บทที่ 18 ใครให้ความกล้ากับเธอ
“อื้อ...”
เจ็บจมูกมาก!
ความเจ็บแล่นขึ้นสมองจนทำให้หยานเชียนอี้น้ำตาซึม
เธอเงยหน้ามองขึ้นไปและพบว่าคนที่เธอชนเข้าคือ มู่หยุนเลี่ย!
แม้ใบหน้าของเขาจะซ่อนอยู่ในเงาไม้ แต่เธอก็จำเขาได้ทันที
ในความมืดสลัว เธอพอจะเห็นโครงหน้าที่สมบูรณ์แบบของเขา
จู่ๆเธอก็รู้สึกมีความกล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับศัตรู
"อาเลี่ยไม่ต้องกลัว พี่สาวจะปกป้องนายเอง"
หยานเชียนอี้หันไปเผชิญหน้ากับกลุ่มชายชุดดำ เธอดึงปกเสื้อแจ็กเก็ตขึ้นปิดหน้า เหลือเพียงดวงตาคู่หนึ่งที่เปล่งประกาย
สายตาของเธอดูเฉียบคมเหมือนลูกแมวตัวเล็กที่กำลังโกรธจัด เตรียมพร้อมที่จะสู้ได้ทุกเมื่อ
"มีอะไรก็เล่นงานฉัน อย่าแตะต้องผู้บริสุทธิ์"
อาเลี่ยที่กำลังมีพิษในตัว คงจะวิ่งหนีไม่ไหว
ตอนนี้เธอทำได้เพียงกัดฟันยืนหยัด และได้แต่หวังว่าร่างกายที่เพิ่งฟื้นของเธอจะไม่ทรยศเธอ
เมื่อมู่หยุนเลี่ยเห็นหยานเชียนอี้ยืนขวางหน้าเขา เขาอดรู้สึกตกใจเล็กน้อย
เมื่อครู่เธอยังมีน้ำตาคลอเบ้าอย่างน่าสงสารอยู่เลย
ท่าทางนั้นทำให้เขานึกถึงแมวที่คุณตาเคยเลี้ยง เมื่อมันถูกทำร้าย มันก็มองมาด้วยสายตาอ้อนวอนแบบนั้น
แต่ตอนนี้ เธอกลับยืนหยัดอย่างกล้าหาญต่อหน้าเขา
ร่างเล็กๆ ของเธอดูบอบบาง เหมือนจะปลิวไปกับสายลมได้ง่ายๆ แต่เธอกลับบอกว่าจะปกป้องเขา?
มู่หยุนเลี่ยรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งในใจของเขากำลังค่อยๆ พังทลายลง
ความเมตตาที่ไม่คาดคิดผุดขึ้นในใจของเขา
เขาส่งสัญญาณให้กับกลุ่มชายชุดดำ
พวกที่กำลังจะพุ่งเข้ามาก็หยุดกะทันหันแล้วหายตัวไปในความมืด
หยานเชียนอี้มองตามอย่างตกใจ
*อะไรนะ หานย่าหรงจ้างพวกมือสมัครเล่นมาเหรอ? *
*แค่นี้ก็กลัวแล้ว? *
*อย่างที่คิด การต่อสู้ต้องเริ่มจากข่มขวัญคู่ต่อสู้ก่อน!*
"ไม่เป็นไรแล้ว พวกนั้นหนีเพราะพี่สาวขู่ไปแล้วล่ะ" หยานเชียนอี้หันไปยิ้มอย่างร่าเริงให้มู่หยุนเลี่ย
ดวงตาที่โค้งเป็นรูปจันทร์เสี้ยวของเธอ สว่างไสวราวกับดวงจันทร์ที่ส่องสว่างในความมืด
แต่คำว่า "พี่สาว" ที่ออกจากปากเธอ ฟังแล้วกลับไม่ค่อยรื่นหูสำหรับมู่หยุนเลี่ย
"พี่สาวเหรอ" เสียงทุ้มต่ำของมู่หยุนเลี่ยดังขึ้น แฝงไปด้วยความเย็นชาและความโกรธเล็กน้อย
หยานเชียนอี้สะดุ้ง
เสียงนี้...ไม่ใช่เสียงของหมาน้อยที่เธอจำได้เลย
ทันใดนั้น ภาพดวงตาที่เต็มไปด้วยเลือดของมู่หยุนเลี่ยก็แวบขึ้นมาในหัวของเธอ
และเธอก็ตระหนักได้ว่า ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในสภาพพิษกำเริบ!
เธอถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยอัตโนมัติ
มู่หยุนเลี่ยก้าวออกจากเงามืดและเดินเข้ามาใกล้เธอ
แสงจันทร์สาดลงมาบนร่างของเขา ส่องให้เห็นใบหน้าที่งดงามราวกับประติมากรรม
ดวงตาของเขาสะท้อนแสงจันทร์ ราวกับทะเลลึกที่กว้างใหญ่ในยามราตรี สวยงาม แต่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม
“กล้าเรียกตัวเองว่าพี่สาวต่อหน้าฉัน” มู่หยุนเลี่ยโน้มตัวเข้ามาใกล้ หยานเชียนอี้ “ใครให้ความกล้ากับเธอ หืม” ก็คุณนั่นแหละ!
แรงกดดันจากเขาทำให้หยานเชียนอี้พูดอะไรไม่ออก
เธอพยายามถอยหลังเพื่อหลบ
มู่หยุนเลี่ยก้มตัวลงมาจนอยู่เหนือเธอ
ในสายตาของมู่หยุนเลี่ย หญิงสาวที่สูงเพียง 169 เซนติเมตรดูตัวเล็กลงไปถนัดตา และตอนนี้ เธอกำลังตัวสั่นเล็กน้อย
แต่ในขณะที่เธอเริ่มสงสัยว่ากลัวเขาทำไม
ถึงในโลกนี้ มู่หยุนเลี่ยจะอายุมากกว่าเธอ 7 ปี
แต่ในเมื่อเธอเคยใช้ชีวิตในอีกโลกมาแล้วหนึ่งชีวิต
ดังนั้นถ้าว่ากันตามอายุจิตใจ เธอควรจะเป็นพี่สาวของมู่หยุนเลี่ยได้อย่างแน่นอน
ใช่! เธอจะไม่ยอม!
หยานเชียนอี้คิดจะยืดตัวขึ้นเพื่อเถียงกับมู่หยุนเลี่ย แต่ทันใดนั้น ร่างกายของเธอกลับรู้สึกเหมือนถูกดูดพลังไปหมด เธอล้มถอยหลังอย่างรวดเร็ว
ตามปกติ ในสถานการณ์แบบนี้ ผู้ชายมักจะโอบเอวผู้หญิงไว้
จากนั้น ทั้งคู่จะสบตากันใต้แสงจันทร์อย่างโรแมนติก ราวกับทั้งโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ
แต่ผลที่เกิดขึ้นจริงกลับ...