บทที่ 6 ความบังเอิญที่เกินจริง
ในที่สุด มู่หยุนเลี่ยก็หยุดอยู่ที่มุมปากของเธอ
ร่างกายของหยานเชียนอี้เกร็งแน่นไปทั้งตัว
เมื่อถึงจุดนี้แล้ว...ก็แต่งงานกันแล้วนี่นา
คิดได้เช่นนั้น ริมฝีปากเล็กๆ ของหยานเชียนอี้ก็เริ่มเผยอขึ้นโดยไม่รู้ตัว
แต่จูบที่เธอคาดหวังกลับไม่เกิดขึ้น
มู่หยุนเลี่ยอ่อนแรงลงทันทีและทรุดตัวลงนอนบนตักของเธอเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างสมบูรณ์
"..." หยานเชียนอี้ยิ้มเจื่อน
จุดไฟแล้วไม่ดับ! ช่างแกล้งคนจริง ๆ
หยานเชียนอี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอหลับไปได้อย่างไรในคืนนั้น
ในความฝันลางๆ เธอยังเห็นภาพฝันสุดเขินอายอีกด้วย
รุ่งเช้าถูกแสงแดดจ้าที่ลอดผ่านเข้ามาทำให้เธอตื่นขึ้น
เมื่อเธอรู้สึกตัว ตักของเธอกลับว่างเปล่า ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถ้าไม่เห็นชื่อมู่หยุนเลี่ยในข้อมูลคู่สมรสของเธอ หยานเชียนอี้คงคิดว่าตัวเองเจอปีศาจรูปงามในป่าลึก
เขาดูดีเกินไป แถมยังมีท่าทีที่ทำให้ใจเต้นแรงได้อย่างง่ายดาย
คิดว่าการที่เขาหายไปโดยไม่บอกลา คงมีเหตุผลของเขา หยานเชียนอี้จึงไม่ติดต่อเขา ตอนนี้เธอมีเรื่องที่สำคัญกว่าที่ต้องทำ
......
บนรถยนต์บิน
มู่หยุนเลี่ยที่นั่งอยู่เบาะหลัง แผ่รังสีเย็นยะเยือกออกมารอบตัว
เมื่อคืนนี้เขาปลอมตัวออกไปปฏิบัติภารกิจด้วยตนเอง แต่ไม่คาดคิดว่าพิษในร่างจะกำเริบกะทันหัน
เมื่อนึกถึงพิษที่ไม่สามารถถอนออกได้ มู่หยุนเลี่ยบีบจมูกคมสันของตัวเองเล็กน้อยแล้วถามผู้ช่วยที่นั่งอยู่ข้างๆ
"เจอหมอที่สามารถถอนพิษในตัวฉันได้หรือยัง"
“เอ่อ… ยังครับ” เพ่ยหยวนเซวียนตอบอย่างระมัดระวัง
ตลอดสองปีที่ผ่านมา เพราะพิษในร่างกาย มู่หยุนเลี่ยมีอารมณ์ที่หงุดหงิดง่ายและแปรปรวนอย่างมาก
แม้ว่าเพ่ยหยวนเซวียนจะเป็นคนที่ใกล้ชิดกับมู่หยุนเลี่ยที่สุด แต่เขาก็เคยเห็นสภาพที่มู่หยุนเลี่ยพิษกำเริบเพียงครั้งเดียว
ในตอนนั้น มู่หยุนเลี่ยดูไร้เดียงสา น่ารักเหมือนลูกหมา ใครเห็นก็อยากปกป้อง แม้แต่เพ่ยหยวนเซวียนที่เป็นผู้ชายยังทนไม่ไหว
แต่คนที่ได้เห็นมู่หยุนเลี่ยในสภาพนั้นและยังมีชีวิตรอดอยู่ตอนนี้ ก็มีเพียงเพ่ยหยวนเซวียนคนเดียวเท่านั้น
เนื่องจากการที่มู่หยุนเลี่ยถูกพิษเป็นความลับสูงสุดของจักรวรรดิ์สหพันธ์แห่งดวงดาว
หากเรื่องนี้รั่วไหลออกไป อันตรายไม่เพียงแต่จะตกที่ตัวเขา แต่จะส่งผลถึงทั้งสหพันธ์จักรวรรดิ์ด้วย
เพ่ยหยวนเซวียนเห็นมู่หยุนเลี่ยไม่ด่าทอเขาว่าไร้ประโยชน์ จึงกล้าถามออกมา
“ท่าน เมื่อคืนนี้ ท่านอยู่กับหญิงสาวคนนั้นทั้งคืน เธอไม่ได้...เอ่อ...ฉวยโอกาสจากท่านใช่ไหมครับ”
เมื่อคืนนี้ที่จู่ๆ มู่หยุนเลี่ยขาดการติดต่อ เพ่ยหยวนเซวียนก็รู้ได้ทันทีว่ามีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น
เขารอคอยทั้งคืนจนเกือบรุ่งสาง จึงได้รับคำสั่งให้ไปรับตัวนายท่าน
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งนอนหลับสนิทอยู่ข้างๆ ซึ่งชุดของเธอก็ไม่ค่อยเรียบร้อยนัก ภาพในหัวของเขาก็เริ่มจินตนาการไปไกล
มู่หยุนเลี่ยก้มลงมองเสื้อผ้าของตัวเองที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำลาย ใบหน้าคมสันของเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย
หลังจากตื่นขึ้น เขาพบว่ามีตัวเล็กๆ กอดอยู่ในอ้อมแขนของเขา พร้อมทั้งน้ำลายที่ไหลเปื้อนเต็มตัวเขาไปหมด
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขาจำอะไรไม่ได้เลย
ตอนที่เขาเพิ่งถูกพิษครั้งแรก เขายังพอจะจำเหตุการณ์ช่วงที่พิษกำเริบได้บ้าง
แต่ช่วงหลังมานี้ พิษเริ่มกำเริบบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ และเขาก็จำอะไรแทบไม่ได้เลย
มู่หยุนเลี่ยแตะข้อมือเบาๆ แล้วถามอาชาง “เด็กผู้หญิงเมื่อคืนคือใคร”
เสียงของอาชางดังขึ้นจากข้อมือ “หยานเชียนอี้ เพศหญิง อายุ 20 ปี ไม่มีอาชีพ สถานะ: แต่งงานแล้ว คู่สมรสคือ มู่หยุนเลี่ย”
เพ่ยหยวนเซวียนรู้สึกประหลาดใจ “ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะมีโชคชะตาที่ผูกพันกับท่าน ถึงขนาดสามีของเธอมีชื่อเหมือนท่านเลยนะครับ”
อาชางพูดเสริมขึ้นมาอีกว่า “ที่บังเอิญกว่านั้นคือ สามีของเธอก็คือตัวท่านเองครับ”