บทที่ 3 เปลี่ยนไป
ในกระจกมองหลังสะท้อนให้เห็นใบหน้าซีดเผือด ที่แม้จะสวยงามอย่างมาก แต่ในบรรยากาศมืดสลัวนี้กลับดูน่าขนลุกสุดขีด
ดวงตาคมกริบของหญิงสาวจ้องมองผ่านกระจกมองหลังตรงไปยังคนขับ
ทันใดนั้น ริมฝีปากสีแดงเพลิงของเธอยกขึ้นอย่างเย้ยหยัน "แค่พวกหมาสองตัว คิดจะรังแกฉันงั้นเหรอ"
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องโหยหวนดังก้องไปทั่วในความมืดมิด
……
หยานเชียนอี้ลากชุดแต่งงานที่เปื้อนเลือดลงจากรถ
ภายในรถ ชายสองคนกุมเป้ากางเกงที่มีเลือดไหลนอง ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
คนขับตัวสั่นด้วยความกลัว พลางมองตามหลังของเธอที่กำลังวิ่งหนีเข้าไปในป่าเสียงของเขาสั่นอย่างหนัก
“ผู้...ผู้หญิง...เจ้าหญิงนิทราฟื้นขึ้นมา! พี่...โทร...โทรแจ้งด่วน!”
แต่ชายที่นั่งข้างคนขับสลบไปแล้วเพราะความเจ็บปวด
หยานเชียนอี้ไม่กล้าเสียเวลาอยู่ที่นั่นนานนัก
เธอกังวลว่าจะมีคนตามมา จึงต้องวิ่งลึกเข้าไปในป่าอย่างไม่หยุดพัก
ก่อนอื่นเธอต้องหลบหนีจากสถานการณ์นี้ แล้วค่อยคิดหาทางต่อไป
ไม่รู้ว่าเธอวิ่งมาไกลแค่ไหน จู่ๆ ก็มีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาชนเธอจนกระเด็นไปติดกับต้นไม้ใหญ่
ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาจนเธอแทบจะร้องออกมา
ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างของเธอก็ถูกตรึงไว้กับต้นไม้อย่างแน่นหนา
ชายร่างสูงจับไหล่ของเธอด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกมือก็บีบคอของเธอไว้ เสียงของเขาต่ำและแหบพร่า
“เธอเป็นใคร ทำไมถึงตามฉันมา”
หยานเชียนอี้เงยหน้ามองด้วยความตกใจ และสายตาของเธอก็ปะทะเข้ากับดวงตาสีแดงเลือดของเขา
ในเงาของต้นไม้ เธอมองไม่เห็นใบหน้าของเขาชัดเจน แต่ดวงตาสีเลือดคู่นั้นกลับชัดเจนและน่ากลัวอย่างยิ่ง!
เธอพยายามเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก
“โปรด...ไว้ชีวิตฉัน...ฉันไม่ได้ตามคุณมา... ดูเหมือนคุณเองก็...กำลังหลบหนีอยู่เหมือนกัน พวกเรา...เป็นพวกเดียวกัน”
เมื่อได้ยินดังนั้น ชายหนุ่มจ้องมองเธอด้วยสายตาที่สำรวจ
เขาเห็นเธอสวมชุดแต่งงานที่ไม่สะดวกในการเคลื่อนไหว
เจ้าสาวที่หนีงานแต่งเหรอ
แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่เคยเชื่อใจใครทั้งนั้น
ในขณะที่กำลังจะออกแรงมากขึ้นเพื่อบิดคอเธอให้หัก จู่ๆ ร่างกายของเขาก็เหมือนหมดแรง ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างไร้พลัง
แรงสุดท้ายในร่างกายของเขาหมดสิ้นลงแล้ว
หยานเชียนอี้ที่เพิ่งหลุดจากการถูกกดคอ สูดลมหายใจเข้าอย่างลึก หันมามองชายหนุ่มที่นั่งอยู่กับพื้นอย่างสงสัย
หรือว่าเขาเชื่อเธอแล้ว
หลังจากคิดอยู่สักพัก แววตาของเธอก็วาววับไปด้วยความเฉียบขาด
แม้จะบอกว่าพวกเขาต่างก็อยู่ในสถานการณ์ลำบาก แต่คนตรงหน้ากลับเต็มไปด้วยอันตรายรอบตัว จะดีกว่าถ้าเธอรีบจัดการเขาก่อน
เธอยกมือขึ้น ตั้งท่าเตรียมจะฟาดลงไปที่ศีรษะของเขา
แต่ก่อนที่มือของเธอจะลงไป เขากลับกอดขาเธอเอาไว้ พลางเงยหน้าขึ้นช้าๆ
แสงจันทร์สาดส่องลงมาพอดีที่ใบหน้าของเขา
หยานเชียนอี้เพิ่งจะได้เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน
ใบหน้าที่คมสันเหมือนถูกสลักจากหิน ผิวพรรณละเอียดประณีตอย่างมาก
พระเจ้า! เธอไม่เคยเห็นคนที่สวยขนาดนี้มาก่อน!
ใต้แสงจันทร์ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยน้ำตาเล็กน้อย ขนตาหนายาวสั่นไหวเบา ๆ “พี่สาว มันมืดจัง... ผมกลัว...”
“...” หยานเชียนอี้ทั้งร่างชะงัก
นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย?
ผู้ชายคนนี้เล่นอะไรเนี่ย
บัดนี้ ความน่ากลัวที่แผ่กระจายจากตัวเขาหายไปหมดสิ้น เหลือเพียงเด็กหนุ่มที่ดูน่าสงสารและไร้เดียงสา ต่างกับคนก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง
ดวงตาอ้อนวอนที่เขามองเธอ ทำให้หยานเชียนอี้ลงมือไม่ลง แถมรู้สึกว่ามือที่ยกขึ้นกลางอากาศนั้นเริ่มดูโหดร้ายอย่างไร้เหตุผล
เธอขยับเท้าลงเบาๆ
แต่เขากลับกอดขาของเธอแน่นขึ้น
ใบหน้าหล่อเหลาของเขาถูไปมาที่ขาของเธอเหมือนเด็กกลัวความมืด และดูเหมือนว่าการกอดเธอทำให้เขารู้สึกปลอดภัย
หยานเชียนอี้เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนลง “เอ่อ...เด็กดี ปล่อยขาพี่ก่อนนะ”
แต่ไม่รู้ทำไม การถูกเขากอดแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกถึงความร้อนในร่างกายอย่างแปลกประหลาด
เหมือนกับกำลังถูกยั่วยวนอยู่กลายๆ
เธอพยายามจะดึงมือเขาออก
แต่เมื่อมือเธอแตะข้อมือของเขา กลับรู้สึกถึงจังหวะการเต้นของชีพจรที่ไม่ปกติ