ตอนที่แล้วบทที่ 38
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 40

บทที่ 39


เฉียวเฉียวอยากจะสัมผัสผึ้งแต่ก็ทำไม่ได้ ตอนนี้เขากำลังนั่งยองๆ อยู่ตรงนั้นและมองมันอย่างตั้งอกตั้งใจ

"ทำไมเฉียวเฉียวถึงแตะไม่ได้! "

คนขายผึ้งสนิทกับซ่งซานเฉิน รู้เรื่องของเฉียวเฉียวดี จึงพูดเหมือนกำลังหลอกล่อเด็ก "เพราะตอนนี้หนูและผึ้งยังไม่สนิทกันน่ะสิ ถ้าเอื้อมมือไป มันจะคิดว่าหนูเกลียดพวกมัน มันเลยจะต่อยเอา"

เขาปิดกล่องเลี้ยงผึ้งอีกครั้ง แล้วจึงย้ำเตือนอีกรอบ "อย่าไปสัมผัสพวกมันมั่วซั่วนะ ผึ้งต่อยทีนึงพวกนายจะเจ็บมาก แต่ก็แลกมากับชีวิตของพวกมันที่จะตายซะเอง สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ พวกนี้ก็น่าสงสารเหมือนกันเนอะ"

"แล้วก็" เขาเอื้อมมือของตัวเองออกมาให้ทุกคนดู เห็นแต่เพียงรอยด้านเต็มไปหมดทั้งด้านในด้านนอก ข้อต่อใหญ่นูนชัดเจน "หนังฉันหนาและด้านกว่าพวกนายเยอะ มันชินมานานแล้ว"

เฉียวเฉียวมองมือของเขา แล้วก็เอื้อมมือของตัวเองออกมา มือของเขาขาวเนียนและเรียวเล็ก เพราะว่าอู่หลานรักความสะอาดและดูแลทะนุถนอมเขามาตั้งแต่เด็ก จนถึงตอนนี้มือของเขาจึงยังคงขาวเนียนและเรียวเล็กอยู่เหมือนเดิมเสมอ

เฮ้อ!

ทางด้านนี้ ซ่งซานเฉินและซ่งถานดูกล่องเลี้ยงผึ้งจนเสร็จแล้ว ก็ถามถึงราคาอีกครั้ง โดยสรุปแล้ว กล่องละ 1,000 หยวนลดราคามากกว่านี้ไม่ได้แล้ว

สำหรับคนขายผึ้งอย่างเขา ถ้าไม่ใช่เพราะช่วงนี้ทำงานในไร่จนมือหยาบกร้านไปหน่อย เกรงว่าจะเหมือนคุณชายที่ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดี ผึ้งของเขาทุกวันนี้แทบขายไม่ออกแล้ว

ซ่งซานเฉินได้แต่ถอนหายใจยาวเหยียดอย่างผิดหวัง แล้วก็หันหน้าไปมองทางอื่น เขาลังเลเล็กน้อย "หลังจากที่เราเก็บดอกถั่วม่วงเสร็จ เราจะยังมีดอกไม้อื่นๆ อีกไหม ถ้าหลังจากนี้ไม่มีดอกไม้อื่นๆ มากมายอะไรอีก ก็ไม่เห็นต้องหาเรื่องซื้อกล่องเลี้ยงผึ้งเยอะแยะขนาดนี้เลยนะลูก"

ซ่งถานคิดในใจว่า มาถึงที่นี่แล้ว กล่องเลี้ยงผึ้งก็ไม่ได้แพงอะไรมากมาย เธอเลี้ยงด้วยพลังลมปราณเองก็ได้! น้ำผึ้งเป็นของดีคุ้มค่าจะตายไป เสียเงินแค่นี้จะเสียดายทำไม เธอจึงนับนิ้วคำนวณ "สองเดือนนี้เป็นดอกถั่วม่วง จากนั้นก็เป็นต้นเกาลัดที่กำลังจะออกดอกแล้วน่ะพ่อ อีกอย่าง ในหมู่บ้านเราก็มีดอกพีชและดอกลูกแพร์ให้พวกมันดูดเกสรได้เต็มไปหมด ไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ หลังจากเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมแล้ว อากาศก็คงเริ่มร้อนมากกว่านี้อีก ผึ้งก็ได้พักผ่อนยาวๆ แล้ว”

