บทที่ 20 ฝีมือดีไม่ใช่เหรอ + อาเลี่ย คุณเก่งมาก!
อาชางเริ่มสงสัยอย่างจริงจังว่า หยานเชียนอี้กำลังพยายามฉวยโอกาสกับนายท่านของเขาหรือเปล่า!
แต่เมื่อคิดว่าเธอเป็น "ภรรยา" การขอให้ทำแบบนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไรหนักหนา
อาชางสงบสติอารมณ์และเข้าสู่โหมดพักตัว
แต่มู่หยุนเลี่ยกลับไม่ได้ใจเย็นเหมือนอาชาง
เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย ความเย็นชาปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา "เธอว่าอะไรนะ"
เด็กคนนี้กำลังบอกให้เขารับใช้เธอหรือ
หยานเชียนอี้เองก็รู้ว่าคำขอของเธออาจทำให้คนเข้าใจผิดได้
เธอจึงรีบอธิบาย "เมื่อก่อนฉันเป็นอัมพาตไปสองปี ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ร่างกายฉันไม่ตอบสนอง การนวดเพื่อกระตุ้นระบบการไหลเวียนก็ช่วยได้ หมอก็ใช้วิธีนี้กับคนป่วยทั่วไป..." มู่หยุนเลี่ยยังคงเงียบ ปากบางของเขาเม้มแน่น
เขาไม่เคยสัมผัสร่างกายผู้หญิงมาก่อน และไม่ใช่แค่ผู้หญิง เขาต่อต้านการสัมผัสร่างกายไม่ว่ากับใครก็ตาม
"หรือว่า นายแค่นวดมือฉันหน่อยก็ได้ พอมือฉันกลับมารู้สึก ฉันจะจัดการเองได้..." หยานเชียนอี้พูดไม่ทันจบ มู่หยุนเลี่ยก็ลุกขึ้นและเดินจากไป
เธอมองดูแผ่นหลังของเขา หยานเชียนอี้รู้สึกหมดหวัง...
*เขาจะทิ้งฉันไว้ที่นี่แบบนี้เหรอ *
*ฉันเพิ่งตื่นขึ้นมา จะต้องมาตายอยู่ที่นี่จริงๆหรือ *
แต่แล้ว มู่หยุนเลี่ยก็กลับมา
ดวงตาที่หม่นหมองของหยานเชียนอี้เริ่มเปล่งประกายขึ้น
เธอรู้อยู่แล้วว่าอาเลี่ยในช่วงที่มีพิษกำเริบคงไม่ได้เย็นชาไร้หัวใจแบบนี้
มู่หยุนเลี่ยหักกิ่งไม้จากไหนสักที่มา
เขานั่งย่อตัวลงข้างๆเธอ แล้วใช้กิ่งไม้นั้นแตะเบาๆ ที่มือและแขนของเธอ พร้อมถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา "แบบนี้พอได้ไหม"
ประกายความหวังในดวงตาของหยานเชียนอี้กลับหม่นลงอีกครั้ง "..."
มู่หยุนเลี่ยพูดต่อ "ฉันไม่ชอบสัมผัสร่างกายกับคนอื่น"
หยานเชียนอี้ "???"
