังมาจากชั้นล่าง
แม่ลูกสองคนเดินลงไปดู
ท้องฟ้าภายนอกมืดครึ้มไปด้วยเมฆหนา บรรยากาศในบ้านก็มืดสลัว
บรรดาคนรับใช้พากันยืนอออยู่ในห้องรับแขก ตรงกลางมีเด็กสาวในชุดเจ้าสาวยืนอยู่
ในความมืดมิด มองไม่เห็นใบหน้าของเด็กสาวชัดเจน
ครืน! เสียงฟ้าร้องดังสนั่น
ทันใดนั้น แสงสายฟ้าที่สว่างวาบส่องให้เห็นใบหน้าที่ซีดเผือดของเหยียนเซียนยี่
หานย่าหรงตัวสั่นด้วยความตกใจจนกรีดร้องออกมา “ผี!”
หานรู่ยีที่ยืนข้าง ๆ ก็ตกใจกลัว รีบเข้าไปประคองฮั่นหยารงที่เกือบจะล้มลง
เสียงกรีดร้องของหานย่าหรงทำให้บรรดาคนรับใช้ไม่กล้าเข้าใกล้ พวกเขาต่างคิดว่ากำลังเห็นผี