“อื้อใช่…เกือบลืม หนูว่าจะบอกพ่อว่า ในสวนผักเหมือนจะพอมีที่ว่างนิดหน่อย หนูเตรียมจะปลูกดอกทานตะวันในแปลงด้วยนะคะ”

เมื่อคิดคำนวณเช่นนี้แล้ว ก็เลี้ยงได้สบายๆ ดอกไม้เต็มไปหมด…

ซ่งซานเฉินฟังจนปวดหัว ลูกสาวพูดไม่กี่คำ แต่พ่อต้องวิ่งจนขาขวิด! ล่าสุดเป็นต้นเกาลัดอีกแล้ว แถมยังมีดอกทานตะวันเพิ่มเข้ามาอีก ปีนี้เขาต้องทำงานในไร่ไม่หยุดเลย!

“ได้ๆ เอาตามที่เฮียว่า”

ซ่งซานเฉินจึงตัดสินใจ “เอามาเลยห้ากล่อง!”

เลี้ยงกันให้มือบวมไปเลย! อยากวุ่นวายมากนักล่ะก็…

คนขายผึ้งหัวเราะขึ้นมา ‘คราวนี้ก็ได้เงินเข้าบัญชีอีกห้าพันหยวนแล้ว’

แต่เขาก็ยังสั่งเสียทิ้งไว้ด้วยความเป็นห่วงประโยคหนึ่ง “จริงๆ การเลี้ยงผึ้งมันง่ายกว่าที่นายคิดเยอะนะซานเฉิน นายแค่ตั้งกล่องรังผึ้งเอาไว้ก็พอ ถ้ามีปัญหาอะไรก็อย่าเพิ่งหาทางแก้ไขมั่วๆ ให้โทรหาฉัน ฉันจะไปดูให้”

เพิ่งจะจ่ายเงินเสร็จไม่ทันไร จู่ๆ ทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนขึ้นมาอย่างกะทันหัน! เห็นได้ชัดว่าใบหน้าขาวสะอาดของเฉียวเฉียวเต็มไปด้วยน้ำตาและน้ำมูกเลอะเทอะไปหมด จู่ๆ เขาก็วิ่งออกมาจากป่าด้านข้างพร้อมกับร้องไห้โหยหวน ใช้มือข้างหนึ่งกำเป็นกำปั้นหลวมๆ นอกจากนี้บริเวณโคนฝ่ามือยังแดงและบวมเป่งอย่างชัดเจน

เห็นได้ชัดว่าโดนผึ้งต่อย!

ซ่งถานอดขำไม่ได้ “เขาบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าไปจับผึ้ง!”

เฉียวเฉียวรู้สึกน้อยใจ ร้องไห้เสียงดังขึ้นไปอีก

“เฉียวเฉียวเจอตัวอ้วนๆ ตัวหนึ่งเลยนะ...ตัวอ้วนๆ นั่นน่ะ มันทำงานได้ ราชินีผึ้งไง...” เห็นได้ชัดว่าเขาจำผึ้งที่คนขายจับมาให้ดูก่อนหน้านี้ได้

คนขายผึ้งก็ตกใจ “เป็นไปไม่ได้ ผึ้งนางพญาจะออกจากรังมาได้ยังไง...” เขาพึมพำพลางสอดส่ายสายตา เห็นเฉียวเฉียวใช้มืออีกข้างหนึ่งประคองอย่างระมัดระวัง ค่อยๆ คลายกำปั้นที่บวมออก ในฝ่ามือของเขา มีผึ้งอ้วนกลมขนาดเท่าหัวแม่มือเกาะอยู่อย่างระมัดระวัง ตัวมันมีขนสีเหลืองดำฟูฟ่อง ดูตัวใหญ่ กลม และอ้วนจริงๆ