แน่ใจนะ เมื่อคืน ใครกันที่แทบจะฝังตัวอยู่บนร่างของฉัน แล้วใครกันที่มือลูบไล้ฉันไม่หยุด
เห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยของหยานเชียนอี้ มู่หยุนเลี่ยรู้ว่ามันไม่ได้ช่วยอะไร เขาจึงพูดขึ้นว่า
"ฉันว่าฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาลดีกว่า"
หยานเชียนอี้มองฟ้าอย่างสิ้นหวัง
"จริงๆ แล้ว ฉันกลายเป็นคนป่วยอัมพาตเพราะโดนทำร้าย ถ้าฉันไปโรงพยาบาลในสภาพนี้ มันก็เหมือนเอาตัวเองไปมอบให้ศัตรูทำร้ายซ้ำ"
มู่หยุนเลี่ยมองเธอด้วยความสงสัย เขาจ้องมองดวงตาเธอที่เหมือนลูกแมวที่เต็มไปด้วยความกลัว
ตอนนี้ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
แม้ท้องฟ้าจะเต็มไปด้วยดวงดาวที่ส่องประกาย แต่มันกลับไม่สามารถส่องเข้ามาในดวงตาของเธอได้
หลังจากนิ่งเงียบไปชั่วครู่ มู่หยุนเลี่ยทิ้งกิ่งไม้ในมือ แล้วหยิบถุงมือหนังสีดำออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุมของเขา
เขาเริ่มใส่ถุงมืออย่างช้าๆ ขณะถาม "เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร"
"ฉันรู้สิ"
คำตอบนั้นทำให้คิ้วของมู่หยุนเลี่ยขมวดเข้าหากันเล็กน้อย
ตอนนี้เขากำลังยกมือที่ใส่ถุงมือแล้วขึ้นมา ดูเหมือนศัลยแพทย์ที่เตรียมจะผ่าตัด
แต่ถุงมือของเขากลับเป็นสีดำสนิท สายตาของเขายังคงเย็นชา และรอบตัวเขาก็ยังแผ่กลิ่นอายที่น่าเกรงขามออกมา
หยานเชียนอี้มองเขาแล้วก็รู้สึกว่า มือคู่นั้นพร้อมจะเอื้อมมาบีบคอเธอได้ทุกเมื่อ
เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงถามคำถามแปลกๆ นี้ขึ้นมา
เธอจึงอธิบายเพิ่มเติมว่า "ถึงเราจะจดทะเบียนสมรสกันแล้ว แต่ฉันรู้แค่ชื่อนาย เพราะข้อมูลส่วนตัวของนายในระบบมันว่างเปล่า"
"ดีมาก"
ดี?
หยานเชียนอี้รู้สึกงุนงงอย่างมาก เธอไม่สามารถคาดเดาความคิดของผู้ชายคนนี้ได้เลย
แต่สิ่งที่เขาทำต่อจากนี้ ทำให้เธอคิดว่า...
*อืม... ก็ดีจริงๆ นั่นแหละ*ในที่สุด มู่หยุนเลี่ยก็ยื่นมืออันสูงศักดิ์ของเขาออกมา บีบที่แขนของหยานเชียนอี้และเริ่มนวดให้เธอ
"ตอนนี้ร่างกายฉันไม่รู้สึกอะไร นายทำได้เต็มที่เลย ไม่ต้องกลัวเจ็บ" หยานเชียนอี้พูดด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก
แค่คิดว่าผู้ชายหล่อขนาดนี้ย่อตัวลงข้างๆ และให้บริการเธอ ความรู้สึกนี้มันดีเกินบรรยาย
แต่น่าเสียดายที่ร่างกายของเธอดันไม่รู้สึกอะไร ไม่สามารถสัมผัสอุณหภูมิของมือเขาได้
ขณะที่หยานเชียนอี้กำลังเพลิดเพลินกับจินตนาการของตัวเอง เธอก็ไม่ได้สังเกตเลยว่าใบหน้าของมู่หยุนเลี่ยเริ่มเต็มไปด้วยความเย็นชา
สวรรค์รู้ดีว่า ตลอดชีวิตของมู่หยุนเลี่ย เขาไม่เคยสัมผัสใครแบบนี้มาก่อน แม้แต่คุณตาที่เขารักมากที่สุด ก็ยังไม่เคยได้รับการดูแลแบบนี้
เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงทำแบบนี้
