บทที่ 5 อย่าเล่นกับไฟ
อาชางยกมือขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “เอาล่ะครับ ขอแสดงความยินดีกับนายท่าน ขอให้ท่านมีความสุขในวันวิวาห์”
หลังจากทำความเคารพแบบทหารเสร็จ อาชางก็หายตัวไป
อาเลี่ยยิ้มอย่างพอใจ เหมือนเด็กที่ได้ขนมหวานมากิน ก่อนจะซุกหัวกลับเข้าไปในซอกคอของหยานเชียนอี้อีกครั้ง
“ตอนนี้ฉันเป็นสามีแล้วนะ จะกอดภรรยานอนแบบนี้ได้ตลอดไป”
สามี? ภรรยา?
หยานเชียนอี้งงงันไปหมด
เธอยังไม่ยอมแต่งงานเลย แล้วจะเป็นไปได้ยังไงว่าพวกเขาแต่งงานกันแล้ว!
ความสงสัยเริ่มเข้ามาในใจ เธอพยายามดึงแขนที่ถูกอาเลี่ยกดทับออกมาอย่างยากลำบาก แล้วกดไปที่ข้อมือของตัวเอง
เมื่อหน้าจอปรากฏขึ้น เธอเห็นข้อมูลส่วนตัวของตัวเองที่เขียนว่า “สถานะ: แต่งงานแล้ว”
เธอคลิกไปที่ข้อมูลคู่สมรส และเห็นชื่อที่ทำให้เธอตกตะลึง “มู่หยุนเลี่ย”
เธอถึงกับอึ้ง พูดไม่ออก
ทั้งร่างรู้สึกเหมือนกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
“เสี่ยวเข่อ ออกมาเดี๋ยวนี้!”
หลังจากเสียงตวาดของเธอ ร่างเสมือนในชุดกระโปรงพองตัวเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ
สาวน้อยตัวจิ๋วหมุนตัวในชุดกระโปรง พลางโค้งตัวอย่างสง่างาม “นายท่าน ไม่เจอกันสองปี สบายดีไหมคะ”
“ดีอะไรกัน บอกฉันมาหน่อยว่า ทำไมถึงยอมให้การขอแต่งงานผ่านไปได้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน”
ปัจจุบัน การแต่งงานไม่ต้องการการอนุมัติจากบุคคลที่สาม เพียงแค่ทั้งสองฝ่ายยอมรับผ่านระบบก็จะกลายเป็นคู่สมรสได้ทันที
เสี่ยวเข่อดูหวาดกลัว เธอกำกระโปรงของเธอไว้แน่น “ข้าพเจ้าไม่ได้อนุมัติค่ะ แต่ไม่สามารถปฏิเสธได้”
“ไม่สามารถปฏิเสธ หมายความว่าไง?”
“ตามตัวอักษรเลยค่ะ”
“…”
นั่นหมายความว่าเธอถูกบังคับให้แต่งงานงั้นเหรอ
“มู่หยุนเลี่ยใช่ไหม นายทำอะไรลงไป” หยานเชียนอี้หันกลับไปมองมู่หยุนเลี่ยด้วยสายตาที่เดือดดาล
แต่เมื่อสายตาของเธอปะทะเข้ากับดวงตาที่ใสกระจ่างและมีน้ำตาคลอของเขา เสียงของเธอก็ค่อยๆ ลดลง
“ระบบของนาย...นายใส่ไวรัสในระบบของฉันหรือเปล่า...”
เมื่อมองดูชายคนนี้ที่ดูไร้พิษภัยและน่ารัก หยานเชียนอี้ก็อดไม่ไหว ต้องยอมใจอ่อน
มู่หยุนเลี่ยจับนิ้วก้อยของเธอเบาๆ แล้วเขย่าไปมา “ภรรยาอย่าโกรธเลย...”
ท่าทางแบบนี้ ทำให้ใจของหยานเชียนอี้ละลายลงทันที
เอาเถอะๆ อาจเป็นเพราะไม่ได้ใช้งานเสี่ยวเข่อมานานถึงสองปี ระบบของเธอเลยมีปัญหา
พรุ่งนี้ค่อยเอาไปตรวจซ่อมแล้วค่อยหย่าก็ได้ มากสุดแค่ข้อมูลส่วนตัวของเธอในระบบจะแสดงว่าเคยหย่ามาแล้ว
เมื่อเทียบกับปัญหาที่เธอต้องเผชิญในอนาคต เรื่องเล็กน้อยนี้แทบไม่สำคัญเลย
หลังจากยอมรับความจริงเรื่องการแต่งงานที่ไม่ทันตั้งตัว หยานเชียนอี้ก็เอนหลังพิงต้นไม้ ปิดตาลงเพื่อพักผ่อน เตรียมตัวฟื้นฟูพลัง
แต่จู่ๆ ก็มีมือที่ไม่รู้จักพอเลื้อยไปตามเอวของเธอ ทำให้เธอรู้สึกจั๊กจี้และคันยุบยิบไปทั้งตัว
เธอขยับตัวอย่างไม่สบายใจ แต่ก็ไม่สามารถขยับได้มากนัก
เขากอดเธอแน่นเหมือนเธอเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขา
“นี่ ฉันเตือนนะ อย่าเล่นกับไฟ”
เธอเตือนเขาออกมาเบาๆ แต่ทันทีที่พูด เธอก็พบว่าน้ำเสียงของตัวเองแหบแห้งและกระเส่า
ไม่น่าเชื่อเลยว่าแค่เขาแตะต้องเธอเพียงเล็กน้อย เธอก็รู้สึกวูบวาบไปหมด
หยานเชียนอี้สูดหายใจลึก
ความเย็นของยามค่ำคืนที่เข้าไปในปอดก็ไม่สามารถดับความร้อนรุ่มในใจได้
เธอแทบจะกระโจนเข้าใส่เขาด้วยความอยาก
เมื่อเธอตระหนักถึงความปรารถนาของตัวเอง หยานเชียนอี้ก็ถึงกับตกใจกลัวตัวเอง
เธอกลายเป็นคนหิวโหยตั้งแต่เมื่อไหร่
หรือเป็นเพราะร่างกายเธอไม่สมดุลหลังจากหลับไปสองปี
หรืออาจจะเป็นผลข้างเคียงจากยาที่หานย่าหรงฉีดให้
ขณะที่หยานเชียนอี้กำลังพยายามควบคุมตัวเอง มู่หยุนเลี่ยก็เหมือนลูกสุนัขที่หิวโหย ซุกหน้าลงสูดกลิ่นหอมจากคอของเธอ เลื่อนไปเรื่อยๆจากซอกคอขึ้นไป...