แถมยังดูน่ารักอีกด้วย…

คนขายผึ้งหัวเราะออกมา “โอ้โห ไม่เป็นไรหรอก! นั่นมันผึ้งพันธุ์ (อิตาลี) นิสัยก็ดีเหมือนผึ้งบ้านเราแหละ ถ้าหนูไม่จับมัน มันก็จะไม่ต่อยหรอก แค่ลูบๆ นิดหน่อยมันไม่ทำอันตรายอะไรหรอก อย่าไปโดนแรงๆ ละกัน”

เฉียวเฉียวฟังแล้วก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ ตอนนี้เขาจึงยื่นฝ่ามือที่แดงก่ำออกไปข้างหน้า

คนขายผึ้งก็หัวเราะอีก “มันต้องเจ็บอยู่แล้วแหละ แต่ฉันมียาทาให้อยู่นะ เอ้ะ!...เดี๋ยวก่อนนะ นี่มันน่าจะเป็น…เฮ้ยผึ้งนางพญาจริงๆ ด้วย! ผึ้งทั่วไปจะตัวเล็กกว่านี้หน่อย”

ซ่งถานก็สนใจเช่นกัน เธอดีดพลังงานลมปราณออกจากปลายนิ้วเล็กๆ ผึ้งนางพญาตัวนั้นที่กำลังจะกระพือปีกบินหนีไป ก็ส่ายไปส่ายมาโซซัดโซเซ แล้วมาเกาะที่นิ้วของเธอ

ซ่งซานเฉินตกใจ "เฮ้ย! ระวังลูก"

ซ่งถานรีบปลอบ "พ่อ ไม่เป็นไร! พ่อดูสิ มันไม่ได้ต่อยหนู น่ารักจัง! "

ขนฟูอ้วนกลมก้อนหนึ่ง เกาะอยู่บนนิ้วของเธอแล้วก็เกาไปเกามา น่ารักจริงๆ

เฉียวเฉียวมองตาไม่กระพริบ ตอนนี้เรื่องความแค้นที่ถูกต่อยก็ลืมไปหมดแล้ว คนขายผึ้งหยิบยาออกมาจากในบ้านพอดี ขณะที่ทาให้เฉียวเฉียวก็มองไปที่ผึ้งตัวนั้นอีกครั้งแล้วสั่งว่า

"พวกหนูเล่นกันสักพักแล้วก็ปล่อยมันไปนะ ผึ้งนางพญาตัวนี้น่าจะกำลังรอวางไข่"

ซ่งถานคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ตัวนี้เลี้ยงได้ไหม มันให้น้ำผึ้งเยอะไหม"

คนขายผึ้งหัวเราะ "เลี้ยงได้แน่นอน พวกผึ้งนางพญาแบบนี้สามารถออกลูกได้ทีมากกว่าร้อยตัวนู่น ทนทานกว่าผึ้งทั่วไปอีก ขยันกว่าด้วยนะ"

"แต่มีข้อเสียอย่างหนึ่ง คือ พวกมันกินเก่งมาก…กินเยอะมาก ถ้าหนูเลี้ยงพวกมันนะ ตลอดทั้งปี หนูจะไม่ได้น้ำผึ้งจากปากของมันเลย แถมไม่พอให้พวกมันกินอีกต่างหาก! "

"ยิ่งถ้าไม่ได้กินเกสรดอกไม้หรือน้ำหวานสักชั่วโมง พวกมันจะหมดสติตายไปเลย เหมือนกับคนที่เป็นภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ถ้าไม่ได้รับน้ำตาลในเวลาที่เหมาะสมก็ทรุดหนักไปเลย"