ในเมื่อเขามาที่นี่เพื่อทำให้เธอกลายเป็น "ม่าย" แต่กลับมานั่งนวดแบบนี้
บางทีอาจเป็นเพราะความสงสาร
ในชีวิตประจำวัน หากเขาเจอลูกแมวหรือหมาที่บาดเจ็บ เขาก็ไม่เคยละเลย และดวงตาของเด็กคนนี้ ทำให้เขานึกถึงแมวที่คุณตาเลี้ยงไว้ ถือซะว่าช่วยชีวิตแมวตัวหนึ่งก็แล้วกัน
แต่เมื่อมู่หยุนเลี่ยสัมผัสมือของหยานเชียนอี้ ความรู้สึกสงบนิ่งของเขาก็พลันสลายไป
มีบางอย่างคล้ายกระแสไฟฟ้าวิ่งจากมือของเขาเข้าสู่ร่างกาย
แม้เขาจะใส่ถุงมือ แต่ถุงมือก็มีเนื้อบางพอที่เขาจะสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิอันอ่อนนุ่มของผิวเธอ
มือเล็กๆของเธอนุ่มนิ่ม ให้สัมผัสที่ดีเกินคาด ทำให้เขาอยากนวดต่อไปเรื่อยๆ
"อ๊ะ... ฉันเริ่มรู้สึกแล้ว!" หยานเชียนอี้พูดด้วยความตื่นเต้น "มันได้ผลจริงๆ! นวดต่อเลย! เอาอีก... อืม... ดีๆ"
"อาเลี่ย คุณเก่งมาก!" เสียงแปลกๆจากหยานเชียนอี้ทำให้มู่หยุนเลี่ยรู้สึกได้ถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นบนใบหน้าของเขา และรู้สึกว่ามีบางอย่างในร่างกายที่เริ่มปะทุขึ้น ลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลงก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "เธอ... เงียบซะ" น้ำเสียงที่เด็ดขาดนั้นมีความเคร่งขรึมจนใครก็ไม่กล้าขัดขืน
หยานเชียนอี้ทำหน้าหงอย ทำไมนายต้องมาดุฉันด้วยล่ะ ฉันก็แค่แนะนำให้นายทำตามที่ถูกต้องเท่านั้นเอง
แม้ว่าเธอไม่อยากจะรบกวนเขาหรอก แต่ตอนนี้จำเป็นต้องพึ่งเขา ก็ต้องทำตามที่บอก
หยานเชียนอี้หุบปากเงียบไป แต่เพียงไม่นาน เธอก็เผลอร้องออกมา "ซี้ด..."
"เกิดอะไรขึ้น" มู่หยุนเลี่ยถาม
"เจ็บ..." น้ำหนักมือของเขาหนักมาก!
มู่หยุนเลี่ยเงยหน้ามองเธอ
เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังเม้มปาก ใบหน้าแดงก่ำ มีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นที่หน้าผาก เธอดูเหมือนเจ็บจริงๆ
เขาขมวดคิ้ว "เจ็บทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้"
"ก็คุณบอกให้ฉันหุบปาก"
"..."
มู่หยุนเลี่ยเริ่มหมดความอดทน "ลองขยับมือดูได้ไหม"
หยานเชียนอี้ขยับนิ้วมือ แล้วปลายนิ้วก็สัมผัสกับมือของมู่หยุนเลี่ยเบาๆ
มันให้ความรู้สึกเหมือนถูกแมวเลียผ่าน รู้สึกจั๊กจี้และมีอาการชาวาบไปทั้งตัว
เขารีบดึงมือออก "ในเมื่อเธอขยับมือได้แล้ว ก็จัดการเองเถอะ"
พูดจบ เขาลุกขึ้นหันหลังให้เธอและถอดถุงมือออกโยนทิ้งลงพื้น
หยานเชียนอี้มองแผ่นหลังที่ยืนตัวตรงของเขา
ถึงกับรังเกียจขนาดนี้เลยเหรอ เขาต้องเป็นพวกย้ำคิดย้ำทำหรือไม่ก็ชอบความสะอาดมากแน่ๆ
การย้ำคิดย้ำทำเป็นโรคอย่างหนึ่งนะ ต้องรักษา! ดูเหมือนว่าในอนาคต นอกจากฉันจะต้องช่วยเขาถอนพิษแล้ว ยังต้องรักษาโรคย้ำคิดย้ำทำให้เขาด้วย
หยานเชียนอี้เอ้ย มีเรื่องให้ทำเยอะแล้วล่ะ