พอพูดอย่างนี้ แม้แต่ในดวงตาของซ่งซานเฉินก็ยังมีรอยยิ้มปรากฏขึ้น "นี่ไม่ใช่ผึ้งแล้วเฮีย นี่มันไม่ต่างอะไรกับลูกหมูอ้วนๆ เลยนี่"

แต่เฉียวเฉียวฟังจบประโยคนี้แล้ว ถึงแม้จะยังไม่เข้าใจดีนัก แต่ก็ทำให้เขากระพริบตาไปมา มองไปที่นั่นอย่างแววตาอ้อนวอน เขาเห็นผึ้งนางพญาคลานไปมาบนนิ้วของซ่งถานอย่างน่ารัก ตอนนี้หายเจ็บแล้วก็ลืมเรื่องเจ็บปวดไปอีกครั้ง ยื่นมือออกไปอีกรอบ

แต่กลิ่นยาบนมือนั้นแรงเกินไปสำหรับมัน ทำให้ผึ้งนางพญาบินขึ้นจากนิ้วซ่งถาน จากนั้นจึงบินวนอยู่สองสามรอบเพราะทนกลิ่นยาไม่ไหว แต่อาจจะยังเสียดายแหล่งเติมพลังจิตวิญญาณชั้นดีนั้นอยู่เล็กน้อย จึงบินกลับมาเกาะที่นิ้วซ่งถานตามเดิม คนขายผึ้งเห็นก็หัวเราะ

"อยากเลี้ยงก็เลี้ยงสิ หาโถเล็กๆ เตรียมน้ำหวานไว้ให้หน่อยก็พอแล้ว"

"จำไว้นะผึ้งนางพญาน่ะ พอออกมาจากรังเสร็จก็ต้องวางไข่ ตอนนั้นมันก็จะหลั่งขี้ผึ้งออกมา ส่วนไข่ที่วางก็จะอยู่ในโถเล็กๆ นั้นนั่นแหละ"

"แล้วมันก็จะนั่งทับไว้ เขย่าไปมาเรื่อยๆ อุณหภูมิก็จะสูงขึ้น หลังจากนั้นผึ้งตัวน้อยๆ ก็จะฟักออกมา ลองเลี้ยงก็สนุกดี"

แต่ก็ยังพูดเสริมอีกประโยคหนึ่ง "แต่ว่าไม่ทำเงินเท่าไหร่หรอกนะ มันกินเก่งกันมากกว่า และก็ไม่รักเราเหมือนผึ้งธรรมดาพวกนั้นหรอก ถ้าถึงตอนนั้นมันบินหนีไปก็จะไปด่ามันไม่ได้นะ"

ซ่งถานขยับนิ้ว เมื่อเห็นว่าผึ้งนางพญายังคงเกาะอยู่บนนิ้วอย่างแน่นหนา ตอนนี้ก็หัวเราะอย่างมั่นใจ

"ยังเจ็บอยู่ไหมเฉียวเฉียว"

เฉียวเฉียวมองผึ้งนางพญาแล้วก็หันกลับมามองฝ่ามือตัวเอง ดูดน้ำมูก "เจ็บ"

"คราวหน้าจะหยิบจับของมั่วๆ อีกไหม"

เฉียวเฉียวสะอึก แล้วก็ร้องไห้ออกมาอย่างน้อยใจอีกครั้ง

ซ่งซานเฉินเห็นแล้วก็ใจอ่อนลงไปหมด ตอนนี้รีบเกลี้ยกล่อม "คราวหน้าไม่ต้องไปจับอีกนะเข้าใจไหม"

ซ่งถานหัวเราะเบาๆ แล้วก็ไปขอโถไม้เล็กๆ จากคนขายผึ้ง ก่อนจะใส่ผึ้งนางพญาตัวนี้ลงไป แล้วจึงยัดโถไว้ในมือของเฉียวเฉียว

"เก็บไว้ให้ดี ห้ามเปิดดูนะ เดี๋ยวมันตกใจแล้วจะบินหนีไป"

4 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด